/0/17272/coverbig.jpg?v=74baf6c2bd4455a6ab0e2bec8358b8cd)
สิงโตมันไม่มีฤดูผสมพันธ์ุที่แน่นอนหรอกนะ เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถผสมพันธ์ุได้ทุกที่ทุกเวลา เจ้าแน่ใจไหมเซียร่าว่าร่างกายเล็กๆของเจ้าจะรับความต้องการของข้าไหว?
"ใบหน้าที่งดงามจะต้องเชิดขึ้นมาเสมอ และรอยยิ้มที่มุมปากจะต้องพอดิบพอดี ไม่มากหรือว่าน้อยจนเกินไป อย่าลืมว่าเลดี้จะต้องนั่งในตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาทนะคะ ตำแหน่งที่สตรีทั่วทั้งจักรวรรดิต่างก็ใฝ่ฝันถึงทั้งนั้น การประพฤติตัวให้มีมารยาทที่ชนชั้นสูงพึงมีถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะสำคัญมากทีเดียว"
รอยยิ้มจางๆปรากฏอยู่บนใบหน้าที่แสนงดงามประหนึ่งภาพวาดของเซียร่า แลนด์ เธอคือทายาทเพียงผู้เดียวของตระกูลแลนด์ผู้กล้าหาญ วีรบุรุษสงครามที่กอบกู้จักรวรรดิคิงส์ตันให้กลับมาอยู่ในมือขององค์จักรพรรดิอีกครั้ง และด้วยความดีความชอบที่ใหญ่หลวงนี้องค์จักรพรรดิจึงพระราชทานสัญญาหมั้นหมายให้แก่องค์รัชทายาทและบุตรีของตระกูลแลนด์
ถึงเซียร่าจะเป็นบุตรีที่เกิดจากตระกูลนักรบ แต่ทว่าเธอไม่เคยได้มีโอกาสจับดาบหรือว่าคุ้นเคยกับการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย เซียร่าถูกท่านพ่อบังคับให้อยู่ที่คฤหาสน์เพื่อเรียนหนังสือและเรียนเรื่องมารยาท
"ถึงลูกจะมาจากตระกูลนักรบที่แสนต่ำต้อย แต่ทว่าลูกจะต้องเป็นเลดี้ชนชั้นสูงที่ทรงเกียรติ"
เซียร่ามิได้ทำให้ท่านพ่อผิดหวังเพราะว่าเธอร่ำเรียนมารยาทเรียนเรื่องการเมืองการปกครองไม่แพ้บุรุษที่เป็นชนชั้นสูงเลย เธอทำได้ดีดั่งที่ท่านพ่อคาดหวังเอาไว้
ทว่าเซียร่าที่งดงามและถึงพร้อมด้วยกิริยามารยาทที่งดงาม กลับไม่เป็นที่ต้องการขององค์รัชทายาท จริงอยู่ที่นางงดงามและจริงอยู่ที่นางจะเป็นประโยชน์แก่เขา
แต่ถึงอย่างนั้นองค์รัชทายาทมิอยากได้พระชายาที่ทั้งจืดชืดและไร้สีสันเช่นลูกสาวของนักรบที่เป็นเพียงสามัญชน มันทั้งน่าเบื่อหน่ายและน่าขยะแขยงจริงๆ เขาควรจะคู่ควรกับเลดี้ชนชั้นสูงที่เป็นลูกสาวของดยุคหรือว่าบุตรีของเคาน์สิ นี่พ่อนางยังไม่มียศอะไรเลยด้วยซ้ำแต่กลับจะมาแต่งงานกับเขา
เรื่องนั้นองค์รัชทายาทอาเดนไม่สามารถทำใจยินยอมรับได้จริงๆ
"ก็แค่กำจัดนางสิเพคะ แค่ลูกสาวทหารคนเดียว ต่อให้นางตายไปก็ไม่มีใครกล้าเคลือบแคลงเจตนาของพระองค์หรอก"
หรือต่อให้มีคนสงสัยจริงๆใครมันจะไปกล้าพูด ทุกคนจะต้องปิดปากเงียบสนิทอย่างแน่นอนหากว่าเขาลงมือกับเซียร่า ยัยบ้านนอกนั่น
"องค์รัชทายาทมีข่าวลือหนาหูเรื่องสตรีเลยล่ะ การต้องไปเป็นภรรยาคนแบบนั้นมันคือนรกที่รอคอยเทพธิดาอย่างเจ้าแน่นอนเซียร่า"
เซียร่าส่งยิ้มจางๆให้กับนาเดียภรรยาคนสวนที่คฤหาสน์ อันที่จริงเราคือเพื่อนกันเป็นเพื่อนมากกว่าที่จะเป็นเจ้านายหรือลูกน้อง
"แล้วข้าดูเหมือนคนที่มีทางเลือกอย่างนั้นหรือนาเดีย"
เธอถูกขังอยู่ในคฤหาสน์แลนด์ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้อายุสิบเก้าปีก็ยังคงถูกขังอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ เซียร่าไม่เคยมีเพื่อนหรือว่าคนรัก เธออยู่ที่นี่เพื่อร่ำเรียนอย่างหนักตามที่ท่านพ่อสั่ง ส่วนท่านแม่จากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก
การเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเข้มงวดของท่านพ่อ สร้างความอึดอัดใจให้เซียร่าไม่น้อย เธอมิได้อยากไปเป็นพระชายาอะไรนั่นสักหน่อย เธออยากจะมีคนรัก อยากมีความรักที่แสนหวานเหมือนในนิยายที่เคยอ่าน
มีค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนบนเตียงและ..มีลูกๆที่น่ารัก
ทว่าความฝันก็คือความฝันเพราะว่าในยามนี้เธอจะต้องเดินทางไปเผชิญความจริง วันนี้เป็นวันที่จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงในพระราชวังและวันนี้เป็นวันแรกที่จะเปิดตัวเธอในฐานะพระชายา..
หลังจากอยู่ในกรงที่ท่านพ่อสร้างเอาไว้จนถึงอายุสิบเก้า เธอก็จะต้องเดินทางไปติดอยู่ในกรงทองที่เรียกได้ว่ามันคือพระราชวัง กฎระเบียบมากมายพวกนั้นจะตรึงเธอเอาไว้จนแทบหายใจไม่ออก
"ชีวิตมันเป็นของเจ้าเซียร่า พระเจ้าสร้างเราขึ้นมาเพื่อให้มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง และเจ้าในยามนี้มิใช่เด็กน้อย เจ้าคือสตรีที่งดงามสะพรั่งและคือสตรีที่ถึงวัยออกเรือนแล้ว เจ้าจะยินยอมให้พ่อของเจ้าบงการชีวิตไปถึงไหนกัน?"
ในกระจกเงาสะท้อนใบหน้าที่ลังเลของเซียร่าอย่างชัดเจน เธอจ้องมองนาเดียด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวั่นใจ
"ข้าแค่เพิ่มทางเลือกให้เจ้า และแน่นอนหากในใจมันมีแต่ความหวาดกลัว เจ้าก็แค่เดินตามทางที่ปลอดภัยทางที่พ่อของเจ้าขีดเส้นเอาไว้ให้"
มีความลังเลอัดแน่นอยู่เต็มหัวใจของเธอ เซียร่าเข้าใจความหมายที่นาเดียจะสื่อ เพราะหากว่าเธอไม่หนีในวันนี้ จะไม่มีโอกาสให้เธอได้หนีไปอีกแล้วเพราะเมื่อเธอเปิดตัวพระชายา ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทั้งหมด วันนี้เป็นวันสุดท้ายด้วยซ้ำที่เธอจะได้อยู่ที่นี่ แต่ท่านพ่อก็ยังไม่มาส่งเธอเลย
ท่านพ่อยังคงอยู่ที่ชายแดน คงคิดว่าการส่งเธอไปที่พระราชวังในฐานะพระราชาจะทำให้เธอมีความสุขมากๆงั้นสิ เซียร่าโบกมือลาเดียน่าและคนงานที่คฤหาสน์แลนด์ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางไปที่พระราชวัง เราอาจจะต้องเดินทางถึงสองวันเต็มๆด้วยระยะทางที่ห่างไกล องค์รัชทายาทผู้นั้น ใบหน้าที่เธอเห็นผ่านรูปวาดนั้นก็ดูไม่เลวแต่ด้วยนิสัยที่มักมากของเขา เซียร่าคิดว่าเธอไม่น่าจะทนเขาได้
ในมือกำถุงเหรียญทองและของสำคัญเอาไว้แน่น ต้องหนี..มีแต่จะต้องหนีตอนนี้เท่านั้น!
เธอปรายตามองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง หากกระโดดไปตอนนี้แขนหรือว่าขาของเธออาจจะหักได้เพราะว่าเรากำลังเดินทางไปตามทางที่ลัดเลาะภูเขา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะว่าเธอจะได้เป็นอิสระ เธอจะได้ไปตามหาความรักที่สวยงามดั่งเทพนิยายที่เคยฟังก่อนนอน
เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!
ขณะที่เซียร่าเปิดหน้าต่างรถม้าเพื่อจะปีนออกไป คนขับรถม้าก็ดึงเชือกเพื่อหยุดรถ เซียร่าที่ไม่ทันได้ตั้งตัวพุ่งออกมานอกหน้าต่างรถม้าในทันที เธอกลิ้งลงไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นของหน้าผาที่สูงชัน..
"ปกป้องคุณหนู เราถูกโจมตี!"
.....
"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีเจ้าหญิงที่แสนงดงามนามว่าเพเนลีน่า ความงดงามที่ทำให้อัศวินหนุ่มที่พบพานเพียงครั้งละทิ้งทั้งดาบและชุดเกราะเดินเข้ามาขอเจรจาสงบศึก.."
"ว้าว ความรักมันงดงามอย่างนั้นเลยเหรอคะแม่นม"
"ใช่แล้วค่ะคุณหนูเพราะว่าความรักนั้นมีพลังวิเศษ ที่สามารถทำให้หัวใจของเราเต้นแรง เพียงสบตาก็สามารถทำให้เราตกอยู่ในห้วงแห่งความหลงใหลที่ไม่มีวันจบสิ้น"
ข้าเองก็อยากจะมีช่วงเวลานั้นเหมือนกันค่ะแม่นม ข้าอยากจะมีความรักที่เพียงสบตาหัวใจก็พองโตขึ้นมา..
"บอกข้าทีว่าเจ้ายังไม่ตายใช่ไหม?"
เซียร่าคิดว่าร่างกายของเธอมันขยับไม่ได้เลย มันชาไปหมด และพอมองดูตามแขนและขาก็พบว่ามีผ้าและใบไม้พันเอาไว้หนาๆจนมันกลายเป็นว่าตัวเธอถูกห่อหุ้มด้วยใบไม้ ส่วนชุดที่ใส่มาก็ถูกกิ่งไม้เกี่ยวขาดไปหมด
ทว่านั่นไม่ใช่สาระสำคัญ ไม่ใช่เลย..ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะมีแค่ผ้าบางๆที่ปิดตรงส่วนนั้นเอาไว้แต่มันมีสิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือหัวใจของเธอมันกำลังเต้นแรง
เพียงสบตาก็ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้ว ข้าพบแล้วค่ะแม่นม คนรักของข้า!
ฉันจะเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง จากเดิมที่ต้องตายในตอนจบ โอฟีเลียคนนี้จะร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิแห่งนี้ให้ดู..ว่าแต่ท่านแม่คะ นั่นท่านพาตัวร้ายเข้ามาในบ้านของเราทำไมกัน?
จะมีอะไรซวยมากไปกว่าการเข้ามาอยู่ในเกมนักสืบแล้วบทบาทที่ได้รับคือฆาตกร ฉันจะต้องตีเนียนว่าไม่ได้ทำ แถมยังต้องตามหาพันธมิตรที่พร้อมจะยืนยันว่าฉันคือผู้บริสุทธิ์อีกต่างหาก
ความลับเดียวของพนักงานอย่างฉัน คือฉันเป็นนักเขียนนิยายอีโรติก ฉันสามารถปกปิดความลับนี้มาได้ตลอดจนฉันมารู้ว่าเจ้านายเป็นแฟนตัวยงของนิยายฉัน!!
ทารีน่าคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในร่างของตัวร้าย เมนของเธอคือไคล์ เขาชอบนางเอกและพยายามฆ่าทารีน่าครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปกป้องนางเอก นี่ชีวิตของเธอจะต้องถูกเมนตัวเองฆ่าเหรอวะเนี่ย
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"