ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...
ณ เป่ยโจว กรุ๊ป
หลูเฉียนหนิงลงมาจากเตียง เก็บเสื้อเชิ้ตและกระโปรงสั้นขึ้นมาจากพื้น แล้วสวมใส่ทีละชิ้น
จากนั้น เธอก็หันหน้ากลับไปยิ้มอย่างมืออาชีพ “คุณโจว ฉันขอตัวออกไปทำงานก่อนนะคะ”
ดวงตาเรียวยาวของโจวเป่ยจิ้งหรี่ลงเล็กน้อย สายตาจับจ้องไปยังใบหน้างามละเมียดละไมของเธอ
ระหว่างพูดสองมือขาวนวลรวบผมยาว ๆ สีดำขลับมัดไว้ด้านหลังอย่างคล่องแคล่ว ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ทรงผมที่เซ็กซี่น่าหลงใหลก็แปรเปลี่ยนเป็นทรงผมเรียบ ๆ อย่างสาวทำงานตามแบบฉบับทั้วไป
ทว่าระหว่างดวงตาและคิ้วตลอดทั้งใบหูที่แดงระเรื่อยังคงเสน่ห์ที่น่าสัมผัส
ตอนนี้เธอดูเหินหาง และเกรงใจ ราวกับว่าคนที่อยู่บนเตียงทำกิจกรรมที่ใกล้ชิดกันเมื่อสักครู่จะไม่ใช่เธออย่างไรอย่างนั้น
แต่มันก็ถูก ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนมีอยู่ก็เฉพาะแต่ในห้องพักผ่อนห้องนี้ หลังจากออกจากประตูบานนี้ไป เธอก็จะเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษของเขาเท่านั้น
และเพราะว่าเธอรู้งาน และรู้จักขอบเขต ถึงสามารถอยู่เคียงข้างกายของเขามาได้นานขนาดนี้
“ฮวาหยุนหรานกลับมาแล้ว”
หลูเฉียนหนิงเดินมาตรงประตูห้องพักผ่อน มือเพิ่งจะสัมผัสโดนที่จับประตู ก็ได้เสียงอันไพเราะชัดแจ๋วของฝ่ายชายลอยมา
แผ่นหลังของเธอแข็งชะงัก ใบหน้าที่แดงระเรื่อจางหายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว แม้แต่ลมหายใจก็หยุดลงชั่วขณะ
แต่ไม่นานเธอก็จัดการกับสภาพจิตใจของตัวเอง หันตัวไป ยังคงยิ้มออกมาโดยไม่มีความเศร้าหรือต่อต้านใด ๆ
“คุณโจว ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปฉันจะไม่เหยียบเข้าประตูบานนี้มาอีก”
ในที่สุดรักแรกที่เขารอคอยมาอย่างยากลำบากตลอดหกปีก็กลับมาแล้ว เธอก็เป็นแค่เครื่องมือที่เขาเอาไว้คลายความต้องการทางร่างกายก็เท่านั้น
แม้ว่าตลอดเวลาสองปีมานี้ เขาได้ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเธอ เป็นแรงผลักดันในทุก ๆ ด้านให้กับเธอ
แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาเป็นของเธอได้แค่ตอนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น
โจวเป่ยจิ้งเปิดผ้าห่มออกลงมาจากเตียง หยิบกางเกงจากพื้นขึ้นมาสวมใส่ด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าต่อหน้าของเธออย่างไม่แยแสสนใจอะไรเลยสักนิด
เขาหยิบกางเกงสูทที่สั่งตัดพิเศษขึ้นมา แล้วยัดขาที่เรียวยาวสวมเข้าไป
“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับคุณ?” เขาหัวเราะเบา ๆ เก็บเสื้อเชิ้ตขึ้นมายื่นให้เธอ เธอรับไปสวมให้กับเขาอย่างรู้งาน
จากนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ติดกระดุมทีละเม็ด เสียงของผู้ชายที่อยู่เหนือหัวดังขึ้นมา
“ไปร่างข้อตกลงการหย่ามาฉบับนึง”
การกระทำของหลูเฉียนหนิงหยุดชะงักลง เงยหน้าขึ้นมองกรามที่รับกับรูปหน้า และริมฝีปากที่เรียวบางได้รูปของเขา
“ทำให้เด็กสาวคนนั้นเสียเวลามาแล้วหกปี ถึงเวลาที่จะยุติเรื่องราวแล้ว”
นิ้วมือของเขาเก็บเนกไทขึ้นมา ยื่นไปตรงหน้าของเธอที่ชะงักไป “คุณคิดว่าไง?”
หลูเฉียนหนิงรับเนกไทมา ไม่ได้พูดอะไรสักประโยค
ตอนที่เธอมาสัมภาษณ์งานที่เป่ยโจว กรุ๊ปเมื่อสามปีก่อน ไม่คิดเลยว่าท่านประธานของที่นี่จะเป็นโจวเป่ยจิ้ง สามีที่เธอแต่งงานมาด้วยสามปี เจอหน้ากันครั้งหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ โจวเป่ยจิ้งนั้นจำเธอไม่ได้แล้ว เนื่องจากเมื่อหกปีก่อนเธอเพิ่งจะเรียนจบ เป็นเด็กสาวรากหญ้าที่ยากจน
หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวในสังคมทำงานมาสามปี ก็กลายมาเป็นผู้ช่วยมือฉมังที่มีชื่อเสียงในแวดวง
แม้แต่แม่แท้ ๆ ของเธอยังรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสามีที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแบบโจวเป่ยจิ้ง
พูดไปพูดมา... ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยพิเศษ หรือภรรยาของโจวเป่ยจิ้ง ต่างก็ต้องหลีกทางให้กับฮวาหยุนหรานที่กำลังจะกลับมา
สถานภาพทั้งสองนี้ ไม่สามารถสู้กับรักแรกของคนเขาได้เลย
จู่ ๆ เธอก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มที่มุมปากมันเป็นความขมขื่นที่โจวเป่ยจิ้งมองไม่เข้าใจ เขาขมวดคิ้ว “คุณยิ้มอะไร”
เธอช่วยจัดระเบียบเนกไทให้กับเขา จากนั้นก็เขย่งปลายเท้าไปช่วยจัดระเบียบปกเสื้อให้กับเขา
“รู้สึกดีใจแทนคุณโจวค่ะ ในที่สุดคนภายในใจก็กำลังจะกลับมาสักที”
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ถอยห่างไปสองก้าว พยักหน้าเล็กน้อย “ฉันจะไปร่างหนังสือข้อตกลงการหย่าร้างให้กับคุณเดี๋ยวนี้ค่ะ”
โจวเป่ยจิ้งขมวดคิ้วจ้องมองเธอ เกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก “หลูเฉียนหนิง คุณนี่มันโปรเฟสชั่นแนลจริง ๆ”
ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยพิเศษ หรือว่าเป็นคู่นอนบนเตียง สติสัมปชัญญะของเธอก็ทำให้เขาเกิดความสงสัยต่อเสน่ห์ของตัวเองขึ้นมา
หลูเฉียนหนิงแค่ยิ้ม ไม่ได้คิดคำพูดของเขาอย่างละเอียด “ขอบคุณคุณโจวสำหรับคำชมค่ะ”
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน