ตอนนี้เธอดูเหินหาง และเกรงใจ ราวกับว่าคนที่อยู่บนเตียงทำกิจกรรมที่ใกล้ชิดกันเมื่อสักครู่จะไม่ใช่เธออย่างไรอย่างนั้น
แต่มันก็ถูก ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนมีอยู่ก็เฉพาะแต่ในห้องพักผ่อนห้องนี้ หลังจากออกจากประตูบานนี้ไป เธอก็จะเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษของเขาเท่านั้น
และเพราะว่าเธอรู้งาน และรู้จักขอบเขต ถึงสามารถอยู่เคียงข้างกายของเขามาได้นานขนาดนี้
“ฮวาหยุนหรานกลับมาแล้ว”
หลูเฉียนหนิงเดินมาตรงประตูห้องพักผ่อน มือเพิ่งจะสัมผัสโดนที่จับประตู ก็ได้เสียงอันไพเราะชัดแจ๋วของฝ่ายชายลอยมา
แผ่นหลังของเธอแข็งชะงัก ใบหน้าที่แดงระเรื่อจางหายไปภายในเวลาอันรวดเร็ว แม้แต่ลมหายใจก็หยุดลงชั่วขณะ
แต่ไม่นานเธอก็จัดการกับสภาพจิตใจของตัวเอง หันตัวไป ยังคงยิ้มออกมาโดยไม่มีความเศร้าหรือต่อต้านใด ๆ
“คุณโจว ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปฉันจะไม่เหยียบเข้าประตูบานนี้มาอีก”
ในที่สุดรักแรกที่เขารอคอยมาอย่างยากลำบากตลอดหกปีก็กลับมาแล้ว เธอก็เป็นแค่เครื่องมือที่เขาเอาไว้คลายความต้องการทางร่างกายก็เท่านั้น
แม้ว่าตลอดเวลาสองปีมานี้ เขาได้ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเธอ เป็นแรงผลักดันในทุก ๆ ด้านให้กับเธอ
แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาเป็นของเธอได้แค่ตอนที่อยู่บนเตียงเท่านั้น
โจวเป่ยจิ้งเปิดผ้าห่มออกลงมาจากเตียง หยิบกางเกงจากพื้นขึ้นมาสวมใส่ด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าต่อหน้าของเธออย่างไม่แยแสสนใจอะไรเลยสักนิด
เขาหยิบกางเกงสูทที่สั่งตัดพิเศษขึ้นมา แล้วยัดขาที่เรียวยาวสวมเข้าไป
“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับคุณ?” เขาหัวเราะเบา ๆ เก็บเสื้อเชิ้ตขึ้นมายื่นให้เธอ เธอรับไปสวมให้กับเขาอย่างรู้งาน
จากนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา ติดกระดุมทีละเม็ด เสียงของผู้ชายที่อยู่เหนือหัวดังขึ้นมา
“ไปร่างข้อตกลงการหย่ามาฉบับนึง”
การกระทำของหลูเฉียนหนิงหยุดชะงักลง เงยหน้าขึ้นมองกรามที่รับกับรูปหน้า และริมฝีปากที่เรียวบางได้รูปของเขา
“ทำให้เด็กสาวคนนั้นเสียเวลามาแล้วหกปี ถึงเวลาที่จะยุติเรื่องราวแล้ว”
นิ้วมือของเขาเก็บเนกไทขึ้นมา ยื่นไปตรงหน้าของเธอที่ชะงักไป “คุณคิดว่าไง?”
หลูเฉียนหนิงรับเนกไทมา ไม่ได้พูดอะไรสักประโยค
ตอนที่เธอมาสัมภาษณ์งานที่เป่ยโจว กรุ๊ปเมื่อสามปีก่อน ไม่คิดเลยว่าท่านประธานของที่นี่จะเป็นโจวเป่ยจิ้ง สามีที่เธอแต่งงานมาด้วยสามปี เจอหน้ากันครั้งหนึ่ง
สิ่งที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือ โจวเป่ยจิ้งนั้นจำเธอไม่ได้แล้ว เนื่องจากเมื่อหกปีก่อนเธอเพิ่งจะเรียนจบ เป็นเด็กสาวรากหญ้าที่ยากจน
หลังจากผ่านร้อนผ่านหนาวในสังคมทำงานมาสามปี ก็กลายมาเป็นผู้ช่วยมือฉมังที่มีชื่อเสียงในแวดวง
แม้แต่แม่แท้ ๆ ของเธอยังรู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสามีที่เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแบบโจวเป่ยจิ้ง
พูดไปพูดมา... ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยพิเศษ หรือภรรยาของโจวเป่ยจิ้ง ต่างก็ต้องหลีกทางให้กับฮวาหยุนหรานที่กำลังจะกลับมา
สถานภาพทั้งสองนี้ ไม่สามารถสู้กับรักแรกของคนเขาได้เลย
จู่ ๆ เธอก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มที่มุมปากมันเป็นความขมขื่นที่โจวเป่ยจิ้งมองไม่เข้าใจ เขาขมวดคิ้ว “คุณยิ้มอะไร”
เธอช่วยจัดระเบียบเนกไทให้กับเขา จากนั้นก็เขย่งปลายเท้าไปช่วยจัดระเบียบปกเสื้อให้กับเขา
“รู้สึกดีใจแทนคุณโจวค่ะ ในที่สุดคนภายในใจก็กำลังจะกลับมาสักที”
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ถอยห่างไปสองก้าว พยักหน้าเล็กน้อย “ฉันจะไปร่างหนังสือข้อตกลงการหย่าร้างให้กับคุณเดี๋ยวนี้ค่ะ”
โจวเป่ยจิ้งขมวดคิ้วจ้องมองเธอ เกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในใจอย่างบอกไม่ถูก “หลูเฉียนหนิง คุณนี่มันโปรเฟสชั่นแนลจริง ๆ”
ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยพิเศษ หรือว่าเป็นคู่นอนบนเตียง สติสัมปชัญญะของเธอก็ทำให้เขาเกิดความสงสัยต่อเสน่ห์ของตัวเองขึ้นมา
หลูเฉียนหนิงแค่ยิ้ม ไม่ได้คิดคำพูดของเขาอย่างละเอียด “ขอบคุณคุณโจวสำหรับคำชมค่ะ”