ไอ้แคล้วหนุ่มบ้านไร่ลูกชายกำนัน แอบชอบน้องบัวรินลูกสาวพ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยว แต่เธอไม่เคยชายตาแลเขาเลย ไอ้แคล้วจึงตัดสินใจจับน้องบัวรินทำเมีย....
ไอ้แคล้วหนุ่มบ้านไร่ลูกชายกำนัน แอบชอบน้องบัวรินลูกสาวพ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยว แต่เธอไม่เคยชายตาแลเขาเลย ไอ้แคล้วจึงตัดสินใจจับน้องบัวรินทำเมีย....
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
วาสนาคนอย่างไอ้แคล้ว เกิดมายี่สิบสามปียังไม่เคยได้พบกับความรักและความเสียวที่แท้จริงเลย
เรื่องเสียวที่พบเจอครั้งล่าสุด คือ... เมื่อคืนนี้จากหนังโป๊และมือของตัวเอง ประสบการณ์เสียว ไม่เป็นที่น่าจดจำ เพราะไม่เคยมีสักครั้งที่แคล้วจะสมหวังกับใครสักคนด้วยความรัก มีแค่ความพลั้งเผลอ และความแอบรักฝ่ายเดียวเท่านั้น
ถึงอย่างนั้นแคล้วยังมีความหวังในเรื่องความรัก ประสบการณ์รักที่เคยผิดหวัง เขาเคยแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เทียวไล้เทียวขื่อและได้ขอคบหาด้วยแต่ท้ายที่สุดเขาก็ได้เจอว่าเธอนอกใจ
ทว่าเขาก็ไม่คิดจะยอมทิ้งคำว่ารักแม้จะถูกปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ยังเพียรที่จะหาคนรัก แม้ว่าการเปิดใจในรักครั้งแรกจะไม่สมหวัง และถูกทรยศหักหลังอย่างไร้เยื่อใยก็ตาม
ปัจจุบัน คนที่แคล้วชอบพอ เธอชื่อว่า “บัวริน"
สาวสวยวัยสิบแปดปีลูกสาวของ “น้าแนว” ที่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่หน้าไซต์งานก่อสร้างบนที่ดินของพ่อกำนันดวงดี บิดาบังเกิดเกล้าของแคล้วนั่นเอง ที่กำลังสร้างหอพักเอาไว้ให้คนเช่า กำนันดวงดีจึงให้แคล้วมาเป็นหัวหน้าคุมงาน
บัวริน... เธอเป็นสาวสวย รูปร่างผอมบางน่าทนุถนอมแต่ถึงอย่างนั้นบัวรินมีสิ่งหนึ่งที่เด่นสะดุดตา ก็คือหน้าอกหน้าใจไฟหน้าใหญ่ ๆ กลมกลิ้งของเธอนั่นเอง
อย่าหาว่ามีแต่ไอ้แคล้วเลยที่ไม่อาจจะละสายตาได้ พวกหนุ่ม ๆ อีกหลายคนก็พากันตกหลุมพรางความงดงามของสองประทุมมานั้นเช่นกัน
ในยามที่แคล้วมาอุดหนุนซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านของเธอ แคล้วพยายามที่จะจับจ้องมองสบตากับเธอ เขาพยายามส่งสายตาว่าตัวเองนั้น มีความรู้สึกดี ๆ ให้
แต่ทว่าบัวรินก็ไม่ได้ทอดสะพานให้เขาแต่อย่างใด แคล้วได้แต่เศร้า เขาเอาแต่คิดว่า... เป็นเพราะตัวเองเป็นคนอับโชคใช่ไหม?
หรือบัวรินคิดแต่เพียงว่า เขาเป็นเพียงลูกชายของพ่อกำนันดวงดี ที่มีฐานะทางบ้านดีเท่านั้น หรือคิดแต่เขาไม่ได้ทำงานทำการ ได้แต่รอเกาะพ่อกิน
อีกอย่างเขาเคยใช้ชีวิตเสเพลสำราญไปวัน ๆ อาจจะทำให้เธอเข้าใจผิดก็เป็นได้
หรือว่า... แคล้วหน้าตาบ้าน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นในสายตามองเธอกันแน่ แคล้วได้แต่ครุ่นคิด
เพราะว่า... คู่แข่งแต่ละคนที่มาจีบบัวรินนั่น บางคนมีดีกรีเสียด้วย
แคล้วคิดว่า... บางทีบัวรินอาจจะมีใจเอนเอียงไปให้ทางหนุ่มผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีดาวติดบนบ่า คนที่มีตำแหน่งและเพิ่งจบนายร้อยมาหมาด ๆ เสียมากกว่า เช่นสารวัตรฉัตรชัย
ทุกครั้งที่เขาเห็นเวลาที่บัวรินคุยกับสารวัตรฉัตรชัย ทั้งแววตา รอยยิ้มและน้ำเสียงของเธอ เวลาคุยกับสารวัตรช่างแตกต่างจากที่พูดคุยกับแคล้วไปโดยสิ้นเชิง
แค่คิดแคล้วก็ขุ่นเคืองทำให้เขาเสียใจไปหลายวัน และยิ่งคิดลบ ๆ มันก็ปลุกความอคติของตัวเองออกมาจนได้ แคล้วรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์เวลาที่เห็นภาพอย่างนั้น แม้จะชินตาแต่ไม่ชินที่หัวใจ
จนทำให้คิดอยากจะทำอะไรสักอย่างในเร็ววันนี้
คืนหนึ่งขณะที่บัวรินกำลังจะเก็บร้านเพื่อจะกลับบ้าน เพราะว่าที่ร้านขายดีมากจนของหมดเร็ว แถมมีลูกค้าจากไซต์งานก่อสร้างมาอุดหนุนทุกวันจนหมดเกลี้ยง
ช่วงนี้เป็นวันแรงงาน 1 พ.ค. ที่นี่ก็ให้คนงานหยุดงานได้ถึงห้าวัน
แคล้วทำทีมายืนที่หน้าไซต์งาน และบอกให้ทุกคนรีบพากันกลับบ้านและเดินทางดี ๆ
“กลับบ้านก่อนนะครับหัวหน้า”
“เออ ๆ กลับบ้านดี ๆ นะทุกคน เดินทางปลอดภัย”
เขาเอ่ยร่ำลาลูกน้อง แต่สายตาของเขาก็คอยชำเลืองมองไปที่ร้านของบัวรินอย่างไม่วางตา
วันนี้เป็นไงเป็นกัน แคล้วจะต้องสารภาพรักกับบัวรินให้จงได้ เขาจะเผยความรู้สึกแท้จริงกับเธอ
แคล้วเดินไปหาบัวรินถึงที่ร้าน เขาเผยยิ้ม
“บัวรินจ๊ะ แม่ค้าคนสวย วันนี้พี่แคล้วจะมาขอเหมาของกินที่ร้าน พอจะขายให้ได้ไหมจ๊ะ รวมถึงแม่ค้า... เอ่อ... น้องบัวรินด้วย” แคล้วไปเย้าแหย่เล่น
แต่บัวรินไม่เล่นด้วย เธอหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ
"ร้านปิดแล้วจ้า ขายไม่ได้จริง ๆ จ้า แล้วเอ่อ... ฉันไม่ได้เป็นสาวขายตัวนะฮึ! พี่แคล้วเนี่ยพูดจาน่าเกลียดจริงๆ" เธอตอบค่อนแขวะแคล้วในท้ายประโยค และขึงตาใส่
“จะมาสารภาพรักสินะ เฮ้อ... พี่น่ะคงจะไม่มีปัญญาเลี้ยงน้องให้มีความสุขหรอกจ้า อย่ามามงมาเหมา อีกอย่างขอแค่พี่แคล้วมาอุดหนุนน้องทุก ๆ วันก็พอแล้วนะจ๊ะ” แม้จะไม่ชอบคำพูดก่อนหน้า แต่เธอก็ยังคงรักษามารยาท
แต่ทว่าท่าทางและน้ำเสียงที่บัวรินที่พูดกับเขานั้น ทำเอาหัวใจของแคล้วกระตุกวูบไหว ไม่ใช่อะไรเพราะแคล้วรู้สึกกรุ่นโกรธ เขามันน่ารังเกียจมากขนาดนั้นเลยเหรอ เธอถึงต้องพูดจาไม่ไว้หน้าเขาขนาดนี้
นี่เขาคือลูกชายกำนันดวงดีเชียวนะ!
“พรุ่งนี้พี่แคล้วก็ค่อยกลับมาใหม่เถิดจ๊ะ ฉันจะเก็บร้าน พี่อย่ามาเกะกะเลย” บัวรินไม่ได้ให้ความหวังแคล้วเลยสักนิด
แคล้วเอาแต่ขบฟันกลั้นความรู้สึก และยังคงไม่ไปไหน เขายังคงมองดูเธอเก็บร้านอยู่ตรงนั้น
ในหัวคิดถึงเรื่องที่จะทำอย่างไรจะชนะใจของเธอได้ แต่ทว่า... บัวรินไม่ได้สนใจ และออกจะแสดงอาการเกลียด ราวกับแคล้วเป็นคนร้ายที่ก่ออาชญากรรม
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด