ธอ ผู้เดินทางข้ามมิติเวลามาหล่นตุ๊บ! อยู่ในยุคโบราณที่เหนือกว่าจินตนาการ และไม่ใกล้เคียงกับบันทึกประวัติศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา แม้ลมหายใจจะยังอยู่ดี แต่ร่างกายกลับบิดเบี้ยวผิดรูป เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทว่าท่ามกลางความโชคร้าย ยังคงมีเคราะห์ดีหลงเหลืออยู่บ้าง ที่บังเอิญ เขา ผู้นั้นได้ผ่านทาง และให้ความช่วยเหลือ ทั้งยังเป็นที่พึ่งเดียวที่ซูฮวามีได้ในเวลานี้ เพียงแต่ว่า.... เธอจะต้องทำสัญญาให้กับเขา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเขาผู้นั้นยังสร้างเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้นางแลกกับความเป็นอิสระ และได้กลับไปยังโลกเดิมที่นางจากมา ดูเหมือนว่าอุปสรรคของนางจะเป็นเพราะโชคชะตาขีดลิขิต ทว่าซูฮวาก็ยังคงหวังว่าจะสามารถหลบหนีไปให้จงได้... ------ เขาเป็นถึงองค์ราชาพยัคฆ์ผู้เก็บซ่อนโฉมหน้าเอาไว้ในหน้ากากทองคำล้ำค่า แต่เพราะถูกสาปให้เป็นปีศาจพยัคฆ์ จะคืนร่างมนุษย์ได้วันละ 2ชั่วยามเท่านั้น เหตุเกิดมาจากหินมรกต ที่เขาหยิบเอามาจากเผ่าปีศาจเสือโดยพละการ เมื่อครั้งที่ได้ออกไปล่าสัตว์ เพราะหินก้อนนี้ ทำให้เขาต้องคำสาป แต่เขาก็ไม่กล้าขว้างมันทิ้งเพราะกลัวว่าจะคืนร่างเดิมไม่ได้อีก ทำให้ต้องทนอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี ด้วยความเกลียดชัง ผ่านความทุกข์ทรมานมาแรมปี ... แต่แล้วคืนหนึ่งในขณะที่ร่างกำลังจะคืนสู่ฐานะเดิม ก็ได้เกิดนิมิตรประหลาด ในฝันนั้น...ปรากฏเป็นภาพของดาวหางสีสว่างประหลาด พุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้า หล่นใส่หน้าอกหนาของเขา จนทำให้ได้รับความเจ็บปวด อีกทั้งหน้ากากทองคำของเขาก็ร่วงหล่น ในภาพนิมิตเลือนรางนั้น ปรากฏเป็นเงาภาพของสตรีสวมชุดสีขาวราวกับดาวหาง ใบหน้าของนาง ทำให้เขาไม่อาจละเลย..
เธอ ผู้เดินทางข้ามมิติเวลามาหล่นตุ๊บ! อยู่ในยุคโบราณที่เหนือกว่าจินตนาการ และไม่ใกล้เคียงกับบันทึกประวัติศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา
แม้ลมหายใจจะยังอยู่ดี แต่ร่างกายกลับบิดเบี้ยวผิดรูป เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น
ทว่าท่ามกลางความโชคร้าย ยังคงมีเคราะห์ดีหลงเหลืออยู่บ้าง ที่บังเอิญ เขา ผู้นั้นได้ผ่านทาง และให้ความช่วยเหลือ ทั้งยังเป็นที่พึ่งเดียวที่ซูฮวามีได้ในเวลานี้
เพียงแต่ว่า.... เธอจะต้องทำสัญญาให้กับเขา เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งเขาผู้นั้นยังสร้างเงื่อนไขบางอย่างเพื่อให้นางแลกกับความเป็นอิสระ และได้กลับไปยังโลกเดิมที่นางจากมา
ดูเหมือนว่าอุปสรรคของนางจะเป็นเพราะโชคชะตาขีดลิขิต ทว่าซูฮวาก็ยังคงหวังว่าจะสามารถหลบหนีไปให้จงได้...
------
เขาเป็นถึงองค์ราชาพยัคฆ์ผู้เก็บซ่อนโฉมหน้าเอาไว้ในหน้ากากทองคำล้ำค่า แต่เพราะถูกสาปให้เป็นปีศาจพยัคฆ์ จะคืนร่างมนุษย์ได้วันละ 2ชั่วยามเท่านั้น
เหตุเกิดมาจากหินมรกต ที่เขาหยิบเอามาจากเผ่าปีศาจเสือโดยพละการ เมื่อครั้งที่ได้ออกไปล่าสัตว์
เพราะหินก้อนนี้ ทำให้เขาต้องคำสาป แต่เขาก็ไม่กล้าขว้างมันทิ้งเพราะกลัวว่าจะคืนร่างเดิมไม่ได้อีก
ทำให้ต้องทนอยู่กับมันมานานเป็นสิบปี ด้วยความเกลียดชัง
ผ่านความทุกข์ทรมานมาแรมปี ... แต่แล้วคืนหนึ่งในขณะที่ร่างกำลังจะคืนสู่ฐานะเดิม ก็ได้เกิดนิมิตรประหลาด
ในฝันนั้น...ปรากฏเป็นภาพของดาวหางสีแดงประหลาด พุ่งตรงลงมาจากท้องฟ้า
หล่นใส่หน้าอกหนาของเขา จนทำให้ได้รับความเจ็บปวด และหินมรกตก็แตกหักกลายเป็นเถ้าถ่านสีดำ
อีกทั้งหน้ากากทองคำของเขาก็ร่วงหล่น เพียงแต่ร่างของเขาก็ไม่ต้องทนรับความเปลี่ยนแปลงอันน่าอัปยศอดสูอีกเลย
สตรีนางนั้นสวมชุดสีขาวราวกับดาวหาง ใบหน้าของนาง ทำให้เขาไม่อาจละเลยไปได้
..........................................................................................................................................
ชื่อเรื่อง ข้าอยู่เหนือราชาพยัคฆ์
ผู้เขียน 昌 ชาง
ภาพปก สำเร็จbyrut
จัดทำเผยแพร่ครั้งแรก สิงหาคม พ.ศ. 2566
สงวนลิขสิทธิ์
สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามลอกเลียนแบบ และ/หรือ ดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของเนื้อหาในหนังสืออีเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ ในทุกๆ กรณี โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเองเป็นลายลักษณ์อักษร
เนื้อหาทั้งหมดในเล่ม
ผู้เขียนสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาลบหลู่หรือพาดพิงถึงผู้ใด และ/หาก มีถ้อยคำหรือประโยคใด ทำให้ผู้อ่านไม่พึงใจ โปรดละเว้นและเข้าใจด้วยว่า ผู้เขียนมิได้มีความตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้น
เนื้อหา ทุกบรรทัด ผู้เขียนมิได้อ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ใด และย้ำว่า แต่งเพื่อความบันเทิงเท่านั้น บางช่วงบางตอนอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลกันไปบ้าง ผู้เขียนต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี่
เช่นนั้นแล้ว ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านนะเจ้าคะ
ขอบพระคุณค่ะ (ไหว้งามๆ)
...........................................................................................................................
***สปอยส์เนื้อหาบางส่วน***
หน้ากากสีทองร่วงหลุดออกจากใบหน้าหยก ปรากฏเป็นผิวหน้าสีแดงก่ำ แม้แต่ริมฝีปากหยักได้รูป ก็เปลี่ยนเป็นสีราวกับลูกท้อสุกปลั่ง
ราวกับเกิดแรงดึงดูดบางอย่าง ให้ดวงตาของทั้งสองต้องมองสบประสานกัน
เวลานั้นทุกสิ่งคล้ายกับกำลังหยุดการเคลื่อนไหว
อันโหรวยิ้มหยัน “เจ้าคงกำลังนึกเวทนาในตัวข้า”
ซูฮวาอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่คำพูดของนางกลับไม่ดังเท่าการกระทำ ใบหน้าสวยโน้มตัวลงชิดใกล้ ประทับจุมพิตหวานล้ำนิ่งนานตรงปากนุ่มยุ่น
ดวงตาคมกล้าเบิกกว้างขึ้น ราวกับมิสามารถชิงให้ปิดตัวลงได้ทัน ความตกใจระคน ยินดี เกิดขึ้นพร้อมๆ กันจนไม่อาจแยกแยะ
เมื่อรู้สึกได้ว่าอาการคุ้มคลั่งเมื่อครู่จะอยู่ในความนิ่งสงบ ซูฮวาจึงถอนริมฝีปากอวบอิ่มของนาง ถอยออกมาเตรียมความพร้อมห่างอยู่ในระยะหนึ่ง
“ท่าน....เป็นอย่างไรบ้าง?”
“เจ้า...เหตุใดจึงกล้าทำตัวบุ่มบ่ามเช่นนี้”
“ข้าเพียงแต่จะชะ ช่วย...”
เสียงเล็กหวาน ถูกช่วงชิงคำพูดด้วยลิ้นอุ่นร้อนที่รุกรานเข้าไปตวัดรัดรึงอยู่ภายในช่องปากอุ่น
เวลานี้ซูฮวากลับเป็นฝ่ายตะลึงงันจนมือไม้สั่นเสียเอง ความรู้สึกร้อนวูบวาบเลื่อนไต่ลงมาบริเวณท้องน้อย บางอย่างไหลออกมาจากภายใน จนร่องกลางระหว่างพฤกษาสวยเต็มไปด้วยความเปียกแฉะ
เพียงแต่ว่า....จุมพิตนั้นเนิ่นนาน ราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุด ราวกับวิญญาณในร่างของนางกำลังถูกสูบออก เรียวปากอุ่นร้อนบดขยี้หมุนไปมาราวกับว่าต้องการให้ปากเล็กบางของนางละลายหายกลืนไป
*-------------------*
คำโปรย นางตัดสินใจลอบเข้ามาสำรวจความเป็นอยู่ของเฉิงจิ้งอ๋อง พิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเขาเป็นองค์ชายไร้ความสามารถ ที่มีส่วนทำให้บิดาของนางต้องถูกระเห็จออกไปว่าราชการที่ชายแดนทุรกันดารหรือไม่... เพียงแต่เมื่อนางย่างเท้าเข้ามาสู่ห้องทรงงานด้านใน สิ่งที่นางคิดว่าง่าย กลับกำลังทำให้นางต้องพบกับความยากลำบากเข้าเสียแล้ว.... .......................... "อือ....ปละ ปล่อย..." "ปล่อยให้ข้าเข้าครองครองกายเจ้า...เป็นเช่นนั้นใช่หรือไม่ ว่าที่พระชายาของข้า?"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!