เธอจะมีแฟนใหม่ได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยเลิกกัน
เธอจะมีแฟนใหม่ได้ยังไงในเมื่อเราไม่เคยเลิกกัน
@คณะวิศวกรรมศาสตร์
ตึก!!!เสียงสองเท้าเล็กๆ ของอริญญากำลังเดินเข้าไปใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ ใบหน้าสวยเรียบนิ่งไม่มีแม้แต่ร้อยยิ้มเผยออกมา กระนั้นถึงอริญญาจะไม่มีรอยยิ้มหวานๆประดับอยู่บนหน้า แต่ก็ยังเป็นจุดสนใจของคนที่พบเห็นได้ไม่อยาก
ด้วยหุ่นที่สมส่วนผิวขาวอมชมพูใบหน้าที่หวานหยดย้อยบวกกับดวงตาที่กลมโตผมยาวสลวยไปถึงกลางหลัง นั่นทำให้อริญญานั้นดูโดดเด่นไปกว่าใคร
"ไปนั่งอยู่ไหนกันนะ?" อริญญาบ่นพึมพำในใจเธอมองไปที่โต๊ะประจำก็ไม่เห็นเพื่อนทั้ง3คนของเธอ แต่กลับเป็นรุ่นพี่ปี2สองมานั่งแทน
"อริน...อริญญา ทางนี้ พวกเราอยู่ทางนี้" อริญญาหันมองไปตามเสียงก็พบว่าปลาดาวเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มกำลังโบกไม้โบกมือทักทายเธอโดยมีปลื้มและมาร์ค เพื่อนผู้ชายอีกสองคนของเธอก็กำลังมองมาที่เธอพร้อมกับยิ้มบางๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
อริญญาที่อยู่ในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทคลุมไปถึงหัวเข่า มือเรียวกระชับกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลังเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนของเธอทันที
"วันนี้ใส่กระโปรงพลีทน่ารักเชียว ใส่แบบนี้บ่อยๆสิเราว่าแบบนี้เหมาะกับอรินนะ" เสียงสดใสของปลาดาวเอ่ยขึ้นก่อนจะดึงมืออริญญาให้มานั่งเก้าอี้ข้างๆกับตัวเอง
".........." เจ้าของใบหน้าหวานอย่างอริญญาพยักหน้า ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆให้กับปลาดาวตามสไตล์คนพูดน้อยอย่างเธอ ไม่สิ...อริญญาไม่ได้เป็นคนพูดน้อยแต่เพราะเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ ทำให้อริญญากลับกลายมาเป็นคนพูดน้อยไม่สดใสเหมือนก่อน
"เมื่อเช้าทำไมไม่ให้มาร์คไปรับล่ะครับ อรินจะได้ไม่ต้องเดินมาให้เหนื่อยแบบนี้" มาร์คที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสังเกตเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมาจากกรอบหน้าหวานของอรินถึงกับพูดขึ้น เมื่อเช้าเขาโทรไปหาอริญญาอาสาที่จะไปรับเธอแต่ทว่าเธอกลับปฏิเสธเขา
"เราเกรงใจ...อีกอย่างบ้านเรากับบ้านของมาร์คก็อยู่คนละทาง" อริญญาพูดเสียงเรียบใบหน้าหวานฉีกยิ้มบางให้กับมาร์ค
"อรินจะไปเกรงใจมันทำไม ไอ้มาร์คมันเต็มใจที่จะรับส่งอรินจะตายไป จริงไหมไอ้มาร์ค?" ปลื้มพูดขึ้นพร้อมกับยกแขนมาพาดบ่าของมาร์ค พยายามช่วยเพื่อนสนิทของตัวเองจีบอริญญาอย่างออกหน้าออกตา ทำให้ปลาดาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับเบะปากมองบน
"จริงๆนะอริน เราเต็มใจรับส่งอรินนะ" มาร์คยังพยายามเสนอตัวทั้งที่รู้ว่าอริญญาจะตอบปฏิเสธ แต่เขาก็พยายามเสนอตัวไปรับไปส่งอริญญา
"ขอบใจนะมาร์คแต่ไม่เป็นไรเราชอบนั่งรถเมล์มามากกว่า" อริญญามักจะพูดประโยคปฏิเสธแบบถนอมน้ำใจของมาร์คเพราะยังไงก็เพื่อนกัน และมาร์คก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร
อริญญารู้ว่ามาร์คชอบและกำลังจีบเธอแต่อริญญาก็ไม่ได้คิดกับมาร์คมากเกินไปกว่าคำว่าเพื่อน และเลือกที่จะไม่ให้ความหวังอะไรกับมาร์คเธอปฏิเสธความช่วยเหลือของมาร์คอยู่บ่อยครั้ง
"ประโยคปฏิเสธทางอ้อม คริ...คริ ไอ้มาร์คงานนี้แกกินแห้ว" ปลาดาวหัวเราะคึกคัก ส่วนอริญญาก็มองทั้งสามคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
"ยัยปลาดาวไอ้มาร์คมันเพื่อนแกตั้งแต่มัธยมเลยนะเว้ย ทำไมไม่เชียร์เพื่อนบ้างวะ?" ปลื้มหันไปเหวใส่ปลาดาวที่เอาแต่หัวเราะคิกคักไม่สนสีหน้าไม่สู้ดีของมาร์คสักเท่าไหร่ ซึ่งพวกเขาทั้ง3คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม ส่วนอริญญามาเจอและเป็นเพื่อนกันที่มหาวิทยาลัย
"ไม่...แกก็รู้ไอ้ปลื้ม เรื่องความรักมันบังคับกันได้ที่ไหน จริงไหมอริน?" ปลาดาวหันไปถามอริญญาซึ่งอริญญาไม่ได้พูดอะไรทำเพียงพยักหน้างึกงัก นั่นทำให้มาร์คมีสีหน้าเศร้าเข้าไปใหญ่
"ถ้าพูดแบบนี้ไม่ต้องพูดดีกว่า ไปดูไอ้หนังสือซังกะบ้วยของเธอเถอะ ยิ่งพูดยิ่งแย่ไม่ให้กำลังใจเพื่อน" ปลื้มเหวใส่ปลาดาวอีกครั้งท่ามกลางสายตาของมาร์คและอริญญา
"ชิ...ไม่พูดก็ได้ ขอโทษแล้วกัน" หลังจากนั้นบรรยากาศที่โต๊ะก็เงียบ ทุกคนต่างเอากิจกรรมที่ตัวเองชอบขึ้นมาทำ รอเวลาเข้าคลาสอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า แต่ทว่า...
กรี๊ด!!!! เสียงเล็กแหลมถูกเปล่งออกมาจากปากของปลาดาว ขณะที่เธอกำลังก้มหน้าก้มตาระดมจูบไปที่ปกนิตยสาร ที่เธอเพิ่งซื้อมาก่อนที่จะมามหาลัย
"แด๊ดดี้...แด๊ดดี้ของฉัน งื้อรูปนั้น รูปนี้หล่อชะมัด" เสียงกรี๊ดและท่าทางของปลาดาวเรียกความสนใจจากเพื่อนทั้งสามคนได้เป็นอย่างดี
"เป็นอะไรปลาดาว มีอะไรเหรอ?" อริญญาที่สะดุ้งในตอนแรกก็หันไปถามปลาดาวด้วยใบหน้าที่ตื่นๆ รู้จักกันมาสักพักแต่อรินยังไม่ชินกับอาการแบบนี้ของปลาดาวสักเท่าไหร่ ส่วนปลื้มกับมาร์คก็ตกใจแต่ก็ปรับตัวได้เพราะปลาดาวเป็นแบบนี้บ่อยครั้ง
"นั่นสิตกใจหมดเลย มดเข้าไปกัดจิมิเธอหรือไง กรี๊ดออกมาได้ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไงวะ?"
"ไอ้ปลื้ม...ไอ้ปากเสีย ใช่แบบนั้นที่ไหนเล่า ฉันกรี๊ดเรื่องอื่นต่างหาก" ปลาดาวมองปลื้มด้วยสีหน้าไม่พอใจทำท่าจะเอานิตยสารไปฟาดปลื้ม แต่สุดท้ายก็วางลงเลือกที่จะถลึงตาใส่ปลื้มแทน
"แล้วกรี๊ดอะไร? กรี๊ด...จนอริญญาสะดุ้งเฮือกเลยนะปลาดาว" มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาเห็นอริญญาสะดุ้งตอนที่ปลาดาวส่งเสียงกรี๊ด
"ขอโทษนะอริน ปลาดาวลืมไปว่าอรินยังไม่ชิน" ปลาดาวหันไปขอโทษอริญญาด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
"ไม่เป็นไร แล้วปลาดาวเป็นอะไรเหรอ? เมื่อกี้เราได้ยินว่าปลาดาวพูดว่าแด๊ดดี้ พ่อดาวเป็นอะไร" อริญญาถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเธอได้ยินคำว่าแด๊ดดี้ออกจากปากของปลาดาว ทำให้คิดว่าพ่อของปลาดาวอาจจะเป็นอะไร
"ไม่ใช่แบบนั้นอริญญา แด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ แต่แปลว่าผัว..." ปลาดาวยื่นหน้าเข้าไปพูดกระซิบที่ข้างหูของอริญญาเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน ทำให้ปลื้มกับมาร์คมองมาอย่างสงสัย
"หืม..." อริญญาเอียงคอเลิกคิ้วมองปลาดาวอย่างเชิงสงสัย และนั่นทำให้ปลาดาวถึงกับหัวเราะคึกคักออกมา ปลาดาวคิดอยู่แล้วว่าอริญญาจะต้องไม่รู้และไม่เข้าใจคำว่าแด๊ดดี้ของเธอ
"นี่ไง" ปลาดาวยิ้มกว้างหยิบนิตยสารที่อยู่ตรงหน้ากลางส่งให้อริญญาได้ดู และทันทีที่อริญญาได้เห็นถึงกับชะงักเม้มปากเข้าหากันแน่นหัวใจดวงน้อยเริ่มปวดหนึบๆ เมื่อภาพในนิตยสารนั้นคือคนๆ นั้น แฟนเพียงหนึ่งอาทิตย์ของอริญญา
"นี่ไงแด๊ดดี้ในฝันของเรา หมอคลาสทั้งหล่อทั้งรวย คาสโนว่าสุดๆ เป็นไงแด๊ดดี้ในฝันของเราล่ะ...." ปลาดาวยังอธิบายถึงบุคคลตรงหน้า คนที่เธอชื่นชอบ โดยไม่ได้หันมามองสีหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ของอริญญาแม้แต่น้อย มีเพียงแค่มาร์คเท่านั้นที่สังเกตอาการของอริญญา ส่วนปลื้มก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในโทรศัพท์
"ขอโทษนะปลาดาว เราขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน" อริญญาบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือยันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองเสียงเรียกของปลาดาว
แกร็ก!!! เสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เอาแต่ร้องไห้ ทรุดตัวลงไปนั่งกับฝาชักโครกราวกับคนหมดเรี่ยวแรง หัวใจดวงน้อยปวดหนึบๆ จนต้องเอากำปั้นน้อยๆ ทุบไปที่อกข้างซ้าย
"ฮึก...คุณมันคนใจร้าย ใจร้ายที่สุด ฮึก...อรินเกลียดคุณ เกลียดที่สุด" อริญญายกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เธอพยายามเข้มแข็งแล้ว แต่เมื่อมาเห็นรูปคนที่เธอทั้งรักและเกลียดแบบไม่ทันตั้งตัว มันก็ทำให้คนที่พยายามเข้มแข็งมาหลายปีอย่างอริญญา หมดความเข้มแข็งจนต้องแอบมาร้องไห้ในห้องน้ำแบบนี้
ภาพที่ปลาดาวให้อริญญาดูนั้น มันเป็นภาพของคนใจร้าย เขาชื่อคลาสหรือหมอคลาส แฟนเพียงหนึ่งอาทิตย์ของเธอ
ย้อนไปในวัย 17 ปีของอริญญา บ้านของอริญญาค่อนข้างมีฐานะพ่อกับแม่ของเธอรักและดูแลเอาใจใส่อริญญาเป็นอย่างดี อริญญาเป็นเด็กสดใสร่าเริงพูดเก่ง อยู่มาวันหนึ่งแม่ของอริญญาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากนั้นพ่อของเธอก็ดูจะไม่สนใจอริญญาสักเท่าไหร่ อริญญาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เป็นเด็กช่างพูดสดใสร่าเริงก็กลับกลายเป็นเด็กเก็บกดพูดน้อยกระทั่งวันหนึ่งเธอได้เจอกับคลาสชายหนุ่มที่อายุเยอะกว่าเธอรอบกว่า คนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของอริญญากลับมาดูสดใสขึ้นอีกครั้ง ทั้งคู่ใช้เวลาคบหาดูใจกันเป็นเวลา3เดือน ต่อมาคลาสก็ขออริญญาเป็นแฟน ซึ่งอริญญาก็ไม่รอช้าที่จะตอบตกลง หลังจากที่อริญญาตอบตกลงเป็นแฟนกับคลาสได้หนึ่งอาทิตย์ พ่อของอริญญาก็พาภรรยาใหม่เข้ามาที่บ้านพร้อมกับลูกติดที่อายุโตกว่าเธอ2ปี ตอนนั้นอริญญาเสียใจและทะเลาะกับพ่อของเธอหนักมาก อริญญาเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้านท่ามกลางฝนที่โปรยปรายลงมา ที่พึ่งเดียวของอริญญาก็คือคลาสแฟนหนุ่มของเธอ อริญญาตัดสินใจออกจากบ้านโดยไม่ได้เอาข้าวของอะไรติดตัวมามาก มีเพียงโทรศัพท์หนึ่งเครื่องกับคีย์การ์ดห้องของคลาสและกระเป๋าสตางค์ของตัวเองเพียงแค่นั้น ทว่าเมื่ออริญญาเปิดประตูเข้ามาในห้องของคลาสก็ต้องพบกับความเสียใจ เมื่อเห็นคลาสกำลังเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บนตัวของผู้หญิงคนหนึ่ง
อริญญาใจสลายเธอร้องไห้ฟูมฟายอยู่สักพัก จากนั้นเธอก็เดินออกมาจากห้องของคลาสแบบเงียบๆ ไม่คิดแม้แต่จะส่งเสียงบอกคนในห้องให้รับรู้
ร่างบางของอริญญาเดินไปตามถนนเหมือนคนไร้สติ ทว่าโชคดีระหว่างที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเธอที่ฉุดรั้งสติ อริญญาตัดสินใจรับโทรศัพท์ของพี่สาวของแม่ ก็คือป้าแท้ๆของเธอ ก่อนที่จะเดินทางกลับต่างจังหวัดใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตัดขาดการติดต่อกับพ่อและคลาสแฟนหนุ่มของเธอ
ติณภพตั้งใจจะรับเลี้ยงเด็กสาวคนหนึ่งเอาไว้ตามเจตนารมณ์ของตัวเองนั่นก็คือตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะเลี้ยงเอาไว้ที่กินเอง แต่ทว่านานวันเข้าความคิดของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
ลินินจำใจต้องกลืนน้ำลายตัวเอง ยอมเป็นคู่นอนของคนที่ใจร้ายใจใจดำอย่างสิงหราช เพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมา
กี่ครั้งแล้วที่เฮียทำร้ายหนู กี่ครั้งแล้วที่หนูยกโทษให้กับเฮีย ฮึก...ฮือ ครั้งนี้มันไม่ได้จริงๆเฮียทำร้ายหนูหนักเกินไปแล้ว
เพราะความใจดีทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย หลังจากที่ยื่นมือเข้าไปช่วยนายน้อยแห่งตระกูลยากูซ่า
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY