หลังจากอยู่ในสภาวะเจ้าหญิงนิทรามาเป็นเวลาห้าปี ในที่สุดซ่งจิ่งถังก็ตื่นขึ้น
น้ำเสียงอันอ่อนโยนของฮั่วอวิ๋นเซินผู้เป็นสามีดังก้องที่ข้างหู
เขาลูบไล้แก้มของเธอไปมาพลางกระซิบเบา ๆ ว่า “ถังถัง สำหรับผม คุณไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว หลับไปแบบนี้แหละนะ อย่าตื่นขึ้นมาอีกเลย”
ไอ้สารเลวนี่!
ซ่งจิ่งถังจิกฝ่ามือแบบเต็มแรง เพื่อระงับอาการคลื่นไส้ที่ปั่นป่วนอยู่ในท้องเอาไว้
เธอรู้จักกับฮั่วอวิ๋นเซินตอนอายุสิบสอง แล้วก็แต่งงานกับเขาตอนอายุยี่สิบ ทว่าในวัยยี่สิบสองปี กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นระหว่างที่คลอดลูก เพื่อรักษาชีวิตของลูกทั้งสองคนไว้ ซ่งจิ่งถังจึงต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา
แพทย์วินิจฉัยว่า ร่างกายของเธอหลงเหลือเพียงการทำงานขั้นพื้นฐานเท่านั้น ไม่มีการรับรู้ใด ๆ หรือเรียกอีกอย่างก็คือตุ๊กตาที่หายใจได้นั่นเอง
แต่ความจริงคือ ซ่งจิ่งถังได้ยินและรับรู้ได้ถึงทุกอย่างรอบตัว ติดตรงที่เธอลืมตาไม่ได้เท่านั้น
ใครจะไปคิดล่ะว่า สภาวะที่เธอต้องเผชิญกลับกลายเป็นโอกาสที่ทำให้เธอได้เห็นธาตุแท้ของฮั่วอวิ๋นเซินแบบเต็มสองตา……
พยาบาลเคาะประตู แล้วเข้ามาเตือนว่า
“คุณฮั่วคะ วันนี้หมดเวลาเยี่ยมแล้วค่ะ”
ฮั่วอวิ๋นเซินยิ้มให้กับพยาบาลสาวอย่างสุภาพ พร้อมตอบไปว่าครับ
ก่อนจะไป เขาได้โน้มตัวลงมาจูบหน้าผากของซ่งจิ่งถังด้วยความรักใคร่เหมือนอย่างเคย
“ถังถัง รีบ ๆ ฟื้นขึ้นมานะ...…ผมจะรอคุณเสมอและจะรักคุณตลอดไป”
ซ่งจิ่งถังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ
ทักษะการแสดงยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้ เอามาใช้กับเจ้าหญิงนิทราอย่างเธอก็น่าเสียดายแย่น่ะสิ!
แต่ฮั่วอวิ๋นเซินยังคงมีคนจับตาดูอยู่ พยาบาลสาวสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตูกำลังมองตามแผ่นหลังของเขาด้วยความหลงใหล
พยาบาลคนแรกเอ่ยออกมาอย่างซาบซึ้งใจว่า “คุณฮั่วนี่เป็นผู้ชายที่ดีจังเลยนะ ผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว ยังมาเยี่ยมภรรยาที่อยู่ในสภาวะเจ้าหญิงนิทราทุกอาทิตย์เลย”
“คุณฮั่วไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียว แต่ยังมีทรัพย์สินตั้งเป็นพัน ๆ ล้านแหนะ หนุ่มหล่อบ้านรวยแบบนี้ก็ต้องมีสาว ๆ เข้าหาเยอะเป็นธรรมดาล่ะนะ แต่ช่วงห้าปีที่ผ่านมา คุณฮั่วดันไม่เคยมีข่าวฉาวสักครั้งเลย…… จุ๊ ๆ ” พยาบาลอีกคนได้แต่เบะปาก จากนั้นก็พูดด้วยความหมั่นไส้ว่า “ชาติที่แล้วซ่งจิ่งถังทำบุญด้วยอะไรก็ไม่รู้เนอะ ถึงได้แต่งงานกับสามีที่ดีพร้อมแบบนี้เนี่ย!”
สามีที่ดีพร้อมงั้นเหรอ?
ซ่งจิ่งถังได้แต่ยิ้มเยาะอยู่ในใจ
สามีที่ใช้ความสามารถของเธอในการสร้างฐานบริษัท รีดเอาประโยชน์จากร่างกายของเธอจนถึงที่สุด มิหนำซ้ำยังหวังให้เธอนอนนิ่งเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดชีวิตเนี่ยนะ…… ดีจริง ๆ !
ซ่งจิ่งถังพยายามจะยกผ้าห่มขึ้นเพื่อลุกจากเตียง แต่การต้องนอนอยู่บนเตียงมาห้าปี ทำให้กล้ามเนื้อของเธอฝ่อลีบไปนานแล้ว ทันทีที่ปลายเท้าแตะพื้น เธอจึงล้มลงอย่างแรง
เธอข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ขณะเดียวกันก็พยายามจะตะเกียกตะกายไปที่หน้าต่าง
ที่ชั้นล่างมีรถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งจอดรออยู่
ซ่งจิ่งถังจำรถคันนั้นได้ดี หมายเลขทะเบียนรถคือวันเกิดของเธอเอง
นี่คือของขวัญวันเกิดที่ฮั่วอวิ๋นเซินมอบให้กับเธอในวันครบรอบการแต่งงานของพวกเขา
ตอนนั้นเธอรู้สึกมีความสุขจ้นล้นใจ มากถึงขนาดโผเข้าไปในอ้อมกอดของฮั่วอวิ๋นเซินด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็รบเร้าถามเขาไม่หยุดว่า ‘ฮั่วอวิ๋นเซิน คุณรักฉันใช่ไหมคะ? ’
เขาจูบเธอด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดกับเธออย่างจริงจังว่า ‘เด็กโง่ คุณเป็นภรรยาของผม ถ้าผมไม่รักคุณแล้วจะให้ไปรักใครล่ะ? ’
เขาพูดว่า ‘ถังถัง นี่คือวันครบรอบปีแรกของพวกเรา ต่อจากนี้ไปพวกเราจะอยู่ฉลองด้วยกันอีกหลายสิบปี เป็นห้าสิบปีเลยนะ ’
ที่แท้ความรักก็เป็นสิ่งที่เสแสร้งได้เหมือนกันนี่เอง……
เวลานี้ซ่งจิ่งถังกำลังเฝ้าดูภาพที่เลขาของฮั่วอวิ๋นเซินอย่างหลินซินจือเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงลงมาจากรถที่ควรจะเป็นของเธอ ราวกับเป็นนายหญิงใหญ่
เธอวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหาฮั่วอวิ๋นเซินด้วยรอยยิ้ม แต่ดันไปสะดุดบางอย่างเข้า จนเผลอล้มหน้าคะมำโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นฮั่วอวิ๋นเซินก็รีบรุดเข้าไปประคองเธอเอาไว้
สีหน้าเป็นห่วงและวิตกกังวลแบบนั้น เป็นสิ่งที่ซ่งจิ่งถังไม่เคยเห็นจากใบหน้าของฮั่วอวิ๋นเซินมาก่อนเลย