‘พรพระพาย’ คือสาวสวยวัยยังไม่แตะเลขสาม แต่ทว่าอาภัพเพราะต้องเป็นหม้ายถึงสองครั้ง แต่งงานครั้งแรกสามีเสียชีวิตตั้งแต่คืนส่งตัวเข้าหอ แต่งงานครั้งที่สอง (ว่าที่) สามีกลับไม่โผล่หน้ามางานแต่งงาน ‘กานต์’ คือชายหนุ่มหน้าโหดลุคเหมือนโจรป่า แต่ทว่าเขามาเพื่อทำลายกำแพงอันสูงลิ่วหวังพาคนที่รักให้หลุดพ้นคำว่า ‘หม้าย’ หากการแต่งงานครั้งที่สามเกิดขึ้น!! มันจะ…ล่ม! หรือจะ…รุ่ง! จะเป็นงานแต่งงานในฝันที่แสนจะโรแมนติก หรือจะวิวาห์เหาะเพื่อแก้เคล็ดล้างอาถรรพ์กันนะ
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆ ราวกับกระสุนที่ถูกยิงออกมาจากกระบอกปืน แม้เสียงของมันจะไม่ได้ทำร้ายใคร แต่มันก็บาดลึกเข้าไปในหัวใจที่กำลังบอบช้ำอย่างแสนสาหัสในตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังต้อง…ยิ้ม ให้เหมือนไม่มีอะไร
ไหนจะแสงแฟลชที่สาดส่องเข้ามากระทบกับร่างบางที่ยังอยู่ในชุดไทยบรมพิมานสีขาว ซึ่งมันกำลังไหวระริก บ่งบอกถึงความตกใจ เสียขวัญและเสียใจ ที่จู่ๆ เจ้าสาวอย่างเธอต้องกลายเป็นหม้ายขันหมากอย่างกะทันหัน ไม่ทันได้ตั้งตัวใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะ…เจ้าบ่าวหนีหน้า ไม่ยอมมางานวิวาห์ ทั้งๆ ที่งานแต่งงานเช้านี้ รวมทั้งงานฉลองมงคลสมรสในค่ำวันเดียวกันก็ถูกตระเตรียมไว้พร้อมสรรพทุกอย่าง
“เจ้าบ่าวไม่มางานแต่งงานเหรอ เป็นไปได้ยังไง แล้วจะทำยังไงกันดี” นี่คือเสียงเอะอะโวยวายจากญาติทั้งฝ่ายเจ้าสาวเจ้าบ่าวดังลั่นห้องจัดงาน เมื่อรู้ว่าเจ้าบ่าวไม่โผล่มางานแต่ง
‘หม้ายขันหมาก ว่าที่เจ้าสาวอักษรย่อ พ. ทนความอับอายไม่ไหว กินยาหวังฆ่าตัวตาย’
‘เจ้าสาวตรอมใจ หนีไปโกนหัวบวชชี อักษรย่อ พ.’
และอีกสารพัดข่าวโคมลอยที่ถูกปล่อยออกไปทางโซเชียลต่างๆ แต่ละข่าวใส่สีตีไข่กันอย่างสนุก ข่าวไหนจริง ข่าวไหนเท็จก็ยากจะรู้ได้
มีเพียงเจ้าของอักษรย่อ พ. หรือชื่อจริงคือ พรพระพายเท่านั้นที่รู้ แม้เธอจะเข้มแข็งมากแค่ไหน แต่เจอเรื่องแย่ๆ รวมทั้งข่าวแย่ๆ ถาโถมเข้ามาใส่ราวกับพายุแบบนี้ มันก็พลอยทำให้อ่อนแอจนน้ำตาเอ่อได้เหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่หนีหน้า เพราะยิ่งหนีข่าวมันก็ยิ่งห่างไกลความเป็นจริง สิ่งที่เธอจัดการหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นั่นคือการมานั่งแถลงข่าว ทั้งๆ ที่ยังสวมชุดไทยบรมพิมานสีขาวมันนี่แหละ...พีคดี
“พายพร้อมแล้วค่ะ พี่ๆ อยากถามอะไรก็เชิญถามได้เลย” พรพระพายเอ่ยขึ้นด้วยโทนเสียงปกติ พร้อมกับกวาดสายตามองนักข่าวทุกคนที่อยู่ตรงหน้า แล้วหวนคิดย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน
ตอนนั้นเธอก็แค่พรพระพายหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง แต่พรหมลิขิตก็ชักพาให้เธอได้พบรักกับไฮโซหนุ่มสุดเพอร์เฟค แม้ตอนนั้นเธอจะยังเด็กเพราะอายุแค่สิบเจ็ดและเขาก็อายุมากกว่าเธอถึงสิบปี แต่มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเรื่องความรัก คบหาดูใจกันมาห้าปีกระทั่งเมื่อรักสุกงอมและเธอก็เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว เขาจึงได้เอ่ยปากขอเธอแต่งงาน แต่จะว่าไปหากพ่อกับแม่ของภาคินยังมีชีวิตอยู่ ทุกอย่างมันอาจไม่เดินไปถึงวันวิวาห์ก็เป็นได้ นั่นเพราะรู้ว่าเธอแทบไม่มีอะไรที่เหมาะสมกับเขาสักนิดเดียว
วันแต่งงานเป็นวันที่เธอนั้นมีความสุขมากที่สุด เป็นงานแต่งงานในฝันที่ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยถวิลหาและภาคินก็เข้าใจจึงเนรมิตทุกอย่างให้ แต่คืนส่งตัวเข้าหออยู่ๆ สามีตามกฎหมายของเธอก็เกิดหัวใจวายและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล
นั่นคือปฐมบทแห่งความเป็น ‘หม้าย’ และอะไรหลายๆ อย่างมันก็เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของพรพระพาย จากหญิงสาวที่ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ต้องก้าวเข้าสู่สังคมไฮโซตามนามสกุลของสามีที่ห้อยท้ายชื่อของเธออยู่อย่างไม่อาจเลี่ยงได้ ที่ต้องทำแบบนั้นก็เพื่อแสดงให้ภาคินเห็นว่าเธอกำลังมีความสุขกับทุกอย่างที่เขาทิ้งไว้ให้
“พี่คิน” พรพระพายเอ่ยเรียกอดีตสามีด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา เธอใช้เวลาเยียวยาทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองเข้มแข็งถึงสามปีเต็ม แต่ความเป็นหม้ายที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและทรัพย์สมบัติที่ตกมาเป็นของเธอหลังจากสามีเสียชีวิต มันยิ่งทำให้เธอกลายเป็นหม้ายสาวเนื้อหอม มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แวะเวียนมาขายขนมจีบไม่ได้ขาด แต่เธอก็ไม่ลงเอยกับใครง่ายๆ กระทั่งเธอได้พบกับ…
ราเชน!
เขาคือรักครั้งใหม่ที่เข้ามาทำให้หัวใจเธอพองโต พรพระพายทดสอบราเชนอยู่นานว่าเขาจะมาไม้ไหน จะจริงใจหรือแค่ไก่กาหวังมาหลอกเหมือนผู้ชายคนอื่น แต่ในที่สุดราเชนก็เอาชนะใจเธอได้ รักที่คิดว่าใช่และตัดสินใจจะสละโสดอีกสักครั้งหลังคบหากันมาถึงสองปี พร้อมกับหวังสลัดคำว่าหม้ายทิ้งไปให้ไกล
สุดท้าย...เธอก็ทำไม่สำเร็จ ไม่รู้ว่าความเป็นหม้ายมันจะรักเธอไปไหน สลัดทิ้งก็ยังจะตามติดเป็นเงา แถมยังต้องเจ็บทั้งใจเสียทั้งหน้ากว่าครั้งแรกอีกต่างหาก เพราะครั้งนี้เจ้าบ่าวไม่ได้เสียชีวิตแต่เขาหนีหายเข้ากลีบเมฆ ไม่โผล่มาร่วมงานแต่งงานแม้แต่เงา มิหนำซ้ำยังไม่มีใครติดต่อเขาได้ทั้งนั้น มีเพียงจดหมายที่เขียนด้วยลายมือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แม้จะมีเพียงแค่ไม่กี่พยางค์ แต่มันกลับกรีดลึกลงในใจของพรพระพาย
‘เราคงแต่งงานกันไม่ได้...ลาก่อน’
“รู้สึกยังไงบ้างคะคุณพายที่เจ้าบ่าวยกเลิกงานแต่งงานเช้านี้” คำถามแบบไม่ถนอมน้ำใจคนฟังดังมาจากนักข่าวที่หวังแค่ได้ข่าวไปเขียนพาดหัวดังแว่วมาเข้าหูพรพระพายเข้าอย่างจัง
นั่นทำให้เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ อันที่จริงตั้งแต่รู้เรื่อง เธอนั้นอยากมุดพื้นโรงแรมหนีความอายด้วยซ้ำไป แต่ที่ไม่ทำเพราะถือว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดที่ต้องหนีหน้าใครต่อใครแบบนั้น คนผิดคือผู้ชายโลเลเป็นไม้หลักปักขี้เลนนั่นต่างหาก
ไหนจะข่าวโคมลอยสารพัดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งแต่ละข่าวมันฉุดให้เธอดิ่งลงเหวได้ทั้งนั้น ไม่มีข่าวไหนที่เป็นเรื่องจริงหรือเขียนให้กำลังใจเธอเลย บวกกับนักข่าวที่ยังอยู่กันครบแทบจะทุกสำนักแบบนี้ พรพระพายจึงตั้งโต๊ะแถลงข่าวมันเสียเลย
แม้จะรู้ว่าคำถามบางคำถามมันจะตอกย้ำเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ นักข่าวบางคนก็ยังขุดคุ้ยไม่จบไม่สิ้น สู้ฟังจากปากเธอเองแบบให้มันม้วนเดียวจบ และหลังจากนี้ถ้าสำนักข่าวที่ไหนยังเล่นข่าวนี้อยู่ เธอจะฟ้องให้ถึงที่สุด
“เสียใจค่ะ เสียใจมาก” น้ำเสียงของพรพระพายสั่นเทา เจอเรื่องช็อกแบบนี้ใครไม่เสียใจก็บ้าแล้ว ดีหน่อยที่เธอจิตแข็ง ไม่อย่างนั้นคงสติหลุดได้อาละวาดเหมือนคนบ้าแน่ๆ
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !