หมอทำเสน่ห์ที่เป็นผู้หญิง ทั้งสาวและสวย จะสามารถทำเสน่ห์ได้จริงหรือ.. หรือมีอย่างอื่นแอบแฝง หาคำตอบได้ใน.. หมอเสน่ห์สาวฉาวรัก
ชานเมืองกรุงเทพมหานคร มีบ้านสองชั้นบนเนื้อที่กว่า 200 ตารางวา ค่อนข้างหรูหรา บ่งบอกถึงฐานะว่ามีอันจะกิน และไม่น้อยหน้าใครในละแวกนั้น
เจ้าของบ้านชื่อนางวันเพ็ญ หรือที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกหมอเพ็ญ เพราะเธอตั้งตนเป็นหมอทำเสน่ห์ ทำมาได้ 5-6 ปี จนมีฐานะดี และมีบริวารคอยดูแลรับใช้อีก 2 คน
หมอเพ็ญ อายุ 36 ปี เคยแต่งงานมาแล้ว แต่ตอนนี้หย่า เพราะผัวเธอไปมีเมียน้อย ทิ้งเธอไว้ต่อสู้ชีวิตตามลำพัง
ความที่หมอเพ็ญเป็นคนชอบดูหมอ และชอบทำเสน่ห์ เพื่อให้ผัวรักผัวหลง ทำให้เธอได้รู้ได้เห็นอะไรต่างๆมากมายเกี่ยวกับเรื่องการทำเสน่ห์ จนมีความคิดอยากเป็นหมอเสน่ห์บ้าง ทั้งๆที่เธอเองก็ผิดหวังในเรื่องความรัก
บ้านที่หมอเพ็ญอยู่ทุกวันนี้ ผัวเธอยกให้ เป็นค่าเสียหายในการหย่า โชคดีที่เธอไม่มีลูก จึงไม่มีภาระอะไรมากมาย เธอทุ่มเทเงินเก็บที่ได้จากผัวเก่า มาสร้างเป็นตำหนักหมอเสน่ห์ เพื่อหารายได้พยุงชีพ
นางวันเพ็ญเป็นสวย รูปร่างดี ผิวพรรณขาวละเอียด นมเป็นนม ก้นเป็นก้น ทำให้มีลูกค้าหนุ่มๆ แวะเวียนมาให้เธอทำเสน่ห์ไม่ขาดสาย จนเธอมีฐานะดีขึ้นตามลำดับ
ถึงตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่า หมอเพ็ญมีชื่อเสียงโด่งดังพอสมควร มีลูกศิษย์ลูกหาแวะเวียนมาทำเสน่ห์ไม่ขาดสาย มีทั้งหนุ่ม แก่ จนถึงวัยชรา บ้างก็มาเป็นคู่ บ้างก็มาเดี่ยว
ส่วนสองคนที่หมอเพ็ญจ้างไว้เพื่อค่อยช่วยดูแลบ้านและช่วยทำพิธีบ้างเป็นบางโอกาส คือนางพลอย กับนายโชติ
นางพลอยอายุ 35 ปี เป็นแม่หม้ายผัวตาย รูปร่างอวบอั๋น ผิวเข้มนิดหน่อย แต่หน้าหวาน อกโตจนเห็นได้ชัด สะโพกผายใหญ่ ใครเห็นก็อยากบีบ
ส่วนนายโชติ อายุ 25 ปี เรียนจบแค่ ม.6 เพราะไม่มีใครส่งเสีย เขาเคยมีแฟน แต่โดนทิ้ง ทั้งๆที่เขาเป็นคนรูปหล่อ ผิวขาว รูปร่างดี และนิสัยเรียบร้อย ไม่ได้เกเรอะไรเลย
ทั้งหมอเพ็ญ นางพลอย และนายโชติ อยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกัน ต่างก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน หมอเพ็ญเป็นคนจิตใจดี มีอะไรก็แบ่งปันให้นางพลอยนายโชติอยู่เสมอ ทำให้ทั้งสามคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
.........................
เช้านี้ก็เหมือนทุกวัน.. นางเพ็ญจะแต่งตัวให้สมกับเป็นแม่หมอทำเสน่ห์ โดยเธอจะใส่ชุดสีขาว เป็นเสื้อคอกลม มีกระดุมด้านหน้า และกางเกงจีนสีขาว มีลูกประคำตามคอและแขนเพื่อให้ดูขลัง แต่งหน้านิดหน่อยเพื่อให้ดูสวยงาม
ภายในห้องทำเสน่ห์ของหมอเพ็ญ มีพวกเครื่องรางของขลังวางอยู่รอบๆ เธอจะนั่งกับพื้นที่ยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนคนที่มาทำเสน่ห์ให้นั่งกับพื้นห้อง
“พลอย.. เช็คตารางนัดดูซิ วันนี้มีใครมาทำเสน่ห์บ้าง”
หมอเพ็ญถามนางพลอย เพื่อจะได้จัดสรรเวลา และเตรียมตัวรับลูกศิษย์
“วันนี้มีเสี่ยบอย ที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร จะมาตอน 10 โมงจ้ะหมอเพ็ญ”
“อ้อ.. หายไปนานเลยนะเสี่ยบอย.. มาครั้งที่แล้วก็เกือบปี.. นี่ก็ใกล้ 10 โมงแล้ว จัดเตรียมสถานที่เสร็จแล้วออกไปรอต้อนรับเสี่ยบอยเลยนะพลอย”
“จ้ะ..หมอเพ็ญ”
นางพลอยลุกขึ้นไปทำตามที่หมอเพ็ญบอก ส่วนนายโชติยืนรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้าน เห็นนางพลอยออกมายืนตรงประตูรั้ว จึงเอ่ยถาม
“พี่พลอย.. วันนี้มีลูกศิษย์หมอเพ็ญมากี่คนครับ”
“รอบเช้ามีหนึ่งคน รอบบ่ายน่าจะมีมาอีกชุดจ้ะบอย”
นางพลอยพูดจบ ก็มีรถเบนซ์ขับมาจอดหน้าประตูบ้าน นางพลอยรีบเปิดประตูโบกรถให้เข้ามาจอดในบ้าน เมื่อจอดรถเรียบร้อย หนุ่มใหญ่หน้าตาดี วัย 40 ปลายๆ เปิดประตูรถลงมา
“สวัสดีค่ะเสี่ยบอย หายไปนานเลยนะคะ”
“ครับ.. รอบที่แล้วมาทำเสน่ห์.. มีสาวๆมาชอบผมเยอะเลย.. แต่ตอนนี้ผมจีบใครก็ไม่ติด เลยมาทำเสน่ห์กับหมอเพ็ญซะหน่อย”
“เชิญค่ะ หมอเพ็ญรออยู่ในบ้าน.. ตามพลอยมาเลยค่ะ”
นางพลอยเดินนำหน้าเสี่ยบอย เปิดประตูบ้านเข้ามาในห้องทำเสน่ห์ หมอเพ็ญกำลังนั่งหลับตา.. พอได้ยินเสียงประตูเปิด ก็ลืมตา แล้วมองเสี่ยบอยด้วยใบหน้าเรียบเฉย แสดงถึงความเข้มขลังในวิชาอาคม
“สวัสดีครับหมอเพ็ญ.. ผมมาขอความช่วยเหลือครับ”
เสี่ยบอยเอ่ยปากพร้อมกับนั่งลงที่พื้นห้อง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เสี่ยบอย รอบที่แล้วที่ทำเสน่ห์ เป็นยังไงบ้าง”
“ตอนแรกก็ดีครับ.. แต่พอนานๆไป ไม่รู้ของจะเสื่อมหรือเปล่า ทำไมผมจีบใครไม่ติดเลยครับหมอเพ็ญ”
“ก็อาจจะเป็นได้ เพราะเสี่ยบอยหายไปเกือบปี ของที่ลงไว้ก็อาจจะเสื่อมสภาพตามกาลเวลา”
“ถ้างั้นหมอเพ็ญช่วงลงของให้ผมใหม่เลยครับ ตอนนี้ผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง ผมทุ่มเงินเท่าไหร่ก็จีบเธอไม่ติด ถ้าผมจีบเธอติดเมื่อไหร่ ผมจะมาสมนาคุณหมอเพ็ญให้เต็มที่เลยครับ”
เสี่ยบอยอธิบายสาเหตุที่มาหาหมอเพ็ญด้วยน้ำเสียงมีความหวัง..
หมอเพ็ญเหลือบสายตามองเสี่ยบอย เห็นว่าเสี่ยบอยเปลี่ยนไปจากคราวก่อนมาก เมื่อก่อนรูปร่างค่อนข้างอ้วน แต่ตอนนี้รูปร่างดูดีเหลือเกิน คงไปฟิตเนสมา เพื่อให้ดูดี จะได้จีบหญิงที่ชอบติด
“ได้สิ.. วันนี้หมอจะทำเสน่ห์ให้เสี่ยบอยแบบแรงๆ เสี่ยบอยจะได้สมหวังกับผู้หญิงที่ชอบ พร้อมที่จะทำเสน่ห์หรือยัง”
ความชื่นชอบในเรื่องเพศของคนไม่เหมือนกัน.. บางคนชอบแบบเรียบง่าย บางคนชอบแบบโลดโผน จึงคิดค้นหาวิธีเพื่อให้ตัวเองมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการ..
หมวยเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ มีผัวแล้ว แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงขายขนมหวานหน้าบ้าน เพื่อหารายได้ช่วยผัวอีกทางหนึ่ง.. ความที่หมวยมีรูปร่างหน้าตายั่วยวน และชอบแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสา ทำให้มีลูกค้าผู้ชายแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย.. และแล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น.. นายหมวยได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต.. สำคัญที่สุดคือ..ผัวที่ไม่ค่อยทำการบ้าน กลับมาลุ่มหลงเธออย่างโงหัวไม่ขึ้น..
เมียเพื่อนที่สนิทกันมาก บ้านอยู่ใกล้กัน เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน ความใกล้ชิด สนิทสนม และเป็นกันเอง อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้
อาจารย์เรืองได้เปิดสำนักหมอเสน่ห์ และตั้งตนเป็นหมอเสน่ห์... ผู้ที่มาหามักจะโดนเล่ห์เหลี่ยมอันแยบยลของหมอเสน่ห์หลอกละเมิดทางเพศเกือบทั้งสิ้น... เรื่องจะได้ผลหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมของแต่ละคน
ฉันได้มีโอกาสเล่นเกมสวิงอีกครั้งหนึ่ง... ยอมรับเลยว่าครั้งนี้สนุกกว่าทุกครั้ง... เพราะรอบนี้พี่วิทย์คนคิดเกม... และที่สำคัญ มีสามีภรรยาชาวต่างชาติคู่ใหม่มาร่วมด้วย... โดยเฉพาะสามีของคู่ใหม่ เพียงแค่เห็นครั้งแรกฉันก็แอบหลงใหลจนสุดหัวใจ...
ฉันแอบปลื้มหนุ่มหล่อข้างบ้านมานาน... แต่ก็ได้แค่มอง เพราะทั้งฉันและเขาต่างมีคู่ของตัวเองอยู่แล้ว.. อยู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อคู่ฉันและคู่เขาได้มาร่วมเต้นแอโรบิค ความเร้าใจจึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเหลือเชื่อ...
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"