กชนิภา...ตกเป็นของชีคใจร้ายด้วยความผิดที่ไม่ได้ก่อ ชีคอัสวาน...เห็นเธอเป็นเพียงเครื่องระบายความแค้น ความแค้นที่ลดลงในทุกๆ วัน และมีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ โดยไม่รู้ตัว... ... “อย่าทำอะไรพี่ชายฉันเลย ฉันไหว้ล่ะ พี่ชายฉันไม่ได้ลงมือข่มขืนด้วย อย่าลงโทษถึงตายเลยนะคะ” กชนิภาอ้อนวอนอัสวาน ยกมือไหว้ชีคผู้เหี้ยมโหดตามปากพูด อัสวานมองหญิงสาวที่กล้าต่อปากต่อคำกับตนทั้งที่พี่ชายตัวเองผิดด้วยสายตาแข็งกร้าว ก่อนยกมือเป็นสัญญาณให้ลูกน้องหยุดลากตัวชายทั้งสองคน “แลกกับอะไรล่ะ” กชนิภาเงยหน้ามองคนพูด “เงินเหรอคะ คุณต้องการเท่าไหร่ ฉันจะหามาให้คุณค่ะ” อัสวานกระตุกยิ้ม นัยน์ตาประกายความเจ้าเล่ห์ “เงินฉันมีเยอะ เยอะจนฉันใช้ไม่ไหว แล้วฉันจะต้องการเงินจากเธอทำไม” “แล้วคุณต้องการอะไร บอกฉันสิคะ ฉันจะรีบหามาให้คุณ ขอแค่คุณอย่าทำอะไรพี่ชายฉัน ฉันยอมทุกอย่าง” “ฉันอยากได้ของที่ฉันไม่มีมากกว่า” “อะไรคะ คุณต้องการอะไร” เมื่อมีโอกาส กชนิภารีบคว้า “ตัวเธอไงล่ะ ถ้าอยากให้พี่ชายเธอรอด เธอต้องเป็นนางบำเรอของฉัน” กชนิภาตกใจอ้าปากค้าง ดวงตาสั่นไหวเสมือนหัวใจที่เต้นเร็วแรง เธอไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ ประโยคที่ทำให้ ร่างกายทุกสัดส่วนแข็งทื่อ อาการตกใจไม่ได้เกิดแค่กชนิภาคนเดียว ยศวินก็ตกใจไม่คิดว่า อัสวานจะยื่นข้อเสนอนี้ “ฮะซีนจัดการ” ของแบบนี้ต้องมีแรงกระตุ้น ฮะซีนรู้คำสั่ง เขาลากตัวยศวินเข้าใกล้กรงจระเข้ ยศวินออกแรงทั้งหมดที่มีดิ้นรนหนี แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก ในที่สุดยศวินถูกลากไปถึงกรงสัตว์ร้าย ฮะซีนเปิดช่องตรงกรงกำลังทำแบบเดียวกับที่ฮาริมทำกับโอดิล “โรสช่วยพี่ด้วย พี่ยังไม่อยากตาย ช่วยพี่ด้วยโรส” ยศวินร้องตะโกนลั่น ความกลัวอาบทั่วจิตใจ ไม่สนใจว่าการที่ตนรอดตายจะแลกด้วยสิ่งใด “จัดการมันฮะซีน” อัสวานเปล่งเสียงคำสั่ง อาดีบเดินเข้ามาช่วยฮะซีนยกร่างยศวิน “ฉันยอมแล้ว ฉันยอมแล้ว” กชนิภาเสียงสั่น “ฉันยอมคุณแล้ว คุณก็ต้องรักษาสัญญาด้วย” อัสวานกระตุกยิ้ม พอใจกับคำตอบ ซึ่งเขามั่นใจเกินร้อยว่า เธอต้องยอม แล้วก็เป็นไปตามที่เขาคาดเดาไม่ผิดเพี้ยน “คนอย่างฉันพูดคำไหนคำนั้น” อัสวานบอกสาวปากกล้า ก่อนพยักหน้าให้ลูกน้องที่ปล่อยร่างยศวินกับอนันต์ คนเป็นพี่ชายรีบคลานมาหาน้องสาว กอดรัดร่างกชนิภาไว้แน่นแล้วเอ่ยขอบคุณเบาๆ โดยไม่นึกถึงใจคนเป็นน้องสักนิดว่า จะรู้สึกอย่างไร เสียใจมากแค่ไหนที่ต้องใช้ร่างกายแลกชีวิตพี่ชาย “งั้นคุณก็ปล่อยพี่ชายฉันสิ” “ปล่อยแน่ แต่ต้องหลังจากที่เธอทำตามข้อตกลงซะก่อน แล้วฉันถึงจะปล่อยตัวพี่ชายเธอ” “คุณกลัวฉันเบี้ยว แล้วคุณไม่คิดเหรอว่าฉันจะกลัวคุณผิดคำพูด” กชนิภาโต้กลับทันควัน “ฉันไม่เดือดร้อนนะ กับการไม่ไว้ใจฉันของเธอ เพราะคนที่ตายไม่ใช่ญาติพี่น้องของฉัน แต่เป็นพี่ชายเธอ” อัสวานยักไหล่พูด ไม่แยแสใครทั้งสิ้น “ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ไม่มีตุกติกหรือเล่นแง่” กชนิภามองชายหนุ่มที่เป็นต่อตนทุกทาง อัสวานเหมือนผู้คุมเกม ไม่มีทางที่เธอจะต่อกรกับเขาได้ “ตกลงค่ะ คุณว่ายังไงฉันว่าตามนั้น” อัสวานกระตุกยิ้ม “ฉันจะให้พี่ชายเธอกับเพื่อนอยู่ที่นี่จนกว่าหน้าที่ของเธอจะเสร็จ แล้วฉันจะปล่อยมันสองตัว” กชนิภามองชายหน้าตาหล่อเข้มทว่าจิตใจโหดเหี้ยมทั้งน้ำตา เธอไม่เคยรู้สึกอดสูและตัวเองไร้ค่าเท่าวันนี้เลย แต่ถึงกระนั้นกชนิภาก็ไม่อาจต่อรองกับบุรุษที่ถือถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะได้เลย กชนิภาเดินตามร่างสูงใหญ่ของอัสวานออกไปจากห้องใต้ดิน เพื่อทำหน้าที่นางบำเรอตามข้อตกลง
1
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างทำด้วยกระจกเข้ามากระทบกับแผ่นหลังกว้างชุ่มเหงื่อที่เคลื่อนไหวอย่างรุนแรงบนเรือนร่างอรชร จังหวะของเขาไม่ได้ลดลงเลยกลับเพิ่มขึ้นตามอารมณ์ที่เจียนทะลุเพดานความรู้สึก เขาเร่งความเร็วและความแรงเพื่อให้ตนไปถึงจุดหมาย
ชีคอัสวาน อับดุลการิมพลิกตัวลงมานอนข้างร่างเล็กที่หอบหายใจแรงด้วยความเหนื่อยอ่อน ทว่าอัสวานกลับไม่ทีท่าว่าจะเหนื่อยสักนิดเดียว เขาปรายตามองกชนิภาหรือโรส หรืออีกชื่อหนึ่งคือนิสรีนเพียงแวบเดียวก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง เขาชักสีหน้าหงุดหงิดเมื่อเห็นน้ำตาและได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเธอ
“จะร้องไห้หาสวรรค์วิมานอะไร ฉันให้ความสุขเธอแท้ๆ แล้วเมื่อกี้เธอยังครางเสียงสั่นอยู่เลย มาตอนนี้กลับร้องไห้ เธอเป็นไบโพลาร์หรือเปล่าเนี่ย” อัสวานกระชากเสียงพูด จากนั้นก็วาดเท้าลงบนพื้นห้องที่ปูด้วยพรมลายเสือโคร่ง ก้าวเท้าเดินไปยังห้องน้ำไม่สนใจสาวร่างเล็กบนเตียงแม้แต่น้อย เขาเห็นเธอเป็นเพียงนางบำเรอที่ให้ความสุขยามต้องการเท่านั้น
กชนิภาค่อยๆ ยันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เนื่องจากบทรักของอัสวานแต่ละครั้งรุนแรง ตามอารมณ์เคียดแค้นในใจที่ไม่ว่าจะผ่านมาสองปี ความรู้สึกนี้ไม่เคยลดเลือนกลับเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน
เหตุผลของความแค้นในใจชีคอัสวาน เศรษฐีหนุ่มติดอันดับที่สองของประเทศจามาล เขาไม่เพียงแค่เป็นเศรษฐีมีเงิน แต่ยังเป็นลูกชายของผู้ปกครองแคว้นซัสเชียร์หนึ่งในดินแดนของจามาล
คงต้องย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้มกชนิภามาเที่ยวประเทศจามาลพร้อมกับยศวิน อังคณา พี่ชายและพี่สาว และมีเพื่อนยศวินอีกสามคน เป็นชายสองหญิงหนึ่ง
ทั้งหมดพากันตื่นเต้นกับประเทศจามาล ประเทศที่ถูกกล่าวขานว่ามีศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่น สถาปัตยกรรมขึ้นชื่อมากมาย ได้เห็นสิ่งปลูกสร้างอันงดงามที่มีอายุกว่าสองร้อยปี ในส่วนของทะเลทรายกลุ่มเดินทางได้เห็นพีระมิด โอเอซิสที่มีอยู่ด้วยกันหลายที่ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นหมู่บ้านกลางโอเอซิสสถานที่พักตากอากาศของคนเมืองและคนทั่วโลก ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่คณะเดินทางตื่นเต้นคือ การเล่นกระดานโต้ทรายและสกีทราย การเล่นกระดานโต้ทรายก็เหมือนการเล่นกระดานโต้คลื่น เพียงแค่เปลี่ยนจากน้ำเป็นการเล่นบนผืนทราย ส่วนสกีทรายเปลี่ยนจากเล่นบนหิมะมาเล่นบนสันทรายแทน
พวกเขาและเธอเที่ยวในเมืองหลวงของจามาลสองวัน ก่อนเดินทางมายังแคว้นซัสเชียร์ตามคำชวนของโอดิลเพื่อนของยศวิน กชนิภากับอังคณาไม่ชอบโอดิล เพราะรู้นิสัยดีว่าเป็นอย่างไร และสองพี่น้องก็เลี่ยงเข้าใกล้โอดิลตามลำพัง
โอดิลได้จัดเตรียมที่พักให้เพื่อนรักในโรงแรมระดับสี่ดาว ในคืนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกอย่างเป็นปกติ ทว่าในคืนที่สองเกิดเรื่องที่ไม่สมควรได้เกิดขึ้น เมื่อโอดิลได้ทำเรื่องชั่วร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย แล้วไม่ได้ทำชั่วเพียงคนเดียว ยังดึงยศวินกับเพื่อนอีกหนึ่งไปร่วมทำชั่วด้วย เรื่องชั่วที่ว่านั้นคือ ดักฉุดสตรีสาวสวยคนหนึ่งที่กำลังเดินกลับไปขึ้นรถ และกระทำย่ำยีอย่างไร้ความปรานี ทว่ายศวินที่มีจิตใจดีอยู่บ้าง ไม่ขอร่วมการข่มขืน แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามเพื่อน กลับดูต้นทางให้
โอดิล ยศวินและอนันต์ทำตัวตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เที่ยวตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่สนใจเรื่องที่พวกตนกระทำ จนกระทั่งก่อนกลับเมืองหลวงหนึ่งวัน มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งกายด้วยชุดโต๊ปสีขาวมาจับกุมตัวโอดิล ยศวินและอนันต์ไปต่อหน้าต่อตากชนิภาและคนที่ร่วมเดินทางไปเที่ยว และพอรู้คำตอบ ทั้งหมดก็เข่าแทบทรุด ไม่คิดว่าคนถูกจับกุมจะกระทำเลวทรามเช่นนี้
ทั้งสามถูกนำตัวไปยังบ้านหลังหนึ่ง ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่า คฤหาสน์หลังนี้ปลูกสร้างสไตล์อาหรับ น้องๆ พระราชวังที่พำนักของกษัตริย์ที่ปกครองจามาล แต่ถ้าจะเรียกว่าวังก็ได้เช่นกัน
ด้วยความเป็นห่วงอังคณากับกชนิภาเดินทางตามพี่ชายไปด้วยเพราะยังไม่เชื่อว่า พี่ชายจะร่วมกระทำเรื่องเลวทรามนั้น
ห้องใต้ดินคือสถานที่ที่ชายฉกรรจ์นำตัวโอดิล ยศวินและอนันต์ไปไว้กลางห้อง ส่วนอังคณากับกชนิภาดื้อดึงจะเข้าไปในห้องใต้ดินด้วย ซึ่งก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ ให้เข้าไปดูการไต่สวน แต่กว่าที่จะมีคนมาพิพากษาความผิด ทั้งสามก็โดนทำร้ายจนเลือดตกยางออก
“พอแล้ว หยุดได้แล้ว พี่ชายฉันไม่ไหวแล้วนะ” กชนิภาเข้ามาห้าม กอดร่างยศวินไว้อย่างปกป้อง “พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายพี่ฉัน ตำรวจก็ไม่ใช่ อีกอย่างพวกคุณยังไม่รู้เลยว่า พี่ชายฉันเรื่องชั่วๆ นั่นจริงหรือเปล่า พอมาถึงที่นี่พวกคุณก็ซ้อมเอาซ้อมเอาทำอย่างกับคนป่าเถื่อน บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป”
กชนิภาปกป้องพี่ชายเต็มที่
“แล้วพี่ชายเธอมีสิทธิ์ทำกับโซเฟียอย่างนั้นเหรอ โซเฟียทำผิดอะไรถึงต้องมาพบกับคนชั่วๆ อย่างพี่ชายของเธอ” น้ำเสียงแข็งกระด้าง มาพร้อมกับใบหน้าบึ้งตึงราวกับโกรธใครมาสักร้อยปี ดวงตาเขามองไปยังสามเดนคนด้วยความเคียดแค้นสุดกำลัง ทุกคนเห็นว่ามีไฟบรรลัยกัลป์ลุกโชนอยู่ในนัยน์ตาเขา มันดูน่าเกรงขาม น่ากลัวและน่าขนลุกมาก “ว่าไงพี่ชายเธอมีสิทธิ์หรือไง”
คนถูกถามสะดุ้งสุดตัวกับน้ำเสียงดังลั่น กชนิภามองชายหนุ่มรูปงามแต่งกายด้วยชุดโต๊ปสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมมิชลาฮ์เย็บด้วยผ้าขนสัตว์สีดำ ตกแต่งบริเวณสาบเสื้อด้วยแถบผ้าปักสีทอง ใบหน้าเขาหล่อเข้มสไตล์ชายอาหรับ แต่มีความโดดเด่นกว่าชายชาวอาหรับที่กชนิภาเคยเห็น เขาดูสง่างามและน่าเกรงขามมาก มากจนเธอนึกขลาดกลัว แต่แม้ว่าจะกลัว กชนิภาก็พูดตอบโต้
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -