เธอมาเพื่อเงินของเขา ส่วนเขาต้องการแค่สนุก วินๆทั้งคู่ แค่ความสุขฉาบฉวยของผู้ชายขี้เบื่อ และ เงินจำนวนหนึ่งที่หญิงสาวกำลังต้องการ เพียงเท่านั้น... แต่!วันหนึ่งคนขี้เบื่อดันกลัวจะโดนเบื่อซะเอง..
เธอมาเพื่อเงินของเขา ส่วนเขาต้องการแค่สนุก วินๆทั้งคู่ แค่ความสุขฉาบฉวยของผู้ชายขี้เบื่อ และ เงินจำนวนหนึ่งที่หญิงสาวกำลังต้องการ เพียงเท่านั้น... แต่!วันหนึ่งคนขี้เบื่อดันกลัวจะโดนเบื่อซะเอง..
ใต้แสงไฟสีเหลืองนวลสลัวจากแชนเดอเลียร์ราคาแพงในห้องเพนท์เฮ้าส์สุดหรูชั้นบนสุดของตึกสูง36ชั้นใจกลางกรุงเทพมหานคร
ร่างบางย่ำก้าวอย่างเชื่องช้าตามหลังชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำยำผู้ซึ่งกำลังได้ชื่อว่าเป็น ลูกค้า นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มฉายเพียงแววเฉยชาไร้ความรู้สึก นี่เป็นครั้งแรกแต่เธอไม่นึกหวาดกลัว คำสอนต่างๆนานาของมาดามเลอสรวงเจ้าของโมเดลลิ่งชื่อก้องในทางสวาทลับเธอเพียงพยักหน้ารับแต่เชื่อเถอะว่าจำไม่ได้ทั้งหมด แท้จริงเธอไม่อ่อนหวาน เธอฉอเฉาะไม่เป็น เธออ้อนไม่เก่ง แต่หากที่กล่าวมามันเป็นสิ่งดึงดูดเงินเธอจะทำ
“เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำก่อน ถ้าเธออยากอาบบ้างมีห้องน้ำในห้องนอนอีกห้อง เดินตรงไปทางนี้”
ชัชชน พูนสิงห์ นักธุรกิจหนุ่มฉายาเจ้าพ่อกระดานหุ้น หล่อ รวย ดีกรีทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังวัย 27 ปี เป็นคนเช่าชื้อเธอมา กติกาเดิมคือเขาต้องการสาวบริสุทธิ์ สวย น่ารัก หุ่นดี มาเป็นนางบำเรอชั่วคราวในสัญญา 1 ปีด้วยเงินจำนวนที่เรียกว่าสูงลิ่ว
ได้ยินว่าเขาเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูด สุภาพในระดับหนึ่ง ช่างเลือกและเจ้าสำอางเป็นที่สุด
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่เลือกเธอมา ถึงแม้เป็นคนแก่อ้วนลงพุงตัวเหม็นพิการหรือพวกโรคจิตวิปริตโยธกาก็ไม่อิดออด เธอต้องการเงิน!
“ใช้ผ้าขนหนูในห้องน้ำได้เลยใช่ไหม?.....คะ ”
ร่างบางวางกระเป๋าแบรนด์เนมราคากลางๆลงบนโซฟาเดินหายไปตามทางเดินที่เขาบอก พักหนึ่งก็เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้งพร้อมประโยคเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย คงเพราะไม่ค่อยได้ คะ ขา กับใครจึงไม่แปลกที่เธอจะไม่ชิน
นาทีนั้นร่างสูงกำลังขยับสองแขนถอดสูทราคาแพงขนาดพอดีตัว หุ่นทรงสมาร์ตมีกล้ามเนื้อแข็งแรงโอบท่อนแขน เห็นชัดเป็นลอนเมื่อเขาสลัดสูทตัวหนาพ้นแล้ว
ดวงตาสุขุมนุ่มลึกปรายมองใบหน้างามแต่ไร้ความรู้สึกขณะครางอืมตอบรับเบาๆ
ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์พิลึกพิกลจนดูพิเศษ โดยเฉพาะดวงตา ใบหน้ายิ้มยากและท่าทางเย่อหยิ่งเหนือมนุษย์ทั้งที่เธอเป็นเพียงผู้หญิงมีค่าตัวยอมขายศักดิ์ศรีแลกเงิน
ชัชชนยอมรับว่านางบำเรอที่ตนพึ่งไปรับมาสวยมาก ผิวพรรณก็ดีขาวเนียนแทบหาจุดตินอกร่มผ้าไม่เจอ แพขนตาหนางอนรับดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มคล้ายบาร์บี้ จมูกเรียวโด่งเป็นสันไร้ซิลิโคนบนใบหน้ารูปไข่ ปากกระจับแลดูอวบอิ่มมีมิติ อีกหุ่นทรงกระแทกตาโดยเฉพาะหน้าอก ขอนิยามว่าตุ๊กตายางมีชีวิต เขาเลือกเธอจากรูปในขั้นตอนแรกและเมื่อได้เจอตัวจริงยิ่งรู้สึกว่าเธอน่าค้นหากว่าปกเป็นไหนๆ
ถ้าถูกใจไม่มีคำว่าแพง...
ถึงมันจะแค่เซ็กส์แต่ชัชชนเป็นคนกินยาก ไม่ใช่อะไรก็ได้ทว่าต้องพรีเมี่ยมจึงยอมหยิบเข้าปาก
ผู้หญิงสวยเดี๋ยวนี้หาฟรีง่าย ยิ่งเป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีโปรโฟล์หรูระดับทายาทตระกูลพูนสิงห์ผู้มีแม่เป็นถึงหม่อมหลวงด้วยแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่
ทำไมต้องซื้อ?
ก็เพราะหาของดีๆเองไม่ได้ เขาไม่ชอบจีบผู้หญิงและไม่คิดเสียเวลา จะให้นัดเดตลูกเพื่อนพ่อหลานเพื่อนแม่แบบนั้นยิ่งไม่มีคิวอยู่ในตารางชีวิต แต่เขาขาดเซ็กส์ไม่ได้ วันเดียวก็ไม่ได้ดังนั้นจึงต้องซื้อ.....
ติ๊ง!
หลังอาบน้ำชำระร่างกายแล้วเสร็จ มียอดเงินจำนวนหกหลักเด้งเข้ามาในบัญชีของโยธกา มันคือเงินเดือนล่วงหน้าที่ทางโมเดลลิ่งโอนมาให้กอดไว้ก่อน เธอจะได้มีกำลังใจทำงานเพื่อเงินในเดือนต่อๆไปจนครบ1ปี
แสงจากสตริปไลท์สีเหลืองนวลตามผนังทางเดินที่เชื่อมระหว่างห้องนอนเล็กกับห้องนอนใหญ่คล้ายเยาะเย้ยหัวใจดวงน้อยว่าตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นโสเภณีอย่างสมบูรณ์แล้ว
แต่ช่างมันประไร!
ร่างบางในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดเดินตรงเข้ามาภายในห้องนอนใหญ่ที่เปิดประตูรออยู่ สีหน้าของเธอไม่ยี่หระแม้เห็นว่าลูกค้าหนุ่มนั่งเปลือยท่อนบนท่อนล่างใส่เพียงบ๊อกเซอร์ตัวบางสีเทาพิงหัวเตียงอยู่
ปรายตามองหน้าเขาอย่างไม่เขินอายบอกเป็นนัยว่าพร้อม ไม่ใช่หื่น หิว หรือกระหายแค่พร้อม
ชายหนุ่มจึงหยิบยื่นแก้วบอร์โดที่มีไวน์แดงชั้นดีในปริมาณเหมาะสมให้แก่เธอ
หญิงสาวก้าวเข้าไปรับมันแล้วยกขึ้นจิบช้าๆด้วยท่วงท่าสง่างาม
คล้ายว่าความนุ่มละมุนของน้ำผลไม้หมักราคาแพงถูกใจ? จึงมีรอยยิ้มจางๆตรงมุมปากกระจับ
รอยยิ้มแบบนั้นพอใจอย่างงั้นหรือ? เขาพึ่งเคยเห็นผู้หญิงยิ้มแบบนี้
“ชอบเหรอ?”
“......” เธอพยักหน้าแค่เล็กน้อยแล้วดื่มมันอีกนิดหน่อย
มีใบรับรองแพทย์ตามระเบียบการของโมเดลลิ่งมาดามเลอสรวงว่าโยธกายังเป็นสาวบริสุทธิ์ ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคประจำตัวอื่นๆ และเธอก็ยังเด็กอายุแค่22ปีเท่านั้น แต่ทำไมท่าทางดูไม่เหมือนนกน้อยที่พึ่งเผชิญโลกกว้าง
ไม่มีแววหวาดหวั่นในดวงตากลม ไม่มีท่าทางประหม่าทั้งที่กำลังจะนอนกับผู้ชายแปลกหน้า อันที่จริงถึงเขาจะหน้าตาไม่น่ารังเกียจแต่เธอก็น่าจะเกร็งบ้างกลับไม่
หญิงสาวค่อยๆขยับด้วยท่าทางงดงามนั่งลงบนเตียงใกล้เขาแล้วยื่นแก้วมา...ขอชน
อย่างว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์แบบแปลกๆ
ที่ผ่านมาชัชชนซื้อผู้หญิงบำเรอกามค่อนข้างเยอะ สังเวียนรักเคยมีบ้างแฟนแบบเป็นตัวเป็นตนแค่ไม่กี่คน แต่คบใครไม่เคยเกิน7เดือนก็เลิกเพราะนิสัยขี้เบื่อ ทว่าสังเวียนกามเขาช่ำชอง จึงรู้ว่าผู้หญิงมีหลายประเภท บางคนเก่งกล้าลีลาเด็ด บางคนขี้อายจนน่าเบื่อ บางคนคลั่งเซ็กส์ขั้นซาดิสม์ บางคนเจ้ามารยา สาวบริสุทธิ์ก็ใช่จะไม่เคยเล่น เขาคือนักล่าโดยเฉพาะช่วงวัยที่ยังเป็นนิสิต
จากประสบการณ์ตรงโยธกาเลยดูไม่ค่อยเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
“เชียร์สสสส์...” ชนแก้วกับเธอเบาๆ ดวงตาหวานฉ่ำแววเจ้าชู้เน้นจับจ้องใบหน้างามขณะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ
“ขอเติมอีกได้ไหม?” เพียงกระพริบตาไวน์ในแก้วของเธอก็หายไป
เขาจึงเอื้อมไปหยิบขวดไวน์บนโต๊ะข้างเตียงมาเทใส่แก้วที่เธอถืออยู่
“ยาหยี ชื่อเล่นจริงๆหรือว่านามแฝง?”
“มาดามเลอสรวงเก็บรวบรวมข้อมูลฉันยันชื่อโรงเรียนอนุบาล คงไม่จำเป็นต้องปิดหรือมีนามแฝงอะไรหรอก” ตอบแล้วกระดกพรวดเดียว ไวน์ในแก้วที่เขาพึ่งรินให้จึงหมดเกลี้ยงอีก
จะว่าอยากย้อมใจก็ไม่ใช่ท่าทางของเธอหาได้ตื่นเต้นหรือหวาดกลัวการขึ้นเตียงกับเขาสักนิด หรือว่ากำลังเล่นละคร? คงไม่ หรือกระสัน? ก็คงไม่
******ติดตามนักเขียนได้ทาง เพจเฟสบุ๊ค : ซูราสต้า Zurasata Writer
"อย่าดื้อนะอีหนู คนดีของพี่กำนัน" "พี่กำนันบ้าอะไร ไอ้แก่!" พระนางลิ้นกับฟัน โคแก่กินหญ้าอ่อน ตีกันตลอด เร่าร้อน หึงโหด โกรธแรง ดราม่าครบทุกรส ตลก เศร้า น่ากลัว ซึ้ง หวาน โรมานติก
หลังสืบรู้ว่าภรรยาเก่าของลูกหนี้ผู้น่ารำคาญคือผู้หญิงแพศยาที่เคยทำให้ครอบครัวของเขาพัง เดปมาเฟียหนุ่มเจ้าของบ่อนคาสิโนจึงไม่รีรอที่จะแก้แค้น ผู้หญิงแพศยาคนนั้นทำเลวไว้ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ครั้งล่าสุดก็คือทิ้งลูกสาวกับผู้ชายที่เป็นลูกหนี้ของเขาไปแต่งงานใหม่กับมหาเศรษฐี และตอนนี้ลูกสาวของหล่อนที่อยู่กับลูกหนี้ของเขาโตพอใช้งานได้แล้ว.....
ฟ้าเป็นใจให้สินทรผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนุ่มวัย34 มีโอกาสได้เห็นเรือนร่างเปล่าเปลือยของ ดาวใจ สาวน้อยวัย16 ย่าง17 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่เคยทำให้เขาช้ำใจ จึงได้ข้ออ้างมาต่อรองหวังฟันสาวน้อยแล้วทิ้งขว้างเพื่อแก้แค้นพ่อแม่ของเธอ ทว่าฟ้าก็ดันกลั่นแกล้งให้สินทรหลงรักลูกสาวอดีตกิ๊กจนโงหัวไม่ขึ้น ความรักของ น้าสินทรตัวร้าย กับ อีหนูดาวใจตัวแสบ จะสนุกสนาน เสียวซ่าน บันเทิงเริงใจ ฮาลั่นทุ่งกันเพียงไหน ไปติดตามกันเลยจ้า..... “แม่เจ้าโว้ย! อีดาวใจ ข้าเห็นเอ็งมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ตอนนี้หอยเท่าฝ่าตีนข้าแล้วหรือวะเนี่ย” “น้าสินพูดบ้าอะไรเอาผ้าถุงฉันคืนมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะฟ้องแม่” “ยังกะข้ากลัวแม่กับพ่อเอ็งนิ!” “น้าสิน เอาผ้าถุงมาให้ฉันเถอะเดี๋ยวคนมาเห็น”
อุตส่าห์ช่วยเหลือเพราะเห็นว่าไร่อยู่ใกล้กัน แต่พี่ชายตัวดีของเธอกลับไม่ยอมคืนเงิน แถมยังร่วมมือกับพวกชาติชั่วเล่นงานเขาอีก "มีเมียเป็นคนใบ้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงบ่น ถอดเสื้อผ้า!!!"
ใครบัญญัติว่าพระเอกต้องเป็นคนดี ในเมื่อผู้หญิงส่วนมากหลงรักคนเลวทั้งนั้น สำหรับเขาก็แค่จะร้ายให้เธอรัก (รวยมากเลวมากใครไม่รักก็ให้มันรู้ไป)
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY