ชาตินี้เสียลูกและสามี พอได้เกิดใหม่อีกทีขอเลี้ยงดูเจ้าให้ดีที่สุด นภาเสียชีวิตและได้ไปเกิดใหม่ในร่างของหลินเสี่ยวเหยา จิตใจที่โศกเศร้าของเธอ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ต้องติดตาม
ชาตินี้เสียลูกและสามี พอได้เกิดใหม่อีกทีขอเลี้ยงดูเจ้าให้ดีที่สุด นภาเสียชีวิตและได้ไปเกิดใหม่ในร่างของหลินเสี่ยวเหยา จิตใจที่โศกเศร้าของเธอ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ต้องติดตาม
บรรยากาศเศร้าสร้อย และเสียงร้องไห้ที่เปล่งออกมาราวกับว่าคนร้องกำลังจะขาดใจนั้น สร้างความหดหู่ให้กับผู้คนที่พบเจอเป็นอย่างมาก
ก็แน่ล่ะเป็นใครก็ต้องร้องไห้แทบขาดใจทั้งนั้น ถ้าหากว่าได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปพร้อมกันถึงสองคน
‘นภา’ หญิงสาววัยสามสิบปียืนมองขึ้นไปบนเมรุเผาศพด้วยสายตาที่ฝ้าฟางเพราะว่าน้ำตามันเอ่อล้นออกมา ซึ่งในนั้นมีร่างที่ไร้วิญญาณของสามีและลูกชายวัยสี่ขวบของเธอนอนแน่นิ่งอยู่
และตอนนี้เปลวไปสีเหลืองส้มกำลังลามเลียและเริ่มเผาไหม้ร่างกายของคนทั้งสองให้มอดไหม้ไป และสุดท้ายก็คงจะเหลือเพียงเถ้ากระดูกเพียงเท่านั้น
“ฮือ ๆๆๆ”
นภาร้องไห้ออกมาเสียงดังจนพี่เจนเพื่อนข้างบ้านต้องเข้าไปกอดปลอบ
“ทำใจเถอะนะ ทั้งสองคนทำบุญมาแค่นี้”
“แล้วหนูจะอยู่ยังไงล่ะคะพี่เจน ? ทั้งชีวิตนี้ก็มีแค่เขาสองคนเท่านั้น”
นภาพูดออกมาพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และได้มาพบรักกับผู้เป็นสามี
เธอกับสามีได้แต่งงานและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ซึ่งลูกชายของเธอก็เพิ่งจะฉลองวันเกิดครบสี่ขวบไปเมื่อเดือนที่แล้ว
ดูเหมือนว่าชีวิตของนภาก็มีความสุขดี สามีของเธอก็รักและเอาใจใส่เธอดี ลูกชายของเธอก็น่ารัก กำลังจ้ำม่ำและฉลาดเฉลียว
แต่ทว่าความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน เพราะเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนนั้น สามีของนภาได้พาลูกชายไปหัดปั่นจักรยานที่ถนนหน้าบ้าน โชคร้ายมีคนเมาแล้วขับ ขับรถพุ่งชนสามีและลูกชายของเธอจนเสียชีวิตคาที่
ในตอนนั้นเธอที่ทำกับข้าวอยู่ในครัวได้ยินเสียงดังสนั่น จึงได้รีบวิ่งออกมาดู และพอเห็นร่างของลูกชายและสามี ก็แทบล้มทั้งยืน
“ต้องอยู่ได้สิ”
พี่เจนพูดพูดปลอบนภา แล้วก็ประคองพาร่างบอบบางให้เข้าไปในศาลาเพื่อฟังพระสวด พี่เจนเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดคำไหนเหมือนกัน ถ้าอยู่ในสถานการณ์เหมือนเช่นนี้ เธอเองก็คงจะสติแตกเช่นเดียวกัน
หลังจากงานศพของสามีและลูกชายผ่านพ้นไป นภาก็ยังทำใจไม่ได้ เธอเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน ไม่ยอมออกไปทำงาน ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน
“นภา ๆ !”
เสียงพี่เจนมาตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน นภาที่นอนซมอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ในมือกอดรูปถ่ายของสามีและลูกเอาไว้ วางรูปถ่ายลงบนโต๊ะ แล้วจึงได้ลุกขึ้นและเดินโซเซออกไปหาคนที่มาตะโกนเรียก
“นภา พี่มาชวนไปกินข้าว”
“ไม่เป็นไรพี่ นภาไม่หิว”
พี่เจนเป็นห่วงเพราะเห็นว่าตั้งแต่เสร็จจากงานศพของสามีและลูกของนภา เธอก็ไม่ยอมออกจากบ้านเลย
“ไปเถอะนะ วันนี้แม่พี่เขาทำขนมจีนน้ำยา แกบอกให้มาชวน”
พี่เจนไม่ฟังคำปฏิเสธของนภา แต่ว่าได้คว้าแขนของเธอและลากจูงออกมาจากบ้าน แล้วก็พาเธอเดินตรงไปที่บ้านของตัวเอง
ร่างบอบบางไม่อยากไปแต่ก็สู้แรงของพี่เจนไม่ได้ จึงจำต้องยอมเดินเข้าไปในบ้านหลังข้าง ๆ
“นั่งตรงนี้ เดี๋ยวพี่ไปเอาขนมจีนน้ำยามาให้กิน”
พี่เจนบอกให้เธอนั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่อยู่หน้าบ้าน ก่อนที่ตัวเองจะเดินหายเข้าไปในห้องครัว
นภามองไปที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของพี่เจน ความทรงจำเกี่ยวกับลูกชายและสามีก็กลับมาอีกครั้ง
“แม่จ๋า หนูรักแม่จังเลย”
“แม่ก็รักหนูจ้ะ”
เด็กน้อยเดินเข้ามากอดแม่ แล้วก็จุ๊บแก้มซ้ายขวาข้างละที
“นั่นแน่ จุ๊บแต่แม่เหรอ ?”
เสียงของผู้เป็นพ่อพูดออกมา เด็กน้อยจึงผละออกจากอ้อมกอดของแม่ กระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของพ่อแทน
ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของเด็กน้อย เด็กน้อยจึงคว้าคอของพ่อเอาไว้ แล้วก็จูบแก้มซ้ายขวาของพ่อข้างละที เพราะกลัวว่าพ่อจะน้อยใจ
นภาเดินเข้าไปกอดสองพ่อลูกเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วทั้งสามคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
“ได้แล้วจ้า ขนมจีนน้ำยาสุดอร่อย”
พี่เจนถือจานขนมจีนมาวางไว้ตรงหน้าของนภา กลิ่นของน้ำยาปลาทู ลอยมาแตะจมูกของเธอทันที
“น่าทานจัง”
พึมพำออกมา แต่ว่าก็ยังไม่ยอมหยิบช้อนกับส้อม
“น่าทานก็ทานซะหน่อยสิ อร่อยมากเลยนะแม่พี่ทำสุดฝีมือเลย เพราะแกรู้ว่านภาชอบ”
พี่เจนคะยั้นคะยอ นภาจึงหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมา ตักขนมจีนน้ำยาเข้าปากไปหนึ่งคำ แต่พอปลายลิ้นสัมผัสกับรสชาดของมัน เธอก็ร้องไห้ออกมา
“ฮือ ๆๆๆ”
พี่เจนรีบเข้าไปกอดปลอบใจ ร่างบอบบางนั้นร้องไห้จนไหล่ไหวสะท้าน
‘ไม่น่าเลยกรู’
พี่เจนคิดในใจ เพราะลืมนึกไปว่าขนมจีนน้ำยาแบบนี้นอกจากนภาจะชอบทานแล้ว สามีของนภาก็ชอบทานด้วย นี่เธอไปสะกิดต่อมความทรงจำของคนสูญเสียอีกแล้ว
นภาฝืนทานขนมจีนจานนั้นไปได้สองสามคำเธอก็อิ่ม และขอตัวกลับ ในเมื่อรั้งไว้ไม่ได้พี่เจนจึงเดินไปส่งเธอที่บ้าน
“มีอะไรก็เรียกนะ หรือโทรก็ได้”
พี่เจนบอกกำชับกับนภาก่อนที่จะเดินกลับบ้านของตัวเอง ในใจก็นึกเป็นห่วงเพราะกลัวว่านภาจะคิดสั้น
นภากลับมานอนซมที่โซฟาตัวเดิมแล้วก็กอดรูปถ่ายของสามีและลูกเอาไว้เช่นเดิม น้ำตาไหลลงมาข้างแก้ม เธอนอนร้องไห้แบบนั้นอยู่นานจนผล็อยหลับไป
นภาตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึก ภายในบ้านมืดสนิท เพราะว่าก่อนที่เธอจะหลับไป เธอไม่ได้เปิดไฟ
อาการปวดหัวแล่นเข้าเล่นงานเธอทันที คงจะมาจากการที่เธอร้องไห้อย่างหนักนั่นเอง นภาจึงลุกขึ้นเปิดไฟ เดินตรงไปที่ตู้ยาสามัญประจำบ้านเพื่อหายาแก้ปวดมาทาน
“แม่จ๋า แม่คิดถึงหนูมั้ย ?”
เสียงเล็ก ๆ แว่วมาจากที่ไกลแสนไกล นภามองซ้ายมองขวา แล้วก็พึมพำออกมาเบา ๆ
“คิดถึงสิ แม่คิดถึงหนูมาก”
พลางควานหากระปุกยาแก้ปวดในตู้ยาไปด้วย ในตอนนี้เธอปวดหัวมากจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ แล้วในที่สุดเธอก็เจอกระปุกยาแก้ปวด
“นภากินให้หมดเลยนะ จะได้หายทรมาน”
เสียงห้าวทุ้มกระซิบที่ข้างหูของเธอ นภาจำได้ดีว่าเสียงนี้เป็นเสียงของสามีของเธอนั่นเอง
“ได้จ้ะพี่”
เธอพึมพำตอบเสียงนั้นไป แล้วก็เปิดฝากระปุกยา เทยาเม็ดสีขาวลงมาเต็มอุ้งมือ ก่อนที่จะนำมันเข้าไปในปากทั้งหมด เดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นและดื่มน้ำในขวด
นภาเดินกลับไปที่โซฟา และล้มตัวลงนอน คว้ารูปถ่ายของสามีกับลูกชายมากอดเอาไว้เช่นเดิม แล้วเธอก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
แตงไทยสาวสวยผู้ที่ตั้งใจจะขึ้นคานไปตลอดชีวิต แต่พอได้เจอพ่อกำนันรูปหล่อ ปนิธานที่ตั้งไว้ก็เริ่มสั่นคลอน
เพราะคิดว่าพ่อที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณ จะเคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างเธอ เขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง แต่ขวางไปขวางมา กลับกลายเป็นว่าเขากลับเป็นคนเคี้ยวหญ้าต้นนั้นซะเอง
รามสูรผู้ที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธ เมขลาผู้หญิงคนแรกที่กล้าปฎิเสธเขา เพราะค่ำคืนที่เร่าร้อนเพียงคืนเดียว ทำให้เขาติดใจในตัวเธอ แต่เธอกลับคิดจะหนี รามสูรจึงวางแผนเพื่อให้เมขลา มาเป็นทาสรักของเขา แต่ว่าไป ๆ มา ๆ เธอกลับได้เป็นเจ้าของหัวใจของเขาซะนี่
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
สิ่งแรกที่เธอทำหลังจากการหย่าร้าง เธอไปหมั้นกับศัตรูของเขา ไปมีความรักกับชายหนุ่มน้อย เล่นงานมือที่สาม แก้แค้นอดีตสามี ตัวตนที่แท้จริงของเธอค่อยๆ ถูกเปิดเผย นักเปียโนอันดับหนึ่งของโลก? ดีไซเนอร์ Elan ที่หาตัวยาก? นักลงทุนลึกลับ? หลังจากการหย่าร้างหลี้จิงถิงถึงค้นพบว่าอดีตภรรยาของเขามีความลับมากมายอย่างนี้ เขาอยากตามตื้ออดีตภรรยาของเขากลับมาคบกัน แต่ยังเป็นไปได้ไหมล่ะ มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อปริศนาแห่งประสบการณ์ชีวิตของเธอถูกเปิดเผยจริงๆ หัวใจของเขาแตกสลายอย่างสิ้นเชิง...
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด