นับพันได้มีโอกาสตื่นเช้ามานั่งเผามันที่ไร่แสงฟ้าครั้งแรกก็รู้สึกติดใจรสชาติสดใหม่ของมันเผาที่นี่เสียแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมาพักที่นี่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยได้ทำกิจกรรมเช่นนี้เสียที เพราะไม่ค่อยได้มาในหน้าหนาว เห็นทีหลังจากนี้ถ้าเข้าฤดูหนาวเมื่อไหร่จะต้องแวะเข้ามาพักที่ไร่ของธารดาวทุกปีแล้ว
“ทำอย่างกับไม่เคยกินมันเผาอย่างงั้น”
ณัชชาจีบปากจีบคอพูดกับเพื่อนรักที่กำลังตื่นเต้นกับมันเผา
“จะไปเคยกินได้ยังไง ตอนที่เคยมาก็ไม่ใช่หน้าหนาวที่อากาศเย็นขนาดนี้ แถมกว่าจะปลุกแม่คนขี้เซาตื่นได้ก็พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว”
ธารดาวยิ้มเจ้าเล่ห์ เอ่ยหยอกเอิญนับพันด้วยท่าทางขบขัน หากเธอไม่บอกว่าหมอตุลย์เพื่อนรักของพี่ชายออกมานั่งผิงไฟในยามเช้ามืด เพื่อนเธอคงไม่ยอมตื่นแล้วลุกจากเตียงนอนออกมานั่งทำกิจกรรมยามเช้าด้วยแน่
“นั่นสินะ ฉันก็ลืมคิดไป”
“ชิ” เงียบปากเดี๋ยวนี้นะ”
นับพันถลึงตาโตใส่เพื่อนทั้งสองที่ดูท่าจะพูดเรื่องไม่ดีของเธอไม่จบ หมอตุลย์นั่งอยู่ไม่ไกลจากกลุ่มของเธอนัก เธอไม่อยากให้คนที่แอบชอบมองเธอไปในทางที่ไม่ดี
“เออหนาว ฉันได้ข่าวว่าลุงเด่นจะมาขอส่วนแบ่งมรดกคุณยายด้วยเหรอ”
ณัชชาเริ่มกระซิบกระซาบเมื่อต้องถามถึงเรื่องในครอบครัวของธารดาว เพราะคราวที่แล้วที่พ่อของเธอมาดูคุณภาพไม้ที่สวนป่าก่อนจะรับเข้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ของตัวเองยังเห็นเด่นหล้ามาโวยวายขอส่วนแบ่งพื้นทีในไร่กับธาราอยู่เลย
“อืม เค้าก็ได้แต่โวยวาย แต่ก็ไม่มีสิทธิ์อยู่ดี เพราะไร่นี้เป็นของเพื่อนคุณยายที่ให้กรรมสิทธิ์กับคุณยายแค่คนเดียวเท่านั้น แล้วคุณยายก็เขียนในพินัยกรรมชัดเจนว่ายกไร่ให้ฉันกับพี่เหนือแค่สองคน”
“ผัวเมียคู่นั้นเค้าอยากได้อยากดีอะไรขนาดนั้น โรงสีข้าวของคุณตาแกก็ได้ไปแล้ว คุณตากับคุณยายแกเลี้ยงลูกเสือลูกตะเข้แท้ๆ เลย”
นับพันพอจะรู้รายละเอียดเรื่องการแบ่งมรดกของครอบครัวธารดาวอยู่เหมือนกัน คิดว่าสิ่งที่เด่นหล้าได้ไปก็มีมูลค่ามหาศาลพอสมควรทั้งที่เป็นแค่ลูกเลี้ยง ยังจะอยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเองอีก ความโลภมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
“อย่าไปพูดถึงพวกเค้าเลย พาลปวดหัวเปล่าๆ”
นึกถึงเรื่องของคนที่มีศักดิ์เป็นลุงธารดาวก็ไม่สบอารมณ์ เธอคิดว่าเขาจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของเธอตั้งแต่คุณตาของเธอเสียไปแล้วเสียอีก เพราะเด่นกล้าได้รับมรดกจากตาของเธอมากกว่าลูกสาวแท้ๆ อย่างแม่เธอด้วยซ้ำ
เธอเดาได้เลยว่าเด่นหล้าคงถูกภรรยาอย่างสายสมรเป่าหูให้มาหาเรื่องอยากได้ที่ดินที่ไร่แน่นอน ลำพังเรื่องสู้กันด้วยหลักฐานซึ่งๆ หน้าว่าเขามีสิทธิ์ในพื้นที่แห่งนี้หรือไม่ เธอเชื่อว่าทางฝั่งของเธอชนะเห็นๆ แต่หากอีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อข้อนี้น่ากลัว
“นี่...คนนั้นใคร ฉันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย”
เมื่อคนงานเลิกจับกลุ่มกันและลุกออกไปยืดเส้นยืดสาย นับพันก็ดึงผ้าที่คลุมหัวล่นมากองเอาไว้ตรงบ่า และมองไปยังผู้ชายรูปร่างบึกบึนสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่เงียบๆ คนเดียว เธออดที่จะเพ่งสายตาไปมองเขาอย่างละเอียดไม่ได้ เพราะอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
ธารดาวมองตามสายตาของนับพันจนไปเห็นแสนรักที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่คนเดียวก็เริ่มแสยะยิ้มออกมา
“อ๋อ นั่นพี่แสนคนขับรถคนใหม่น่ะ พี่เหนือเพิ่งจะรับมาเดือนที่แล้วเอง”
“ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าเค้าคือคนขับรถ หล่อยังกับนายแบบแน่ะ ไม่เป็นขวัญใจสาวๆ ในไร่เลยเหรอ”
นับพันอดเอ่ยปากชมคนขับรถคนใหม่ของธารดาวไม่ได้ เพราะชายหนุ่มดูมีออร่าผิวพรรณผุดผ่อน ทั้งหน้าตายังหล่อเหลาดูสะอาดสะอ้าน แม้จะอยู่ในชุดทำงานเก่าๆ ก็ยังดูดีจนเธอแทบจะละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว
“ขนาดแกนั่งอยู่ตรงนี้ยังสนใจเค้าเลย นั้บประสาอะไรกับคนอื่นล่ะ”
ธารดาวส่ายหัวน้อยๆ คราแรกที่เธอเห็นชายหนุ่มวัย29คนนี้ก็มีอาการชื่นชมเขาเช่นนับพันเหมือนกัน เพราะทั้งหน้าตาและผิวพรรณของเขาดูอ่อนกว่าวัยมากพอสมควร ทั้งยังเป็นคนที่สุภาพและมีมารยาทมากๆ อีกด้วย
“จะเปลี่ยนใจจากพี่หมอมาเป็นคนขับรถสุดหล่อเหรอจ๊ะ”
ณัชชาหยอกนับพันที่เอาแต่นั่งจ้องผู้ชายใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่ว่างสายตา
“ฉันไม่ใช่คนหลายใจย่ะ”
นับพันรีบดึงสติหันกลับมามองค้อนณัชชา ไม่ว่าจะเจอคนหล่อคนดีกว่าหมอตุลย์แค่ไหนนับพันก็ไม่มีทางที่จะสนใจไปมากกว่าหมอตุลย์ผู้ที่เป็นรักแรกของเธอแน่นอน
หลังหมดกิจกรรมเดินเล่นชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าจบ สามสาวก็มานั่งกันอยู่ที่ร้านอาหารของรีสอร์ท แม้มื้อเช้าจะมีน่าตาน่ารับประทานเพียงใดแต่ตอนนี้นับพันก็รู้สึกรับประทานอะไรไม่ลง เพราะเมื่อครู่เธอถูกคนเป็นพ่อบังคับให้กลับไปที่บ้าน เพราะกลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะกลายไปเป็นครูอยู่ต่างจังหวัดอย่างที่เคยเกริ่นเอาไว้
“ใจฉันก็อยากอยู่ต่อนะ แต่ฉันต้องเข้าไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ให้รู้เรื่องว่าฉันจะยังไม่เข้าไปช่วยงานที่โรงเรียน”
นับพันพูดอู้อี้ ทั้งที่เธอเคยพูดกับพ่อและแม่เอาไว้แล้วแท้ๆ ว่าอยากจะทำประโยชน์ให้สังคมสักสองสามปี โดยการขึ้นไปเป็นครูอาสาบนดอย แต่พ่อกับแม่ของเธอก็เอาแต่ขัดขวางอยู่ร่ำไป ด้วยให้เหตุผลว่าไม่อยากให้เธอลำบาก
“เอาใจช่วยนะนับ”
ธารดาวรู้ดีว่าคนอย่างนับพันมุ่งมั่นอะไรแล้วก็จะทำให้ได้ แต่หากมีการขัดขวางจากครอบครัวเธอก็รู้สึกหนักใจแทนเพื่อนพอสมควร
“ฉันก็ด้วย”
ณัชชายื่นมือแตะบ่านับพันเพื่อให้กำลังใจ คราแรกเธอคิดว่านับพันอยากจะไปเป็นครูอาสาบนดอยเพราะเห็นหมอตุลย์อาสาไปรักษาคนบนดอยบ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอเชื่อแล้วว่านับพันน่าจะอยากทำในสิ่งที่ตั้งใจด้วยตัวเองจริงๆ
หากเป็นคนอื่นที่ขัดขวางนับพันเธอก็พร้อมจะช่วยพูดให้เพื่อนเธอได้สมหวัง แต่นี่เป็นครอบครัวของนับพัน หากเธอไปแซกแทรงเรื่องครอบครัวของเพื่อนมันคงไม่ดีเท่าไหร่ ทำได้ดีที่สุดก็คือการให้กำลังใจ