/0/21215/coverbig.jpg?v=da95f2124d8155041a71c0f42e86e7be)
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
ใบหม่อน หญิงสาวชาวไทยเชื้อสายจีน อายุ25ปี สาวสวยรวยและโสดมาก พ่อแม่เสียชีวิตไปเมื่อ5 ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์หลังจากที่เสียพ่อแม่ไป ใบหม่อนที่ไม่มีใครรออยู่ที่บ้านแล้วเวลาทั้งหมดทุ่มเทให้กับงานและการอ่านนิยาย
วันนี้ใบหม่อนไปทำงานด้วยอารมณ์บูด จนเพื่อนร่วมงานไม่กล้าเข้าใกล้สาเหตุมาจากนิยายที่เธออ่าน เนื้อหาในนิยายกล่าวเอาไว้ว่านางเอกได้ทะลุมิติไปยังโลกคู่ขนานที่จะเรียกว่ายุคโบราณก็ไม่ได้ จะเรียกว่ายุคปัจจุบันก็ไม่ได้อีก ทั้งภาษาและวัฒนธรรมผสมปนเปกันไป การแต่งตัวเหมือนชนเผ่าอะไรสักเผ่าของชาวจีนแต่กลับไม่ได้ใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร
อีกทั้งยังเป็นโลกที่ด้อยพัฒนาหาเทคโนโลยีไม่เจอ ไม่มีพลังภายในไม่มีพลังวิเศษอะไรทั้งนั้นแถมเริ่มต้นมาก็ดราม่าอีก แบบนี้จะไม่ให้ใบหม่อนคนคูลอารมณ์เสียได้ยังไง ตอนที่นางเอกทะลุมิติไปอยู่ในร่างหญิงสาวที่กำลังคลอดลูกพอดีแถมครอบครัวยากจนมากๆ ให้นางเอกทะลุมิติมาแบบไม่มีตัวช่วยอะไรมิตงมิติก็ไม่มี ตอนนี้หาสติของตัวเองเจอก็ดีเท่าไหร่แล้ว
โผล่มาก็กำลังคลอดลูกแถมยังต้องมาอดมื้อกินมื้อปลูกผักเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ซ้ำร้ายสามีของนางเอกก็โดนแม่เลี้ยงขับไล่ออกจากบ้านพร้อมกับพี่ชายและพี่สะใภ้นางเอกก็ไม่มีความสามารถอะไรผักตามป่ายังไม่รู้จักเลยว่าอะไรที่สามารถกินได้ นี่ให้นางเอกที่แต่เดิมก็เป็นคนไร้ความสามารถ พอได้เกิดใหม่ก็ไร้ความสามารถอีกแล้วแบบนี้จะมีชีวิตรอดได้อีกเรอะ เรื่องแบบนี้ใครมันจะอยากอ่านกันเหอะเสียดายเงินที่ซื้อมาจริงๆ ใบหม่อนทำได้แค่โยนหนังสือนิยายทิ้งและมาทำงานด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
"หม่อนๆ ใบหม่อน" หัสนัยเพื่อนร่วมงานเรียกใบหม่อนเสียงดังเพราะเขาเรียกหลายรอบแล้วแต่ไม่มีเสียงขานรับจากใบหม่อน
"อะไร เรียกทำไมเสียงดังเนี่ยหูจะแตกอยู่แล้ว"
"เอ้าก็เรียกตั้งนานไม่ตอบแล้วเนี่ยเป็นอะไรนั่งหน้าบูดเนี่ยอารมณ์เสียเรื่องอะไรมาอีกอย่าบอกว่านิยายที่ซื้อมาเมื่อวานไม่สนุกไม่ได้ดั่งใจอีกนะ"
"ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วมีอะไรเรียกไม"
"หัวหน้าหน่วยเรียกพบน่ะ เรื่องภารกิจลับครั้งนี้"
"อืม ขอบใจมาก"
"เห้ยไม่เป็นไรไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"
ใบหม่อนไปพบหัวหน้าหน่วยและได้รับภารกิจลับให้ไปซุ่มโจมตีขบวนขนยาเสพติดที่ชายแดนโดยพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ทางการตามล่ามานานหลังจากจบภารกิจบุกทำลายแก๊งยาเสพติดครั้งนี้ใบหม่อนจะมีวันหยุดยาวหนึ่งเดือน เธอวางแผนว่าหนึ่งเดือนนี้เธอจะไปเรียนทำอาหารและขนมเพิ่มเติมพร้อมทั้งจะไปเวิร์กช็อปที่กรมการเกษตร ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ
เธอวางแผนเอาไว้ในอนาคตจะลาออกจากหน่วยผันตัวเองไปทำการเกษตรเชิงท่องเที่ยวและให้บริการบ้านพักแบบโฮมสเตย์ เหนือสิ่งอื่นใดคืออ่านนิยายที่เธอชื่นชอบคิดๆดูแล้วหยุดหนึ่งเดือนไม่พอจริงๆ
วันออกเดินทางใบหม่อนเตรียมของเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางทันทีจุดนัดหมายคือกองบัญชาการเมื่อทุกคนมากันครบแล้วก็ออกเดินทางทันทีใช้เวลาในการทำภารกิจทั้งหมด5วันเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นก็เดินทางกลับทันทีระหว่างทางได้มีการพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมเกี่ยวกับวันหยุดยาวนี้ว่าใครวางแผนจะทำอะไรบ้าง
"หม่อนหยุดยาวนี้มีแผนจะทำอะไรหรือเปล่า"วินัยถามออกมา
"ว่าจะไปเรียนทำอาหารทำขนมเพิ่มแล้วก็ไปฝึกปลูกผักเลี้ยงสัตว์ที่กรมการเกษตรอ่ะ"
“เห้ย นี่เอาจริงหรือเรื่องปลูกผักทำโฮมสเตย์เนี่ย” นัยเองอดถามออกมาไม่ได้เขาไม่คิดว่าใบหม่อนจะจริงจังกับเรื่องนี้มาก
"อืม จริงจังมาก แล้วพวกนายสองคนล่ะมีแผนจะทำอะไร"
"กลับบ้านที่ต่างจังหวัดน่ะ" วินัยตอบใบหม่อนด้วยความดีใจ
"อืมกลับบ้านเหมือนกัน"หัสนัยตอบออกมาสีหน้าไม่ยินดีที่ได้กลับบ้าน
"เอ้า จะกลับบ้านไม่ดีใจเหรอทำไมทำหน้าแบบนั้น"ใบหม่อนอดถามไม่ได้
"นั่นสิมีอะไรหรือเปล่า"วินัยถามออกมาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรก็คุณนายที่บ้านน่ะสินัดดูตัวเรากับลูกสาวเพื่อนพวกนายเองก็รู้เรายังไม่อยากแต่งงานตอนนี้เราไม่อยากมีภาระตอนนี้เวลาไปทำภารกิจจะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ที่สำคัญเราไม่ชอบลูกสาวเพื่อนของคุณนายคนนี้เลย”
“ทำไมนายเคยเจอเขาหรือไง สวยป่ะ” วินัยถามออกมา
“สวยแต่นิสัยไม่สวย อย่าให้เราพูดเลยเคยเจอแบบบังเอิญสองสามครั้ง เหวี่ยงวีนไร้เหตุผล”
“อ่าแบบนี้ก็แย่ดิคุณนายแม่ถูกภาพลวงตาหลอกลวงหรือไง แบบนี้แต่งเข้ามามีหวังบ้านลุกเป็นไฟ” ใบหม่อนรู้สึกสงสารเพื่อนจริงๆ
“นายก็ไม่ต้องกลับไปก็สิ้นเรื่องบอกคุณนายแม่ว่าติดทำภารกิจไง หรือจะไปเที่ยวบ้านเราก็ได้นะถ้าไม่ติดว่าบ้านเรากันดาลมาก” วินัยเอ่ยชวน
“อืม ดีเหมือนกัน งั้นเราไปบ้านนายด้วยแล้วกัน หม่อนล่ะไม่ไปด้วยกันเหรอ”
“ไม่ล่ะพวกนายไปกันเถอะ เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน”
วันหยุดมาถึงใบหม่อนดี๊ด๊ามากตื่นแต่เช้าออกกำลังกายเสร็จไปตลาดซื้อของสดเข้าบ้านเพื่อทำอาหารหลังจากนั้นก็ออกไปร่ำเรียนการเพาะปลูกที่กรมการเกษตรจนถึงบ่ายสามโมงเย็นเลิกเรียนกลับบ้านอ่านนิยายที่ชื่นชอบใบหม่อนใช้ชีวิตแบบนี้ทุกๆวันกิจกรรมแต่ละวันก็เหมือนเดิม เหลือวันหยุดอีกห้าวันเธอรู้สึกว่าเวลาในวันหยุดนั้นหมุนเร็วมากใกล้จะได้เวลากลับไปทำงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้าทำให้เธอรู้สึกแย่นิดหน่อยเพราะยังอยากหยุดต่อ
วันหยุดยาวผ่านพ้นไปวันทำงานก็เริ่มขึ้นใบหม่อนไปทำงานแต่เช้า เพื่อนร่วมทีมกลับมาทำงานกันครบแล้วรวมถึงวินัยและหัสนัยด้วย
“หวัดดี เป็นไงไปบ้านวินัยสนุกป่ะ”ใบหม่อนถามหัสนัย
“สนุกมาก ใช้ชีวิตในชนบทห่างไกลสงบดี ที่สำคัญมือถือไม่มีสัญญาณคุณนายแม่โทรมาด่าไม่ได้”
“ฮ่าๆ นายก็พูดไปเรื่อย”
“เอ้าจริงๆนะ วินัยสอนเราจับปลาทำอะไรหลายๆอย่างสนุกดี พ่อแม่วินัยก็ใจดีมาก”
“อืมเอาไว้คราวหน้าเราจะไปด้วย”
“หม่อน หัส หัวหน้าเรียก” วินัยเดินมาเรียกเพื่อนทั้งสองคน
“ขอบใจ ไปกันเถอะสงสัยมีภารกิจ” หัสนัยเอ่ยออกมา
“สวัสดีครับหัวหน้า”
“สวัสดีค่ะหัวหน้า”
“อืมสวัสดี ที่ผมเรียกพวกคุณมาวันนี้ผมมีภารกิจใหม่ให้พวกคุณไปทำ”
“เมื่อไหร่คะหัวหน้า”
“อีกห้าวัน พวกคุณเตรียมตัวให้พร้อม ภารกิจทลายแก๊งค้ามนุษย์ ภารกิจนี้อันตรายมากพวกคุณระวังตัวด้วย พวกค้ามนุษย์มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลังอยู่ ทำงานให้รัดกุมที่สุด ที่สำคัญรักษาชีวิตตัวเองให้ดี ต้องปลอดภัยกลับมา”
“รับทราบครับ/รับทราบค่ะ”
“เอาล่ะพวกคุณไปเตรียมตัวเถอะ”
หลังจากนั้นทั้งสามคนกลับไปเตรียมตัวเพื่อไปทำภารกิจอีกห้าวันข้างหน้า ใบหม่อนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูกเธอได้เรียกทนายประจำตระกูลมาพบและทำพินัยกรรมยกสมบัติทั้งหมดให้กับการกุศลหากเธอเสียชีวิต และยังได้แบ่งเงินอีกจำนวนหนึ่งให้กับทนายประจำตระกูลเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วเธอรู้สึกโล่งใจแปลกๆ แต่ก็ช่างเถอะลูกหลานไม่มีญาติพี่น้องไม่มี สามีก็ไม่มีงานที่เธอทำก็เสี่ยงพอสมควรจัดการไว้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย
โดยที่ใบหม่อนไม่มีทางได้รู้เลยว่าการไปทำภารกิจในครั้งนี้เธอจะไม่ได้กลับมา กลางดึกคืนก่อนไปทำภารกิจขณะที่ใบหม่อนนอนหลับอย่างสบายใจเธอฝันว่ามีใครสักคนมาบอกกับเธอว่าฝากลูกๆของข้าด้วยจากนั้นก็สะดุ้งตกใจตื่น
“ฝันบ้าอะไรวะ ฝากลูกๆอะไรสงสัยเพราะนิยายบ้าเล่มนั้นไม่น่าไปหยิบมาดูเลยให้ตายสิเอามาฝันเป็นตุเป็นตะ”
หลังจากตื่นขึ้นมาบ่นแล้วใบหม่อนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้อีก เธอลุกขึ้นอาบน้ำและออกไปที่กองบัญชาการเพื่อรอเดินทางไปทำภารกิจร่วมกับทีม ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นใบหม่อนเห็นคนร้ายเล็งปืนใส่หัสนัยเพื่อนร่วมทีมเธอจึงผลักเพื่อนให้พ้นวิถีกระสุนและตัวเธอเองกลิ้งหลบไปอีกด้านแต่ทว่าโชคร้ายที่กลิ้งไปทางคนร้ายอีกคนทำให้ใบหม่อนเสียชีวิตขณะทำภารกิจการจากไปของใบหม่อนในครั้งนี้สร้างความเสียใจให้เพื่อนร่วมทีมและทุกคนในหน่วยงานเป็นอย่างมาก
เนื่องจากใบหม่อนไม่เหลือญาติแล้วหัสนัยและหัวหน้าหน่วยจึงเป็นคนจัดการเรื่องทำศพของใบหม่อน ทั้งวินัยและหัสนัยได้แต่อวยพรให้เธอไปสู่ภพภูมิที่ดีและถ้าหากใบหม่อนได้เกิดใหม่ก็ขอให้มีครอบครัวที่อบอุ่นไม่ต้องอยู่แบบโดดเดี่ยวเช่นนี้ ใบหม่อนที่ยืนดูร่างตัวเองถูกเผาไป พร้อมกับวิญญาณที่ล่องลอยเคว้งคว้างเธอหวังว่าจะได้พบกับคุณพ่อและคุณแม่แบบนี้เธอจะไม่ต้องโดดเดี่ยวอีกแล้ว แต่นั่นมันแค่สิ่งที่เธอหวังเอาไว้ แต่ความจริงแล้ว
“โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เจ็บๆๆ ทำไมมันเจ็บแบบนี้ นี่เราโดนยิงตาย มันเจ็บถึงวิญญาณเลยหรือไง”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้