ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
สาวน้อยร่างบางผิวขาวจัดดวงตาบวมช้ำแดงก่ำนั่งมองรูปหน้าศพที่ตั้งคู่กันสองรูปนิ่งๆ ไม่ขยับตัวไปไหนมาหลายชั่วโมง เป็นที่น่าสลดใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
“พั้นช์ หักอกหักใจซะเถอะลูก หนูเป็นแบบนี้พ่อกับแม่จะยิ่งเป็นห่วงนะ เชื่อป้านะลูก”
พิมพ์มาดา เพื่อนที่สนิทที่สุดของผู้หญิงที่นอนอยู่ใน
โลงศพ ตรงเข้าสวมกอดและเอ่ยปลอบใจสาวน้อยตรงหน้าที่ตัวเองรักเหมือนลูกที่มีชะตาชีวิตที่น่าสงสาร เพราะต้องเสียพ่อและแม่ซึ่งเป็นที่พักพิงสุดท้ายไปพร้อมๆกันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างกะทันหัน
“ป้าพิมพ์”
สาวน้อยกอดเพื่อนรักของแม่แน่นอย่างต้องการที่พักพิง สาวน้อยวัยสิบแปดปีอย่างเธอ โลกทั้งใบมันถล่มไปตรงหน้าแล้วกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
“ป้าเสียใจด้วยนะลูก แต่พั้นช์ต้องเข้มแข็ง พ่อกับแม่จะได้ไม่ห่วง”
พิมพ์มาดากอดสาวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเจียน
จะขาดใจแน่นขึ้น ไม่รู้ว่าทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงบ่ายวันนี้ หลานสาวของเธอได้หลับได้นอนหรือได้กินอะไรบ้างหรือยัง เพราะเด็กผู้หญิงตัวคนเดียวที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียพร้อมกัน
แบบนี้ คงยากที่จะรับไหว
แม้เธอเองพอรู้ข่าว ก็ส่งเลขาและผู้ช่วยมาจัดการเรื่องรับศพและจัดงานศพให้เรียบร้อย แล้วรีบหาตั๋วเที่ยวที่เร็วที่สุด
บินจากอเมริกาแล้วตรงดิ่งมาที่นี่ทันที แต่ก็ยังช้าไปเป็นวัน
“พั้นช์ไม่เหลือใครแล้ว พ่อกับแม่ทิ้งพั้นช์ไปแล้วค่ะ”
“พั้นช์ยังเหลือป้า ป้าจะไม่มีวันทิ้งพั้นช์ไปไหน ไปอยู่
กับป้านะลูก ต่อจากนี้ป้าจะดูแลพั้นช์แทนแม่เอง ไปเป็นลูกสาวของป้าอีกคน แม่ก็จะได้หมดห่วงด้วย โอเคไหม”
“ได้หรอคะ แล้วครอบครัวของป้าพิมพ์จะไม่ว่าอะไร
หรอคะ”
“ได้ลูก ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ป้าอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่ลุงเขาก็อยู่อเมริกา ส่วนพี่ๆ ตอนนี้ก็เรียนกันอยู่ที่อเมริกากันหมด ยังไม่มีใครกลับมาเลย ต่อให้กลับมาก็ไม่มีปัญหาเพราะบ้านเราใหญ่โตขนาดนั้น มีพั้นช์มาอยู่เป็นเพื่อนป้าก็ดีจะตาย ทุกวันนี้
ก็เหงาจะแย่ เดี๋ยวป้าจะให้คนไปจัดการเรื่องของใช้และเสื้อผ้า
ให้ไปขนเข้าบ้านป้าเลย ส่วนเรื่องอื่นๆ เดี๋ยวเราค่อยทยอยๆจัดการนะลูก”
“ขอบคุณมากค่ะ ป้าพิมพ์”
พาขวัญ หรือ พั้นช์ สาวน้อยผิวขาวจัด วัยสิบแปดปี
ยืนกอดภาพหน้าศพมองควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมาจากปล่องควันไฟด้วยใบหน้าแสนเศร้า ปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มนวล
ไม่ขาดสาย พ่อกับแม่จากเธอไปในวันที่เธอได้รับข่าวดีเรื่องผลการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ทันที่พ่อกับแม่จะได้รับรู้และร่วมแสดงความยินดีกับข่าวดีนี้ของเธอเลย ท่านก็มาด่วนจากไปเสียก่อนแล้ว
“พ่อกับแม่ได้ต้องเป็นห่วงพั้นช์นะคะ พั้นช์จะไปอยู่กับป้าพิมพ์ พั้นช์จะตั้งใจเรียน ไม่ทำให้ป้าพิมพ์หนักใจค่ะ ขอให้พ่อกับแม่ไปอยู่บนสวรรค์ให้สบายใจ แล้ววันนึง เราค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะคะ”
เธอยืนกอดรูปถ่ายพร้อมกับร้องไห้อีกครั้ง
“กลับบ้านเรากันนะลูก ที่เหลือทางนี้เดี๋ยวคนของป้าจัดการต่อเอง”
“ค่ะ ป้าพิมพ์”
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่เธอเองก็ได้มานอนที่นี่หนึ่งคืนแล้ว แต่เพราะความเศร้าเสียใจ ทำให้เธอไม่ทันจะสังเกตว่าที่นี่มัน
โอ่อ่าและหรูหราขนาดไหน แม้กระทั่งห้องนอนของเธอที่ใช้ซุก
หัวนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เธอเองก็ยังไม่ทันจะได้สังเกตเลยด้วยซ้ำ
พิมพ์มาดาพาเธอนำรูปถ่ายของพ่อกับแม่เธอไปไว้ที่ห้องพระในส่วนที่จัดไว้เฉพาะสำหรับตั้งวางรูปและโกศอัฐิของบรรพบุรุษ
“พร เธอกับคุณพร้อมไม่ต้องเป็นห่วงพั้นช์นะ ฉันจะดูแลให้เอง จะส่งเสียให้เรียนสูงสุดตามแต่เขาจะต้องการ จะดูแลเหมือนพั้นช์เป็นลูกคนหนึ่งของฉัน เธอก็รู้นะ ว่าฉันก็รักพั้นช์
ไม่ต่างจากลูกแท้ๆ เพราะฉะนั้น เธอสองคนสบายใจได้และหลับให้สบาย”
“พั้นช์จะเป็นเด็กดีของป้าพิมพ์ค่ะ อะไรที่พั้นช์จะตอบแทนบุญคุณนี้ของป้าพิมพ์ได้ พั้นช์ยินดีทำทุกอย่างค่ะ”
“ขอบใจมากลูก แค่พั้นช์อยู่ต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและ
มีความสุข ป้าก็พอใจแล้ว”
“พั้นช์จะเข้มแข็งค่ะ”
“ดีมาก ไปอาบน้ำก่อนเถอะลูก เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมง
เราลงไปเจอกันที่โต๊ะอาหารนะ”
พาขวัญเข้ามาในห้องนอนที่ตัวเองต้องอาศัยอยู่นับจากนี้ เธอมองไปรอบๆห้องที่กว้างขวาง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงสีขาวล้วนสไตล์เจ้าหญิง ผ้าปูที่นอนและผ้าม่านเป็นโทน
สีชมพูหวาน ห้องแต่งตัวของเธอที่แยกโซนออกมาประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินยาวเต็มผนัง ลำพังตัวเธอเองก็เกิดในครอบครัวที่มีฐานะ สะดวกสบายมาตั้งแต่เกิด อยู่บ้านหลังโตโอ่อ่า แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับบ้านหลังนี้
พ่อแม่ของเธอไม่ได้จากไปเปล่าๆ พวกเขาทิ้งสมบัติไว้ให้เธอพอสมควร ทั้งบ้านหลังที่เธออยู่มาตั้งแต่เกิด ที่ดินในกรุงเทพ บ้านและที่ดินสวนที่จังหวัดนนทบุรี เงินสดในบัญชีธนาคารหลักสิบล้าน และกองทุนประกันชีวิตก้อนโตที่พวกเขาทิ้งไว้ให้ ต่อให้ไม่มีพิมพ์มาดา เธอก็ใช้เงินทองเหล่านี้เลี้ยงดูตัวเองต่อไปได้จนเรียนจบ
แต่ที่เธอเลือกมาอาศัยอยู่กับพิมพ์มาดา เพื่อนรักที่สุดของแม่ เพราะเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะจำเป็นต้องมีผู้ปกครองดูแล และเรื่องของสภาพจิตใจที่เธอต้องสูญเสียคนที่รักที่สุดไปพร้อมกันถึงสองคน ไหนจะเรื่องความปลอดภัยของเด็กผู้หญิงที่ต้องอาศัยอยู่ตัวคนเดียวอีก การมาอยู่กับผู้ใหญ่ที่เธอรักและไว้ใจจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้
บนโต๊ะอาหารของบ้านหลังใหญ่วันนี้ มีอาหารมากกว่าปกติ เพราะเจ้าของบ้านไม่ต้องทานข้าวเพียงลำพังอีกต่อไปแล้ว ที่จริงสมาชิกของบ้านหลังนี้มีด้วยกันถึงห้าคน แต่เพราะลูกชายและลูกสาวทั้งสามต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกา แถมสามีของเธอยังมีธุรกิจโรงแรมและกาสิโนอยู่ที่นั่น ถึงเทียวไปเทียวมาระหว่างประเทศไทยและอเมริกามาตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้
“พั้นช์อยากไปเรียนมหาวิทยาลัยที่อเมริกาไหม พี่ๆ เรียนอยู่ที่โน่นกันหมด แถมลุงพอลยังเทียวไปเทียวมาบ่อยๆ ถ้าพั้นช์ไปเรียนที่โน่นก็มีคนดูแล ป้าก็สบายใจแต่ถ้าไปประเทศอื่นป้าไม่อยากให้ไปเลย”
“พั้นช์เรียนที่ไทยดีกว่าค่ะ”
“เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง ป้าจัดการเอง”
พาขวัญพนมมือไหว้ป้าพิมพ์ของเธออย่างนอบน้อม
ในความโชคร้ายที่กลายเป็นเด็กกำพร้าก็ยังมีความโชคดี ที่มีคนที่ยังรักเธอขนาดนี้อยู่บนโลก
“ขอบคุณมากค่ะป้าพิมพ์ แต่พั้นช์ว่าพั้นช์เรียนที่ไทย
ก็พอแล้วค่ะ ตอนนี้พั้นช์สอบได้คณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์
ได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษ แถมยังไม่ต้องไปไกลบ้านด้วย อีกอย่างให้พั้นช์อยู่เป็นเพื่อนป้าพิมพ์ดีกว่าค่ะ อยู่บ้านคนเดียวเหงาแย่เลย ไว้ถ้าพี่ๆเรียนจบกลับมา หรือพั้นช์เรียนจบตรีแล้ว จะไปต่อโทที่นั่นค่อยว่ากันอีกรอบนะคะ”
“เอางั้นก็ได้ลูก ตั้งใจเรียนนะ เรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างป้าจัดการเอง”
เธอพนมมือไหว้แม่คนที่สองของเธออีกครั้งในความกรุณา
“ขอบคุณมากค่ะ แต่แม่กับพ่อทิ้งเงินไว้ให้พั้นช์เยอะเลย ใช้เงินนี้เรียนก็ได้ค่ะ แค่มาอยู่กับป้าพิมพ์ก็สิ้นเปลืองแย่แล้ว”
“เงินของพั้นช์ ป้าจะให้พั้นช์เก็บเอาไว้เป็นทุนชีวิต
ไว้สร้างอนาคตตัวเอง ตอนนี้พั้นช์เป็นลูกสาวคนเล็กของป้าแล้วนะ เรื่องเรียน และการดูแลพั้นช์ให้เป็นหน้าที่ป้านะ อย่าเกรงใจและอย่าขัดใจคนแก่ รู้ไหม”
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะป้าพิมพ์ พั้นช์จะตั้งใจเรียน
จะไม่ทำตัวให้ป้าพิมพ์ผิดหวังในตัวพั้นช์เลยค่ะ”
“จ้ะ ทานข้าวกันเถอะ เดี๋ยววันนี้พักผ่อนกันเร็วหน่อย นอนหลับให้เต็มที่ พั้นช์หน้าตาอิดโรยมาก พรุ่งนี้ป้าจะพาชมรอบๆ บ้านเอง”
จำเอาไว้ว่าผัวของเธอชื่อ “เหนือเมฆ” หลังจากนี้ ถ้าเธอไปอ่อยผู้ชายหน้าไหนอีก..ฉันเอาเธอตายแน่
เขาตั้งใจกักขังเธอเอาไว้..ด้วยคำว่าบุญคุณ ที่ตอบแทนทั้งชีวิต..ก็ไม่มีวันหมด
เธอ..เป็นของต้องห้ามสำหรับเขา..คุณหนูผู้เอาแต่ใจ ลูกสาวเจ้านายผู้มีพระคุณ เขา..เป็นของร้อนสำหรับเธอ อยู่ใกล้แล้วมันร้อนรุ่ม บอดี้การ์ดหน้าโหดที่ขัดใจเธอไปเสียทุกอย่าง และแม้ว่าบอดี้การ์ดอย่างเขา จะอยากขย้ำเธอให้จมเขี้ยวสักเท่าไร แต่ก็ทำได้เพียงอดทน..จนกว่าจะถึงวันที่เขา..คู่ควร
ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี