鳳凰歸來的愛 ชาติก่อน...นางถูกคนที่รักที่สุดทรยศหักหลังจนสิ้นใจ ทว่าเมื่อสวรรค์บันดาลให้นางกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นางจะใช้ลมหายใจที่เหลือนี้เพื่อจัดการพวกมันทุกคน!
บริเวณลานประหาร
ร่างบอบบางที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน สภาพร่างกายของนางอันบอบบางราวกิ่งหลิวเปียกชุ่มไปด้วยคราบโลหิตจากทัณฑ์ทรมาน เส้นผมที่เคยถูกรวบเกล้าประดับด้วยเครื่องประดับอันงดงาม บัดนี้กลับหลุดลุ่ยปรกใบหน้า ดวงตาที่เคยอ่อนหวานในยามนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้น ที่ไม่มีโอกาสได้มอบความตายคืนให้กับคนที่กระทำนาง
‘เฟิ่งหรั่น’ คือบุตรีของอัครมหาเสนาบดี นางผู้เปี่ยมด้วยรูปโฉมอันงดงามและอำนาจบารมีของบิดา วาสนาชีวิตที่เคยเป็นถึงพระชายาอ๋อง บัดนี้กลับตกต่ำกลายเป็นนักโทษประหารความผิดไม่น่าให้อภัย ดวงตางดงามค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดมองสภาพแวดล้อมรายรอบที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่รุมสาปแช่งนาง นางกระตุกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันในโชคชะตาของตนเอง
นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าวาสนาที่ตนเองเคยเป็นชายาของ
อ๋องเก้าบุรุษที่ยิ่งใหญ่ บัดนี้จะตกต่ำเป็นถึงนักโทษประหาร คิดแล้วช่างน่าเจ็บปวดใจยิ่งนัก
ซ่า!
เสียงน้ำที่ถูกสาดจากถังน้ำไม้สีน้ำตาลใบใหญ่สาดกระเด็นเข้ามาที่ใบหน้าเปื้อนเลือดของเฟิ่งหรั่น หญิงสาวทำได้แค่หลับตาและเบี่ยงใบหน้าหลบเท่านั้น ความอัปยศในวันนี้ทำให้นางเจ็บแค้นจนฝังรากลึกถึงกระดูกยิ่ง! นางเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดราวจะขาดใจ ความอัปยศที่นางได้รับวันนี้ หากสวรรค์มีตานางขอให้คนที่ทำร้ายนางได้รับผลกรรมสนองหวนกลับ!
‘ลู่อ๋อง’ หรืออ๋องเก้าแห่งแคว้นเหลียว พระอนุชาองค์ที่สองของฮ่องเต้ อำนาจเขาในตอนนี้เป็นรองเพียงองค์รัชทายาทเท่านั้น ฝีเท้าหนักแน่นค่อยๆ ก้าวเข้ามายืนหยุดต่อหน้านาง ใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ปรากฏร่องรอยความเสียใจเลยสักนิด ราวกับว่าความทรมานของนางคือเรื่องที่เขาไม่เคยใส่ใจ ทุกข์สุขใดของนางเขาก็ไม่คิดจะใส่ใจ
“หม่อมฉันแต่งงานกับพระองค์ เพื่อหวังเสริมฐานอำนาจให้พระองค์เทียบเท่าองค์รัชทายาท แต่ในวันนี้กลับทรงตอบแทนข้าแบบนี้หรือ?!” เฟิ่งหรั่นตะโกนต่อว่าลู่อ๋องต่อหน้าธารกำนัลด้วยความเคียดแค้นชิงชัง เสียงของประชาชนแตกออกเป็นสองฝ่าย แม้จะไม่รู้ว่าเรื่องราวที่แท้จริงเป็นมาอย่างไร แต่สำหรับเฟิ่งหรั่นนั้นนางถูกกล่าวหาในฐานะลอบคบชู้สู่ชาย อันเป็นความผิดฐานกบฏยิ่ง แต่นางไม่เคยคิดทำเช่นนั้นกับเขาเลย มีเพียงเขากับญาติผู้น้องของนางเท่านั้นที่ใส่ร้ายนาง จนนางต้องเป็นเช่นนี้!
ลู่อ๋องมองบรรดาธารกำนัลที่ต่างจับกลุ่มสนทนากัน เขาเอ่ยวาจา
หนักแน่น “สตรีที่ลอบทรยศหักหลังสามี คบชู้สู่ชายเช่นเจ้า มีสิทธิ์อันใดมาต่อว่าข้ากัน เสียแรงนักที่เป็นถึงบุตรสาวอัครมหาเสนาบดี แต่กลับมีจิตมากด้วยตัณหาราคะ สมควรนักที่ฝ่าบาทจะทรงมอบโทษประหารให้แก่เจ้า!”
นางถ่มน้ำลายลงบนพื้นต่อหน้าอดีตสามี
“บุรุษเช่นท่าน คิดหรือว่าทรยศข้าแล้วจะได้ดิบได้ดี! แม้ข้าต้องตายในวันนี้ข้าก็จะเป็นวิญญาณมาหลอกหลอนเจ้า ให้เจ้าชดใช้กับสิ่งทำกับข้า!” นางลั่นวาจาเสียงดัง ก่นด่าสาปแช่งอดีตสามีของตนเองในใจด้วยโทสะ
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"