หญิงสาวถึงกับเหยียบเบรกจนตัวโก่ง เธอตกใจกับภาพที่เห็น เนื่องจากเฌอรีนไม่คุ้นกับถนนเส้นนี้ เธอเพิ่งกลับจากพบลูกค้ารายใหญ่แล้วเลี้ยวออกมาผิดซอย
“เอาไงดี ช่วยดีไหม... หรือจะเป็นอุบายแกล้งโดนทำร้ายมา” หญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจ แต่ก็ขับต่อไม่ได้ เพราะชายหนุ่มได้ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยท่าทางเจ็บปวด
“เฮ้ย! มันอยู่นั่น! เอาให้ตายคาตีน” เสียงโวยวายหมายเอาชีวิตอีกคน ทำให้หญิงสาวไม่อาจทนได้ หนึ่งต่อสิบสู้ยังไงก็ตาย
“คุณตำรวจรีบมาเลยค่ะ ตอนนี้เลยค่ะ” เธอลืมนึกถึงความปลอดภัยของตัวเองรีบเปิดประตูรถลงไปทันที หญิงสาวตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่กำลังได้รับบาดเจ็บ พลางแสร้งทำเป็นโทรหาตำรวจ ซึ่งทำให้อันธพาลกลุ่มนั้นถอยหนี
“ไหวไหม... ทำไมถึงตกอยู่ในสภาพนี้ได้”
“พาผมไปส่งโรงพยาบาลที โอ๊ะ! โอ๊ย!”
“เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ ไม่รักตัวกลัวตายหรือไง อดทนไว้นะฉันจะพานายไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”
“ไม่ได้คุณต้องพาผมไปส่งที่คอนโด”
“ฮะ! คอนโดมีหมอเหรอ”
“พี่ผมเป็นหมอ”
“อืมได้ นายบอกทางฉันแล้วกัน”
เรื่องราวในวันนั้นหญิงสาวยังคงจำฝังใจ ซึ่งโรมราชันเองก็จำไม่เคยลืมเลือน เขาเฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ เพราะไม่กล้าจีบเฌอรีน เนื่องจากหญิงสาวมีความสามารถเกินตัวจนเขาเทียบไม่ติด
เวลาผ่านไปแปดปีแล้ว แต่โรมราชันยังคงแอบมีความหวัง เพราะหญิงสาวไม่เคยมีข่าวเสียหายเรื่องผู้ชาย ที่สำคัญตลอดระยะเวลาที่เขาแอบมองดูเธออยู่นั้น เฌอรีนไม่เคยมีประวัติการคบหาดูใจกับใครสักคน
“มึงหวงตัวไว้ให้เธอ เชี้ย! ไอ้โรมเอาจริงดิ!”
“อืม...”
“อะไรวะ!” อามิทแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ผู้บริหารเทวาซีกรุ๊ปอย่างคุณเฌอรีน ไม่มีทางลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับผู้ชายที่ทำงานอยู่ในบาร์โฮสต์อย่างมึงแน่นอน” มิลตันผู้ร่วมหุ้นกับโรมราชันและอามิท ถึงกับสายศีรษะให้กับความคิดของเพื่อนรัก
“โฮสต์มือหนึ่งอย่างกู มีใครไม่อยากเอาบ้างวะ!”
“ผู้หญิงทุกคนที่เดินเข้ามาที่นี่ต่างก็อยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า แต่บอสอย่างคุณเฌอรีนไม่มีวันย่างกรายเข้ามาในสถานที่แบบนี้อย่างแน่นอน” “พนันกับกูไหมล่ะ”
“อะไรทำให้มึงมั่นใจขนาดนั้นวะ” อามิทเริ่มสงสัย
“กูมีวิธีแล้วกัน อีกไม่กี่วันเธอต้องเดินเข้ามาติดกับดักที่กูวางไว้อย่างแน่นอน” ใบหน้าของโรมราชันดูมีความหวัง แววตาของเขาเวลาพูดถึงหญิงสาวแพรวพราวเป็นประกาย เสียจนเพื่อนรักทั้งสองส่ายหน้าให้กับความบ้าของเพื่อนรัก แปดปีที่รอคอยสำหรับผู้ชายอย่างพวกเขาแล้วมันไม่ง่ายแล้ว
///บ้านเฌอรีน///
“แกอายุเท่าไหร่แล้ว”
“คุณย่าขา...”
“ยังไงก็ต้องแต่งงาน หรือแกมีแฟนอยู่แล้ว ก็พามาดูตัว” หญิงสูงวัยมองค้อนหลานสาวที่เอาแต่ใจ ไม่ยอมลงเอยกับใครสักที
“คุณย่าจะให้เฌอรีบแต่งงานไปทำไมคะ งานที่บริษัทเฌอก็บริหารได้ดีไม่แพ้ใคร” หญิงสาวเริ่มแสดงสีหน้าหนักใจ เมื่อเห็นผู้เป็นย่าจริงจังกับเรื่องแต่งงาน
“ตั้งแต่พ่อกับแม่ของเราจากไป ย่าก็เปรียบดังไม้ใกล้ฝั่ง ก่อนตายก็อยากให้หนูเป็นฝั่งเป็นฝา จะได้นอนตายตาหลับ แต่งงานกับคุณธนภัทรเถอะนะหลานรักของย่า” เฌอรีนรู้ถ่องแท้ถึงนิสัยใจคอของธนภัทรเป็นอย่างดี เขาทั้งหล่อทั้งรวยและข้างกายของชายหนุ่มเต็มไปด้วยผู้หญิงมากหน้าหลายตา
“แต่เฌอมีแฟนแล้วนะคะคุณย่า”
“จริงเหรอ” หญิงสูงวัยเผยรอยยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“จะ จะ... จริงค่ะ” เฌอรินตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ถ้าอย่างนั้นหนูพาเขามาพบย่าได้ไหม”
“ดะ! ดะ... ได้สิค่ะ”
“แอบมีพิรุธนะเราเนี่ย ไม่ใช่ไปคว้าเอาหนุ่มที่ไหนมาแสดงเป็นแฟนตบตาย่าหรอกนะ”
(คุณย่ารู้ทันได้ไงเนี่ย) เฌอรีนถึงกับหน้าถอดสี ยิ้มเจื่อนออกมาด้วยความเขิน
“คุณย่าขา... หลานเขยคุณย่าคนนี้ เฌอเชื่อว่าคุณย่าต้องชอบเขาแน่ ๆ เลยค่ะ”
“ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอจ๊ะ... หืม”
“เขาทำกับข้าวเก่ง มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ประสบผลสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเป็นผู้ใหญ่สามารถดูแลเฌอได้อย่างแน่นอนค่ะ”
“ย่าจะคอยดู” หญิงสูงวัยถึงกับแอบยิ้มให้กับท่าทีของหลานสาว เวลาเฌอรีนเอ่ยถึงผู้ชายคนนั้น มันอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่ก็อดที่จะชื่นชมให้กับการสปอยคนรักในแบบฉบับของผู้หญิงบ้างานอย่างเฌอรีนไม่ได้