หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
“คุณเวิน ผลการตรวจพบว่า คุณมีผนังมดลูกบางมาตั้งแต่กำเนิด ทารกในครรภ์จึงไม่แข็งแรงดี คุณควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายให้มากขึ้นนะครับ”
แพทย์สั่งยาพร้อมกับให้คำแนะนำ แล้วก็ส่งบัตรใบหนึ่งมาให้ “นี่ครับ เชิญไปเอายาได้ครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” เวินเหลี่ยงรับบัตรมา แล้วก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
ทันใดนั้นหมอก็เตือนขึ้นมาอีกครั้งว่า “ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด!”
ผนังมดลูกบางทำให้มีแนวโน้มที่จะแท้งบุตรได้ง่าย สตรีมีครรภ์จำนวนมากไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก หลังจากที่เคยแท้งไปแล้ว
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ ฉันจะระวังให้มาก ๆ ค่ะ” เวินเหลี่ยงยิ้ม และพยักหน้า
หลังจากแต่งงานมาได้สามปี ไม่มีใครรอคอยการมาถึงของเด็กคนนี้มากไปกว่าเธออีกแล้ว ดังนั้นเธอจะต้องปกป้องเขาอย่างดีที่สุด
หลังจากไปเอายาเสร็จ เวินเหลี่ยงก็ออกมาจากคลินิกผู้ป่วยนอก และกลับไปที่รถ
คนขับสตาร์ทรถ และมองดูเธอในกระจกมองหลังพลางถามขึ้นว่า “คุณผู้หญิงครับ เที่ยวบินของคุณผู้ชายจะมาถึงเวลาบ่ายสามโมง ตอนนี้ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาที คุณอยากจะไปที่สนามบินเลยไหมครับ?”
“ไปเลยก็ได้”
เมื่อคิดว่าอีกยี่สิบนาทีก็จะได้เจอเขาแล้ว ใบหน้าของเวินเหลี่ยงก็เผยรอยยิ้มอันแสนหวานขึ้นมาทันที เธอแทบจะอดใจรอไม่ไหวอยู่แล้ว
ฟู่เจิ้งเดินทางไปทำธุระนอกพื้นที่มาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว เธอคิดถึงเขามาก
ระหว่างทาง เธออดไม่ได้ที่จะหยิบใบตรวจครรภ์ออกมาจากกระเป๋าขึ้นมาดูอยู่หลายรอบมาก แล้วก็เอามือวางลงบนท้องน้อยเบา ๆ
นี่คือลูกของเธอกับฟู่เจิ้ง อีกแปดเดือน ลูกก็จะคลอดออกมาแล้ว
เธออยากจะบอกข่าวดีเรื่องนี้กับฟู่เจิ้งจนแทบจะทนไม่ไหว
เมื่อไปถึงสนามบิน คนขับก็จอดรถไว้ในที่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน แล้วก็พูดว่า “คุณผู้หญิงครับ ทำไมคุณถึงไม่โทรหาคุณผู้ชายล่ะครับ?”
เวินเหลี่ยงเหลือบมองเวลา ตอนนี้ฟู่เจิ้งน่าจะลงจากเครื่องบินมาแล้ว เธอจึงกดโทรออกไป แต่กลับมีเสียงคอลเซ็นเตอร์บอกว่าไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
“เครื่องบินอาจจะดีเลย์ล่ะมั้ง งั้นก็รอสักพักหนึ่งก่อนก็แล้วกัน” เวินเหลี่ยงกล่าว
หลังจากผ่านไปสักพัก ฟู่เจิ้งก็ยังไม่ออกมาสักที
เวินเหลี่ยงจึงโทรไปอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดิม
“รอก่อนแล้วกัน”
หากเที่ยวบินจะดีเลย์ก็เป็นเรื่องปกติ บางครั้งดีเลย์ไปหนึ่งชั่วโมงหรือสองชั่วโมงเลยก็มี
สองชั่วโมงต่อมา
เวินเหลี่ยงกดโทรออกไปหาฟู่เจิ้งอีกครั้ง ในที่สุดก็ไม่มีเสียงแจ้งเตือนที่เย็นชาดังขึ้นมา ไม่นานปลายสายก็มีคนรับ “อาเจิ้ง คุณลงจากเครื่องบินแล้วรึยัง?”
ปลายสายเงียบไป จากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมา “ขอโทษทีนะคะ พอดีอาเจิ้งไปเข้าห้องน้ำ ไว้เดี๋ยวถ้าเขากลับมาแล้วจะบอกให้เขาโทรกลับหาคุณอีกทีนะคะ”
ก่อนที่เวินเหลี่ยงจะทันได้พูดอะไร เสียงสายไม่ว่างก็ดังมาจากในโทรศัพท์เสียแล้ว
เธอมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ แล้วก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
เธอจำได้ว่า ที่ฟู่เจิ้งไปทำงานครั้งนี้ เขาไม่ได้พาเลขาผู้หญิงไปด้วยหนิ
เวินเหลี่ยงจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ปิดอยู่ เธอกำลังรอให้ฟู่เจิ้งโทรกลับมา
ไม่นาน เวลาก็ผ่านไปสิบนาที
แต่ฟู่เจิ้งก็ยังไม่ได้โทรกลับมาแต่อย่างใด
หลังจากเวินเหลี่ยงรออีกห้านาที เธอก็ทนไม่ไหว โทรกลับไปหาฟู่เจิ้งอีกครั้ง
หลังจากโทรออกไป และรออยู่นาน ตอนที่สายกำลังจะตัดโดยอัตโนมัติแล้ว จู่ ๆ ก็มีคนรับสาย แล้วก็มีเสียงผู้ชายที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากในโทรศัพท์ เสียงของเขามีความเคร่งขรึม และทุ้มมาก “ฮัลโหล เวินเหลี่ยงเหรอ?”
“อาเจิ้ง คุณอยู่ไหนคะ? ฉันกับคนขับรถอยู่ที่ลานจอดรถเขตดีของอาคารผู้โดยสารแล้ว คุณมาที่นี่ได้เลย”
เสียงของอีกฝั่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า “ขอโทษทีนะ พอดีลงจากเครื่องบินมาแล้วผมลืมเปิดเครื่องน่ะ ตอนนี้ผมออกจากสนามบินมาแล้วล่ะ”
รอยยิ้มของเวินเหลี่ยงหายไปในทันที
“งั้น ฉันจะกลับบ้านไปรอคุณนะ?” เวินเหลี่ยงกัดริมฝีปาก “ฉันมีเรื่องจะบอกคุณด้วย”
“โอเค ผมก็มีเรื่องจะบอกคุณเหมือนกัน”
“งั้นอาหารเย็น เดี๋ยวฉันให้อาอี๋เตรียมอาหารที่คุณชอบกินเอาไว้...…”
“คุณกินเลย ผมยังมีธุระอีก คงกลับไปช้าหน่อย”
เวินเหลี่ยงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “งั้นก็ได้”
ขณะที่เธอกำลังจะวางสาย ทางฝั่งของฟู่เจิ้งก็มีเสียงผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง “อาเจิ้ง ฉันขอโทษ เมื่อกี้นี้เวินเหลี่ยงโทรมาหาคุณน่ะ ฉันลืมบอกไปเลย.....”
หัวใจของเวินเหลี่ยงจมดิ่งลงไปทันที เธอเริ่มขมวดคิ้วขึ้นมาแล้ว ขณะที่เธอกำลังจะถามฟู่เจิ้งว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร สายก็ตัดไปเสียก่อน
เธอมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ แล้วก็เม้มริมฝีปาก จากนั้นก็พูดกับคนขับว่า “กลับบ้านเถอะ”
คนขับเดาอะไรบางอย่างจากคำพูดได้ แล้วเขาก็ขับออกจากสนามบินไป
สำหรับมื้อเย็น เวินเหลี่ยงไม่มีความอยากอาหารเลยสักนิด แต่เป็นเพราะเห็นแก่เด็กที่อยู่ในท้อง เธอจึงต้องกินอะไรบ้าง
ทีวีในห้องนั่งเล่นถูกเปิดเอาไว้
เธอนั่งกอดหมอนอยู่บนโซฟา คอยมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือครั้งแล้วครั้งเล่า ความจริงเธอไม่ได้มีกระจิตกระใจที่จะดูสิ่งที่กำลังถ่ายทอดอยู่ในทีวีเลยสักนิด
ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว
เวินเหลี่ยงหาว แล้วก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่เธอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นี้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าตัวเบา ๆ ราวกับว่ามีใครอุ้มเธอขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น
เวินเหลี่ยงที่กำลังสะลึมสะลือ รู้สึกเหมือนจะได้กลิ่นที่คุ้นเคยและกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อน ๆ เธอจึงพึมพำขึ้นมาว่า “อาเจิ้งเหรอ?”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"