เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
“ขอโทษนะคะคุณซู แต่ลูกในท้องของคุณไม่อยู่แล้วค่ะ”
ซูเชียนฉือนั่งอยู่ในห้องทำงานของแพทย์ เธอกำลังฟังแพทย์พูด แล้วก็ดูฟีดข่าวในโทรศัพท์ของเธอไปด้วย
ในข่าว มีภาพคู่รักชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเดินออกมาจากสนามบินด้วยกัน
ฝ่ายหญิงคือเวินอวี่โหรว ดาราสาวผู้โด่งดังในวงการบันเทิงที่เพิ่งกลับมาหลังจากไปเรียนต่อต่างประเทศได้สามปี
ส่วนฝ่ายชายคือหลิงเป่ยเชียน ประธานบริษัทหลิงซื่อกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอันดับหนึ่งในเมืองโหรง
ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดของเด็กในท้องและสามีของเธอด้วย
คอนเมนต์ใต้ข่าวนี้ ทุกคนต่างก็กำลังชื่นชมชายผู้มีความสามารถและหญิงสาวแสนสวยว่าดูเข้ากันอย่างกับคู่สร้างคู่สม แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่า หลิงเป่ยเชียนได้แอบแต่งงานแบบลับ ๆ ไปตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้วแล้ว
ซูเชียนฉือกดล็อคหน้าจอโทรศัพท์ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่หมอ “ลูก...... ไม่อยู่แล้วจริง ๆ เหรอคะ?”
หมอส่ายหน้าไปมา แล้วก็มองไปที่ซูเชียนฉือด้วยแววตาสงสาร “คุณซู คุณน่าจะรู้นะคะว่าคุณตกอยู่ในภาวะเจ็บป่วยระยะท้าย ร่างกายของคุณไม่สามารถให้สารอาหารแก่ลูกของคุณได้มาตั้งนานแล้ว”
หลังจากพูดจบ เธอก็เลื่อนหนังสือแจ้งให้ทราบเรื่องการสิ้นสุดของการตั้งครรภ์ไปตรงหน้าซูเชียนฉือและพูดว่า “ตอนนี้เด็กในท้องของคุณแท้งไปแล้ว ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทำแท้งเพื่อผ่าตัดขูดมดลูกโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของคุณได้ค่ะ”
ซูเชียนฉือเปิดโทรศัพท์อีกครั้งและมองดูคู่รักที่ชาวเน็ตกำลังพูดถึงกันอย่างออกรสออกชาติทางออนไลน์ ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็เผยรอยยิ้มที่ขมขื่นออกมา “งั้นก็จัดการเรื่องการผ่าตัดให้ฉันได้เลยค่ะ”
เมื่อก่อนเธอเคยหวังมากกว่าใคร ๆ ว่าเธอจะมีลูกได้
แต่เธอพยายามอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายก็ยังรักษาเด็กไว้ไม่ได้อยู่ดี
บางที ลูกอาจจะรู้ก็ได้ว่า หลังจากที่เธอตายไปแล้ว หลิงเป่ยเชียนจะไม่มีทางดีต่อเขา ดังนั้นลูกก็เลยปฏิเสธที่จะมายังโลกใบนี้
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้จากไปได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร
ขณะที่กำลังนอนอยู่บนโต๊ะผ่าตัดทำแท้ง แพทย์ก็ถามซูเชียนฉือเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ว่ามีสมาชิกในครอบครัวที่จะสามารถมาอยู่ด้วยได้บ้างไหม แล้วเธอก็ได้ยินเสียงพยาบาลที่อยู่ข้างนอกประตูซุบซิบกัน——
“ฉันล่ะอิจฉาเวินอวี่โหรวจริง ๆ เลย ไม่มีข่าวมาสามปีแล้ว พอกลับประเทศมาท่านประธานของหลิงซื่อกรุ๊ปก็มาให้การอารักขาเธอทันทีเลย”
“นี่เธอไม่รู้ใช่ไหมเนี่ย เวินอวี่โหรวเป็นรักแรกของหลิงเป่ยเชียนเลยนะ ขนาดเธอไปต่างประเทศตั้งสามปี เขาก็ยังรอเธอมาตลอดสามปีเลย เขาคลั่งรักจะตาย!”
“แต่ฉันเห็นมีข่าวลือในโลกโซเชียลว่า เหมือนจะบอกว่าหลิงเป่ยเชียนแต่งงานแล้วน่ะ?”
“ก็แค่ข่าวลือแหละ! หลิงเป่ยเชียนรักเวินอวี่โหรวมากขนาดนั้น เขาจะไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รักได้ยังไงกัน..…”
……
เสียงซุบซิบเหล่านั้น ทุกคำพูดเหมือนเป็นหนามแหลม ๆ ที่แทงทะลุเข้าไปในหัวใจของซูเชียนฉืออย่างแรง
เธอหลับตาลงอย่างขมขื่นและพูดขึ้นว่า “เสียงดังมากเลยค่ะ”
หมอจึงเปิดประตูออกไปและด่าทอคนที่อยู่ตรงทางเดิน
เวลานี้โลกทั้งใบได้เงียบสงบลงแล้ว
เมื่อแพทย์กลับมาอีกครั้ง ซูเชียนฉือก็ลืมตาขึ้นและพูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่ต้องดมยาสลบหรอกค่ะ”
เธออยากให้ตัวเองได้ซึบซับถึงความรู้สึกเจ็บปวดที่ลูกของเธอถูกดึงออกจากร่างกายของเธอไป
นี่คือกรรมที่เธอตกหลุมรักหลิงเป่ยเชียนอย่างโง่เขลามาเป็นเวลาห้าปี แล้วเธอก็สมควรได้รับมัน
การผ่าตัดใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง
ซูเชียนฉือเจ็บจนเหงื่อออกท่วมตัวไปหมด เปียกจนร่างกายของเธอเหมือนถูกดึงขึ้นมาจากน้ำอย่างไรอย่างนั้น
ความสัมพันธ์ห้าปีของเธอกับหลิงเป่ยเชียนค่อย ๆ จางหายไปพร้อมกับเด็กคนนี้ที่ถูกดึงออกไปจากร่างกายของเธอ
ตอนที่เธอกำลังกุมท้องเอามือยันกำแพงไว้และเดินโซซัดโซเซออกจากห้องผ่าตัด สิ่งที่เธอได้พบเจอก็คือ แววตาที่โกรธแค้นของหลิงเป่ยเชียน
เขารีบเดินปรี่เข้ามาจับไหล่ของเธอไว้แน่น ใบหน้าที่หล่อเหลาองเขาบิดเบี้ยวเพราะความโมโห “ซูเชียนฉือ! คุณมีสิทธิ์อะไรตัดสินใจทำแท้งลูกของผมโดยพลการแบบนี้?”
ซูเชียนฉือเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง ภายใต้เหงื่อที่ติดอยู่บนขนตา เธอมองเห็นหญิงสาวสวมกระโปรงสีขาวที่ยืนห่างออกไปไม่เกินห้าเมตรที่ด้านหลังของหลิงเป่ยเฉียนแบบเลือนลาง
ผู้หญิงคนนี้คือเวินอวี่โหรวนั่นเอง
ซูเชียนฉือกระตุกมุมปากขึ้น เผยรอยยิ้มเย้ยหยันตัวเองออกมาและพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าการทำแท้งเด็กคนนี้จะเป็นสิ่งถูกต้องแล้วล่ะ”
แม้แต่มาคิดบัญชีกับเธอในตอนที่เธอทำแท้ง หลิงเป่ยเชียนก็ยังจะพาเวินอวี่โหรวมาด้วย เพื่อจะให้เวินอวี่โหรวได้เห็นกับตาว่าสภาพของเธอดูน่าสมเพชแค่ไหนสินะ
เขาไม่เคยคิดถึงเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
แล้วเธอยังจะมีอะไรให้ต้องอาลัยอาวรณ์อีกล่ะ?
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เมื่อจอมมารชินซาง ราชาปีศาจองค์ปัจจุบัน ปิดผนึกพระเนตรสีเลือดไปชั่วกาลนานเพราะผิดหวังจากความรัก จะไม่เปิดผนึกพระเนตรของพระองค์อีกต่อไป หากพระเนตรสีเลือดของพระองค์จะเปิดผนึกขึ้นมาได้อีกครั้ง นั้นหมายถึงนางคือคู่ชะตาที่ถูกเลือกให้เป็นราชินีของพระองค์ จวบจนกระทั่งเฉินวาวา สตรีในยุคอนาคตพลัดหลงเข้ามา ในสถานที่ซึ่งจอมมารหนุ่มกำลังหลับใหล เธอทำให้พระองค์เปิดพระเนตรสีเลือดขึ้นมาได้อีกครั้ง และเฉินวาวาทำให้พระองค์พลิกผืนแผ่นดินไปทั่วทุกแคว้นตามหาโฉมงาม เพื่อครองคู่ตราบสิ้นภพสิ้นชาติไปด้วยกัน