"เพียงขวัญ" คุณแม่ม่ายลูกหนึ่งสุดสตรองที่เพิ่งจะหย่ากับสามีหมาดๆ จู่ๆ เด็กหนุ่มข้างห้องวัย20ก็มาปิ๊ง ทั้งที่อายุห่างกัน 22 ปี! เธออดคิดไม่ได้ว่าเขาหลงรักเธอจริงๆ หรือเขากำลังคิดถึงแม่ที่บ้านกันแน่
“เจริญเถอะ! โทรหาเจ้าของก็ไม่รับสาย โทรหานิติก็บอกกำลังตามช่าง เฮงซวยจริงๆ!”
ภายในคอนโดฯ ใจกลางเมือง ขณะ ‘เพียงขวัญ’ ยืนในห้องครัวแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งสบายตัวกับกางเกงขาสั้นง่วนอยู่กับการทำงานบ้าน เสียงบ่นกระปอดกระแปดของหญิงสาวดังขึ้นเป็นระยะ เมื่อในระหว่างที่เธอกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อรอให้ถึงเวลาเลิกเรียนพิเศษของลูกชาย จู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ท่อน้ำตรงอ่างล้างจานที่เธอกำลังใช้งานอยู่ดันปริแตกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ส่งผลทำให้น้ำกระเซ็นใส่หน้าเธอ และมีแววว่ามันจะล้นทะลักท่วมห้องจนทำให้เฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหาย
เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น ในช่วงที่เธอกำลังรอช่างหรือใครสักคนมาช่วย คุณแม่ลูกหนึ่งก็พยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง เธอกุลีกุจอนำเทปใสม้วนใหญ่มาปิดรอยแตก หวังบรรเทาความเสีย ทว่ามันกลับทำให้เธอต้องส่งเสียงร้องวี้ดว้ายในเวลาต่อมา เมื่อน้ำจากท่อพุ่งกระเซ็นใส่ ส่งผลทำให้เนื้อตัวของเพียงขวัญเปียกชุ่ม
“นี่มันไม่ใช่วันของเราชัดๆ” เพียงขวัญโอดครวญ เธอในตอนนี้เหมือนคนที่พร้อมจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ สาเหตุที่ทำให้เธอเกือบจะหลั่งน้ำตา มันไม่ได้เป็นเพราะว่าหญิงสาวอ่อนแอแต่อย่างใด แต่มันเป็นเพราะเพียงขวัญกำลังโมโหจนควันออกหูต่างหาก
การเป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวไม่มีความรู้เรื่องช่าง มันยากลำบากเกินกว่าที่คิดไว้
ด้วยความจนปัญญา สุดท้ายเพียงขวัญตัดสินใจเดินออกไปจากห้องทั้งสภาพมะลอกมะแลก เธอคิดจะลงไปตามนิติคอนโดฯ ให้ช่วยเร่งช่างซ่อมท่อ ทว่าในจังหวะที่เพียงขวัญผลักประตูออกไปทั้งสภาพตัวเปียกโชก ทันใดนั้นหญิงสาวต้องชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเธอดันเปิดประตูไปชนใครอีกคนที่เจ้าตัวน่าจะอยู่ห้องถัดไปจากเธอเข้าพอดี
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” เพียงขวัญเห็นอย่างนั้น หญิงสาวรีบกล่าวขอโทษด้วยความตกใจ
“ไม่เป็นไรครับ” อีกฝ่ายบอกเธอกลับมาอย่างไม่ถือสาพลางสายตาสำรวจสภาพของเพียงขวัญที่ตอนนี้กำลังอยู่ในสภาพเปียกปอนเป็นลูกหมาตกน้ำอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาถึงถามเพิ่มเติม
“ท่อน้ำในห้องแตกเหรอครับ” เพื่อนร่วมคอนโดฯ เอ่ยถาม
ในส่วนนี้เพียงขวัญไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเจ้าตัวถามเพราะความอยากรู้อยากเห็น หรือถามเพราะต้องการให้ความช่วยเหลือเธอกันแน่
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"