ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / อื่นๆ / เพื่อนบ้านหวานเจี๊ยบ
เพื่อนบ้านหวานเจี๊ยบ

เพื่อนบ้านหวานเจี๊ยบ

5.0
21 บท
2.4K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

ความชื่นชอบในเรื่องเพศของคนไม่เหมือนกัน.. บางคนชอบแบบเรียบง่าย บางคนชอบแบบโลดโผน จึงคิดค้นหาวิธีเพื่อให้ตัวเองมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการ..

บทที่ 1 เปิดร้านโชห่วย

ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง มีผัวเมียคู่หนึ่งทำธุรกิจขายส่งมานาน จนประสบความสำเร็จ มีเงินเก็บอยู่พอสมควร แต่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่เป็นแสนจะวุ่นวายในธุรกิจนี้ จึงคิดจะเปลี่ยนแปลงชีวิต โดยการย้ายที่อยู่ ไปหากินที่ต่างจังหวัด

เป้าหมายของผัวเมียคู่นี้คือ ไปซื้อบ้านที่ห่างจากตัวอำเภอ แต่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น เพื่อจะเปิดร้านโชห่วย และออกเงินกู้บ้างเล็กๆน้อยๆ เพราะถ้าเปิดร้านในตัวอำเภอ อาจต้องแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นทุนใหญ่ และคงจะสู้เขาไม่ได้

ผัวเมียคู่นี้มีความคิดอยากใช้ชีวิตพอเพียง เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย และการได้อยู่ต่างจังหวัด มลพิษทางอากาศจะดีกว่าเมืองหลวง ทิวทัศน์ก็สวยงาม และคิดว่าผู้คนมีน้ำใจ ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเหมือนที่เคยเจอมา

เมื่อตัดสินใจดีแล้ว ผัวเมียคู่นี้จึงพากันขายทรัพย์สินที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายไปอยู่อำเภอหนึ่งในจังหวัดสระบุรี เพราะใกล้กรุงเทพฯ สะดวกในการเดินทางมาซื้อของไปขาย

คนเป็นผัวชื่อนายโน๊ต อายุ 42 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว หน้าตาหล่อคม ส่วนคนเป็นเมียชื่อนางชมพู่ อายุ 36 ปี รูปร่างขาวอวบ หน้าอกใหญ่อย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าออกหมวยๆหน่อย

ทั้งคู่อยู่กันกันมา 7-8 ปี ไม่มีลูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ทั้งที่ไม่ได้คุม จึงทำให้การย้ายที่อยู่ไม่ต้องพะวงเรื่องย้ายโรงเรียนลูก

หลังทานอาหารเย็นเสร็จ นายโน๊ตบอกกับเมียว่า

“ชมพู่.. เพื่อนพี่เค้าหาบ้านที่เราต้องการได้แล้วนะ พรุ่งนี้เราไปดูกัน”

“จ้ะพี่โน๊ต พี่จะเดินทางกี่โมงจ๊ะ”

“ว่าจะออกซัก 9 โมงเช้า จะได้มีเวลาเดินดูบรรยากาศรอบๆด้วย ว่าเราจะค้าขายไหวมั้ย”

นางชมพู่พยักหน้ารับรู้ แล้วทั้งสองก็ช่วยกันเก็บจานล้าง ก่อนจะอาบน้ำและขึ้นนอน

......................

9 โมงเช้า นายโน๊ตกับนางชมพู่ขับรถไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ห่างจากตัวอำเภอในจังหวัดสระบุรีพอสมควร เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างมีพื้นที่สำหรับขายของ ส่วนด้านบนเป็นที่พักอาศัย หลังบ้านมีลำคลองและมีพื้นที่ปลูกผักสวนครัว เนื้อที่กว้างพอสมควร

“ดีจัง มีพื้นที่กว้างขวาง ชมพู่อยากปลูกสวนเล็กๆด้วย จะได้สดชื่น”

“อืม.. พี่ชอบที่นี่นะ พี่ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้แหละ.. ชมพู่เห็นด้วยมั้ย”

“เห็นด้วยจ้ะ.. รอบๆบ้านหลังนี้ก็มีคนอาศัยอยู่เยอะ ร้านขายของชำที่เราจะเปิดคงจะขายดีนะจ๊ะ”

“พี่ก็ว่าอย่างนั้น ตกลงพี่จะไปทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของเก่าเลยนะ”

“จ้ะพี่”

แล้วนายโน๊ตและนางชมพู่ทำเรื่องซื้อขายบ้านกับเจ้าของเก่าที่กรมที่ดินเรียบร้อย ทั้งสองช่วยกันซื้อเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยกันตกแต่งเป็นร้านขายของชำและที่พักอาศัย

ผ่านไปไม่ถึง 1 เดือนทุกอย่างก็เรียบร้อย ร้านขายของชำพร้อมเปิดให้บริการ เพื่อนบ้านในละแวกนั้นต่างเข้ามาทำความรู้จักนายโน๊ตและนางชมพู่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใหม่ และดีใจที่มีร้านขายของชำมาเปิดใกล้บ้าน ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเพื่อซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค

“ดีจังเลย มีร้านมาเปิดใกล้บ้าน อย่างนี้เราไม่ต้องเข้าเมืองซื้อของตุนแล้ว”

ชาวบ้านแถวละแวกนั้นต่างก็ยินดีปรีดาที่มีร้านโชห่วยมาเปิดใกล้บ้าน หลายบ้านแวะเวียนมาทำความรู้จักกับนายโน๊ตและนางชมพู่ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใหม่ สร้างความดีใจให้กับผัวเมียเจ้าของร้าน เพราะมองเห็นผลกำไรในวันข้างหน้า

“อยากได้สินค้าอะไร สอบถามได้นะครับ ผมชื่อโน๊ต และนี่ชมพู่ ภรรยาผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

เป็นคำกล่าวที่นายโน๊ตบอกกับชาวบ้านที่เดินผ่านหน้าร้าน เป็นการผูกมิตรไมตรีกับเพื่อนบ้าน เพื่อผลทางการค้าในอนาคต

……………………..

หลังจากเปิดร้านได้ 1 เดือน นายโน๊ตและนางชมพู่ก็ได้รู้จักผู้คนมากมาย ที่แวะเวียนกันมาซื้อของ.. สังคมต่างจังหวัด พอซื้อของเสร็จก็ชวนกันคุยนั่นคุยนี่ จนเกิดความสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อนบ้านบางคนไม่ได้มาซื้อของ แต่มานั่งปรับทุกข์บ้าง ระบายความในใจบ้าง ปัญหาในครอบครัวบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของชาวบ้านในละแวกนั้น..

วันนี้นายโน๊ตมีธุระ ไม่ได้อยู่ขายของที่ร้าน เพราะต้องพาแม่ที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่งไปหาหมอ ตามที่หมอนัด..

หลังจากเปิดร้านเรียบร้อย นายโน๊ตบอกกับนางชมพู่เมียรักว่า

“วันนี้พี่จะไปหาแม่ พาแม่ไปหาหมอ แล้วค้างที่บ้านแม่หนึ่งคืน ชมพู่อยู่เฝ้าร้านคนเดียวนะ มีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้ตลอดเวลา”

“จ้ะพี่โน๊ต ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วง ชมพู่จะดูร้านเอง”

พูดจบนายโน๊ตก็เดินไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป.. นางชมพู่ก็จัดข้าวจัดของที่ร้านให้ดูเป็นระเบียบ แล้วเตรียมขายของ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

มีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเดินมาทักทาย บ้างก็มาซื้อของ บ้างก็มาก็ชวนคุย ทำให้นางชมพู่ไม่รู้สึกเหงา เพราะมีแต่เพื่อนบ้านดีๆ

บางรายที่สนิทกันหน่อย พอรู้ว่าที่ร้านมีการออกเงินกู้ด้วย ก็มีการมาขอกู้เงิน แล้วคิดดอกเบี้ยกันไป ยิ่งทำให้นายโน๊ตกับนางชมพู่มีความสนิทสนมกับเพื่อนบ้านมากขึ้น

การออกเงินกู้ของนายโน๊ตไม่ได้คิดดอกเบี้ยแพงมาก ร้อยละห้าต่อเดือน ถือว่ากำลังดี จึงมีชาวบ้านที่มีปัญหาเรื่องเงินเข้ามาขอกู้กันไม่ขาดสาย ทำให้นายโน๊ตและนางชมพู่มีรายได้อีกทางหนึ่ง

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY