โปรยปก นิยายเรื่อง “ผู้หญิงของมาเฟีย” โดย... Chineserose ปกหน้า : เรื่องราวความรัก ประทับใจ และร้อนแรง... เมื่ออ่านถึงหน้าสุดท้าย คุณจะบอกกับตัวเองว่า... “อยากเป็น ‘ผู้หญิงของมาเฟีย’ สักครั้งในชีวิต!” ปกหลัง: “เธอ คือหน้าที่ของฉัน อรินรดา” – อนรรฆ “ฉันจะมอบ ‘ของขวัญ’ ล้ำค่า ฉลองอายุครบยี่สิบปีให้เธอเอง” ‘อนรรฆ’ มาเฟียกาสิโน จอมเย็นชา ผู้ไม่มีหัวใจรักผู้หญิงคนไหน แต่ปณิธานในใจเขากลับสั่นคลอน เมื่อพบว่า “เด็กสาวในปกครอง” ยิ่งนับวัน... การเจริญวัยของเธอมันทำให้ “หัวใจ” ด้านชาของเขา เร้าระทึกทุกนาทีที่ชิดใกล้ ** “ฉันจะไม่ขัดขืน ‘จูบ’ ของคุณอีก... เพราะหัวใจฉัน ไม่อาจหนีเจ้าของ ‘รอยจูบ’ ที่ทิ้งเอาไว้ทุกจุดบนตัวฉัน” น้องสาวอย่าง “อรินรดา” เธอรู้ดีว่าการ ‘รัก’ กับพี่ชายตัวเอง เป็นสิ่งต้องห้าม! แต่เมื่อรู้ว่า ‘พี่ชายผู้ปกครอง’ ไม่ได้มีสายสัมพันทางสายเลือด เธอก็รู้สึกว่า ‘เรือนร่าง’ ของตนเองเรียกร้องสัมผัสจาก ‘เขา’ทุกครั้งเมื่ออยู่ใต้การ ‘ควบคุม’ ของพี่ชายอย่าง ‘อนรรฆ’ ตัดบทมาบางส่วนในหนังสือ “พี่... พี่ขอโทษ ก็ข้าวหอมสวยนิ่ เด็กอะไรยิ่งโตก็ยิ่งสวย” เจ้าพ่อหนุ่มสารภาพ สายตาคมตรึงบนใบหน้าสวยใสงดงามไม่มีที่ตินั้นของน้องน้อย ยิ่งมองหัวใจของคนทั้งสองยิ่งเต้นแรงแทบจะเป็นจังหวะเดียวกัน ทำไมก็ไม่รู้ “แต่ข้าวหอมเป็นน้อง” อรินรดาพยายามย้ำสถานะ บ่อยครั้งที่หญิงสาวพยายามหลบเลี่ยงที่ยากจะรอดพ้น เธอรู้ดีว่ามันเป็นความสัมพันธ์ต้องห้าม ‘เราจะรักพี่ชายคนนี้ไม่ได้...ไม่ได้เด็ดขาดนะข้าวหอม’ อรินรดาพยายามข่มใจสั่งตนเองไว้เสมอตลอดเวลา “เราไม่มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด เราเป็นอะไรกันมากกว่านั้นได้นะข้าวหอม” แล้วหน้าหล่อก็โค้งลงประชิด จนริมฝีปากเขาแตะกลีบปากบาง แค่ผิวสัมผัส “ไม่นะ!” หญิงสาวสะบัดหน้าหลบก่อนที่พี่ชายจะทำอะไรไปไกลกว่านี้ “เด็กน้อย” เขาปลอบก่อนหอมหนักๆที่ขมับสวยของสาวน้อยก่อนปัดจมูกโด่งมาที่จมูกจิ้มลิ้มของหญิงสาวอย่างแสนหวง “จะหนีไปไหน หืมม์?”
บนชั้นสูงสุดด้วยระดับน้ำทะเล 227 เมตรหรือกว่า 62 ชั้นของ ‘Riches City’ กาสิโนหรูมีระดับแห่งภาคพื้นเอเชีย ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นไนต์คลับหรูที่เนืองแน่นทุกคืนสำหรับนักท่องราตรี โดยเฉพาะส่วนบาร์เครื่องดื่ม ร่างน้อยอรชรในชุดกระโปรงสั้นเหนือเข่าของบาร์เทนดี้สาว เจ้าของเรืองร่างชวนมองนั้นกำลังวาดลวดลายเขย่าเครื่องดื่มคอกเทลให้นักเที่ยวขาประจำด้วยเสน่ห์เร้าใจ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสาวสวยเจ้าของหุ่นงดงามอวบอิ่มนี้มีส่วนเรียกแขกและเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดประจำคลับแห่งนี้
“บอสครับ คุณหนูแอบมาทำงานอีกแล้วครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มร่างสูง กรอกเสียงทุ้มแข่งกับเสียงดนตรีภายในสถานบันเทิงลงสมาร์ทโฟนเพื่อรายงานสถานการณ์ตรงหน้าให้บอสหนุ่มเจ้าพ่อกาสิโนได้รับทราบ สายตาคมยาวเรียวของบอดี้การ์ดหนุ่มจ้องตรงไปที่สาวน้อย โดยไม่ให้เธอรู้ตัว
“เฝ้ายัยน้องไว้ให้ดีอย่าให้คลาดสายตา ฉันกำลังไปเดี๋ยวนี้!” เขาออกคำสั่งเสียงเข้มขึง ดวงตาคู่คมดำสนิทของเขานั้นเปล่งประกายโกรธเคืองอย่างเอาแต่ใจ จะไม่ให้โกรธได้อย่างไรล่ะ ก็ยัยน้องที่ถูกพูดถึงก่อเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน และครั้งนี้เขาจะถือเป็นครั้งสุดท้ายที่จะให้สาวน้อยมีโอกาสได้ออกไปก่อเรื่องแบบนี้อีก
‘พี่บอกแล้วไม่รู้กี่ครั้ง ยัยน้องยังกล้าขัดคำสั่ง เห็นทีต้องลงโทษให้หนัก!’
“ครับผม” วิสรุตต์บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าหล่อขัดกับสายอาชีพเสียเหลือเกินรับคำก่อนส่งปลายนิ้วแกร่งกดวางสายสมาร์ทโฟนล้ำสมัย แต่ทันใดนั้นเขาต้องเบิกตากว้างอีกครั้งด้วยความตกใจที่เห็นร่างสวยระหงของนางแบบสาวลูกครึ่งฝรั่งเศสคู่ขาของบอสหนุ่มย่างกรายเข้ามาบนไนท์คลับหรูแห่งนี้ด้วยท่าทางที่ตั้งใจจะมาเอาเรื่องใครหรือตามหาใครสักคน สายตาคมเฉี่ยวที่อยู่ใต้ไอน์ไลเนอร์ที่กรีดเรียวเฉียบยิ่งทำให้หน้าสวยนั้นยิ่งดูสูงส่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
“นั่นคุณเมญ่านิ่ มาทำอะไรที่นี่ บอสก็ไม่ได้มาดริ๊งค์ที่นี่นิ่นา” เขาพึมพำกับตัวเองอย่างนึกสงสัย
ปกติเขาจะเห็นเมญ่าเป็นเงาตามตัวบอสหนุ่มเจ้าเสน่ห์ของเขาไม่ห่าง แต่ทำไมคืนนี้นางแบบสาวกลับขึ้นมาบนคลับหรูนี้เพียงลำพัง แถมเดินตรงไปหาคุณหนูของเขาด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรและดูคุกคามเสียอีกด้วย ประสบการณ์ของบอดี้การ์ดทำให้เขาเดาสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ได้ตรงเผงและสิ่งที่เขาคาดก็ไม่มีผิดเลย
“นี่หล่อน!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดฟังดูไม่เป็นมิตรถูกส่งออกไป ภาพที่บาร์เทนดี้สาวเห็นคือนางแบบสาวสวยหยุดยืนจังก้าตรงหน้าตัวเองในระยะประชิด สายตาเฉี่ยวที่กรีดด้วยอายไลเนอร์ที่แสนบรรจงมองจ้องร่างบอบบางบาร์เทนดี้สาวอย่างอาฆาตมาดร้าย
“คุณเรียกฉันเหรอคะ?” อรินรดาหยุดถามระหว่างที่กำลังผสมเครื่องดื่มคอกเทลให้แขกนักท่องราตรีที่นั่งเรียงแถวอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่ม แน่นอนว่าบรรดานักเที่ยวทั้งหมดในบริเวณนั้นถึงกับเงียบกริบ หยุดชะงักทุกการกระทำ มองไปตามเสียง หนุ่มนักเที่ยวบางคนถึงกับยิ้มด้วยความชื่นชมที่นางแบบสาวสวยระดับอินเตอร์มาอยู่ใกล้ๆ ที่สายตามองเห็น จมูกได้กลิ่นถึงเพียงนี้ ปกติดารานางแบบคนมีชื่อเสียงเข้าถึงยากจะตายไม่ใช่เหรอ
“ย่ะ หล่อนนั่นแหละ หน้าด้านแพศยาไม่มีใครเกิน ก็เห็นจะมีแต่หล่อนนั่นล่ะที่ตอนนี้มาวอแวกับแฟนของฉัน” เมญ่าตวาดออกมาด้วยภาษาไทยที่สำเนียงฟังดูแปล่ง ก่อนที่นางแบบสาวจะหยุดจ้องอรินรดาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูแคลนเอาเรื่อง หนุ่มๆนักเที่ยวบางคนถึงกับปล่อยเสียงอือออกมาด้วยความผิดหวัง ก็จะไม่ให้ผิดหวังได้อย่างไรนางแบบหน้าสวยและมีผลงานออกสื่อที่น่าชื่นชม แต่สิ่งที่เธอพูดและเจอตัวจริงวันนี้กลับน่าผิดหวังเพราะดูท่าทางการพูดจาหาเรื่องแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับลูกสาวนักเลง นางแบบสาวมองไปทั่วก็เริ่มรู้ตัวว่าตนเองกำลังตกเป็นเป้าสายตาแต่ใช่ว่าสาวนางแบบหัวนอกจะสนใจมากไปกว่าการชำระแค้นมารหัวใจที่ยืนหน้าหวานอยู่ตรงหน้า หล่อนไม่ใช่แค่สวย แถมมันยังดูเย้ายวนกว่า เด็กกว่าจนน่าหมั่นไส้ แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว
‘ไม่น่าเชื่อว่าอรรค จะมาคั่วกับเด็กข้างถนนไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนังบาร์เทนดี้ไร้ราคานี่’ เมญ่าคิดอย่างสมเพทก่อนจะส่งมือไปจิกผมอรินรดาออกมาจากบาร์ แล้วตบฉาดใหญ่จนอรินรดาหน้าหันแบบงงๆ
บาร์เทนดี้สาวรู้สึกชาวูบไปทั่วทั้งหน้าและมันเริ่มเห่อแดงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” อรินรดาชักใบหน้าหันกลับมาในองศาเดิน สายตามองจ้องนางแบบสาวอย่างไม่เข้าใจ ทำไมอยู่ดีๆ ผู้หญิงที่จัดว่าสวยและมีดีกรีนางแบบดังพ่วงท้ายจึงมุ่งมาทำร้ายตนอย่างไม่อายใคร
‘ฉันไปทำอะไรให้ผู้หญิงคนนี้คิดแค้นหรือเดือดร้อนนักงั้นเหรอ ถึงมาทำร้ายกันแบบนี้ หรือว่ามีความเข้าใจผิด’ อรินรดาสับสนสมองคิดอย่างปราดเปรียวว่าจะรับมือกับผู้หญิงอารมณ์ร้ายตรงหน้าอย่างไร
“หล่อนไม่มีปัญญาหาผัวเรอะถึงได้มายุ่งกับผู้ชายของฉัน?” มือของนางแบบปากไวฉวยเอาแก้วเครื่องดื่มสาดใส่หน้าอรินรดาอย่างคนพาลก่อนที่จะตวาดถามจนฟังแล้วแสบหูกับเสียงร้ายๆที่แทบจะเป็นเสียงกรี๊ด
“ผู้ชายของคุณ?” อรินรดางงไปกันใหญ่ว่าผู้หญิงตรงหน้าหมายถึงใครกัน ในชีวิตนี้เธอไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายของใครให้ตัวเองเป็นผู้หญิงบาปเลยสักนิด ผู้หญิงสวยจัดคนนี้กำลังพูดถึงใครกันแน่ เธองงไปหมดแล้ว
‘ผู้ชายของฉันงั้นเหรอ ผู้หญิงคนนี้กำลังหมายถึงใคร นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?’ อรินรดาสับสนและงงไปหมดแล้ว
“แกเป็นอะไรกับคุณอรรค แกแย่งผัวฉัน แกตาย” พูดจบร่างสูงเพรียวก็พุ่งตรงไปยังร่างบางของอรินรดาหมายจะตบตีลงไม้ลงมือให้สมกับความชิงชัง
“หยุด” อรินรดาง้างมือรับฝ่ามือของเมญ่าที่จะตั้งใจตบเธอลงอีกครั้ง ก่อนผลักร่างสูงระหงนั้นออกสุดแรง มือเพรียวจำเป็นต้องใช้แก้วเชคสำหรับผสมเครื่องดื่มที่บรรจุน้ำแข็งเอาไว้สาดออกไปโดนตัวนางแบบเพื่อป้องกันตัว นางแบบสาวเต้นเร่าๆ เมื่อเจอกับคู่ต่อสู้ที่กล้าตอบโต้
วิสรุตต์เห็นท่าจะไม่ดี รีบวิ่งเข้าไปห้าม มือแกร่งของเขารวบสะเอวคอดสวยของเมญ่ามาล็อกไว้ไม่ให้นางแบบสาวพุ่งตรงไปทำร้ายคุณหนูของเขาได้อีก
“นี่แกเป็นใคร ปล่อยฉันนะ ฉันจะตบนังนี่ล้างน้ำให้หายแค้น” นางแบบสาวตวาดสุดเสียง สายตาตวัดจดจ้องอรินรดาอย่างอาฆาตมาดร้าย
“คุณเมญ่า หยุดเถอะครับ มีเรื่องเข้าใจผิดแล้ว” บอดี้การ์ดหนุ่มพยายามสงบศึกแต่นางแบบสาวกลับยิ่งดิ้น ไม่น่าเชื่อว่าร่างระหงผอมบาง ดูเหมือนจะปลิวลมเวลาเดินเฉิดฉายบนเวทีแคทวอรคพอเอาเข้าจริงๆ จะแรงเยอะขนาดนี้ บอดี้การ์ดฝีมือพระกาฬอย่างเขาแทบจะเอาไว้ไม่อยู่ ทำเอาเหงื่อเร็ดกันเลยคราวนี้
“ปล่อยฉันนะ! แกเป็นใครมาวุ่นวายกับฉัน” ใบหน้าสวยคิ้วขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิดอารมณ์เสีย มีชายแปลกหน้ามาขัดใจ แถมยังขวางไม่ให้เธอจัดการยัยหน้าจืดนี่ได้อย่างสาสมใจ อารมณ์นางแบบสาวตอนนี้พร้อมระเบิดอยู่แล้ว แต่พอถูกขัดใจก็ยิ่งเต็มไปด้วยรังสีของการทำลายล้างที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ
“ผมวิสรุตต์ เป็นการ์ดของคุณอรรคครับ” บอดี้การ์ดหนุ่มแนะนำตัวเสียเลย “แต่ตอนนี้ถูกมอบหมายให้ดูแลคุณหนูคนนี้" ดวงตาสวยคมเฉี่ยวเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ เธอไปไหนมาไหนกับอนรรฆบ่อยครั้งก็จริงแต่ไม่คุ้นหน้าบอดี้การ์ดคนนี้เลยหรือว่าตานี่จะแอบอ้าง ยิ่งบอกว่าต้องดูแลนังหน้าจืดนี่อีก พูดแล้วมันน่าแค้นน่ะสิจะตบล้างน้ำนังแพศยานี่กลับมีคนยื่นมือเข้ามายุ่ง มันขัดใจจริงๆ
“ปล่อยนะ ฉันจะตบนังนี่ มันพยายามจะแย่งคุณอรรคไปจากฉัน” นางแบบอินเตอร์เกรี้ยวกราดโวยวายลั่นสีหน้าเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต เธอยืนนิ่งแต่ตัวสั่นระริกไปด้วยความโกรธและแรงอาฆาต สายตาเฉี่ยวจ้องแน่วนิ่งไปที่อรินรดาที่ยืนไม่รู้อีโหน่อิเหน่
“ที่แท้คุณก็คือผู้หญิงของพี่อรรคสินะคะ” อรินรดาเปรยเมื่อเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างและปะติดปะต่อเรื่องราว
‘ที่แท้ก็ผู้หญิงอีกคนในกรุของพี่อรรคแถมเธอคนนี้ไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของฉัน ว่าคือน้องสาวของมาเฟียเจ้าพ่อกาสิโน’ อรินรดาคิด ในใจเริ่มคิดให้อภัย เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นกับอรินรดาเสมอๆเลย ก็พี่ชายคนต้นเรื่องออกจะหล่อ รวย และมีแรงดึงดูดเพศตรงข้ามแบบนั้นมันไม่ใช่แค่เข้าใจ แต่อรินรดาถึงขั้นต้องทำใจกันเลยทีเดียว!
“จะบอกให้รู้ตัวนะคะ ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวของพี่อรรคหรอก คุณเป็นแค่หนึ่งในจำนวนผู้หญิงหลายๆ คนเท่านั้น” อรินรดาพูดใบหน้ายิ้มบาง “อย่างน้อยคุณจะได้ไม่สำคัญตัวผิด” สิ่งที่เธอบอกอีกฝ่ายก็แค่อยากจะให้ทางสว่างเผื่อว่านางแบบสาวลูกครึ่งจะได้เข้าใจและรู้สึกตัวได้สักทีว่ามีสถานะแบบไหนกับพี่ชายของตน
“หุบปากพล่อยๆของแกนะ นังเด็กข้างถนน” ทั้งที่รู้ตัวว่าตนเองก่อเรื่องด้วยความเข้าใจผิด แต่ก็ยังไม่เลิกเกรี้ยวกราดจนวิสรุตต์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับพฤติกรรมที่ขัดกับหน้าตาของนางแบบสาวเสียเหลือเกิน
‘เสียดายเป็นถึงนางแบบ ก่อเรื่องหึงหวงเพราะความไม่รู้แบบนี้ เสียภาพหมดเลยครับคุณนางแบบ’ วิสรุตต์ตำหนิในใจ
“เอ่อ...คุณเมญ่าครับ คุณข้าวหอมไม่ใช่ผู้หญิงข้างถนนนะครับ” บอดี้การ์ดอธิบาย สายตาคมกริบของบอดี้การ์ดหนุ่มจ้องลึกไปที่นางแบบสาวสวยราวต้องการสะกดจิต อย่างน้อยๆ ให้นางแบบสาวเรียกสติกลับคืนมาได้บ้างแต่จากที่ดู นางแบบสาวไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงเลยแม้แต่น้อย
“ช่างเถอะค่ะคุณรุตต์ อย่าไปเสียเวลาอธิบายกับผู้หญิงไม่มีสมองเลย” อรินรดาห้ามวิสรุตต์เหมือนว่าเธอไม่อยากให้บอดี้การ์ดหนุ่มอธิบายอะไร
“กรี้ดดดดด แกตาย” เมญ่าดิ้นสุดแรงจนร่างเป็นอิสระแล้วพุ่งเข้าไปตบอรินรดา แต่มีหรืออรินรดาจะยืนนิ่งๆให้นางแบบสาวตบอยู่ฝ่ายเดียว รู้จักอรินรดาน้อยไปสิ!
อรินรดาหมุนตัวหลบแล้วเข้าไปในบาร์เครื่องดื่ม คว้าแก้วที่มีเครื่องดื่มบรรจุอยู่แล้วสาดออกไปโดนตัวนางแบบสาวถือเป็นการล้างแค้นบ้าง จนทำให้หุ่นระหงดิ้นพล่านสายตากราดเกรี้ยวคู่นั้นยิ่งทวีความโกรธยิ่งกว่าภูเขาไฟบนเกาะบอร์เนียวเป็นสิบๆลูกระเบิดขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ร่างระหงของเมญ่าจะพุ่งเข้าโจมตีอรินรดา ในที่สุดก็เปิดศึกฟ้อนเล็บขึ้นระหว่างนางแบบอินเตอร์กับบาร์เทนดี้สาวพราวเสน่ห์ ท่ามกลางนักเที่ยวหนุ่มๆน้อยใหญ่ที่ส่งเสียงเชียร์บรรยากาศ ‘Cat fight’ อย่างเมามัน
วิสรุตต์เห็นแล้วได้แต่อ่อนใจ ไม่รู้จะห้ามศึกนี้อย่างไรดี ผู้หญิงคนหนึ่งก็คุณหนูของเขา อีกคนก็คู่ควงของบอส ในสมองของบอดี้การ์ดหนุ่มตอนนี้ได้แต่คิดถึงบอสหนุ่มเจ้าเสน่ห์ว่าเมื่อไหร่จะมาถึงที่นี่สักที ก่อนที่จะเละเป็นโจ๊ก
$$$$$$$$
เพื่อปกป้องชีวิต... คุณทวดของบุหงาจึงเขียนยันต์วิเศษไว้คุ้มครองหลานสาวผู้ที่จะสืบทอดวิชาเขียนยันต์ แต่ด้วยความซุ่มซ่าม เจ้าหล่อนจึงย้อนอดีตไปสมัยทวารวดี เพื่อหนีการตามล่า บุหงาจึงต้องสวมรอยเป็น ‘แม่นาย’ ทำให้ทุกคนในเรือนรัก เพื่อความอยู่รอด กลับไปยุคเดิมที่จากมาอย่างปลอดภัย นั่นก็คือ... ยุครัตนโกสินทร์ตอนปลาย เพื่อทำหน้าที่สืบทอดวิชาเขียนยันต์เก่าแก่โบราณของต้นตระกูล
คริญาไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยในท่าทีหวงก้างของพศุตม์ เธอรู้ว่า... ในสถานการณ์ที่เธออยู่ในสระว่ายน้ำเย็นฉ่ำในเวลานี้ ผู้ปกครองหนุ่มจะต้องโจนจ้วงตามลงมา ดวงใจสาววัยแรกแย้มเต้นตูม ด้วยความรู้สึกหวั่นไหว แม้รู้ดีแก่ใจว่า ชายหนุ่มคือของต้องห้ามและจะแสลงใจจนเจ็บปวดในวันหนึ่ง เพราะพศุตม์เคยยื่นคำขาดว่า... เขาไม่ชอบเด็กน้อยกะโปโลอย่างเธอ และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะเธอกล้าเล่นกับไฟยั่วยวนเขา เขาจะไม่มีวันรับผิดชอบ! . ‘คำสั่ง’ จากปากเขามันคือคำเตือนจากผู้ชายอันตราย . เขารวบตัวเด็กในปกครองเข้ามาสวมกอดแน่นราวจะสูญเสีย ความร้อนซ่านกำซาบไปทั้งเรือนกายสาว ส่วนเปลือยสวยสัมผัส แนบชิดแทบทุกส่วนสัดของกายแกร่ง แม้ร่างทั้งสองที่โอบล้อมไปด้วยความเย็นเยียบของสายน้ำ แต่การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวพริ้วพรายตามกระแสน้ำก็ก่อให้เกิดไอความรุ่มร้อนระบายอยู่ในน้ำและพยุงสองร่างให้รู้สึกวาบหวิวแผ่ซ่านถึงกัน... เด็กสาวแรกรุ่นหัวใจเต้นโครมคราม วาบหวิวเมื่อผู้ปกครองหนุ่มประกบริมฝีปากร้อนแรงลงมา ดูดดื่มริมฝีปากสวยอิ่มตึง คริญาตอบสนองจูบเร่าร้อน สอดลิ้นยั่วเย้าให้เขากระดกลิ้นร้อนฉ่าตามมาพัวพัน ร่างเล็กบดเบียดส่วนอิ่มเต็มตึงที่สวยสล้างยั่วยวนสายตาเข้าใกล้แผงอกแกร่งกำยำที่ระบายไปด้วยปอยขนนุ่มกลางอกแกร่งของเขา สร้างความเซ็กซี่ชวนสะท้านยามจ้องมอง เขาบดจูบหนักหน่วงร้อนแรงจนคริญาคราง ไอร้อนสวาทกำลังก่อตัวใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ “...” “ฉันต้องได้เธอ... คริญา”
“นะ.. นายเก่งอยู่แล้ว ทำไมต้องจ้างติวด้วยเหรอ?” “ผมก็... แค่อยากจะทำตามคำสั่งพ่อแค่นั้นล่ะ” เขาเอ่ยเสียงพร่า เป่ารดลมหายใจหอมบนใบหน้าสวย มันใกล้กันจนจะจูบกันอยู่แล้ว “แต่ว่า... พ่อนายคงไม่สั่งให้ติวแบบนี้หรอก” ติวเตอร์สาววางปลายนิ้วเรียวบนอกแกร่งของเขา ที่สวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดเผยให้เห็นอกแกร่งและดูเร้าใจ เธอค่อยๆ ลูบเบาๆ เขามองตามปลายนิ้วเรียวสวยด้วยดวงตาเปล่งประกาย สองคนสบตากัน ไม่นานเธอก็ถอดเสื้อของเขาออก ขณะที่นักเรียนหนุ่มล้วงมือใต้ชายเสื้อทีเชิ้ตตัวโคล่งที่เธอสวมมันเอาไว้โดยปราศจากบราเซีย “อื้อ...” เขาบีบนวดหน้าอกสวยอย่างเบาๆ สะกิดนิ้วโป้งบนยอดทรวงเบาๆ ก่อนถลกเสื้อขึ้นเหนือศีรษะ ถอดออกจนเธออยู่ในสภาพโป๊ “หิวนมจังครับ... ขอดูดนมพี่หน่อยจะได้ไหม” คำเตือน นิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบรรยายถึงการแสดงออกของความรักรุนแรง การร่วมรักชัดเจนโชกโชน บางส่วนตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่น่าเอาเยี่ยงย่างหรือเลียนแบบ
"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก
...เหตุเพราะน้องชายตัวดี ไปมีความสัมพันธ์ต้องห้าม กับศัตรู หัวเด็ดตีนขาด “เธอ” ก็ไม่มีวันยอมให้น้องชายลงเอยกับลูกสาวของตระกูลที่เคยดูถูกเธออย่างไม่มีดี . ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ หากไม่เพราะ “เขา” ทายาทหนุ่มเสเพลของบ้านนั้น ที่ซ้อนแผนเอาคืนเธอ ทำเอางานนี้ เจ้าหล่อนจะต้องเลือกว่าจะยอมให้น้องชายได้ลงเอยในเรื่องความสัมพันธ์ หรือจะจนมุมไปกับจอมวางแผนที่ตนก็เพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้ว.... เขาช่างเจ้าคิดเจ้าแค้น และต้องการเอาชนะเธอมาตั้งแต่ต้น โดยมี “เรือนร่าง” เธอเป็นเดิมพัน +++++++++++++++++++++++++++++++ “ปล่อยฉันไปนะ นี่คุณเล่นบ้าอะไร?” “เล่นบ้าอะไรงั้นเหรอ... ก็เล่นผัวเมียกันยังไงล่ะ” “คนบ้า! มันใช่เวลามาล้อเล่นแบบนี้มั้ย ปล่อยฉันไปนะ!” “เล่นผัวเมียกันจริงๆ มีลูกด้วยกันจริงๆ สักคนสองคน” “คนบ้า เล่นไปคนเดียวเถอะ” “มีลูกกับผม คุณจะได้รู้... ความรู้สึกที่โดนพรากลูกพรากแม่มันเป็นยังไง” “เลว! นรกขุมไหนส่งคุณมาเกิดกัน คนบ้า!” สิ้นเสียงเล็ก จูบร้อนแรงถูกบดขยี้ลงมาอย่างร้ายกาจ เชลยในอ้อมกอดไม่อาจขัดขืนเขาได้แม้แต่น้อย หญิงสาวรู้ตัวดีว่า จุมพิตนี้หาใช่เกิดจากความรัก หากเขาต้องการแค่เพียงลงทัณฑ์เธอ... “คุณ... ไม่นะ พราวไม่อยากท้อง!” หญิงสาวบ่ายหน้าหนีจนหลุดพ้นพันธนาการจุมพิตร้าย ก่อนวอนขอ... “ไม่ทันแล้วครับ คุณต้องท้องและรับรู้ความเจ็บปวดว่าการถูกพรากลูกมันเป็นยังไง” “คนเลว... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” “ถ้าปล่อย... ก็ยังไม่หายแค้นน่ะสิครับ” ถ้อยคำนั้นแสนธรรมดา หากเจือแววเยือกเย็นพร่าผลาญใจ ส่งให้เชลยสาวในอ้อมกอดรู้สึกหนาวยะเยือกกับสิ่งที่ต้องเจอนับจากนี้....
ดูเหมือนโชคชะตาของ ‘รินรุ้ง’ จะไม่มีวันหนีพ้นจากความวุ่นวายได้ ตอนที่ยังเป็นพนักงานขาย ของรีสอร์ตที่ไทย ก็ต้องคอยรองรับอารมณ์ของลูกค้า พอหนีมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สเปน ก็ยังไม่วายต้องสู้รบตบมือกับเด็กหญิงจอมแก่แดด ผู้หวงบิดายิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และพร้อมจะใช้ความแสบป่วนหัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดพีก เพราะลูกสาวที่ว่าร้าย ยังร้อนแรงไม่ถึงครึ่งของตัวพ่อ งานนี้หญิงสาวคงต้องลงทุนลงแรงอย่างหนัก เพื่อหาทางกำราบสองพ่อลูกให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะกลายเป็นการตกนรกทั้งเป็น ‘เซคิโอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีชาวสเปน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงลึกลับที่เขาขโมยจูบเธอในเรือนร้างกลางสายฝน จะกลายเป็นคนเดียวกันกับพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาว ที่สำคัญ เขาเคยคิดว่าการขย้ำ ‘ลูกแกะน้อย’ ที่หลงเข้ามาใน ‘รังหมาป่า’ คงเป็นเรื่องง่าย หากตัวอุปสรรคสำคัญที่ชายหนุ่มต้องจัดการเป็นอันดับแรก ถ้าคิดจะเคลมรินรุ้ง ก็ไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็น ‘ลูกหมาป่าตัวน้อย’ ของเขานั่นเอง “เจ็บ” พูดเสียงเครือ “ไหนดูซิ” เซคิโอพุ่งพรวดเข้าไปหา ก่อนจะคุกเข่าลง มองเลือดที่ไหลซึมออกจากเท้าเธอ “กลับห้องก่อน อยากเลือดทะลักหมดตัวหรือไง” เขารีบอุ้มเธอขึ้น น้ำเสียงลนลานเป็นห่วงเจือบงการ “เรื่องของฉัน เลือดนี่มันก็เลือดฉันนะ!” เธอเถียง ที่เจ็บอยู่แบบนี้ เพราะเขาไม่ใช่หรือไง “อย่าดื้อสิ... แต่ถ้าเธออยากเลือดออกจริงๆ ล่ะก็ ฉันมีวิธีที่เจ็บน้อยกว่านี้นะ จะเอาไหม” ++++++++++++++++++++++++++++ เพราะถูกปลดกลางอากาศ ทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ รินรุ้ง หงสกรพงษา จึงตัดสินใจรับข้อเสนอไปทำงานสบายๆ ที่สเปน ตามบัญชาของแม่เลี้ยง หากเธอไม่เคยรู้เลยว่า นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต! . โฉมหน้าสุภาพบุรุษมหาเศรษฐีทายาทสายการบินที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เจ้าของตำแหน่งสุดยอดหนุ่มในฝันหลายปีซ้อนที่สาวน้อย สาวใหญ่ต่างคลั่งไคล้มาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ฉากหน้าราวเทพบุตรนั้น เซคิโอ เดอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ ได้ซ่อนคราบซาตานร้ายเอาไว้อย่างมิดชิด หัวใจเขาปิดตายนานกว่าแปดปีหลังสูญเสียคู่หมั้นสาวที่เขารัก มันถูกเปลี่ยนเป็นความแค้นรอวันสะสาง และเมื่อ... ‘ลูกแกะตัวน้อย’ ติดกับดักมาให้เขาแก้แค้น . . กลับกลายเป็นว่า เจ้าหล่อนคือหญิงสาวคนเดียวกันที่ขโมย ‘หัวใจ’ ที่เคยเหี่ยวเฉาของเขาไป เพียงเพราะจุมพิตดื่มด่ำไร้เดียงสา ในค่ำคืนแห่งโชคชะตา ที่เขายากจะลืม!
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย