นายปฐพี พลพิพัฒ อายุยี่สิบแปดปี ชายหนุ่มรูปหล่อ ร่างสูงใหญ่กำยำผิวขาว เขาเกลียดผู้หญิงทุกคนเข้าไส้ ใครเข้าใกล้ต่างก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาคือปีศาจในคราบเทพบุตรชัดๆ แต่ทำไมนะจีน่าจึงตกหลุมรักเขา นางสาวจีน่า ไนลา อายุยี่สิบสี่ปี ใบหน้าของเธอนั้นคมเหมือนกับสาวลูกครึ่ง เพราะมารดาของเธอเป็นคนอังกฤษ บิดาของเธอชื่อสรวิช ซึ่งความสวยของจีน่านั้นไม่เป็นรองใคร ดวงตาของเธอกลมโตจมูกโด่งรับกับริมฝีปากได้รูปสีชมพูระเรื่อ ใครเข้าใกล้ต่างก็ชอบในความน่ารักสดใสของเธอ แต่ไม่มีใครรู้ว่าหญิงสาวได้เก็บเรื่องราวบางอย่างไว้ในใจตลอดเวลา เมื่อคนที่เธอตกหลุมรักเขากำลังจะแต่งงานด้วยเหตุผลบางอย่าง ที่สำคัญเจ้าสาวของเขานั้น คือพี่สาวแท้ๆ ของเธอ ความรักของเขาและเธอจะลงเอยยังไงฝากด้วยนะคะ
ภายใหห้องนอนที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยหรู หญิงสาวร่างอรชร นั่งน้ำตานองอาบแก้มสองข้าง เมื่อจีน่าได้ยินผู้ใหญ่คุยกันในช่วงเช้า เรื่องแต่งงานระหว่างพี่สาวของเธอกับปฐพี ชายหนุ่มที่มีไร่อยู่ติดกัน
ความทรงจำในวัยเด็กทำให้จีน่าประทับใจในตัวปฐพีไม่รู้ลืม เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ จากการที่หญิงสาวถูกงูมีพิษกัดที่ข้อเท้า ขณะที่วิ่งเล่นกันในไร่ตอนนั้นจีน่าอายุประมาณเก้าขวบเห็นจะได้ ซึ่งปฐพีเป็นคนปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วให้เธอขี่หลังวิ่งมาหาผู้ใหญ่เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แถมเขายังบอกชนิดของงูที่ฉกเธอได้อย่างแม่นยำอีกด้วย สมกับที่เป็นเจ้าของไร่ชาวายุ
หญิงสาวยังคงนั่งเหม่อน้ำตาไหลรินออกมาไม่หยุด เธอกับพี่สาวมีนิสัยที่แตกต่างกันมากจีน่าชอบใช้ชีวิตติดดิน ส่วนเดียร์น่าพี่สาวของเธอที่มีอายุห่างกันแค่สองปี รายนั้นใช้ชีวิตยังกับเจ้าหญิง ไม่ยอมคนเอาแต่ใจตัวเอง เพราะถูกบิดามารดาตามใจมาตั้งแต่เด็ก
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงคนเคาะประตูดังขึ้น ทำให้จีหน้ารีบปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วทำสีหน้าให้เป็นปกติ
“แม่เรียกตั้งนาน ทำอะไรอยู่จ๊ะจีน่า” น้ำเสียงของคาร่าที่มีใบหน้าฝรั่งจ๋า แต่นางกลับพูดไทยได้คล่องปร๋อ เพราะมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบสามสิบปีแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่าคะแม่” หญิงสาวเอ่ยถามหญิงวัยกลางคนออกไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อมารดาเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
“ช่วยเอาปิ่นโตเมนูโปรดของคุณดิน ไปส่งให้เขาที่ไร่ชาหน่อยสิลูก” คำบอกของมารดาทำให้จีน่าแอบถอนใจออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนเนื้อเต้น แต่ทว่าในตอนนี้สถานะของชายหนุ่มกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นพี่เขย ถ้าวันนั้นมาถึงเธอคงหมดหวังที่จะสานสัมพันธ์กับเขา แม้ว่าจีน่าจะรู้อยู่แก่ใจ ผู้ชายอย่างปฐพีไม่มีทางหันมาสนใจผู้หญิงคนไหน นอกจากช้องนางอดีตคนรักของเขาที่อยู่ๆ ก็หายไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา จนทำให้ปฐพีกลายเป็นผู้ชายบ้างานไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย
“แม่ค่ะ คือว่า...” จีน่ากำลังคิดหาทางปฏิเสธ แต่เธอกลับนึกหาข้ออ้างขึ้นมาแย้งมารดาไม่ได้
“อย่าอ้ำอึ้ง รีบไปรีบกลับเดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน”
“ก็ได้ค่ะแม่” หญิงสาวที่มีลุคแก่นแก้วแตกต่างจากพี่สาวของเธอ ยอมตกปากรับคำไปส่งปิ่นโตให้กับปฐพีตามคำบอกของมารดา
เมื่อลูกสาวคนเล็กปั่นจักรยานคู่ใจของเธอออกไปจากไร่ ทำให้หญิงวัยกลางคนเดินเข้าไปหาผู้เป็นสามีที่กำลังนั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ซึ่งปัจจุบันสรวิชบิดาของหญิงสาวมีไร่ชาเป็นของตัวเอง เมื่อเขาได้ภรรยาอย่างคาร่าที่สวยและรวยมาก
“คุณหมอกับคุณฝนก็กลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว คุณกำลังคิดอะไรอยู่คะ” คาร่ารู้ดีว่าสามีของเธอจำใจต้องตกปากรับคำตอบตกลงผู้มีพระคุณกลับไป เพราะเขาไม่รู้จะปฏิเสธนายแพทย์จิรายุกับฝนสุดายังไง เมื่อคนทั้งคู่มีบุญคุณกับครอบครัวของเขามาก่อน
“เดียร์น่าจะว่ายังไง ลูกคงไม่ปฏิเสธใช่ไหมคาร่า” ใบหน้าของสรวิชแฝงไปด้วยความเป็นกังวล เมื่อเขาตกอยู่ในที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทั้งที่ควรถามความสมัครใจของลูกสาวคนโตก่อน
“อย่าคิดมากสิคะ เดียร์น่าเองก็น่าจะเข้าใจในเหตุผลที่จะต้องแต่งงานกับคุณดิน” คาร่าพูดปลอบสามีออกไป ทั้งที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจ คนอย่างเดียร์น่าถ้าลองไม่ชอบอะไร เธอจะไม่มีทางฝืนใจทำเด็ดขาด
“ช้องนางหายไปไหน ถ้าเธอยังอยู่ป่านนี้คุณดินคงแต่งงานมีลูกกับเธอไปแล้ว ทั้งที่วันแต่งก็ถูกกำหนดอีกแค่ไม่กี่วัน ก่อนที่ช้องนางจะหายไป” ที่สำคัญบางคนลือว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพราะมีคนแอบเห็นเธอบนเที่ยวบินกับผู้ชายหน้าตาดี ซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่ง แต่ไม่มีใครรู้ว่าชายคนนั้นเป็นใครแม้แต่บิดามารดาของเธอ จึงทำให้ปฐพีเกลียดผู้หญิงทุกคนเข้าไส้ สร้างความทุกข์ใจให้กับบิดามารดาของเขาเป็นอย่างมาก
“ยังไงเราก็ตอบตกลงไปแล้วนี่ อย่างน้อยคุณดินก็ไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ แค่มีใบหน้าและแววตาที่เย็นชา ไม่สุงสิงกับใคร บ้างานจนหนวดเครารุงรังไม่ยอมโกนออก ผมเผ้าก็ดูยาวตัดบ้างไม่ตัดบ้าง ถ้าเขาดูแลตัวเองดีๆ หล่อยิ่งกว่าดาราหนังอีกนะ คุณว่าไหม” สองสามีภรรยายังคงคุยถึงเรื่องปฐพีไม่หยุด ขณะที่ลูกสาวคนเล็กกำลังปั่นจักรยานไปที่ไร่วายุ พร้อมกับใบหน้าที่ไม่ค่อยสดชื่น เพราะหัวใจของเธอเพิ่งได้รับความบอบช้ำ ไม่ต่างจากคนอกหัก เมื่อคนที่เธอหลงรักเขากำลังจะแต่งงานเป็นมั่นเป็นเหมาะ
“ป้าจ๋า คุณดินอยู่ไหมคะ” หญิงสาวจอดรถได้รีบหิ้วปิ่นโต เดินเข้าไปหาหญิงสูงวัย ที่กำลังนั่งร้อยพวงมาลัย เพื่อนำไปบูชาในวันพระใหญ่ “วันนี้คุณดินคงค้างที่บ้านท้ายไร่ หนูจีมีอะไรหรือเปล่า นั่นหิ้วปิ่นโตมาด้วย แสดงว่าคุณคาร่าให้เอาของโปรดมาให้คุณดินใช่ไหมคะ”แม่จันดาที่เคยช่วยงานบ้านในไร่ ตั้งแต่สมัยปู่ย่าของจีน่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่คนทั้งสองป่วยและเสียชีวิตลงไป แม่จันดาก็ยังคงทำงานเป็นแม่บ้านคอยดูแลอาหารการกิน และงานทุกอย่างภายในบ้าน โดยมีตองนวลเป็นลูกมือ คอยทำตามคำสั่งของหญิงสูงวัย
“แม่ให้เอาแกงคั่วหมู แล้วก็แกงยอดมะพร้าวอ่อนใส่ไก่มาให้คุณดินจ้าป้า” จีน่าพูดพร้อมกับวางปิ่นโตลงบนโต๊ะ
“แต้ป้าว่า หนูจีคงต้องเอาไปให้คุณดินเองแล้วแหละ ตองนวลก็กลับบ้านไปแล้ว ส่วนคนงานผู้ชายก็คงกลับที่พักกันหมดแล้ว”
“ป้าจ๋า เอาไว้อุ่นพรุ่งนี้ก็ได้มั้ง จีไม่อยากไปเจอคุณดินของป้า ผู้ชายอะไร เย็นชาสมกับที่เป็นเจ้าของไร่ชาจริงๆ” หญิงสาวพูดพร้อมกับทำหน้างอ แต้ป้าจันดากลับชอบมองเวลาที่จีน่าทำกิริยาแบบนี้ เพราะผู้หญิงหลายคนมีแต่อยากจะเข้าใกล้ปฐพี มีเพียงจีน่าที่ทำท่าทางหมางเมิน นางจะรู้หรือเปล่าว่าหญิงสาวกำลังพยายามห้ามใจ เพราะไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่ากำลังจะเป็นพี่เขยของเธอ
“แกงยอดมะพร้าวอ่อนเก็บไว้ค้างอื่นก็ไม่อร่อยสิ ถ้าหนูจีไม่ไป เดี๋ยวป้าจะเดินไปเองก็ได้ แค่ไม่กี่กิโลเอง” หญิงสูงวัยพูดพร้อมกับวางพวงมาลัยที่ร้อยยังไม่เสร็จลงที่โต๊ะ
“ไม่ต้องหรอกค่ะป้า เดี๋ยวจีจะปั่นจักรยานเอาไปให้คุณดินเอง กว่าป้าจะเดินไปกลับคงตกดึกพอดี” จีน่ารีบขันอาสาอย่างไม่มีทางเลี่ยง เพราะหญิงสาวทนไม่ได้ ที่จะให้ป้าจันดาเป็นคนเดินถือปิ่นโตไปส่งให้ปฐพีที่ท้ายไร่
“รีบไปรีบกลับนะหนูจี เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน จักรยานมีไฟหรือเปล่า” คราวนี้น้ำเสียงของหญิงสูงวัยได้เอ่ยถามจีน่าออกมาด้วยความห่วงใย เพราะนางเองก็รู้ว่าทางไปท้ายไร่บางจุดยังไม่มีไฟ ตอนกลับอาจจะมือสลัวทำให้จีน่าปั่นจักรยานลงข้างทางได้
“มีจ้าป้า จีไปก่อนนะเดี๋ยวมืด”
“ไม่ต้องซิ่งนะหนูจี ถนนหนทางยิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย”
“จ้าป้า” หญิงสาวตอบกลับพร้อมทั้งรีบปั่นจักรยานไปที่ท้ายไร่ แม้ว่าจีน่าจะไม่อยากไป แต่จะให้คนแก่มาเป็นภาระต่อจากเธอไม่ได้ จึงทำให้จีน่าตัดสินใจ เอาปิ่นโตไปส่งให้ปฐพีด้วยตัวเอง
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
น้ำเหนือ ธนาลักษณ์ (อายุ 32ปี) ชายหนุ่มผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังจากความรัก จนเขาคิดว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะรักใคร สุดท้ายชายหนุ่มก็เลือกที่จะหยุด แต่ไม่ใช่การยุติเรื่องบนเตียง เขาเลือกที่จะซื้อกินมากกว่า เพราะเขาเชื่อว่าผู้หญิงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์เลือกเงินมากกว่าความรัก เฉกเช่นอดีตคนรักของเขาที่หนีไปแต่งงานกับเศรษฐีดูไบ จนทำให้เขากลายเป็นผู้ชายไร้หัวใจมาจนถึงทุกวันนี้ ทานตะวัน ประสบโชคดี(อายุ 20ปี) ชื่อนี้มาจากดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียว ใจเดียว แต่ชีวิตของเธอกลับพบเจอแต่ปัญหา หลังจากบิดาติดการพนันอย่างหนัก ดาวเรืองผู้เป็นมารดาจึงคิดหาทางออก โดยการนำลูกสาวไปฝากไว้กับคุณนายจันทร์ฉาย (ทวดเล็ก) เพราะกลัวมารุตจะขายลูกสาวให้กับเจ้าหนี้ของเขา ซึ่งล้วนมากด้วยอิทธิพลในธุรกิจสีเทา
นารา หญิงสาวต่างจังหวัดอายุยี่สิบปี รูปร่างผอมเพรียวแลดูสมส่วน เธอเป็นหญิงสาวน่ารัก มองโลกในแง่ดี บ๊องแบ๊ว ใครเห็นต่างก็ชอบในความสดใสน่ารักของเธอ แต่ใครเล่าจะรู้ลึกๆ แล้ว หญิงสาวแค่สร้างมันขึ้นมา เพื่อเป็นกำแพงในใจที่ปวดร้าว เมื่อบิดากับมารดาต้องหย่ากัน เธอเจ็บลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจ แต่ยังทำตัวสดใสร่าเริง เพื่อให้มารดากับน้องชายรับรู้ว่าเธอสามารถ ที่จะเป็นเสาหลักที่ดีและแข็งแรงให้กับครอบครัวได้ พอจบมัธยมปลาย เธอตัดสินใจเรียนต่อแค่อนุปริญญา เพราะหวังว่าเรียนจบมาแล้วจะได้หางานทำทันที เพื่อให้น้องชายเพียงคนเดียวที่อายุห่างกันกับเธอเพียงแค่สองปีได้เรียนต่อ และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่นาทีน้องชายคนเดียวของเธอสอบติดแพทย์ นาราไม่ลังเลเลย เมื่อเรียนจบเธอรีบเดินทางไปหาป้าที่กรุงเทพฯทันที ทั้งที่ขาดการติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว เธอหวังจะไปขออาศัยระหว่างที่หางานทำ ชีวิตของเธอจะผกผันแปรเปลี่ยนหักเหเพียงใด เมื่อเดินทางมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ ภูตะวัน พ่อเลี้ยงหนุ่ม หล่อล่ำสูงขาวกล้ามโต หุ่นนายแบบ อายุสามสิบห้าปี ที่มีไร่องุ่นส่งออกรายใหญ่ของประเทศ ไร่ของเขาอยู่ทางภาคเหนือ แต่ทว่าโรงงานผลิตไวน์อยู่แถวชานเมือง เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างหมายตา แต่เขากลับไม่เคยประกาศหรือควงผู้หญิงคนใดให้เห็นเลยสักราย สถานะของเขาคือโสด ชายหนุ่มเคยมีแฟน แต่รักครั้งนั้นมันยังฝังใจ เมื่อแฟนสาวอันเป็นที่รักนอกใจ หนีไปแต่งงานกับหนุ่มลูกครึ่ง เมื่อครั้งที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ ความสนิทชิดใกล้หรือที่เขาเรียกว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด มันเลยทำให้ความรักของเขาและเธอขาดสะบั้นลงไม่เป็นท่า แต่ตอนนี้เรื่องวุ่นๆ กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา แน่นอนมันอาจจะไม่สงบอีกต่อไป และชีวิตของเขาต้องกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อเธอคนนั้นเดินเข้ามาในบ้านของชายหนุ่ม
นายนิโคลัส เคลดัลซ่าร์ คนสนิทมักเรียกเขาว่านิค อายุ 32 ปี เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์น่าค้นหา ด้วยหน้าตาที่เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ ยิ่งทำให้น่าหลงใหล เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ จมูกโด่งเป็นสันนัยน์ตาสีฟ้า สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง เขามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อนิโคล เมื่อบิดาเสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย เขาจึงกลับมาดูแลและสานต่อธุรกิจที่เมืองไทย ครอบครัวของเขาทำเกี่ยวกับผลไม้แปรรูปหลายชนิด เขาเป็นชายหนุ่มที่สาวๆ ต่างก็หมายตา แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่เคยมองใคร นอกจากเธอผู้หญิงคนนั้น หล่อนขอให้เขาช่วยเป็นแฟนเธอแค่คืนเดียว โดยที่เขานั้นได้เสนอข้อแลกเปลี่ยน ด้วยการมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอ ภายใต้เงื่อนไขแค่วันไนท์สแตนด์ จบแล้วแยกทางไม่มีอะไรค้างคาใจ และที่เขานั้นต้องแปลกใจคือเธอยอมตกลงอย่างง่ายดาย ที่สำคัญกว่านั้นนิโคลัสยังได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ นางสาวพริมโรส มารยาทงามเลิศ ทุกคนมักจะเรียกเธอว่าพิมพ์ เธออายุ 23 ปี เรียนมหา'ลัยปีสุดท้าย อีกไม่นานเดือนกว่าก็จะจบแล้ว เธอเป็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ ลูกครึ่งไทยเยอร เธอถูกอบรมเลี้ยงดูแบบไทยแท้ มารดาของเธอสอนให้รักนวลสงวนตัว เมื่อนางเคยพลาดพลั้งมีอะไรกับบิดาของพริมโรสจนตั้งครรภ์ เพราะความรักทำให้คนตาบอด เมื่อมารดาของเธอได้รู้ความจริงว่าชายอันเป็นที่รักนั้น เขาแค่หลอกลวงหวังแค่เสพสมจากกายของเธอ เขาไม่ยอมรับทารกน้อยในครรภ์ แต่นางก็อดทนกล้ำกลืนเลี้ยงดูพริมโรสจนเติบใหญ่ ได้อย่างสง่างามเธอสวยอย่างมีคุณภาพและทรงคุณค่าในตัว แต่ทว่าทุกอย่างกลับซ้ำรอยเดิม เมื่อพริมโรสเสียใจที่แฟนหนุ่มคบหาดูใจกันมานานถึงเจ็ดปี ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจวบจนจะจบปริญญาตรี แค่เธอไม่ยอมชิงสุกก่อนห่าม เขากลับประชดด้วยการนอกกายนอกใจเธอ มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนสนิทของพริมโรส หญิงสาวเสียใจจนแทบเสียสติ และแล้วเธอก็ประชดแฟนเก่าด้วยการหาใครสักคนมาเป็นแฟน เธอหวังเพียงแค่อยากแสดงให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นไม่แคร์ จนกระทั่งเธอยอมตกปากรับคำ มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนิโคลัสผู้ชายที่พบกันในผับ ที่สำคัญเธอนั้นไม่รู้จักกับเขามาก่อน.. ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ
เหมราช ชาติดำรงกุลชัย ชายหนุ่มรูปงามที่สาวๆ ต่างก็หมายตา หนึ่งในนั้นชื่อว่าคาเรนสาวลูกครึ่ง ที่สวยหุ่นเซ็กซี่ หล่อนมาฝึกงานที่บริษัทเขา จากนั้นหญิงสาวก็ทำความคุ้นเคย จนกระทั่งสนิทกัน เหมราชไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอนั้น อยู่ในสถานะไหน แต่เธอก็เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขานั้นควงไปไหนมาไหนบ่อยที่สุด แต่ทว่าวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นกับครอบครัวของเขา เมื่อบิดาล้มป่วยแล้วเสียชีวิตลงกะทันหัน การเงินที่บริษัทเริ่มมีปัญหา แต่ก็มีเพื่อนสนิทของบิดายินดีที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขา โดยมีข้อแลกเปลี่ยน ให้เหมราชแต่งงานกับพิ้งค์พลอยลูกสาวของเพื่อนบิดา ที่เธอนั้นมีอายุห่างมากกว่าชายหนุ่มถึงสิบสองปี เมื่อเขาไม่มีทางเลือก และดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่ได้รักเขา เหมราชจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่แล้วเขากลับตกหลุมรักภรรยาของตัวเอง ขณะที่เธอนั้นเฉยชาและหมางเมินใส่เขา เหมือนกับว่าเธอนั้นไร้หัวใจ ซึ่งซึ่งภายในใจของเธอนั้นมีชายอีกคนอยู่ตลอดเวลา ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
นายอามันต์โด้ เดฟวารา มีชื่อไทยว่านักรบหนุ่ม นักธุรกิจเนื้อหอมลูกครึ่งไทยอังกฤษ อายุสามสิบปี สูงใหญ่หล่อล่ำเป็นที่หมายตาของสาวน้อยสาวใหญ่ เมื่อเขาเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนทุกคนมักจะหลงใหลในเสน่ห์ของอาร์มันโด้ ที่มีความเป็นชายเนื้อแน่นกำยำกล้ามเป็นมัดๆ การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ เพราะปมในอดีต ที่ทำให้เขามีความรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายมาหลายสิบปี ซึ่งปมแค้นครั้งนี้ อาร์มันโด้จะไม่มีวันให้ครอบครัวของเธอนั้นมีความสุข อยู่บนกองเงินกองทองที่บิดาของเธอ เคยคดโกงตระกูลบิดาและมารดาของเขาไป จนบุพการีต้องฆ่าตัวตาย ก่อนจะทิ้งจดหมายผูกปมแค้นนี้เอาไว้ เพื่อรอวันให้ลูกชายได้ล้างแค้นทวงทุกอย่างคืนกลับมา นางสาวนารี กศิเทพพาณิชย์ อายุยี่สิบหกปี ลูกสาวคนเล็กของตระกูลกสิเทพพาณิชย์ ใครเล่าจะรู้ว่าเธอขมขื่นเพียงใด กับความทุกข์ตรม เมื่อบิดามารดารักลูกไม่เท่ากัน ทุกคนปฏิบัติกับเธอราวกับนารีเป็นทาสรับใช้ ทั้งที่เธอนั้นเป็นลูกในไส้ของแม่พิกุลกับพ่อศรเทพ แต่บิดากับมารดากลับรักลูกสาวคนรองกับพี่ชายคนโตมากกว่าเธอ ส่งเสียให้เรียน โรงเรียนดีๆ มหาวิทยาลัยดังๆ ไกลถึงเมืองนอกเมืองนา ส่วนนารีนั้น ตั้งแต่ประถม มัธยม จวบจนเข้ามหาวิทยาลัย โชคดีแค่ไหนที่ไม่ได้กู้ทุนรัฐบาลเรียน แม้จะได้เข้าศึกษา แต่บิดามารดาก็ได้ส่งเสียให้เรียนแค่โรงเรียนของรัฐ จวบจนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยที่เรียนก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่นารีกลับเรียนจบด้วยการคว้าเอาเกรดนิยมอันดับหนึ่งมาครองจนได้ แต่นั่นกลับไม่ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวเลยแม้แต่น้อย วันเกิดของรวีพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจากวันนี้ มีแขกคนสำคัญมาร่วมงานด้วย เขานั้นคืออาร์มันโด้นักธุรกิจหนุ่มที่รวีนั้นหมายมั่นปั้นมือจะเอาชายหนุ่มมาเป็นคู่นอนให้ได้ แขกที่มาร่วมงานต่างก็แต่งองค์ทรงเครื่องประชันโฉมกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะเจ้าของวันเกิด ที่ใส่ชุดราตรีเกาะอกสีแดงโชว์เต้าขาวอวบ เปิดแผ่นหลังโชว์เนื้อหนังมังสา จนใครต่อใครต่างก็ชื่นชมในความงามและเซ็กซี่ของรวี
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"