เพราะเตกิล่าสองแก้วในคืนนั้น ทำให้ชีวิตเรียบง่ายของดวงดาราเปลี่ยนไป หล่อนมีลูกแฝด โดยไม่รู้ว่า ใครคือพ่อของลูก “ก็ฉันอยากกอดเธอด้วยถามไปด้วยนี่” เขาไม่ปล่อย “แล้วก็อยากจูบเธอด้วย” ดวงดาราตกใจ อ้าปากค้าง ดวงตาขยายกว้าง ไม่คิดว่าเขาจะเอ่ยประโยคนี้ออกมา หล่อนถึงกับทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งให้เขากอด “ไม่...” เป็นเพียงคำเดียวที่ดวงดาราเอ่ยออกมา เนื่องจากเสียงทุกเสียงถูกปิดลงด้วยริมฝีปากบางสีชมพูของเขา อารามตกใจปากจิ้มลิ้มที่ยังคงอ้าค้าง เปิดโอกาสให้เอเดนสอดลิ้นเข้าไปพันรัดลิ้นนุ่มที่อยู่ในอาการตระหนก เอเดนสำรวจช่องปากหอมหวาน พิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ทั้งกลิ่นและรสชาติภายในโพรงปากหวานจะใช้คนเดียวกับสาวปริศนาคนนั้นหรือไม่ เหมือนกันเลย...ปากหอมหวาน กลิ่นน้ำหอมก็เย้ายวนชวนลุ่มหลง นั่นคือคำตอบที่เอเดนได้รับ เขาบดจูบ แรกลัดลิ้นเล็กที่ดูแล้วไม่เป็นประสา ราวกับไม่เคยถูกจูบมาก่อน เนื้อตัวก็สั่นหนัก หัวใจดวงดาราไม่ต้องพูดถึง เต้นโครมครามหาจังหวะไม่ได้ ตื่นเต้นไปหมดจนมือชื้นเหงื่อ สมองของหล่อนว่างเปล่าเสมือนถูกถึงออกจากหัว ไร้ความคิดความอ่านใดๆ ทั้งสิ้น แล้วอยู่ๆ ความดำมืดก็เข้ามาแทนที่ “เฮ้ย!” เอเดนตกใจ เมื่อร่างแน่งน้อยอ่อนแรง ขาทั้งสองข้างอ่อนเปลี้ย ใบหน้าแหงนหงาย ดวงดาราเป็นลม...
“แก...นังลูกไม่รักดี สิ่งที่ฉันอบรมสั่งสอนแกมาตั้งแต่เด็ก แกไม่จำเลยสักนิดใช่ไหม แกถึงทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ รู้ไหมว่าฉันจะขายหน้าชาวบ้านขนาดไหนถ้ารู้ว่า แกท้องไม่มีพ่อ...ฟิ้ว”
สิ้นเสียงคำพูดที่อัดแน่นไปด้วยความโกรธ ความผิดหวัง เสียใจ ตามด้วยเสียงไม้หวายก็แหวกอากาศลงมากระทบกับผิวเนื้อของดวงดาราลูกสาวสุดที่รัก ที่เขารักปานดวงใจหลายครั้ง ตีไปเจ็บหัวใจไป
“พอแล้วค่ะ พอแล้ว อย่าทำลิซ” นงนุชโผเข้ากอดบุตรสาวที่ร้องไห้ตัวโยน นางใช้ร่างกายปกป้องแก้วตาดวงใจ “จะตีลูกทำไม เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ตีไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้ คุณพี่จะตีลิซให้ขายหน้าคนใช้ทำไมคะ”
“คุณไม่ต้องมาพูดเลย หลบไป ผมจะตีมันให้เนื้อแตก ให้แท้งไปเลยได้ยิ่งดี”
ชลิต เจ้าของธุรกิจสินค้านำเข้าจากต่างประเทศรายใหญ่อันดับสี่ของประเทศไทย สินค้าที่นำเข้ามาขายมีหลากหลาย รถยนต์หรูยี่ห้อแลมโบกินี เฟอรารี่ ออดี้ โรสลอยและอีกหลายยี่ห้อ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เคมีภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ฯลฯ ชลิตถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียง ในแวววงธุรกิจล้วนแต่รู้จักเขาในวงกว้าง เขารักหน้าตาและรักษาเครดิตของตนเองมาก หากเรื่องลูกสาวสุดรักสุดหวงท้องไม่มีพ่อ เขาคงขายหน้า ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และนี่คือที่มาของความโกรธเกรี้ยว ไม่พอใจ
“คุณพี่พูดแบบนี้ได้ยังไง ถึงยังไงเด็กในท้องก็เป็นหลานของเรานะคะ”
นงนุชตกใจ พูดตอกกลับเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม ผิดหวังในตัวลูกสาวไม่เท่าไหร่ นางผิดหวังในคำพูดของสามีมากกว่า
“พ่อขา ลิซผิดไปแล้ว ลิซขอโทษค่ะ” ดวงดาราพนมมือไหว้บิดาทั้งน้ำตา
“ฉันจะยกโทษให้แกก็ต่อเมื่อแกต้องไม่มีลูก แกต้องเลือกระหว่างลูกแกกับฉัน" ชลิตตะโกนลั่นบ้าน “ถ้าแกเลือกที่จะเก็บไอ้ลูกไม่มีพ่อไว้ แกไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อแล้วไสหัวออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะตัดทางแกทุกอย่าง เงินในบัญชี บัตรเครดิตฉันก็จะไม่ให้แกใช้เงินของฉัน”
ไม่เพียงแค่ดวงดาราที่ตกใจปล่อยโฮออกมาทันที นงนุชก็ตกใจกับคำประกาศิตของสามี ไม่คิดว่าชลิตจะพูดเช่นนี้ แม้ว่าชลิตจะมีนิสัยเผด็จการ ชอบบงการคนในบ้านให้ทำอย่างนี้อย่างนั้นตามใจตัวเอง แต่กับดวงดารา ชลิตตามใจทุกอย่างเพราะดวงดาราเป็นลูกคนเดียว เขาจึงรักและตามใจ ทว่าคำสั่งที่เอ่ยออกมามาจากความโกรธล้วนๆ
“พ่อ...ฮือ” ดวงดาราเอาแต่ร้องไห้
“คุณพี่คะ ทำไมคุณพี่กลายเป็นคนแบบนี้ คุณพี่ใจร้ายเกินไปแล้วนะคะ” นงนุชต่อว่าสามีทั้งน้ำตา “เด็กในท้องลิซคือหลานของเรานะคะคุณพี่ คุณพี่ให้ลิซเลือกได้ยังไงคะ”
“ทำไมฉันจะให้มันเลือกไม่ได้ ฉันไม่ต้องการมัน มันเป็นลูกใครลิซยังไม่รู้เลย ฉันอุ้มชูมันไม่ลงหรอก ถ้ามันเลือกลูกไม่มีพ่อ ลูกที่เกิดจากมันไปมั่วกับใครก็ไม่รู้ มันก็ไม่ใช่ลูกฉัน ฉันจะตัดขาดกับมัน แต่ถ้ามันเห็นแก่หน้าฉันที่ไม่ต้องแบกคำนินทาว่าลูกสาวตัวดีท้องไม่มีพ่อล่ะก็ มันต้องไปไอ้เด็กคนนี้ออก”
ชลิตไม่ลดความโกรธของตัวเองลง เสียงเขายังคงแผดดัง หน้าตาบึ้งตึงและแดงก่ำจากแรงโทสะ
“พ่อ...” ดวงดารารู้ตัวดีกว่า เรื่องนี้ตนผิด ความผิดพลาดในคืนนั้นส่งผลต่อตนในวันนี้ วันที่หล่อนมีเลือดเนื้อเชื้อไขอยู่ในร่างกาย วันที่รู้ว่ามีเขาเกิดมา หล่อนตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน ทว่าตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่อยู่ในหัวดวงดาราคือ หล่อนต้องรักษาลูกของตัวเองไว้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเขา แต่เป็นความผิดพลาดของตนที่ต้องก้มหน้ารับไว้
“แกต้องเลือก นังลูกไม่รักดี”
ชลิตตะเบ็งเสียงอีกครั้ง ดวงดาราค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าบนพื้น มือทั้งสองข้างพนมไว้กลางอก ก้มลงกราบบิดา
“ลิซขอโทษค่ะพ่อ ลิซฆ่าลูกไม่ได้ค่ะ เขาไม่ผิด ลิซผิดเอง ลิซผิดคนเดียว” ได้ยินคำพูดของดวงดารา ความโกรธของชลิตเพิ่มพูน เขาเหมือนควบคุมตัวเองไม่อยู่ คว้าจับท่อนแขนบุตรสาวที่นั่งอยู่บนพื้น ก่อนจะลากไปยังประตูบ้าน ท่ามกลางความตกใจของนงนุชและคนรับใช้ที่แอบดูอยู่ห่างๆ
“คุณพี่ คุณพี่จะทำอะไรลูกคะ”
นงนุชพูดไปเดินตามไป ความที่นางเจ็บข้อเท้าจากการลื่นล้มในห้องน้ำ ทำให้นงนุชเดินไปช้ากว่าชลิตที่ลากลูกสาวไปนอกบ้าน
“ไป แกออกไปจากบ้านของฉัน แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ไป!” ดวงดาราที่ถูกลากออกมานอกประตูบ้านร้องไห้ตัวโยน ร้องสะอึกสะอื้นด้วยความเสียใจ นางนุชที่เดินมาถึงทีหลังรีบไปกอดร่างบุตรสาว
“คุณพี่สงสารลูกเถอะคะ อย่าทำอย่างนี้เลย ไหนๆ เรื่องมันก็มาจนป่านนี้แล้ว ฮือ” นงนุชขอความเห็นใจจากสามี
“เธออย่ายุ่ง เธอลืมไปแล้วเหรอว่า ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเรื่องในบ้าน แล้วถ้าอยากมีเงินใช้ มีข้าวกิน มีเงินส่งให้พ่อแม่เธอใช้ทุกเดือนก็อย่ายุ่งกับมัน ถ้าฉันรู้ว่าเธอช่วยเหลือมัน เธอจะไม่ได้อะไรจากฉัน” เป็นความเจ็บช้ำอย่างสุดแสนของนงนุช คนเป็นแม่เจ็บปวดที่ช่วยเหลือลูกสาวสุดที่รักไม่ได้ ชีวิตของนงนุชเหมือนผูกติดอยู่กับชลิต ที่ชอบใช้อำนาจกดขี่มาตลอดยี่สิบห้าปี ซึ่งนางก็ก้มหน้ายอมรับอย่างกล้ำกลืน “เข้าบ้านนุช ถ้าเธอไม่เข้ามาภายในหนึ่งนาที ฉันจะไม่ให้อะไรเธอเลย แม้แต่เงินค่าผ่าตัดแม่ของเธอ ฉันก็ไม่ให้ ไปหาเอาเอง”
“แม่...ขะ...เข้าบ้านเถอะคะ...ลิซ...ลิซดูแล...ดูแลตัวเองได้” ดวงดารารู้ว่ามารดาลำบากใจ ซึ่งหล่อนเองก็ไม่ต้องการให้นงนุชต้องลำบากเพราะตน “เข้าบ้านค่ะคุณแม่...ขะ...เข้าบ้าน”
“ส่งข่าวบอกแม่นะลูก อย่าลืมส่งข่าวบอกแม่”
“ค่ะแม่” ดวงดารารับคำ ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองหน้านงนุชแล้วส่งยิ้มบางให้ ก่อนหมุนตัวก้าวเดินไปยังประตูรั้วบ้าน หากตนข้ามผ่านประตูบานนี้ หล่อนก็จะกลับเข้ามาในบ้านนี้อีกไม่ได้ ดวงดาราวางมือลงบนหน้าท้อง ลูบแผ่วเบา “อยู่กับแม่นะลูก แม่ลำบากแค่ไหน แม่ก็จะเลี้ยงหนูให้ดีที่สุด แม่สัญญา”
เสมือนมีพลังก่อเกิดขึ้นมาในฉับพลัน ดวงดาราปาดน้ำตาทิ้ง ก้าวเดินออกจากบ้านที่ตนอยู่มาตั้งแต่เกิด ออกไปเผชิญโลกกว้างกับลูก หล่อนไม่สนใจว่าใครคือพ่อของลูก เรื่องที่หล่อนสนใจคือ จุดเริ่มต้นของชีวิต จะยืนอยู่ด้วยลำแข้งของตัวเองให้ได้ ดวงดาราจะสู้ด้วยสองมือสองเท้าและหนึ่งสมองของตน
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???