ชีวิตเด็กขี้เกียจแสนธรรมดาของ "น้ำฝน" จบลงทันทีที่ตื่นขึ้นมาในร่าง "ลิล" ตัวร้ายสุดแซ่บ หล่อ รวย เพอร์เฟกต์ แถมดาบยังเทพเรื่องการใช้ดาบ! แต่... ใครบอกว่าผมต้องใช้ดาบ! ภารกิจด่วนคือขายดาบทิ้งไปไกลๆ แล้วหนีไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ แต่ไหง หมอนั่น พระเอกปีศาจต้องสาปสุดหล่อถึงตามติดผมแจ แถมสายตาดุดันยังดูหิวกระหาย... อย่าบอกนะว่าจะ... กินตับ! ม่ายยยยย
เฮ้ยๆ อัญชลี วันทา อภิวาท ถุย!
อย่าเอาดาบมาชี้หน้ากันแบบนั้นสิ!!
แล้วคิ้วน่ะ เป็นอะไร เส้นกระตุกเหรอ ทำหน้าอย่างกับผมไปเผาบ้านเขาอย่างนั้นแหละ
ผมแค่เป็นนักดาบเองนะ
แถมเป็นนักดาบที่ใช้ดาบไม่เป็นด้วยจะบอกให้!! ฆ่าไปก็ตายฟรี...
ฉายานักดาบอันดับหนึ่ง อืม เส็งเคร็ง...อย่าเอามาปาใส่หน้ากันได้ไหม แก้มนุ่มๆอ้วนๆสองข้างเหมือนโรตีนุ่มฟูของผมไม่ได้ปั้นมาให้ไปแปะบนประกาศเสี่ยงตายหรอกนะ
ซวย ซวย ซวยสุดๆ
‘น้ำฝน’ ชื่ออันแสนชุ่มฉ่ำ แต่ชีวิตแสนเฉอะแฉะ น้ำฝนบ้าบออะไร น้ำกรดสิไม่ว่า ร่างกายกำยำสมชาย (ไรท์:นางคิดไปเอง) ที่ตายคากองหนังสือไปแล้ว ทำไมยังต้องมาตรากตรำในโลกนี้อีกด้วยหา!
ตัวร้ายที่เป็นถึงตระกูลขุนนาง หล่อ รวย และมีฝีดาบเป็นเลิศ เออ มันก็ดี แต่ ...นี่มันบ้าบอคอหอยพอกอะไร ไม่เห็นมีสกิลของร่างนี้ติดมาสักนิด
เมืองฟาริคท้องฟ้าแดงแจ๋น่ากลัวจากคำสาปเหนือหัว เยี่ยม! ช่างเป็นการต้อนรับชีวิตใหม่ที่ไฉไลมาก
“น่าฆ่าให้ตายจริงๆ” สายตาแกร่งปรายมองอย่างปรามาส “เจ้ามันไร้ยังอายที่สุด”
ไอแดดร้อนๆนี่ก็น่าหงุดหงิดจนผมรู้สึกว่าตัวเองจะเพี้ยนหน่อยๆแล้วนะ แต่ไอ้เจ้าตัวปาดผมสีดำประกายขึ้นไปแรงๆนั่น ดันใส่ชุดชุดคลุมหนาเตอะข้างในคงไหลเป็นน้ำ
เฮ้อ...คนดีๆที่ไหนใส่ชุดรุ่มร่ามหนาๆแบบนั้นมายืนท้าแดดรังควานชาวบ้านเขาแบบนี้ กางเกงยีนสังตัดพิเศษที่ผมใส่กับเสื้อขาวแขนยาวแผงคอลูกไม้นี่ยังแทบทนไว้ไหว
น่ารำคาญชะมัด
ดาบใหญ่วาววับคมกริบปลายดาบเล็งสู่เจ้าของ สองขาศัตรูย่างสามขุมลดระยะห่างแบบไม่เกรงกลัว เจ้าของร่างนี้เป็นถึงตัวร้ายแห่งยุคที่ไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใด มีคุณสมบัติที่เรียกว่าความโหดเหี้ยมอัมหิตอยู่อย่างเต็มเปี่ยม!
หัวทื่อๆนั่นคงตายไปหลายสิบครั้ง แต่ผมไม่ใช่!
“แล้วยังไง” เท้าเอวถาม ตีหน้านิ่งสุดๆ
“มาสู้กับข้า! ฮ่าๆ หรือว่าเจ้ากลัวแพ้ข้า ถึงขนาดเอาดาบศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไปจำนำเลยงั้นหรอ”
นัยตาดูหมิ่นแฝงความร้ายกาจ มือกระชับดาบอย่างเตรียมใจ ออร่าข่มขวัญแผ่ออกมาราวประกาศสงคราม ทว่า...
สมองเจ้าบ้านี่ทำจากเมล็ดถั่ว!
คนบ้าที่ไหนจะกลัวแพ้ทั้งที่เป็นถึงยอดฝีมือ คิดเอาเป็นตุตะว่าคนอื่นเขากลัวแพ้ตัวเองจนต้องเอาดาบไปขายเนี่ย น่าเหนื่อยใจแทนตัวร้ายในนิยายตัวจริงแท้ๆ
ดาบนั่นพอผมเข้าร่างนี่มาก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ใช้หั่นผักยังสู้มีดอีโต้ธรรมดาไม่ได้ด้วยซ้ำ ถึงจะรู้ว่าเป็นดาบชั้นดี...
แล้วไง จะว่าเพี้ยนก็ตามใจ ของอันตรายที่จะนำพาแต่เรื่องซวยๆน่ะ เชิญไปห่างๆไกลๆเลย
‘คำสาปของจักรวรรดิที่สาปสูญ’ นิยายวายอีโรติกที่ผมตรวจมันจนตาย แม่บังเกิดเกล้าผู้บ้างานราวกับจะกินมันเข้าไปเป็นคนแต่ง เรื่องราวสุดวิปริตของพระนายชายชายที่พบรักกัน ท่ามกลางกองเลือดของขุนนางและพระราชาผู้เป็นพ่อแท้ๆของพระเอก
โลกที่กษัตริย์กับขุนนางคานอำนาจระหว่างกันแท้ๆ พ่อสั่งฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อ ความประสาทแดกที่สยบได้ด้วยความรักของตัวละครที่โผล่มาในช่วงน่าซิ่วหน้าขวาน
ช่างเป็นนิยายที่...ไม่เมคเซ้นส์สุดๆ
แปะ!
“เฮ้ย คุณชายคาลิล เจ้ากล้าเมินข้างั้นหรอ!”
ไหล่กระแทกหน่อยๆเพราะแรงตีอย่างสนิทชิดเชื้อ ก่อนไอ้คนตีมันจะเด้งกลับไปอยู่ที่เดิมเมื่อผมตวัดตามองครั้งเดียว
แล้วจะทำกร่างเพื่อ...
เด็กหนอเด็ก!
ปัก!
“คาลิล จิม เจ้านักดาบอันดับหนึ่ง ข้า กาวิน คาร์โล บุตรชายคนเดียวในตระกูลกาวินแห่งหัวหน้าอัศวินขอท้าประลองดาบกับเจ้า!”
ดาบที่เคยอ่านในต้นฉบับนิยายถูกโยนใส่มือ เด็กเก็บดาบชี้หน้าประกาศกร้าวราวราชสีห์แผ่อำนาจ ผมมองอาวุธประจำกาย(ตัวร้าย)ที่เงาวับในมือสลับกับเด็กน้อยที่ชักดาบตัวเองออกมาตั้งท่าโจมตี
เก็บดาบมาให้ไม่พอ อุตส่าห์ขัดถูให้อีกนะ
ช่างซื่อสัตย์จริงๆ
ในนิยาย เจ้าหมอนี่กากสุดๆแบบกู่ไม่กลับ ถ้านับคะแนนก็คือกินไข่ตลอด เรียกว่ารบร้อยครั้งแพ้ร้อยครั้ง
ใจสู้กล้ามาท้ากัน แต่ยืนขาสั่นอยู่ไม่ใช่เหรอ!
ผมโยนดาบทิ้งที่พื้นไม่แคร์สายตาใคร หมุนตัวกลับ
“เฮ้ย อย่าเมินข้านะ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นบุตรตระกูลที่ปรึกษาพระราชาแล้วจะเก่งกว่าข้าหรอ” เดินตามหลังต้อยๆ นึกว่าลูกเจี้ยบ
“ทำไมล่ะ ข้าก็ไปไถ่ดาบที่จำนำมาคืนเจ้าแล้วไง เจ้าก็ควรจะประลองกับข้าสิ” เสียงประตูรั้วปิดลงพร้อมแผ่นหลังอีกฝ่ายที่เดินกลับเข้าคฤหาสน์ไป น้ำเสียงเบาๆเอ่ยอย่างเศร้าโศก “ข้าไม่ได้เรื่องหรือ”
.....
ซ่า ซ่า
สายน้ำอุ่นๆขับความร้อนในร่างได้ดีนัก แช่น้ำสักพักสมองก็โลดแล่น เดิมทีผมไม่ใช่คนที่ชอบคิดโน่นนี่ แต่ร่างนี้ลากอะไรต่อมิอะไรมาให้คิดตลอด จริงๆก็รู้สึกว่าตัวเองโครตแปลก แต่ถ้าไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงอะไรก็ไม่อยากใส่ใจไปเสียทุกเรื่อง
“เฮ้อ นี่ก็หลายปีแล้วที่มาอยู่ที่นี่ ช่วยแม่ตรวจอักษรในนิยายอยู่ดีๆ ไม่ทันรู้ตัวก็กลายมาเป็นตัวร้ายซะเอง ชีวิตอันสั้นที่ต้องโดนพระเอกฆ่าตาย จะหลบซ้ายหลบขวาอย่างไร”
“จะว่าไปพระเอกนิยายเรื่องนี้ชื่ออะไรนะ จำไม่ได้ แต่เหมือนว่าจะเป็นเจ้าชายต้องสาปที่ทำให้ท้องฟ้าทั้งใบเหนือเมืองนี้ถูกย้อมด้วยสีเลือดใช่ไหมนะ เฮ้อ... ถึงจะน่าสงสัยเพราะเขาโดนพระราชาที่เป็นพ่อของตัวเองสั่งฆ่า แต่จะมาล่าหัวเหล่าตระกูลขุนนางทั้งหมดในอาณาจักร ก็ยังไม่น่าเห็นด้วยอยู่ดี ช่างเถอะ ถ้านายเอกโผล่มาล้างแค้นในใจพระเอกได้ ผมขอแค่ตอนนั้นตระกูลผมยังไม่ตายก็พอ”
แต่ว่า...
“โอ๊ยยิ่งคิดยิ่งเครียด” ยีหัวตัวเองแรงๆ “ตระกูลคาลิลนี่ดันเป็นที่ปรึกษาราชวงศ์เสียด้วยไง ลูกชายตัวร้ายก็ดันเก่งดาบเสียจนไปเข้าตาพระเอกจึงต้องถูกล้างบางตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำยังไงดีๆๆๆๆ”
…..
“มาอีกแล้ว นี่มันกี่วันแล้ว ไม่รู้จะมาทำไมทุกวัน” ยืนมองบางคนจากริมหน้าต่าง “อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะไม่สวมบทตัวร้าย แต่หมอนี่มันน่ารำคาญจริงๆ”
คำว่าเข็ดหลาบ เห็นทีคงต้องสอนให้รู้จักบ้างแล้ว
…..
แอ๊ด
ประตูรั้วออกเปิดออกเบาๆ สองขาก้าวอย่างมั่นคงไปหาคนที่ชอบทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“ส่งดาบมา อย่าลีลา จำไว้ด้วยว่า จะไม่มีการประลองครั้งหน้าอีก”
“เจ้าคงมั่นใจในตัวเองมากใช่ไหม ใช่…ข้าอาจจะแพ้เจ้ามาตลอด แต่วันนี้ข้าจะโค่นเจ้าให้ได้ ฮ่าๆ”
อีกฝ่ายยกยิ้มร้ายโยนดาบคู่ใจมาให้ผม ก่อนจะชักดาบคาดเอวของตัวเองออกมาด้วยท่าทางสนุกสนานราวกับกำลังฉลองชัยชนะที่จะมาถึง ร่างสง่ากำลังยินดีและสั่นกลัวพร้อมกัน
คนที่ต้องกลัวคือทางนี้ไม่ใช่หรือไง แค่จับดาบให้เป็นยังทำไมได้แท้ๆ หมอนี่ดูไม่ออกได้อย่างไรเนี่ย
งี่เง่า
เช้ง!
ปึก!
ร่างถลาพุ่งเข้ามาหา ดาบทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างแรงจนคนต้านกำลังปวดข้อมือ ตาคมฉายชัดจ้องมาเพื่อท้าทายโทษะ สุดท้าย...
“ข้าแพ้แล้ว” อีกฝ่ายชนะตามปรารถนา
“อะไรกัน ทำไม” เจ้าตัว...มองดาบในมือตัวเองอึ้งๆ
“ฝากเจ้าเก็บดาบข้าที่พื้นไปจำนำด้วยนะ”
เฮ้อ...ดาบหลุดได้จังหวะมาก
โล่งอกไปที ที่ผมไม่ได้บาดเจ็บ
…..
วันรุ่งขึ้น
ก๊อกๆ
สาวใช้ชุดเมดหน้าตาสะสวยเปิดประตูด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม สายตาสองคู่ประสานมาทางนี้ทันที ห้องนั่งเล่นตกแต่งเว่อร์วังตามสไตล์นิยายไร้สาระของแม่ ผนังและเฟอร์นิเจอร์ต่างพากันคุมโทนสีฟ้า ฟ้าแบบ ฟ้าาาาาาา!!!!
ณ จังงังไปเลย
“ข้ามาแล้วครับ ท่านพ่อ ท่านแม่”
สาม สอง หนึ่ง เป้ง!!
“จิม ลูก...”
นั่นไง หย่อนก้นกลมๆนั่งไม่ทันไร สองสามีภรรยาคู่นี้ ดูภายน้อยภูมิฐานสมกับที่เป็นขุนนางใหญ่ ทว่า...สรรหาอะไรมาพูดนักหนา ประเด็นหนึ่งบรรทัดทำไมมันยาวเป็นชั่วโมงแบบนี้
สุดท้าย ก็ได้แต่นั่งจิบชารับชะตากรรมวนไป
.
.
.
สองชั่วโมงผ่านไป
จบเสียที
“ไม่ใช่ว่าพ่อกับแม่ไม่รักลูก พ่อกับแม่อยากให้ลูกเข้าใจ…”
“สรุปคือให้ข้าไปเอาดาบกลับมาสินะครับ”
อ่ะ ไม่ต้องมาทำอ้ำอึ้งงึกงักกันเลย
ไม่รู้ป่านนี้ กลายเป็นเหล็กตีหม้อไปแล้วมั้ง อย่างไรหมอนั่นก็ชนะสมใจแล้ว จะให้ถนอมของนั่นดูจะบ้าไปหน่อย
เอาเถอะ ถ้าตีเป็นหม้อก็ซื้อหม้อกลับมาแล้วกัน ท่านพ่อกับท่านแม่คงได้ตะลึงหงายหลังตกเก้าอี้แน่
จะว่าไป ตลาดน่ะ...มันเป็นสถานที่อันตรายสุดๆเลยไม่ใช่หรือ!
…..
สุดท้าย...
โรงเตี๊ยมรับจำนำแห่งเดียวในเมืองที่ไม่รู้ว่าตัวเองมากี่รอบแล้ว แต่คงพอๆกับคนบ้าตระกูลกาวินนั้น ความสัมพันธ์แบบคนหนึ่งจำนำคนหนึ่งไถ่วนเวียนไปไม่จบไม่สิ้น
ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะกลับตะละปัตร
“เฮ้อ แค่มีดหั่นผักยังใช้ไม่เป็น จะให้ใช้ดาบเนี่ยนะ ถ้าพ่อแม่รู้เรื่องนี้จะอยากให้มาเอามันกลับไปอยู่ไหม ช่างเถอะ ดูจากการเลี้ยงลูกก็พอรู้แล้วว่าทำไมตัวร้ายถึงเอาแต่ใจ”
ไอ้น้ำฝนเอ๊ย เกิดเป็นอะไรไม่เกิด ดันเกิดเป็นตัวร้ายที่ใช้ดาบ
หลังถอนหายใจปลงๆผมก็กลั้นใจเดินเข้าไปได้
หญิงสาวตัวปุ๊กปิ๊กกระทัดรัดประจำการอยู่ที่โต๊ะต้อนรับด้านในสุด
“สวัสดีค่ะคุณชาย”
“ข้าขอรับดาบที่เพิ่งมาจำนำวันนี้”
“วันนี้ไม่มีดาบเข้ามาเลยค่ะ ขออภัยด้วยนะคะคุณชาย”
จะเป็นไปได้อย่างไร?
คว้าน้ำเหลว? ต้องไปตามหาตัวเด็กนั่นซะแล้วสิ
ผมทำหน้าเนือยสุดๆเป็นครั้งแรกในชีวิต สองขาก้าวร่อแร่หมดแรงออกมา
ตุบ! ผั่วะ!
เสียงประหลาดออกมาจากตรอกเล็กๆข้างๆร้านคาเฟ่หนุ่มน้อย
“เฮ้ย ไอ้กระจอก แกเป็นเบ๊ไอ้นักดาบอันดับหนึ่ง ไม่ใช่หรอ สู้หน่อยสิเว้ย”
“เบ๊นักดาบอันดับหนึ่ง?”
ตรอกแคบๆ มืดๆ ชื้นแฉะที่แม้แต่หนูจี๊ดๆก็คงไม่วิ่งผ่าน มีกลุ่มชายฉกรรจ์กล้ามปูทำตัวกร่างกระทืบใครบางคนที่นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ที่พื้น มืดเกินเลยไม่เห็นว่าคนที่โดนทำร้ายเป็นใคร
ตุบ! ผลั่ก!
“สู้หน่อยสิวะ แบบนี้มันจะไปสนุกอะไรวะ”
เสียงเจ็บปวดและส่งเสียงกรีดร้องไม่หยุด แต่ก็ไม่มีทีท่าจะโต้กลับหรือขยับตัว
หรือจะขยับไม่ได้! แขนขาหักไปแล้ว!
…..
“พี่ชายครับ”
เชิ้บๆ เชิ้บๆ
“พี่ชายไม่อยากมาเล่นกับข้าหรือ”
อยากตาย
สะโพกอวบๆใต้ผ้าวับๆแวมๆโยกไปมาซ้ายทีขวาที ผ้าปิดหน้าจากร้านคาเฟ่หนุ่มน้อยข้างๆช่างยัดเยียดบทบาทน่าฆ่าตัวตายมาให้ผม แม้ฟันบนล่างจะกัดกันแน่นแต่น้ำเสียงเล็กๆจะการบีบหลอดลมก็ดูออดอ้อนสมที
อยากเอายาอมยัดใส่ปากตัวเองเลย จบงานนี้ผมจะเผาเศษผ้าพวกนี้ทิ้ง!
คาร์โล!
เสียแรงเปล่าจริงๆ เด็กนี่...คนที่โดนซ้อมเป็นเด็กนี่หรือ
“ถ้าข้ามีดาบอยู่ในมือล่ะก็…ฮ่าๆ คนเก่งอย่างข้าไม่มีวันอยู่ในสภาพนี้แน่”
ไม่ใช่แล้ว! หมอนี่มันอยากตายใช่ไหม ไอ้ที่อยู่ในมือนั่นมันก็ดาบไม่ใช่หรือไง
“น้องชาย เจ้าหนีไปจากตรงนี้ซะ! ฮ่าๆ วันหลังตอบแทนข้าด้วยล่ะ”
ช่างเถอะ
รักษาตาที่บวมปูดของตัวเองก่อนไหม ขนาดเลือดแดงสดกลบปากจนหยดลงพื้นเป็นวงขนาดนั้น แต่ก็ยังกอดห่อดาบของคนอื่นไว้แน่น
ดาบมันมีไว้ฟัน...ดึงออกมาสิเว้ย จะกอดเป็นหมอนข้างเพื่อ!
ความหยิ่งที่ดูโง่ของหมอนี้ ดูๆไปก็น่าช่วยอยู่หน่อยๆ
โบราณว่าเล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสาก สากตีหัว แต่ถ้าเล่นไปขโมยสากต่อหน้าหมา ผมอาจจะโดนหมากัดทั้งปากกัดทั้งหัวก็ได้!
ผมก็ฉวยจังหวะนั้น ฉุดมือคาร์โลเผ่นแนบ
วิ่ง!
…..
ถนนใหญ่ผู้คนเดินสวนกันไปมาทำให้ฝ่าได้ยาก ด้วยร้านค้าและบ้านคนส่งเสียงเจี้อยแจ้วครึกครื้นและกลิ่นหอมหวนชวนหิวมาตลอดทาง แต่ที่เรียกว่าตัวฉิบหายคือ แสงไฟสองข้างทางที่คอยแต่จะเผยตำแหน่งของผมนี่แหละ
“บ้าเอ๊ย!” ไม่ไหวแล้ว วิ่งต่อไปไม่รอดแน่ สองขาอ่อนแรงเต็มทีแล้ว “แยกกันเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว”
“ฮ่าๆ แฮ่กๆ ล้อเล่นใช่ไหม คนอย่างข้าจะทิ้ง…” เอามืออุดปาก
“แข่งกัน! ใครไปถึงบ้านเจ้าก่อนชนะ”
“ฮ่าๆ น้องชาย ที่แท้เจ้าอยากเห็นความเก่งกาจของข้าสินะ แล้วเจ้าจะเสียใจที่ท้าแข่งข้า เจอกันไอ้หนุ่มน้อย”
มือหนาตบบ่าผมสองสามทีก่อนจะวิ่งสี่คูณร้อยนำหน้าไป
เดี๋ยวนะ...
น้องชาย? หนุ่มน้อย? อย่าบอกนะว่าหมอนั่นจำกันไม่ได้
“พวกเจ้าหาเจอไหมวะ ไปหาทางโน้น” เสียงนักเลงที่คุ้นเคยดังแว่วมาจากด้านหลังไม่ไกล “เฮ้ย มันอยู่นั่น!”
นี่นักเลงหรือนักวิ่งโอลิมปิก โลกนี้มันไม่มีตำรวจเลยหรือไง!
วิ่ง…
ปึก กึกๆ
“แย่แล้ว!”
ผมพยายามวิ่งเข้าบ้านคนที่อยู่ใกล้ๆแต่ประตูดันล็อกหมด
นิยายเรื่อง ‘คำสาปของจักรวรรดิที่สาบสูญ’ คาลิล จิม ลูกชายคนเดียวของตระกูลกาวิน ตระกูลขุนนาง ที่ปรึกษาพระราชามาตั้งแต่รุ่นทวด นักดาบอันดับหนึ่งที่ถือดาบไล่ฆ่าพระเอกเพื่อเกียรติยศจนสุดท้ายต้องถูกพระเอกฆ่าตาย นี่ชีวิตตัวร้ายมันยังน้ำเน่าไม่พอใช่ไหมถึงต้องเพิ่มพล็อตโดนนักเลงตามรุมกระทืบด้วย!
แกร๊ก!
“กลอนประตูเสียหรือ? ช่างมัน เข้าไปหลบก่อน ไม่มีเวลาแล้ว”
ในที่สุดก็เจอบ้านที่สามารถเข้าไปหลบได้เสียที
ฟิ้ว~
“แค่กๆ รู้สึกเหมือนจะสำลักฝุ่นตายเลย ที่นี่มันอะไรกันเนี่ย”
“ออกไป” และเขากำลังมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างผม
“ข้าหนีเจ้าหนี้มา ขอหลบครู่เดียวเท่านั้น”
ฝุ่นในอากาศที่ฟุ้งกระจายจนต้องยกมือปัดป้องไม่ไหว บ้านโทรมๆเน่าๆว่างเปล่า ผนังกับเตาผิงก็เหมือนจะทรุดโทรมราวกับร้างมาร้อยปี เสียงทุ้มต่ำดังมาจากชายหนุ่มคนที่นั่งเก้าอี้โยกอยู่ในมุมมืดฝั่งตรงข้ามที่หันมาทางนี้พอดี
คนอะไรเหมือนผีชะมัด
ฟึ่บ!
“แค่กๆๆ ทำบ้าอะไร”
วิธีไล่แขกแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน! ผมโกรธจนตัวสั่นเหวใส่คนที่สะบัดเสื้อคลุมดำ พัดฝุ่นหนาเตอะใส่ผมอย่างจงใจ สองขาเดินเข้าไปหาคนตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง
พอเดินเข้ามาใกล้ประมาณหนึ่ง รูปร่างลักษณะของคนตรงหน้าก็ชัดเจนขึ้น เขามีหุ่นที่เรียกได้ว่าน่าอิจฉา มือที่โผล่พ้นขอบเสื้อผิวสีขาวราวกับแสดงตัว
กึก!
“ไม่หรอกมั้ง”
ความโกรธที่มีมลายสิ้น เครื่องแต่งกายนั้นทำให้ขาผมหยุดชะงัก ไม่กล้าเดินต่อ ในใจภาวนาพุทโธ ผิดคาด ธรรมโม ผิดคาด สังโฆ ผิดคาด วนไป
ชุดคลุมยาวสีดำ เข็มกลัดเงินรูปดอกไฮเดรนเยียตรงตำแหน่งหัวใจ!
ตึกตัก ตึกตัก
“บ้าเอ๊ย ขามันไม่ยอมถอยกลับ”
“หนุ่มน้อย มาขายบริการสินะครับ”
ขายพ่อ* ขายแม่*สิ
เสียงเย็นๆเอ่ยออกมาชวนให้ขนลุกซู่ สายตาร้ายกาจที่รู้ได้แม้มองไม่เห็น ไอเย็นที่แผ่ออกมารอบตัวเขา ราวกับจะฉีกทึ้งร่างทั้งร่างออกไป
......
“ฮวาหลวน ลูกต้องช่วยงานเย็บปักของตระกูล” “ไม่มีทางหรอกแม่”ของมีคมสำหรับผม มันคือไวอากร้าน่ะสิ!แต่ใครจะไปคิดว่า…“ขนาดเกิดใหม่ ยังโดนสั่งให้เย็บผ้าอีก!”“ไม่ทำ ตัดนิ้ว” แม่ทัพใหญ่แม้จะทำเสียงดุ
ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ
เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*
เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂
เมื่อคู่แห่งโชคชะตา4ขวบ อัลฟ่าพัมธุ์แท้คนสุดท้าย ผู้เพรียบพร้อมด้วยเงินและอำนาจ วันหนึ่งลูกน้องก็พังประตูเข้ามาบอกว่า เจอคู่โชคชะตาเขาแล้ว ทว่า จะป้ำลูกยังไง ก็เนื้อคู่เขาใส่ชุดอนุบาลหมีน้อยกอดตุ๊กตา
อาหลีพยายามหาหลัวในฝันผ่านตู้ปลากัด ใครที่เดินผ่านปลากัดแล้วจ้องตาเขาตอน9โมงตรงคนนั้นคือ เนื้อคู่ ...เจ้าของร้านเอือมจนขี้เกียจไล่ มาบ่อยแค่ไหนถามใจเธอดู แต่โชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อเนื้อคู่ไม่ชอบป้าบ!
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"