ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ชะตาลิขิต
ชะตาลิขิต

ชะตาลิขิต

4.9
1 บท/วัน
634 บท
354.2K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

การหมั้นหมายที่มีมานับศตวรรษระหว่างตระกูลหรงและตระกูลเหร่วน ทำให้เขาและเธอที่แตกต่างกันราวฟ้าและดินได้มีความผูกพันกันอย่างใกล้ชิด หรงเฮ่าชวน“เธอเป็นใคร? เเธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะเป็นภรรยาของผม? ถ้าต้องการแต่งงานก็ให้ขุดปูทวดสองคนจากสุสานมาทำพิธีแต่งงานด้วยตนเองซะ!” เหร่วนฉิง “ต้องแต่งงานสิ ทำไมถึงไม่แต่งงานล่ะ? ตระกูลหรงมีทรัพย์สินนับหมื่นล้าน ถึงแม้จะหย่าร้างกันแล้ว ฉันก็จะได้รับทรัพย์สินสักนิดก็ยังไม่เสียเปรียบ!”

บทที่ 1 แรกพบ

ขณะที่หร่วนฉิงกำลังเอามือเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย เธอมองเห็นหร่วนฟังผิงที่กำลังเก็บของกองโต เธอทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นเเล้วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ลูกถอนหายใจทำไม?” “ที่แม่ทำทั้งหมดก็เพื่อลูกนะ” พอพูดจบ ฟังผิงก็ค่อย ๆ เอาธูปเทียนเเละ กระดาษเงินกระดาษทองที่เตรียมไว้ใส่ลงในกระเป๋า แล้วไม่ลืมที่จะหันกลับมามองลูกสาวของเธอ

(*TN: กระดาษเงินกระดาษทอง คือแผ่นกระดาษที่นำมาเผาในพิธีไหว้บรรพบุรุษแบบจีนดั้งเดิมเป็นพิธีที่ทำในช่วงวันหยุดในโอกาสพิเศษ )

การกลับบ้านเกิดครั้งนี้ คงจะต้องค้างที่นั่นสักสองวัน หร่วนฉิงไม่อยากกลับไปพร้อมกับฟังผิง แต่เมื่อเห็นว่าแม่ของเธอเก็บของใกล้จะเสร็จแล้ว เธอก็เก็บโทรศัพท์มือถือและที่ชาร์จแบตยัดใส่ลงไปในกระเป๋าสีน้ำตาลอ่อนของเธออย่างยอมรับชะตากรรม

ในระหว่างทางที่กลับบ้านเกิด ขณะที่หร่วนฉิงมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถบัสอยู่นั้น แม่ของเธอก็พล่ามเกี่ยวกับการนัดเดทของเธอ

เนื่องจากคืนก่อนมีฝนตก จึงทำให้ถนนในหมู่บ้านค่อนข้างลื่น แม้ว่าหร่วนฉิงจะไม่ได้เต็มใจกลับมาบ้านเกิดกับแม่ แต่หลังจากที่พวกเขาลงจากรถบัส เธอก็ช่วยเเม่ถือกระเป๋าอีกมือหนึ่งก็ควงเเขนเเม่เอาไว้

“หร่วนฉิง แม่ขอโทษ ที่แม่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าแม่ไม่มีทางเลือก ลูกดูความรักของลูกสิ ไม่ว่าจะเป็นความรักในมหาวิทยาลัยหรือการนัทเดท มีครั้งไหนบ้างที่จบด้วยดี ลูกทำให้แม่ไม่กล้าสู้หน้าใครจริง ๆ ดูเหมือนว่าฟังผิงจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพูดเลย

ทุกครั้งที่ฟังผิงนึกถึงเรื่องราวความรักของลูกสาว เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทุกที มักจะมีคนนินทาลับหลังเธอเสมอ

เช่น “นั่นไง!แม่ของนางตัวซวยนั่น!”

สองปีที่ผ่านมา หร่วนฉิงมีนัดบอดอยู่หลายครั้ง เขาเคยคบกับผู้ชายดี ๆ ที่เธอใฝ่ฝันหลายคน แต่ทุกครั้งเมื่อความสัมพันธ์ของหร่วนฉิงเริ่มพัฒนาขึ้น ก็มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา

มีผู้ชายสองคนประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน สองคนยางแตกกลางทาง ยังมีอีกสองคนพบว่าเป็นโรคร้ายแรงก่อนแต่งงาน

แม้ว่าความบังเอิญทำนองนี้อาจเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุเหล่านั้นได้เกิดขึ้นกับหร่วนฉิงเห็นจะบ่อยเกินไปจนผิดปกติ

หลังจากเห็นความโชคร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครกล้าที่จะเป็นแม่สื่อให้หร่วนฉิง เพราะทุกคนกลัวตัวเองจะเดือดร้อน

“แม่หยุดพูดเรื่องนี้ได้ไหมคะ? สังคมสมัยนี้ มีการนัดบอดหลาย ๆ ครั้งมันเป็นเรื่องปกติมากน่ะ บนโลกใบนี้ในทุก ๆ ชั่วโมง ทุก ๆ นาที และทุก ๆ วินาที มันสามารถเกิดอุบัติเหตุและโรคร้ายต่าง ๆ ขึ้นได้ จะมาโทษหนูอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”

ความบังเอิญเหล่านี้ มันไม่ใช่เพราะเธอไม่มีวาสนาที่จะได้แต่งาน แต่นี่คือโชคชะตาของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าสักวันหนึ่งเธอจะเจอคนที่ใช่

ในขณะที่เหลือบมองหร่วนฉิง ฟังผิงก็คว้ากระเป๋าจากมือของเธอและพูดว่า “เด็กคนนี้นี่! ถ้าลูกไม่หาวิธีไล่ความโชคร้ายนี้ออกไป แม่ก็อาจโดนลูกสาบแช่งไปด้วยในเร็ว ๆ นี้

ขณะที่พูดอยู่นั้น พวกเขาก็เลี้ยวและมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าของพวกเขา

หร่วนฉิงยักไหล่แล้วเดินตามหลังแม่ของเธอไป เธอได้ยินเสียงรถที่ขับผ่านมา เมื่อหันมองกลับไป เธอก็เห็นรถเมย์บัคสีดำสุดหรูซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าที่อยู่ถัดจากบ้านของพวกเขาออกไป

“โอ้ พ่อหนุ่มไฮโซ รวยอะไรขนาดนี้!” “เขาขับรถหรูแบบนี้บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลนได้ยังไง ไม่กลัวรถติดโคลนแล้วออกไม่ได้หรือไง?”

เธอบ่นงึมงำพลางมองรองเท้าที่เปื้อนโคลนของเธอ แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าของพวกเขา

หมู่บ้านเซียงหวยเป็นหมู่บ้านโบราณ มีประวัติศาสตร์มานานกว่าสามร้อยปี ที่นี่มีอาคารเก่าแก่หลายแห่งที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะวัดเก่าแก่แห่งนี้ ได้รับการทำนุบำรุงป็นอย่างดี และเต็มไปด้วยผู้แสวงบุญอยู่เสมอ ธูปเครื่องหอมสักการะภายในวัดไม่เคยดับลงจนถึงปัจจุบันนี้

“คุณเฮ่าชวน คุณรีบหน่อยได้ไหมคะ? คุณท่านรอนานแล้วค่ะ ท่านบอกว่า 9 โมงเช้า คือเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการถวายเครื่องหอม

หน้ากระจกกรอบทองแดงบานหนึ่ง ชายคนหนึ่งกำลังจัดเสื้อของเขาให้เรียบร้อย เขาขมวดคิ้วพลางมองไปที่แม่บ้านด้วยสายตาที่เย็นชา

นัยน์ตาสีเข้มของเขาคล้ายกับท้องฟ้าที่มืดมน เขากวาดสายตาที่แสนเย็นชาไปยังแม่บ้านแวบหนึ่ง ทำให้แม่บ้านหยุดพูดทันที เมื่อสบสายตากับเขา

“ผมไม่ชอบเนคไทนี้” “เอาเส้นอื่นมาให้ผม”

พอเขาพูดจบ เขาก็โยนเนคไททิ้งไป

แม่บ้านรีบทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็วโดยไม่รีรอ เขาหันกลับมาพร้อมยื่นเนคไทอีกเส้นให้เฮ่าชวน

“เข็มขัดเส้นนี้ก็ไม่เข้ากับเสื้อผ้าที่ผมใส่” “หาอันอื่นมาให้ผม” เฮ่าชวนดึงเข็มขัดหนังสีดำออกแล้วโยนทิ้งไป

แม่บ้านรีบไปคว้าเข็มขัดนั้นเอาไว้

หรงเฮ่าชวนมีนิสัยหรือสามารถเรียกอีกอย่างว่างานอดิเรกอย่างหนึ่ง ก็คือการชอบขว้างทิ้งสิ่งของ ตราบใดที่เขาไม่ชอบสิ่งนั้น

เขาจะโยนมันทิ้งทันทีโดยไม่ยั้งคิด

จนกระทั่งเลขาและผู้ช่วยของเขา ต้องแข็งแกร่งและว่องไวกันทุกคน พูดให้ดูเว่อร์ขึ้นมาหน่อยก็คือ ถ้ามีแมลงวันตัวหนึ่งกำลังบินหึ่งอยู่ พวกเขาก็สามารถจับมันได้ด้วยสองนิ้ว!

อีกด้านหนึ่งของประตู มีหญิงสง่างามคนหนึ่งที่กำลังจะรอต่อไปไม่ไหวแล้ว นั่นก็คือแม่ของเขา เธอเคาะประตูอย่างเร่งรัด เร่งให้ลูกชายของเธอรีบไป

“เฮ่าชวน” พิธีบูชาบรรพบุรุษประจำปีสำคัญกับโชคของตระกูลหรงของเราตลอดทั้งปีเลยนะ “จะประมาททำเป็นเล่นไม่ได้นะ!”

เมื่อมองตัวเองในกระจกกรอบทองแดงอีกครั้ง หรงเฮ่าชวนก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะไม้โบราณแล้วเดินไปที่ประตู

แม่บ้านถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบเปิดประตูให้เขา ขณะที่ฟางจิ้งห้วย แม่ของเฮ่าชวนกำลังรออยู่ข้างนอกอย่างใจจดใจจ่อ

ฟังผิงและหร่วนฉิงก้าวออกจากบ้านของพวกเขา ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของตระกูลหรง แล้วพวกเขาก็เดินไปที่วัดเก่ากัน

ขณะที่เดินไปตามถนน ฟังผิงสอนลูกสาวเกี่ยวกับพิธีกรรมและวิธีปฏิบัติในวัดเก่า ฟังผิงเกรงว่าหร่วนฉิงจะประพรฤติไม่ถูกไม่ควรจนทำให้พระเจ้าโกรธ และทำให้เธอนั้นขึ้นคานไปตลอดชีวิต

หร่วนฉิงได้แต่กลอกตาไปมา ทุกครั้งก่อนไปวัด แม่มักจะเตือนซ้ำ ๆ ตลอดทาง

“แม่สุดที่รักของหนู เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ?” หนูเป็นลูกสาวของแม่ ไม่ใช่แม่ที่แก่ชราของแม่นะคะ “นี่แม่พูดเป็นร้อยครั้งแล้วนะ จนหนูท่องจำได้ทุกคำเลย!”

หร่วนฉิงมักชอบพูดเล่นไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่แบบนี้และฟังผิงก็ชินกับเรื่องนั้นแล้ว เธอมองลูกสาวด้วยรอยยิ้ม และช่วยจัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบขึ้น แล้วจึงพูดขึ้นว่า “แม่แค่อยากเตือนลูกอีกครั้ง”

ทั้งสองเข้าไปในวัดเก่า และเดินตรงเข้าไปในห้องโถงด้านหลัง มีกฎพิเศษเฉพาะผู้ที่พักอาศัยอยู่ในท้องถิ่นในหมู่บ้านเซียงหวย ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่มาเยี่ยมชมทั่วไป

“เอาของพวกนี้ไปด้วย จำไว้ด้วยนะ เข้าห้องไปแล้วอย่ามองไปทั่ว จำทุกสิ่งที่แม่บอกลูกไว้ให้ขึ้นใจ” ฟังผิงพูดแนะนำ แล้วยื่นสิ่งของสองสามชิ้นให้หร่วนฉิง

มันเป็นประเพณีในหมู่บ้านเซียงหวย ผู้คนที่มาวัดเก่าต้องนำเครื่องบรรณาการและเทียนมาสักการะอย่างจริงใจ เพื่อให้ความปรารถนาของพวกเขาเป็นจริง

“เข้าใจแล้วค่ะ!” หร่วนฉิงรีบเดินไปที่ประตูห้องสวดมนต์ทันที ทันทีที่เธอมาถึงห้องนั้น ในที่สุดเธอก็สามารถมีช่วงเวลาของความสงบ

อีกด้านหนึ่ง...

ครอบครัวหรง เป็นครอบครัวแรกที่ร่ำรวยขึ้นในหมู่บ้านเซียงหวย จากนั้นพวกเขาก็บริจาคเงินเป็นจำนวนมากเพื่อบูรณะวัดเก่า ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับการรับรองเป็นพิเศษในหมู่บ้านเซียงหวย

ศิลาจารึกบรรพบุรุษของตระกูลหรงถูกจัดวางเคารพไว้ในห้องโถงข้างห้องสวดมนต์ ซึ่งได้รับการปกคลุมด้วยแสงของพระพุทธเจ้า

“เฮ่าชวน”ตอนนี้ลูกเป็นหัวหน้าตระกูลหรงแล้ว “ลูกควรเป็นประธานในพิธีด้วยตนเอง” จิ้งห้วยพูดอย่างอ่อนโยนพลางมองดูลูกชายที่ดูเด่นสง่าของเธอ

ตลอดชีวิตของเขา สิ่งที่เฮ่าชวนเกลียดที่สุดคือการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

แต่ไหนแต่ไรมา เขาเชื่อมั่นในตัวเองเท่านั้น

ถึงแม้ว่าเฮ่าชวนจะไม่ชอบ แต่เขาก็ยังทำตามคำแนะนำของแม่เป็นอย่างดี เฮ่าชวนได้รับการอบรมมาอย่างดี ไม่มีทางที่เขาจะแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาต่อหน้าแม่ของเขาอย่างแน่นอน เขาหยิบตะกร้าจากแม่ของเขาแล้วหันกลับไปพร้อมมุ่งหน้าไปยังห้องโถงบรรพบุรุษ

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 634 บันทึกขอบคุณ   12-19 11:33
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY