มีผัวเหมือนมีมาร
มีผัวเหมือนมีมาร
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“ระวัง!!”
“พาคุณหนูหนีไป!!”
บอดี้การ์ดตัวใหญ่วิ่งด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่ขายาวจะทำได้แล้วคว้าตัวผู้หญิงตัวเล็กแค่หน้าอกอุ้มวิ่งหนีออกไปทันที เสียงปืนดังไล่หลังตามมาติดๆจนกระทั่งมาถึงรถที่จอดรออยู่แล้ว เพียงไม่กี่นาทีรถคันหรูขับออกไปด้วยความเร็วมากและรถอีกคันตามมาติดๆอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน รถทั้งสองคันเหมือนกำลังขับแข่งกันบนท้องถนนแต่ความจริงไม่ใช่เลย นี่คือการตามล่าเพื่อเอาชีวิตผู้หญิงในรถที่เป็นลูกสาวคนเดียวของมาเฟียหน้าใหม่
ครั้งนี้ให้เจ็บตัวไม่ได้หรอก
เขามาดูแลเธอเองไม่ว่าใครก็ห้ามฆ่า
“เอาปืนมา!”
“อย่าครับคุณหนู”
“ฉันยิงแม่นน่า!”
“รถกันกระสุนทั้งคันแล้วคุณหนูจะเปิดหน้าต่างรับกระสุนทำไม!?”
“นี่กล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอไอ้บ้า!!”
“ขึ้นคร่อมยังทำมาแล้วนับประสาอะไรกับขึ้นเสียง!?”
“กรี๊ด!! ไอ้บ้า!!”
“โอ๊ย!! หุบปากได้แล้ว เสียงแหลมๆมันทำให้เสียสมาธิ!!”
“ฉันเป็นเจ้านายนะ!!”
“แต่พี่เป็นผัว!!”
“ไอ้ผัวเฮงซวย!!”
ด้านนอกรถมีคนหาทางจะยิงเข้ามาให้ได้ ส่วนด้านในก็เหมือนว่ามีสงครามขนาดย่อมเช่นกัน รถคันหรูที่มีรอยโดนยิงแทบทั้งคันขับด้วยความเร็วสูงหาทางสลัดรถที่ตามติดเหมือนเจ้ากรรมนายเวรให้หลุดพ้นไป ผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมงที่ถูกไล่ล่าในที่สุดก็สามารถหลุดออกมาได้อย่างสะบักสะบอมมากพอสมควร
เอี๊ยด!!
“จอดทำไม!?”
“แล้วจะอยู่ให้มันตามทันรึไง!?”
“พูดดีๆไม่เป็นรึไงห่ะ ความจริงเอาปืนมาให้ฉันยิงมันก็จบแล้ว”
“อวดเก่งจริงๆ ทีตอนพี่วิ่งไปอุ้มทำไมไม่ยิงล่ะ มาปากเก่งทำไมตอนนี้!?”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉันนะ ตอนนี้พี่เป็นแค่บอดี้การ์ดลืมตัวไปแล้วรึไง!?”
“ในรถคันนี้มีแค่เราสองคน ตอนนี้พี่เป็นผัวไม่ใช่ลูกน้องใครทั้งนั้น!”
“พวกนั้นเป็นใคร!?”
“ยังไม่รู้”
“ไม่ได้เรื่อง!”
“ว่าพี่แล้วตัวเองรู้เหรอ?”
“ก็…”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนี่!”
“ฉันน่าจะอยู่ฆ่ามันให้ตายๆไปซะ!”
“มันจะฆ่าเธอก่อนดิ!”
“หุบปาก!!”
“ไปกันได้แล้ว ที่นี่เป็นเซฟเฮ้าส์แล้วอีกเดี๋ยวคนอื่นจะตามมา”
“เดินช้าๆไม่ได้รึไงเนี่ย ฉันเดินตามไม่ทันนะ!”
“ช่วยไม่ได้ก็เกิดมาขาสั้นเอง”
“ปากหมาที่สุด!!”
บลูมเดินถือปืนเข้าไปในบ้านที่มีรั่วล้อมสูงพร้อมกับกวาดสายตามองด้วยความระมัดระวังมากพอสมควร เขาเดินนำเธอขึ้นไปที่ห้องพักเพราะตอนนี้คุณหนูคนสวยมอมแมมเหมือนตัวอะไรสักอย่างไปคลุกฝุ่นมา ในระหว่างที่รอเธออาบน้ำก็กดโทรศัพท์อ่านข้อความที่ลูกน้องรายงานมา ทุกคนกำลังจะมาที่นี่แล้วประชุมกันอีกทีเพราะคืนนี้คุณหนูต้องออกงานในฐานะทายาทคนเดียวของนักธุรกิจนำเข้าอัญมณี เขาพึ่งมารับหน้าที่นี้วันแรกแทนทีมบอดี้การ์ดเก่าของเธอที่บาดเจ็บหนักจากการปะทะครั้งก่อนและตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่
เงยหน้ามาอีกทีเพราะได้กลิ่นหอม
ฟีนด์ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวยืนเท้าเอวจ้องมองกันอยู่
หน้าที่หลักคือผัวในความลับ...มั้ง! หน้าที่รองคือบอดี้การ์ดประจำตัวแม่คุณทูนหัวที่กำลังเท้าเอวใส่แล้ววีนฉ่ำแบบไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย นู้นก็จะเอา นี่ก็จะเอา คิดบวกไม่เคยมีแต่พร้อมบวกไม่เคยขาด เดือดร้อนผัวก็วิ่งสี่คูณร้อยลากขึ้นรถตลอด
เด็กดื้อต้องโดนอะไรกูไม่รู้
แต่เท่าที่รู้คือต้องหาอะไรปิดปากเมียแล้ว!!
"โธ่เว้ย!! ออกไปแล้วไม่ต้องมาให้เห็นหน้า!"
"กล้าไล่ผัวเหรอ!?"
"แล้วคิดว่าฉันไล่หมารึไงเล่า ออกไป!!”
“ไม่ออก!”
“ฉันจะแต่งตัว”
“พี่เห็นมาทั้งตัวแล้วจะอายอะไรอีก!?”
“พี่บลูม!!”
“นั่งลงเดี๋ยวเช็ดผมให้”
ฟีนด์นั่งลงบนเตียงด้วยความไม่ชอบใจเท่าไรแต่ทางเลือกเธอมีน้อย พี่บลูมถูกส่งตัวมาเพื่อดูแลเธอชั่วคราวในช่วงที่บอดี้การ์ดส่วนตัวรักษาตัวให้ดีก่อนจะกลับมาทำหน้าที่เดิม มือใหญ่หยิบผ้ามาเช็ดผมที่เปียกให้ไม่แรงมากแต่ก็เล่นเอาหัวแทบโยกกันเลยทีเดียว จากนั้นมือหยาบที่เคยจับแต่อาวุธฆ่าคนก็หยิบไดร์เป่าผมมาทำต่อด้วยความไม่ถนัดสักเท่าไร แต่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ชายเถื่อนแบบนี้จะทำอะไรอ่อนโยนไม่เป็น
สิ่งที่เขาทำมันคือความใส่ใจ
แต่ว่าเธอทำเอาน่าจะดีกว่าหลายเท่า
“เสร็จแล้ว”
“ขอบใจ”
“พี่จะลงไปเช็ครอบๆบ้านก่อนนะ แล้วเดี๋ยวลูกน้องจะเอาชุดที่ใส่คืนนี้กับเครื่องสำอางมาให้ เราต้องไปให้ทันงานก่อนสองทุ่มไม่งั้นจะมีข่าวเสียหายเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน”
“รู้แล้วน่าไม่ต้องย้ำหรอก!”
“อ่อ! อย่าให้เห็นว่าสนใจใครล่ะ?”
“มีสิทธิ์อะไรมาหวง?”
“เอากันตอนนี้ยังได้นะฟีนด์!”
“ออกไปเลยไป๊ไอ้บ้ากาม!!”
บลูมเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับถือปืนเพื่อตรวจเช็คบ้านหลังนี้ให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครมาฆ่ายัยเด็กปากดีได้ หลังจากเดินสำรวจชั้นบนครบหมดทุกห้องแล้วก็เดินสำรวจชั้นล่างและตามด้วยสำรวจรอบบ้าน แววตาดุดันจ้องมองด้วยความระมัดระวัง สัญชาตญาณป้องกันตัวที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กทำงานอย่างหนักหน่วงตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ปาไปบ่ายโมงกว่าๆแล้ว
ทีมของพวกเขาไปรับเธอมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งเพื่อจะพามาเซฟเฮ้าส์ที่ปลอดภัย ก่อนจะถูกดักโจมตีในตอนแวะกินอาหารเพราะคุณหนูหิว จากนั้นก็ปะทะกันลากยาวหลายชั่วโมง
เซฟเฮ้าส์หลังนี้ปลอดภัย
คืนนี้เราน่าจะมาค้างที่นี่แทนโรงแรม
เขาเดินกลับเข้าไปในบ้านจากนั้นก็เปิดตู้ลับที่ใช้เก็บซ่อนอาวุธ คืนนี้ในตอนกลับพวกเราต้องถูกเล่นงานอย่างแน่นอนและไม่รู้ว่าจะจบลงตอนไหนด้วย เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับตำแหน่งประธานบริษัทของพ่อเธอที่พึ่งจะรับช่วงต่อมาได้ไม่นาน หลังจากนั้นมีการเปิดโปงเรื่องยักยอกทรัพย์ของหลายคนที่ถือหุ้นส่วนและทำงานอยู่ หลายคนหนีออกนอกประเทศทันและบางคนถูกสั่งเก็บทันที มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ติดคุก แต่นั่นมันไม่จบเพราะมีการล้างแค้นทันทีและต้องการทวงคืนทุกอย่างที่เสียไป
คุณหนูฟีนด์คือเป้าหมายในครั้งนี้
ฆ่าเพื่อล้างแค้น
“นี่ทำอะไรอะ?”
“ชักว่าว”
“อี๋! น่าเกลียดที่สุด”
“ก็เห็นอยู่ว่าเช็คปืนแล้วจะถามทำไม?”
“เผื่อมีอะไรให้ช่วยไง”
“ช่วยอย่าเป็นปัญหาก็พอ”
“ปากเหรอห่ะ! ฉันไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็เกลียดพี่”
“แล้วไง?”
ฟีนด์นั่งลงที่เก้าอี้แล้วหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูแก้เบื่อระหว่างรอคนอื่นมา คืนนี้เธอต้องไปออกงานกับพ่อเพราะจะมีการพูดคุยเรื่องงานกับเจ้าของเหมืองขนาดใหญ่ที่นั่งเครื่องบินข้ามประเทศมาถึงที่นี่
เธออายุยี่สิบสี่แล้วยังต้องเรียนรู้อีกเยอะกว่าจะเก่งมาก ไหนจะต้องเรียนศิลปะการต่อสู้ให้หนักขึ้นกว่าเดิมเพราะหนทางข้างหน้าไม่ใช่เรื่องงานเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว อาวุธก็ใช้เป็นแค่ปืนสั้นธรรมดาและยิงไม่แม่นเท่าไรนัก แต่เธอพยายามมากจริงๆเพื่อจะขึ้นเป็นที่หนึ่งและจะไม่ยอมให้ใครมาฆ่าตัดตอนง่ายๆด้วย
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
[ตามง้อเมียแบบเจ็บลึก + รักสองทางต่างมุ่งหน้าเข้าหากัน + โฟกัสเรื่องงาน/สร้างอาชีพ] แต่งงานกันแบบปิดเงียบมาได้สามปี เหอซือชิงเคยคิดว่าความอุ่นร้อนจากหัวใจเธอจะละลายหลู่เป่ยหลินได้สักวัน แต่สุดท้าย ต่อให้เธอทุ่มเททั้งใจเท่าไหร่ ก็สู้การหวนคืนอย่างสวยงามของหญิงคนรักเก่าที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดไม่ได้เลย “หย่ากันเถอะ ในเมื่อเราทั้งคู่เห็นหน้ากันก็ยิ่งรู้สึกเบื่อหน่าย งั้นปล่อยให้เราต่างคนต่างเป็นอิสระจะดีกว่า ”หัวใจของเหอซือชิงเหมือนมอดไหม้จนไร้ความรู้สึกแล้ว หลู่เป่ยหลินปฏิเสธอย่างเย็นชา “ฉันไม่เห็นด้วย เธอไม่มีวันได้หย่าจากฉันเด็ดขาด!” เขาคิดจะกักเธอไว้ข้างกาย แต่ยิ่งบีบก็ยิ่งผลักเธอให้ห่างออกไปเรื่อย ๆจนสุดท้าย…ก็สูญเสียเธอไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้พบกันอีกครั้ง เธอกลับรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน ชื่อเสียงโด่งดังในวงการแพทย์ ผู้ชายที่ตามจีบล้อมรอบไม่ขาดสาย ชีวิตไปได้สวย และที่สำคัญ เธอลืมเขาไปอย่างหมดสิ้น หลู่เป่ยหลิน “ลืมเหรอ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอนึกขึ้นได้เอง!” จากนั้นเป็นต้นมา— เหอซือชิงกุมเอว หน้าแดงจัดพร้อม “ต่อว่า” ไปว่า “หลู่เป่ยหลิน คุณมันเผด็จการ จะพอได้รึยัง!” หลู่เป่ยหลินยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่มีวันพอหรอก!”
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY