“อย่ามาแตะตัวฉัน” พลอยชมพูถอยห่างและส่งเสียงแข็งปรามอีกฝ่ายเมื่อเขากำลังยื่นมือหมายจะเชยคางของเธอ “อย่าหวงตัวไปหน่อยเลย เพราะถ้าคุณหวงตัวกับผม พ่อของคุณนั่นแหละจะเจ็บตัว” นี่หรือคนที่เธอเคยชื่นชมว่าเป็นสุภาพบุรุษ ตอนนี้เขาทำกับเธออย่างป่าเถื่อนและโหดร้าย เพียงเพราะต้องการที่จะใช้เธอเป็นเครื่องมือแก้แค้นพ่อของเธอ ผิดด้วยหรือที่เขาใจร้าย ในเมื่อเขาถูกกระทำให้เป็นแพะรับบาปว่าฆ่าพ่อตัวเองก่อน และเธอ...ก็เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดที่เขาจะใช้ในการแก้แค้น เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
“อือ...อืม...” ดวงตาคู่สวยค่อยๆ สะลึมสะลือตื่นขึ้นก่อนจะขยับริมฝีปากบางส่งเสียงเล็กน้อยระบายความเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว
“หา...” พลอยชมพูได้สติครบถ้วนก็นั่งหน้าเจื่อน เพราะตอนนี้รู้ตัวว่าตัวเองตื่นขึ้นมาในกระท่อมหลังเล็ก ที่มีเพียงแค่เตียงที่เป็นแคร่ไม้อยู่หลังเดียวโดดๆ ในห้อง แถมข้อเท้าของเธอยังถูกล่ามเอาไว้กับโซ่เส้นใหญ่
เมื่อมองออกไปยังหน้าต่างของกระท่อมที่มีอยู่ด้วยกันสองด้านก็เห็นว่าด้านนอกมีแต่ต้นไม้ปกคลุมอยู่ไม่ห่าง ทายได้เลยว่าตอนนี้เธอจะต้องอยู่ในป่าที่ไหนสักที่แน่นอน เมื่อรู้ดังนั้นสาวเจ้าก็เริ่มหน้าซีดตัวสั่นเทาเล็กน้อย เพราะพอจะเดาได้ว่าคนที่จับตัวของเธอมาคือใคร
“ตื่นแล้วก็ดี เราจะได้คุยกันได้ซะที” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางไร้มารยาทอยู่ตรงหน้า พลอยชมพูเห็นท่าทางของเขาก็เริ่มหน้าถอดสีมากขึ้นจนแทบจะไม่เหลือเลือดฝาด
เขาไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือรณพีย์ผู้ชายที่พ่อของเธอเคยสร้างวีรกรรมมากมายเอาไว้ในชีวิตของชายหนุ่ม จนเขาต้องเสียทั้งพ่อและติดตารางด้วยคดีที่ตัวเองไม่ได้ทำ เพราะแบบนี้ไงเธอถึงได้รู้สึกกลัวเขาเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะจับตัวของเธอมาฆ่าทิ้งหรือทำอะไรเพื่อระบายความแค้นที่มีต่อพ่อของเธอหรือเปล่า
“พาพลอยมาที่นี่ทำไมคะ แล้วทำไมต้องล่ามโซ่กันแบบนี้ด้วย”
“ถ้าผมไม่ทำแบบนี้คุณอาจจะหนีผมหลังจากพูดคุยข้อตกลงกันก็ได้” ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวๆ เพียงสองสามก้าวก็เข้าไปประชิดตัวของหญิงสาว
“ข้อตกลงอะไร” พลอยชมพูรีบขยับตัวหนี เพราะยังไงตอนนี้ชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนปลอดภัยที่เธอจะอยู่ใกล้ไม้ใกล้มือของเขา
“ผมรู้ว่าตอนนี้ตำรวจยังหาตัวของคุณพ่อคุณไม่เจอ”
“ถ้าคุณจะคิดว่าพลอยช่วยเหลือคุณพ่อคุณกำลังคิดผิดค่ะ พลอยไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพ่อพลอยทำเลยสักนิด ตอนนี้ก็อยากให้เค้าออกมารับโทษเหมือนกัน”
“ผมรู้...แล้วก็รู้ดีด้วย เพราะตอนนี้คุณพ่อของคุณอยู่กับผม”
“อะไรนะ” พลอยชมพูไม่เข้าใจการกระทำของรณพีย์ในตอนนี้เลย ก่อนหน้านี้ที่เธอกลับมาจากตางประเทศ เหตุเพราะมีข่าวว่าพ่อของเธอหนีการจับกุมและหายตัวไป หากรณพีย์เจอพ่อของเธอแล้วทำไมเขาถึงไม่ยอมส่งพ่อของเธอให้ตำรวจ
“ผมยังไม่ยอมส่งพ่อของคุณให้ตำรวจ เพราะอยากจะทรมานใจของพ่อคุณเล่น” รณพีย์พยายามเข้าไปใกล้ชิดพลอยชมพูมากขึ้นเรื่อยๆ
“อย่ามาแตะตัวฉัน” พลอยชมพูถอยห่างและส่งเสียงแข็งปรามอีกฝ่ายเมื่อเขากำลังยื่นมือหมายจะเชยคางของเธอ
“อย่าหวงตัวไปหน่อยเลย เพราะถ้าคุณหวงตัวกับผม พ่อของคุณนั่นแหละจะเจ็บตัว”
“ทำไม”
“คุณต้องทำตามที่ผมสั่งทุกอย่าง เพราะตอนนี้พ่อของคุณอยู่ในกำมือของผม อยากจะรู้นักว่าพ่อของคุณจะรู้สึกยังไงเมื่อลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวจะต้องมาเป็นตุ๊กตายางให้ผมย่ำยีเล่น”
“คุณมันวิปริต ถ้าพ่อฉันผิดคุณก็ส่งให้ตำรวจ ให้เค้ารับโทษตามกฎหมายไปสิ จะมายุ่งกับฉันทำไม”
“ก็มันไม่สนุกน่ะสิ อันที่จริงผมอยากจะเฉือนเนื้อพ่อคุณออกวันละชิ้น ให้นั่งเจ็บปวดทรมานก่อนจะตายด้วยซ้ำ นี่ถือว่าผมยังปราณีมากแล้ว ที่ใช้คุณเป็นเครื่องมือในการทำให้พ่อของคุณเจ็บปวด หลังจากผมเบื่อที่จะสนุกกับคุณแล้ว ผมก็จะปล่อยพ่อของคุณให้ตำรวจ แต่ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะปล่อยคุณไป แล้วผมก็จะใช้วิธีแรกที่พูดเมื่อกี้...กับพ่อของคุณ” เขาแสยะยิ้มอย่างอำมหิต
พลอยชมพูนั่งจ้องหน้ารณพีย์เขม็ง เธอนั่งอ้าปากค้างน้ำตานองแก้ม และแล้วเธอก็ต้องทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดีอย่างไม่มีข้อแม้
ไม่คิดว่าผู้ชายที่เธอเคยมองว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษน่านับถือจะใช้เธอระบายความแค้นทั้งที่เธอไม่รู้เรื่องรู้ราวในการกระทำของพ่อตัวเองแม้แต่นิดเดียว
พลอยชมพู นภารังสรรค์ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของพิษณุพงษ์ หญิงสาวอายุ23ย่าง24 เพิ่งจะเรียนจบบริหารธุรกิจหมาดๆ จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกา
หลังเรียนจบเธอก็หาประสบการณ์การทำงานประจำอยู่ที่ต่างประเทศได้สักพักหลังจากนั้นก็มารู้ข่าวเรื่องที่พ่อของเธอได้ทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้และกำลังหลบหนีตำรวจ เธอจึงรีบกลับมาดูสถานการณ์ที่บ้านเกิด แต่ยังไม่ทันได้กลับถึงบ้านดีเธอก็ถูกลักพาตัวมาที่นี่เสียก่อน ไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน และเธอจะต้องเจออะไรบ้างหลังจากนี้
“แกแน่ใจใช่ไหมว่าวิธีนี้จะได้ผล” รามินทร์เอ่ยถามรณพีย์ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี เพราะวิธีที่เพื่อนตนทำไม่ต่างจากการทารุณผู้หญิงเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ
“ฉันคิดดีแล้ว หลังจากนี้แกไม่ต้องช่วยอะไรฉัน แกไปตั้งใจสร้างธุรกิจที่แกอยากจะทำดีกว่า”
“ฉันรู้ว่าคนอย่างแกตัดสินใจทำอะไรไปแล้วคงเปลี่ยนใจยาก แต่ฉันพูดตรงๆ ฉันไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่แกจะใช้คุณพลอยเป็นเครื่องมือเท่าไหร่ ถ้าแกอยากจะเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน”
รณพีย์ยังคงเงียบไม่ได้คิดจะตอบกลับอะไรรามินทร์ และไม่ได้คิดโกรธเพื่อนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขาเพราะรู้ว่าเพื่อนตนหวังดี แต่ในใจของเขาตอนนี้ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจอะไรกับสิ่งที่ลงมือทำไปแล้วทั้งนั้น
รณพีย์ สิรินพกุล ชายหนุ่มรูปงามวัย28 ย่าง29 นัยน์ตาดุดันเสมือนเสือร้าย เขาเป็นอดีตนักโทษที่เพิ่งพ้นมลทินเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนหน้านี้เขาต้องติดตารางอยู่ร่วมสี่ปีในคดีจ้างวานฆ่าพ่อของตัวเอง
หลังจากพ้นโทษออกมาได้เขาก็ร่วมมือกับเพื่อนที่มีอยู่น้อยนิดสืบหาความจริงจนกระจ่างว่าคนที่ทำเรื่องเลวร้ายใส่ร้ายเขาเพราะหวังว่าจะฮุบทุกย่างของพ่อเขาคือ วิษณุพงษ์เพื่อนร่วมธุรกิจของพ่อเขาเอง
ตอนนี้รณพีย์พ้นมลทินทุกอย่างและได้ของที่ควรจะเป็นของเขากลับมาอยู่ในมือแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สบายใจเพราะตำรวจยังไม่สามารถจับตัววิษณุพงษ์มาลงโทษได้ เขาจึงต้องใช้กลอุบายเพื่อเก็บลูกสาวสุดที่รักของวิษณุพงษ์มาไว้ในกำมือ ด้วยคิดว่าหากวิษณุพงษ์รู้ว่าลูกสาวของตัวเองอยู่ในน้ำมือของเขา ไม่นานวิษณุพงษ์ก็จะเดินเข้ามาหาเขาเองโดยที่ไม่ต้องตามหาให้เหนื่อย
เขาพรากแม่ของเธอไปยังไม่พอ ยังมาพรากอิสระของชีวิตโดยการให้เธอแต่งงานกับเขาอีก ดวงตาของเธอ...มองไม่เห็น เพราะผลพวงจากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น อุบัติเหตุที่พรากแม่ของเธอไปตลอดกาล หากเป็นไปได้เธอก็อยากจะจากโลกนี้ไปพร้อมกับแม่ จะได้ไม่ต้องมาถูกคนเป็นพ่อบังคับให้แต่งงานกับคนที่พรากชีวิตแม่ของเธอไป เพราะต้องการเงินมาใช้หนี้ นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาจงใจอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พูดคุยและติดตามอัพเดตนิยายเรื่องใหม่ๆ ได้ที่ FB: ไรท์เกว
“ออกไปให้พ้นจากชีวิตพราว คนอย่างคุณมันไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง” “ไม่ว่าจะยังไงผมก็ไม่ยอมปล่อยคุณไปจากชีวิตเด็ดขาด เพราะผมต้องการให้คุณเป็นเมียน้อยผมต่อไป” ตัวอย่างบางตอน “จะรีบไปไหนเรายังไม่ได้คุยกันเลย” “ปล่อย พราวไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” สาวเจ้าพยายามสะบัดมือหนาที่น่าขยะแขยงหมายจะให้มันหลุดพ้นไปจากแขนของเธอ ทว่าคนที่มือเหนียวปานตุ๊กแกก็ไม่ยอมปล่อยแขนเธอให้หลุดมือไปง่ายๆ ไม่พอแค่นั้นเขายังรวบอุ้มเธอพาดบ่าแล้วเดินดุ่มไม่อายสายตาของคนที่อยู่ระแวกนี้แม้แต่น้อย หากเขาไม่อายเธอเองก็จะแหกปากร้องอย่างให้คนช่วยอย่างไม่อายเช่นกัน เพราะไม่อยากจะอยู่แนบชิดกับตะวันวาดแม้แต่นาทีเดียว “ช่วยด้วยค่า ไอ้บ้านี่มันลักพาตัวฉันค่า ช่วยด้วย...” ปากเล็กตะโกนร้องให้คนช่วย ในขณะที่มือน้อยฟาดกำปั้นทุบไปที่แผ่นหลังกว้างไม่ขาดช่วง “แหกปากไปเถอะไม่มีใครช่วยคุณ ที่นี่มีแต่คนของผมทั้งนั้น” ตะวันวาดยังคงเดินเยื้องย่างสบายอารมณ์จนไปถึงลานจอดรถ หลังจากนั้นเขาก็จับพราวจันทร์ยัดเข้าไปในรถตู้ที่นครินทร์จอดรอพวกเขาอยู่แล้ว “ทำชั่วกันเป็นขบวนการจริงๆ” นครินทร์สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อพราวจันทร์สบถขณะมาถึงรถ ไม่รู้ว่าเจ้านายตนไปมีเรื่องอะไรกับหญิงสาวก่อนหน้า แต่เขาก็ต้องพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำหน้าที่ขับรถต่อไปตามที่เจ้านายสั่งเท่านั้น “ถ้าอยากกลับถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัยผมขอให้คุณสงบปากสงบคำเอาไว้ดีกว่า” พูดจบตะวันวาดก็ปรับเบาะนอนสบายอารมณ์ พราวจันทร์หันไปมองคนที่นอนอยู่เบาะข้างๆ ด้วยสีหน้าแววตาไม่สบอารมณ์บวกกับความฉงนหนัก ไม่อยากจะเชื่อว่าตะวันวาดจะหลับตาลงได้ในขณะที่เธอยังคงกระวนกระวายใจเพราะความเผด็จการของเขา ท่าทางคงจะทำไม่ดีกับคนอื่นจนชินเป็นนิสัยถึงได้ทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวได้เก่งในเวลาที่ต้องบังคับคนอื่น
คราแรกเข้ามาทำเป็นรักเพื่อผลประโยชน์ ทว่าความน่ารักอ่อนโยนของเธอก็ทำให้หัวใจที่ถูกทำร้ายจนเหี่ยวเฉากลับมามีความสดชื่นอีกครั้ง ชีวิตรักของธารดาวและแสนรักไม่ได้สวยงามดั่งใจที่หวัง เพราะแผนการร้ายที่ชายหนุ่มเริ่มต้นเอาไว้ มันย้อนกลับมาทำร้ายความสัมพันธ์ของพวกเขาจนไม่เหลือชิ้นดี เมื่อคำว่ารักจากลมปากชายหนุ่มกลายเป็นแค่คำหลอกลวงสำหรับหญิงสาวที่กำลังอุ้มท้องลูกของคนใจร้าย เธอจะจัดการชีวิตยังไงต่อไป ติดตามอ่านเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองได้ในเรื่อง ลวงรักเจ้าสาวบ้านไร่ ได้เลยนะคะ เนื้อหาในนิยายไม่ว่าจะเป็นชื่อคนหรือสถานที่ล้วนเกิดจากจินตนาการ ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามการอัปเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว นะคะ ธารดาวในชุดคลุมท้องสีชมพูหวานยืนโอบกอดหน้าท้องที่เพิ่งนูนออกมาเล็กๆ หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาเพราะรู้สึกมีความสุขและทุกข์ใจไปในคราวเดียวกัน ไม่ได้อยากส่งพลังงานไม่ดีไปยังลูกน้อยในท้อง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถลืมความข่มขื่นใจใจที่เพิ่งเจอมาได้เลย “แม่ขอโทษนะลูก แม่จะพยายามเข้มแข็งให้เร็วที่สุด แม่สัญญา” ธารดาวนึกย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมาไม่นานนัก ก่อนหน้านี้เธอและพี่ชายได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในไร่แสงฟ้า ไร่ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากยายของเธอ ชีวิตของเธอเป็นไปอย่างเรียบง่ายในวิถีชีวิตที่ชนบท จนกระทั่งมีใครบางคนเข้ามาในชีวิต เขาให้ทั้งความสุขที่เธอไม่เคยพานพบ และก็ให้ความทุกข์ระทมใจที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อนเช่นกัน
“ไม่ขายแล้วโว้ยนิยาย ขายตัวดีกว่า” เพราะคำที่ตะโกนออกไปในตอนที่เมา เป็นผลพวงทำให้เธอได้ป่าวประกาศว่า “ประธานคนนี้สามีของฉัน” ในวันแต่งงาน เธอ นักเขียนนิยายที่เริ่มย่อท้อในการเป็นนักเขียน เพราะไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่ประสบผลสำเร็จในเส้นทางนี้เสียที เธอนั่งดื่มคลายเครียดแล้วตะโกนว่าอยากขายตัวในขณะที่ไม่มีสติ... เขา ประธานผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนยักษ์ใหญ่ ผู้ที่เชื่อมั่นในรักแรกพบ ในเมื่อคนที่ถูกตาต้องใจเสนอขายตัวมาแล้ว มีหรือเขาจะไม่สนอง... เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการ ไม่มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว
“จำเอาไว้ ถ้าคุณมีลูกเมื่อไหร่ วันนั้นผมจะพรากลูกคุณไปให้ไกลแสนไกล คุณจะต้องเจ็บปวดทรมานเจียนตาย ให้สาสมกับที่เข้ามาหลอกลวงผม” เพราะคำประกาศิตนี้เธอถึงให้เขารู้เรื่องลูกไม่ได้ ชื่อตัวละคร ชื่อสถานที่ และเนื้อหาในนิยายล้วนเกิดขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน ไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามการอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว ตัวอย่างบางตอน เจ้าเอยเดินหน้าเศร้ามายืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานของมานูแอล เธอยืนถอนหายใจครู่หนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก เธอเคาะประตูเรียบร้อยก็เปิดประตูเดินก้มหน้าก้มตาเข้าไปด้านใน “ไปไหนมา” เสียงแข็งที่เอ่ยทักทายทำเข้าเอยเริ่มกำมือกันแน่น ประหม่ากับเรื่องที่จะพูดกับมานูแอลพอสมควร “เอยขอยืมเงินคุณสักห้าหมื่นได้ไหมคะ แล้วเอยจะรีบหามาคืนค่ะ” เธอไม่อยากลงรายละเอียดว่าจะเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาของพ่อ เดี๋ยวจะถูกมองสิ่งที่เธอต้องการจากเขาก็มีเพียงแค่เงินเท่านั้น “หึ่...” มานูแอลละสายตาจากการมองหน้าจอไปแพดในมือ เขาสบถในลำคอเสมือนกำลังเยาะเย้ยตัวเองและหญิงสาวไปพร้อมๆ กัน เขารู้ความจริงเรื่องที่เธอเข้ามาในชีวิตจเขาเพราะเงินไม่เท่าไหร่ วันนี้หญิงสาวก็แบกหน้ามาขอให้เขาช่วยเหลือเรื่องเงินอย่างหน้าไม่อาย “ผมไม่ให้ยืม แต่ผมจะให้เป็นค่าตัว แค่คุณนอนอ้าขาให้ผมระบายอารมณ์ ผมจะให้คุณครั้งละสองหมื่น” สิ้นเสียงของมานูแอเสมือนมีก้อนอะไรแข็งๆ ติดอยู่ที่คอของเจ้าเอย เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอ ทั้งยังต้องพยายามกลั้นน้ำตาเพราะรู้ตัวว่ากำลังถูกดูถูกค่าความเป็นคน แต่ยังไงเธอก็ต้องยอม “ครั้งนี้ผมจะให้ห้าหมื่นตามที่คุณขอก็แล้วกัน อีกสองชั่วโมงผมจะเข้าไปที่ห้องนอนคุณก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก็แล้วกัน” เจ้าเอยพยักหน้าน้อยๆ รับคำของมานูแอล หลังจากนั้นจึงรีบหันหลังให้เขาและเดินออกไปจากห้องทำงานของชายหนุ่ม เพราะไม่อยากให้เขาได้เห็นน้ำตาจากความอ่อนแอของเธอ
“เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจค่ะ แต่ม่อนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้วค่ะ หัวใจของเค้าเป็นของม่อนมาตั้งแต่แรก แค่ตอนนี้กำลังล่องลอยไม่รู้จุดหมาย แต่ม่อนจะตามหัวใจของเค้ากลับมาอยู่ที่ม่อนเหมือนเดิมให้ได้ค่ะ” เนื้อหาในนิยายล้วนเกิดจากจินตนาการไม่ได้มีเจตนาอ้างอิงถึงใครหรือสิ่งใด ขอทำความเข้าใจ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ติดตามอัพเดตนิยายใหม่ๆ หรือพูดคุยกับไรท์ได้ที่ FB: ไรท์เกว ตัวอย่างบางตอน “แผล...แอล” หญิงสาวรีบพลิกตัวชายหนุ่มเพื่อดูรอยแผลเป็นตรงหัวไหล่ข้างซ้ายของเขา รอยแผลของเขายังอยู่ เธอคิดไม่ผิดจริงๆ ว่ายังไงเขาก็คือแอลคนรักของเธอ “ผมไม่ใช่แอล” ลอเลนโซพลิกตัวกลับมาพูดกับหญิงสาวเสียงเข้ม อันที่จริงเขาตื่นก่อนเธอนานแล้วและสามารถออกไปจากบ้านของเธอได้แต่ไม่คิดจะทำ เพราะอยากจะรู้เท่านั้นว่าหากเธอตื่นมาเจอเขาอยู่ข้างๆ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร “ถ้าไม่ใช่ แล้วคุณมายุ่งกับฉันทำไม” หญิงสาวตวาดเสียงสั่นเพราะโมโหที่เธอจับเขาได้ขนาดนี้ยังจะมาปฏิเสธหน้าด้านๆ มือเรียวกำหมัดกันแน่น ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำตาคลอจ้องมองค้อนคนข้างกายไม่วางตา “ผมเป็นผู้ชาย คุณเสนอมาผมก็แค่สนองไปก็เท่านั้น อ่อ... ถ้าติดใจครั้งหน้าผมก็น่าจะแอบมาเจอคุณได้” “อย่ามาดูถูกฉันนะ” “ก็คุณ...ทำตัวให้ผมดูถูกเอง ถ้าไม่อยากถูกผมมองอย่างดูถูกอีก ก็อยู่ให้ห่างผมเข้าไว้เข้าใจใช่ไหม” เขายื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูของคนที่กำลังมีน้ำตาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไปจากบ้านฉัน อ๊าย... ฮือๆๆๆ...” ม่อนไหมผลักใบหน้าลอเลนโซเต็มแรง เธอกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บใจและฟุบหน้ากอดเข่าร้องสะอึกสะอื้นไม่ยอมเงยหน้ามองความเป็นจริง
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"