ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ชาตินี้ไม่ขอเป็นสตรีต่ำช้า
ชาตินี้ไม่ขอเป็นสตรีต่ำช้า

ชาตินี้ไม่ขอเป็นสตรีต่ำช้า

4.7
41 บท
123.2K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ

บทที่ 1 บทนำ

เสียงประกาศราชโองการดังลั่นไปทั่วห้องโถง ทุกคนในห้องต่างคุกเข่านั่งเงียบไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากแม้แต่เพียงครึ่งคำ คล้ายกับว่าที่นี่คือป่าช้าอันเงียบสงบ

“บุรุษที่อายุเกินกว่าสิบห้าปีประหารชีวิต หากต่ำกว่าสิบห้าปีเนรเทศไปชายแดน สตรีที่อายุเกินกว่าสิบห้าปีให้ปลิดชีพตนเองด้วยการผูกคอ สตรีที่ต่ำกว่าสิบห้าปีให้ลดฐานะและส่งขายในตลาดทาส”

ซูลี่จูไม่มีโอกาสแม้จะพูดคุยต่อหน้าบิดามารดาหลังจากที่ประกาศราชโองการสิ้นสุดลง ด้วยถูกทหารแยกตัวพวกเขาออกจากกันไปโดยพลัน

ซูลี่จูคุกเข่าอ้อนวอน

“ขอโอกาสข้าได้พูดคุยกับบิดามารดาและน้องชายน้องสาวของข้าสักคำเถิดเจ้าค่ะ”

แม้นางจะอ้อนวอนเช่นนั้นทว่าทหารกลับไม่สนใจคำของนางแม้แต่ประโยคเดียว

“หุบปาก ใครก็ได้หาผ้ามาปิดปากนางที”

ซูลี่จูถูกปิดปากสนิท ไม่อาจเอ่ยคำใดได้อีก นางได้ยินเสียงร้องไห้ของน้องทั้งสองคน พวกเขายังเด็กอยู่แท้ ๆ อายุเพียงแปดและสิบขวบเท่านั้นจะทนถูกเนรเทศได้อย่างไร

ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของนางเอง

“ลากตัวนางไปแขวนคอ”

ซูลี่จูนึกถึงความสุขสบายในอดีตที่เป็นเฉกเช่นความฝัน นางเป็นคุณหนูใหญ่สกุลซูที่บิดารักใคร่ที่สุด ไม่ว่าสิ่งใดที่นางต้องการเพียงแค่เอ่ยปากก็ล้วนถูกวางไว้ตรงหน้า นับตั้งแต่ลืมตามีบ่าวไพร่รายล้อมรอบกาย กระทั่งถอดรองเท้านางยังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ

ทว่าด้วยความริษยาของนางจึงทำให้สกุลซูต้องเดินทางมาถึงจุดจบ

และคนที่ทำให้ครอบครัวของนางต้องพบกับภัยพิบัติก็คือคนที่นางรักและหึงหวงเขาสุดหัวใจ

ท่านอ๋องเกาเฟยอวี่ผู้ดำรงเจ้าเมืองห้วยโจวแห่งนี้

เกาเฟยอวี่เป็นเชื้อพระวงศ์ มารดาของเขาคือเหรินไท่เฟยผู้ที่เป็นเสด็จอาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ทว่าแม้จะมีตำแหน่งใหญ่โตแต่เมื่อมาปกครองเมืองห้วยโจวเกาเฟยอวี่กลับไม่ถือยศศักดิ์ เขาไม่ชอบให้ผู้คนเรียกเขาว่าท่านอ๋องและใช้คำราชาศัพท์ที่ห่างเหินจากตนเอง

เกาเฟยอวี่ปกครองคนในห้วยโจวด้วยความเป็นธรรม หลายปีมานี้เขาทุ่มเทจนห้วยโจวกลายเป็นเมืองใหญ่และยังเป็นเมืองค้าขายที่สำคัญของแคว้น

คนในเมืองห้วยโจวล้วนเคารพนับถือเขาดุจเจ้าเหนือหัวทุกคนจึงเรียกเขาว่าท่านเจ้าเมือง หรือไม่ก็เรียกเขาว่า ‘นายท่าน’ จนชินปากไปแล้ว

ซูลี่จูได้ตบแต่งกับเขาก็ด้วยเล่ห์กลของนางที่วางเอาไว้ ทำให้เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงจำยอมแต่งแต่โดยดี

ทว่าเรื่องราวกลับยิ่งเลวร้ายแม้ว่าเขาจะแต่งกับนางแล้วใจของเขากลับไม่เคยมีนางเลยแม้แต่น้อย ด้วยในใจของท่านอ๋องมีสตรีที่เขารักใคร่สุดหัวใจนาม อันผิงจือ หญิงสาวที่งดงามสดใสที่มาจากสกุลอัน

สกุลอันและสกุลซูนับว่าเป็นคู่แข่งทางการค้าแห่งเมืองห้วยโจว

บิดาของซูลี่จูโลภในเงินทองและกิจการของสกุลอันส่วนตัวนางก็โลภในตัวของเกาเฟยอวี่ ต้องการครอบครองเขาเพียงผู้เดียว

นางริษยาอันผิงจือและได้ร่วมมือจัดฉากใส่ร้ายสกุลอันกับบิดาของนาง หากทำเรื่องนี้สำเร็จสกุลอันต้องถูกจับเข้าคุก อันผิงจือก็ต้องถูกร่างแหและหายไปตลอดกาล

ซูลี่จูและอันผิงจือเป็นเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เยาว์วัย พวกนางเป็นเพื่อนร่วมสำนักศึกษา และเคยสนิทกันเป็นอย่างยิ่ง นับว่าเคยเป็นสหายรักก็ว่าได้

แต่แล้วเรื่องราวก็พลิกผัน เมื่อวันที่เกาเฟยอวี่มาที่ห้วยโจว พวกนางทั้งสองในฐานะบุตรสาวของพ่อค้าคนสำคัญย่อมได้เข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าเมืองคนใหม่

เพียงซูลี่จูได้พบหน้าบุรุษที่สง่างามเช่นเกาเฟยอวี่ นางก็บังเกิดอาการคลั่งไคล้และตกหลุมรักเขาทันใด

ในวันนั้นพวกนางสองคนตกน้ำเพราะเกิดอุบัติเหตุเกาเฟยอวี่กระโดดลงไปช่วยเพียงอันผิงจือส่วนซูลี่จูถูกผู้อื่นช่วยขึ้นมา

ตั้งแต่นั้นเกาเฟยอวี่ก็มองเพียงอันผิงจือเพียงผู้เดียว ความบาดหมางจึงเกิดขึ้นในใจของซูลี่จู นางเกลียดอันผิงจือเข้ากระดูกดำ

หลังจากนั้นเกาเฟยอวี่ก็ไปเยี่ยมอันผิงจือ ออกปากขอเป็นสหายกับนางและยังส่งของบำรุงร่างกายไปให้อันผิงจือมากมาย

ผู้คนในห้วยโจวล้วนเข้าใจได้โดยพลัน เกาเฟยอวี่คงมีใจให้อันผิงจือแล้ว

อันผิงจือเองก็ตกหลุมรักเขาเช่นกัน ที่ผ่านมาซูลี่จูต้องอดทนฟังเรื่องที่ทำให้นางริษยา เกาเฟยอวี่ดีต่ออันผิงจือมากเพียงใด ซูลี่จูก็เกลียดอันผิงจือมากขึ้นเท่านั้น

อันผิงจือที่ดีแต่โอ้อวดถึงความรักใคร่ของเกาเฟยอวี่ให้นางฟัง ทำให้นางริษยาจนแทบคลั่ง

เมืองห้วยโจวนับเป็นเมืองที่มีเหมืองเกลือใหญ่ที่สุดในแคว้น ก่อนหน้านี้ทางการเป็นผู้ดูแลเหมืองเกลือด้วยตนเอง กระทั่งต่อมาจึงได้คิดมอบสัมปทานให้กับพ่อค้าที่เหมาะสมคอยดูแลและส่งเกลือชั้นดีเข้าวังหลวง

การที่ได้รับสัมปทานนั้นย่อมเกี่ยวข้องกับความสนิทสนมที่เกาเฟยอวี่มอบให้กับอันผิงจือ และเป็นจริงดังคาดในที่สุดการต่อสู้แย่งสัมปทานก็สิ้นสุดลง เมื่อฝ่าบาทมีหนังสือมอบสัมปทานเกลือให้สกุลอันดูแล

ซูลี่จูอิจฉาริษยา ซูเผยบิดาของซูลี่จูจึงละโมบอยากได้สัมปทานนี้แทน เขาจึงได้วางแผนให้โจรขโมยเกลือออกจากคลังหลวงและหมายใส่ร้ายสกุลอันว่าเป็นผู้ที่ลงมือ

ในยามนั้นอันผิงจือคอยดูแลเรื่องรับซื้อเกลือจากพ่อค้ารายเล็กรายน้อย จู่ ๆ อันผิงจือก็บอกว่าบิดาของนางให้นางรวบรวมซื้อเกลือจากพ่อค้ารายเล็ก ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเข้าแผนการของซูเผยบิดาของซูลี่จู

บิดาของซูลี่จูได้จัดหาพ่อค้าเกลือตัวปลอมมาลวงอันผิงจือ ส่วนซูลี่จูนั้นได้วางแผนให้พ่อค้าเกลือคนนั้นบังเอิญได้ช่วยเหลืออันผิงจือจนทำให้พวกเขารู้จักกันในที่สุด

ในเวลาต่อมา ซูลี่จูก็วางแผนให้อันผิงจือได้พบกับพ่อค้าเกลือผู้หนึ่งและอันผิงจือก็ตกหลุมพราง

หลังจากสกุลอันส่งมอบเกลือเข้าวังหลวงแล้ว เจ้าหน้าที่กลับตรวจพบว่าเกลือที่ได้รับมาครานี้ มีเกลือเก่าจากคลังหลวงปะปนมาด้วย

เมื่อได้โอกาส บิดาของซูลี่จูก็ได้ส่งหลักฐานการซื้อขายเกลือเถื่อนให้กับทางการส่งผลให้สกุลอันได้รับความลำบาก กลายเป็นผู้ต้องหาปล้นคลังหลวงแล้วนำมาเวียนขายให้ทางการอีกรอบหนึ่ง เพื่อกินกำไรการค้าอันมหาศาล

ก่อนที่อันผิงจือจะถูกจับได้เกิดเรื่องลอบสังหารขึ้น ซึ่งนางก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด วันนั้นเกาเฟยอวี่ได้รับบาดเจ็บเพราะพุ่งตัวเข้าไปรับดาบแทนอันผิงจือ ยิ่งทำให้ซูลี่จูคับแค้นใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ

หลังจากอันเหลียนบิดาของอันผิงจือถูกจับ อันผิงจือก็ทุกข์ทรมานเป็นอย่างยิ่ง

ยามนั้นเกาเฟยอวี่ไม่อาจนิ่งดูดายได้ เขาปกป้องสกุลอันสุดชีวิตและติดตามสืบเรื่องนี้ด้วยตนเอง

ฝ่าบาทส่งผู้ตรวจการจากเมืองหลวงคนหนึ่งมาร่วมตรวจสอบ ในเวลาต่อมาพวกเขาก็พบว่าเป็นสกุลซูที่ใส่ร้ายสกุลอัน พวกเขาตามหาหลักฐานเงียบเชียบไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าบัดนี้สกุลซูกำลังล่มสลายแล้ว

นางคิดว่าเมื่อสิ้นขวากหนามอย่างอันผิงจือแล้ว เกาเฟยอวี่จะหันมาชอบนาง ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น นับวันยิ่งเลวร้ายเมื่อเกาเฟยอวี่ไม่เหลียวแลนางเลยแม้แต่น้อย

เมื่อสามีไม่ยอมกลับบ้าน ทำให้อันผิงจือบังเกิดอารมณ์คลุ้มคลั่งเหมือนคนบ้า บ่าวไพร่ในจวนล้วนนินทาว่าร้าย ซูลี่จูจึงมักมีปัญหากับบ่าวไพร่อยู่เสมอ

หลายคราที่นางจับได้ว่าผู้ใดนินทา นางก็จับโบยไม่ยั้งมือ ทั้งยังขับไล่ออกจากจวน

และหลายครั้งเพียงนางคิดว่าคนพวกนั้นกำลังนินทานาง แม้ไม่มีหลักฐานนางก็ลงโทษอย่างรุนแรงไม่ต่างกัน

ชื่อเสียงของนางเลื่องลือกระฉ่อน สตรีใจบาปที่สามีไม่ต้องการจึงดังไปทั่วเมืองห้วยโจว

ซูลี่จูหัวใจไม่สงบด้วยตนเองมีความผิดติดตัว การสืบหาตัวคนร้ายที่แท้จริงยิ่งทำให้ซูลี่จูอยู่ในจวนด้วยความหวาดระแวง ในวันหนึ่งนางจึงดื่มสุราจนเมามาย กระทั่งเกาเฟยอวี่กลับมาที่จวนและได้พบกับนางที่กำลังรออยู่

“นายท่าน ข้าทนไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะ”

ซูลี่จูโผเข้าไปกอดเขาแน่น ทั้งยังร้องไห้สารภาพความผิดที่ตนเองก่อโดยไร้สติ เกาเฟยอวี่กลับฟังอย่างนิ่งเฉยทั้งเอ่ยว่า

“หลักฐานพร้อมแล้ว ข้าจะจัดการเอง เจ้าอยู่เฉย ๆ เถิด คนผิดต้องได้รับการลงโทษไม่อาจละเว้น”

“นายท่าน ท่านจะจับข้าหรือ ท่านจะฆ่าข้าหรือเจ้าคะ ท่านไยใจร้ายยิ่ง ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะรักท่าน”

เขามองนางก่อนจะเอ่ยว่า

“คนรักกันไม่มีใครทำกันแบบนี้หรอก ซูลี่จูเจ้ายังไม่สำนึกถึงความผิดอีกหรือ”

“ข้าไม่ได้ทำผิด ไม่ข้าไม่ได้ทำอะไร เป็นนาง เป็นนางที่ทำให้พวกเราตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เป็นอันผิงจือที่สมควรตาย”

ซูลี่จูถึงขั้นตบตีเขา ที่เขาไม่เห็นแก่ความเป็นสามีภรรยา แต่เขาก็เอาแต่ทำสีหน้าราบเรียบและปล่อยให้นางตีเขาจนพอใจ กระทั่งในที่สุดนางก็ยกสุราขึ้นดื่มจนหมดไหและเมาหลับไปในที่สุด

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY