แม้จะดีใจที่รู้ว่าลูกชายคนโตกำลังจะแต่งงานในเร็วๆ นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจของมารดาอย่างอำพรคือเรื่องลูกชายคนกลางอย่างภูตะวัน เพราะเธอระแคะระคายอะไรมาบางอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่เธอเองก็รู้สึกมาตลอดแต่ยังไม่มีหลักฐานมัดตัวมากพอให้เจ้าตัวยอมรับก็เท่านั้นเอง
โลกใบนี้พัฒนาไปไกลมากรวมถึงเรื่องรสนิยมอะไรพวกนี้ แม้จะพยายามทำใจมาบ้างแต่พอคิดจริงๆ ก็กังวลไปสารพัด เธอคลอดลูกชายมาก็อยากได้สะใภ้ที่เป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย เพราะถ้าภูตะวันเบี่ยงเบนไปในทิศทางที่เธอไม่เห็นด้วยก็จะรีบหาทางแก้เกิดเรื่องถึงหูสามีเข้ามีหวังบ้านต้องแตกแน่นอน
“เป็นอะไร ตั้งแต่มาก็นั่งหน้าเครียดเชียว” รำไพเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่นัดกันออกมากินข้าวแท้ๆ แต่กลับเอาแต่เขี่ยไปเขี่ยมาราวกับมีเรื่องหนักใจ
“เรื่องตาเบสนะ”
“ลูกชายฝาแฝดคนกลางของเธอที่ไปเป็นนายหัวที่ภาคใต้นะเหรอ ทำไม เกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงของรำไพแสดงออกว่าเป็นห่วง แม้นานๆ เพื่อนสนิทจะมีเรื่องกลุ้มใจทำนองนี้ก็ตาม
“ก็ฉันสงสัยว่าเบสจะเป็นเกย์”
“ไม่หรอกมั้ง คิดมาก” รำไพโบกไม้โบกมือปฏิเสธความคิดนั้นของอำพร
“แต่ฉันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ นะ อย่างลูกคนโตกับคนเล็กฉันพอรู้ว่ามีคนคบอยู่แต่คนกลางนี่ฉันแทบไม่เคยได้ข่าว ถามกี่ทีก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงแล้วบอกว่าอยากโฟกัสเรื่องงานมากกว่า อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ สามสิบห้าเข้าไปแล้วหน้าที่การงานก็มั่นคง ยังจะห่วงอะไรกันอีก”
“เธอก็ให้คนแถวนั้นสืบให้สิ”
“ฉันทำแล้ว แต่ก็ถูกเบสจับได้ตลอดจนคนงานพากันขยาดเพราะถูกจับได้เมื่อไหร่เบสก็จะคาดโทษเอาไว้หนัก”
“งั้นก็ส่งคนของเธอไปเองสิ คนที่ลูกชายเธอไม่กล้าแตะ”
“จะไปหาที่ไหน ฉันก็มีแต่หลานชายทั้งนั้น”
“ฉันพอมี” รำไพยิ้มกริ่มออกมานั่นเพราะเธอมีแผนบางอย่างในใจแล้วเช่นกัน ก่อนจะเล่าแผนที่ว่าให้อำพรฟังถึงแผนการที่ว่า
“จะดีเหรอรำไพ”
“ต้องดีสิ เพราะนอกจากวิธีนี้แล้วฉันก็คิดวิธีอื่นไม่ออกจริงๆ แต่ก่อนที่หลานสาวฉันจะไปที่นั่นเธอก็บอกลูกชายให้รู้เสียหน่อยว่านับคือคนของเธอ”
“แล้วเหตุผลที่จะให้นับไปที่นั่นละคืออะไร”
“ฝึกงาน ไปฝึกงานเพราะหลานสาวฉันพึ่งเรียนจบ
“อะไรนะคะคุณป้า จะให้นับไปเป็นสายสืบเหรอคะ” นับพันดาวกะพริบตาปริบๆ นั่นเพราะไม่คิดว่าธุระด่วนที่ผู้เป็นป้าบอกว่าจะมาขอคุยด้วยคือเรื่องอยากให้เธอไปสืบข่าวของลูกชายเพื่อนสนิทว่ามีรสนิยมทางเพศแบบไหน งานเผือกชีวิตคนอื่นแบบนั้นเธอคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเท่าไหร่
“ใช่”
“แต่นับจบบริหารมานะคะ ไม่น่าจะมีความถนัดเรื่องทำนองนั้นเท่าไหร่” เอ่ยจบก็ส่งยิ้มแห้งให้รำไพ เธอพึ่งเรียนจบจากอังกฤษและพึ่งบินกลับมาเมืองไทยเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน โดยหลังจากนี้จะเข้าไปทำงานที่บริษัทครอบครัว
“ป้ารู้ แต่ป้าก็อยากช่วยเพื่อนจริงๆ”
“คือว่านับ”
“ช่วยป้าหน่อยนะนับ ได้หลักฐานแล้วค่อยกลับตอนนั้นก็ได้ ป้าเห็นเพื่อนทุกข์ใจด้วยนี้ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกัน อะไรที่ช่วยได้ก็อยากช่วย”
“นับก็อยากช่วยจริงๆ ค่ะ แต่อาทิตย์หน้านับต้องเข้าไปช่วยงานที่บริษัทแล้ว เกรงว่าจะไม่…” ยังไม่ทันที่ นับพันดาวจะได้พูดคำว่าไม่สะดวกออกไปรำไพก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“เรื่องนั้นนับไม่ต้องเป็นห่วง ป้าคุยกับพ่อแม่ให้แล้ว” ดูจากสีหน้าของผู้เป็นป้า นับพันดาวก็แทบไม่ต้องเดาคำตอบของพ่อกับแม่ ท่านทั้งสองรักพี่สาวคนนี้มากเพราะตอนที่พวกท่านลำบากก็มีเพียงป้ารำไพยื่นมือเข้าช่วย แถมยังรับเธอและพี่ชายสองคนไปเลี้ยงดูตั้งแต่เล็กๆ นั่นก็เพื่อให้แม่ได้ออกไปช่วยพ่อทำงาน
ค่าเล่าเรียนที่ต่างประเทศของเธอและพี่ๆ ป้าคนนี้ก็ออกให้ทั้งหมด ต่อให้จะไม่ได้อุ้มท้องแต่ก็เลี้ยงดูเธอกับพี่ๆ ราวกับลูกแท้ๆ ป้ารำไพไม่มีครอบครัวเหตุผลเพราะไม่อยากมี บวกกับตอนสมัยสาวๆ เกิดอุบัติเหตุจนต้องตัดมดลูกทิ้ง นั่นทำให้การจะได้เป็นแม่จึงไม่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน
“แล้วนับต้องไปอยู่ที่นั่นกี่วันคะ”
“อย่างเร็วก็น่าจะอาทิตย์หนึ่งช้าสุดก็ไม่เกินสามเดือนจ้ะ เอาให้เหมือนไปฝึกงานจริงๆ” นั่นคือระยะเวลาคร่าวๆ ที่รำไพกำหนดแต่ทุกอย่างก็สามารถยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
“โอเค นับจะเป็นสายสืบชั่วคราวให้ค่ะ”
“ขอบใจมากนะนับ” รำไพยิ้มขอบคุณหลานสาวที่ยอมช่วยเหลือ ในขณะที่นับพันดาวได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ที่เผลอรับปากออกไปแบบนั้น แต่ถ้าไม่เดือดร้อนจริงๆ ผู้เป็นป้าคงไม่เอ่ยปากขอให้เธอช่วยแน่นอน
เมื่อหลานสาวรับปากว่าจะช่วย รำไพก็ส่งข้อมูลของเป้าหมายให้นับพันดาวทันที
“หน้าตาดีเป็นเกย์มีถมไปสินะ” นับพันดาวอดที่จะเสียดายความหล่อของชายหนุ่มที่ได้เห็นนัก แต่สมัยนี้คนหล่อล่ำมักจะมีรสนิยมประหลาดๆ สวนทางรูปร่างหน้าตาจนเธอชิน งานนี้แค่มีหลักฐานทุกอย่างก็จบ งานง่ายๆ ไม่น่าจะมีอะไรยาก