รื่องราวชวนปวดหัวเมื่ออรณิมารับท้าพนันกับปาภัทรเพื่อให้ธีรรภัคหนุ่มหล่อหน้าตาดีมาตกหลุมรัก เรื่องจะอลวนอลเวงขนาดไหนมาอ่านกันเลย! +++ โปรยปราย “คืนนี้คุณจะเป็นของผม คุณต้องชดใช้ให้ผมได้ยินไหมอรณิมา” ท้ายประโยคธีรรภัคเอ่ยเสียงชัดถ้อยชัดคำจนหญิงสาวอดกลัวใจชายหนุ่มไม่ได้ อรณิมาจำต้องเก็บถ้อยคำที่อยากจะพร่ำด่าเขาออกมา เมื่อหญิงสาวเห็นเพียงแววตาที่สะท้อนกับหยาดน้ำตาคู่นั้น...แววตาพราวระยับมัวหมองจนมิเหลือเค้าของเพื่อนร่วมห้องเรียนคนก่อน ...นายภัค ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยคีย์การ์ดใบเดียว เวลานี้อรณิมาถูกปิดตาอยู่ ธีรรภัคเหลียวมองใบหน้าหวานที่ถูกปิดตาอย่างกรุ่นโกรธ ยามนี้ชายหนุ่มพาดร่างของอรณิมาไว้กับบ่าของเขา นับแต่ที่เขารู้เรื่องการพนันของอรณิมา กับปาภัทร ความผิดหวังก็เข้ามาก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ผิดหวังที่เพื่อนทั้งสองรวมหัวกันหลอกเขา คนหนึ่งล้อเล่นกับความรู้สึกเพื่อน แต่อีกคนหนึ่งอยากเสนอให้เขาแทบขาดใจ ดวงใจของชายหนุ่มนั้นแหลกสลาย ธีรรภัคคนเดิมคนเป็นผู้ชายที่โง่งมมากที่ตกหลุมรักสตรีที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างอรณิมา “เลิกมารยาสักที อรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะอุ้มหญิงสาวชุดเดรสยาวหางปลาหรูหราลงกับเตียงอย่างรุนแรง “ภัคเปิดตาให้อรเถอะนะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน หญิงสาวคว้ามือเปะปะไปมาในอากาศ “…” ธีรรภัคไม่ตอบรับในทันที กระนั้นนัยน์ตาของชายหนุ่มกลับเหลือบเห็นชายผ้า “ไหนอรบอกว่าอยากใช้ร่างกายแลกกับความผิดที่อรก่อไว้ไง” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะตวาดหญิงสาวดังสนั่น อรณิมาไหล่สั่นเล็กน้อย หญิงสาวพยายามกระถดหนีเสียงอย่างเขา “ภัคจะปิดตาอรไว้แบบนี้แหละ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างชิงขังในมารยาร้อยเล่มเกวียนของหญิงสาว ‘ความแค้นวันนี้ต้องชำระวันนี้สิ’ ธีรรภัคคิดในใจ มือหนาถอดรองเท้าของตนเองออก ในเวลานี้ชายหนุ่มมีแต่ความแค้นเคืองต่อหญิงสาวถึงที่สุด “ภัคจะทำอะไร...อร” อรณิมาหวีดร้องสุดเสียงเมื่อได้ยินเสียงเสียงแควกดังขึ้นใกล้ตัวของหญิงสาว “จำคำพูดตัวเองแล้ว...จำวันนี้ไว้ให้ดี...ยัยเพิ้งอรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยแล้วตวาดหญิงสาวเสียงดังสนั่นห้องนอนโรงแรมห้าดาว ดีลักซ์หรูหรา อรณิมารู้สึกหวาดกลัวถึงที่สุด เมื่อมือหนาของชายหนุ่มกระฉากชุดเดรส ของเธอออกมากองที่เรียวขาของเธอ +++
บทนำ
เวลา 07.00 น.
พุทธศักราช 2564
บ้านเดี่ยวย่านใจกลางเมืองหลวงขนาดหลายตารางวา
ตัวบ้านทาสีขาวสะอาดตา กระเบื้องลายสีฟ้าสะดุดตาถูกปูทับซ้อนกันเป็นมุมสูงตามแปลนบ้านแบบที่เจ้าของโครงการบ้านได้ให้สถาปนิกผู้ชำนาญได้ออกแบบหมู่บ้านนี้มาอย่างดี
แสงแดดยามเช้าอาบไล้ประตูรั้วบ้านลวดลายหงส์
ที่ออกแบบอย่างวิจิตร…ดูแล้วชวนประหลาดตายิ่งนัก
ถัดเข้าไปในบ้านหลังใหญ่พื้นหญ้าเขียวขจีทอดยาวไป
ตั้งแต่ประตูรั้วบ้านจรดหน้าบานประตูบ้านบานกระจก
กระจกหน้าบ้านเเบบบานสไลด์ถูกล็อคจากหน้าบ้านอย่าง
แน่นหนาเพื่อป้องกันโจรผู้ร้ายที่ชุกชุมในละแวกนั้น
แสงแดดยามเช้าสาดเล็ดลอดเข้าไปในห้องโถงขนาดกว้าง ร่างสูงโปร่งของธีรรภัคนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้
ชายหนุ่มบิดขี้เกียจเล็กน้อยด้วยท่าสบาย ๆ มือเรียวหนาของเขาเอื้อมเสยผมขึ้น
แสงสะท้อนของรัศมีสุริยาสะท้อนให้เห็นใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวสีสำลียิ่งยามสะท้องแสงตะวัน ยิ่งขับให้ผิวนวลผ่องขึ้นกว่าเดิม
ชายหนุ่มสวมกางเกงบ๊อกเซอร์สีฟ้าตัวเดียว ธีรรภัคเคยชินกับการอยู่บ้านคนเดียวตามประสาหนุ่มโสด ธีรรภัคไม่สวมเสื้อเขาเปลือยท่อนบนอย่างรู้สึกสบายตัว
ร่างสูงโปร่งเหลียวมองกระจก ภาพเบื้องหน้าของชายหนุ่มอดทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เวลานี้เขามีกล้ามเนื้อเป็นมัดหน้าท้องเขา ใช่...เขามีซิกแพ็ก
ปีนี้ธีรรภัคอายุอานามก็ปาเข้าไป 36 พอดี กระนั้นยิ่งเขาอายุเยอะเท่าไหร่เขากลับต้องดูแลรักษาร่างกายตนเองมากยิ่งขึ้นจนคนแถวบ้านมักคิดว่าเขามีอายุ 29 ปี กระนั้นธีรรภัคก็หาได้สนใจอะไรไม่
เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น ธีรรภัคเอื้อมมือเรียวขึ้นหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาสไลด์แล้วรับสาย
“ฮัลโหล” เสียงนุ่มกรอกลงไปตามสาย ดวงหน้าคมคายแต้มรอยยิ้มอ่อนขับให้ดวงหน้าของชายหนุ่มหวานกว่าเดิม
ธีรรภัคกรอกเสียงลงไปแล้วเอาหูแนบกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด
ขายาวสองข้างพาชายหนุ่มมาหยุดที่ห้องครัว สายตาคู่คมกวาดหาเครื่องบดกาแฟที่เขาเพิ่งซื้อมาใหม่หมาด ๆ
เครื่องบดกาแฟแบบเซรามิกตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ มือหนาเอื้อมหยิบถุงเมล็ดกาแฟขึ้นมาเธอใส่เครื่องบดลงไป
ไม่นานเกินรอ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นก็โชยเข้าจมูกของชายหนุ่ม ธีรรภัคเดินไปยังเคาน์เตอร์ชงกาแฟทันที
“ไงเพื่อน” ชายหนุ่มเอ่ยกรอกเสียงลงไปตามสาย
มือเรียวบางยกแก้วกาแฟขึ้น กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นทำให้เขาอารมณ์ดีได้ไม่ยาก
แก้วกาแฟสีขาวถูกวางไว้บนจานรองขนมขนาดเล็กลายกนกสีน้ำเงินสวย ธีรรภัคแนบหูโทรศัพท์ข้างหนึ่งแล้วถือจานรองแก้วกาแฟมาด้วย
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ...คุณเพื่อน” ปลายสายตอบกลับมา
“ขอบใจเว้ย” ธีรรภัคตอบกลับ ดวงหน้าคมคายของชายหนุ่มแต้มรอยยิ้มระบายเล็กน้อย
“เห้ย...เดือนหน้าข้าจะแต่งงานแล้วนะเว้ย” ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“บ๊ะ...น้องคนไหนของแกว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นพลางตบเข่าฉาดใหญ่อย่างกระเซ้า
“เจ้าสาวข้าอย่างเด็ด” ปาภัทรเพื่อนสนิทหนุ่มกล่าว
“วู้ว...ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น คุณปาภัทร คนอย่างเอ็งชมผู้หญิงคนไหนมาก่อน ข้าธีรรภัคคนนี้ชักอยากจะเห็นใบหน้าแม่คนงามของเอ็งแล้วละซิ” ธีรรภัคเอ่ยแกมเย้า
ดวงหน้าคมคายคลี่ยิ้มเล็กน้อย มือเรียวของเขาเอื้อมหยิบแก้วกาแฟแล้วซดกาแฟร้อนดังโฮกใหญ่
“เอ้อ...แล้วคาสโนว่าตัวพ่ออย่างเอ็งเมื่อไหร่จะสละตำแหน่งว่ะ” ปลายสายเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
เพียงได้ยินถ้อยคำของเพื่อนสนิทหนุ่มอย่างปาภัทร ธีรรภัคถึงกับสำลักจนกาแฟร้อนหอมกรุ่น
“แค่ก ๆ ...ไม่มีทางเว้ย...รอน้ำท่วมหลังเป็ดสะก่อนว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยตอบเพื่อนสนิทหนุ่มพลางสำลักกาแฟโฮกใหญ่
“เอ็งหมายถึง...ยัยเพิ้งนั่นน่ะเหรอ...โหยไม่ได้ครึ่งของน้องตาลข้าหรอกเว้ย” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะนำกระดาษชำระเช็ดคราบกาแฟที่เลอะบนโต๊ะกลมทรงหรูหรา
“อ้อน้องลูกตาลนมหวานน่ะเหรอ” ปลายสายเอ่ยแกมเยาะเพื่อนสนิทหนุ่ม
ธีรรภัคอดขำพรืดออกมาไม่ได้จนกาแฟร้อนแทบจะลวกลิ้นตาย ทว่าเสียงออดดังขึ้นหน้าบ้านหนึ่งครั้ง
‘ปิ๊งป่อง’
“เดี๋ยวข้ามาน่ะเว้ย...แค่นี้ก่อนพอดีน้องลูกตาลนมหวานมาว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยตอบอย่างยียวน แล้ววางสายเพื่อนสนิทคนสุดท้ายที่กำลังจะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวหมาด ๆ ไป
“งานแต่งที่ใดเป็นได้แค่แขกรับเชิญ” ธีรรภัคอดรำพึงกับตนเองไม่ได้
บ้านสีขาวสะอาดตาหลังใหญ่โต สไตล์ตะวันตกตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของอรณิมา
ดวงหวานแต้มรอยยิ้มอย่างยินดี เธอพยายามคลี่ยิ้มหวานให้มากที่สุด แม้ว่าเวลานี้อรณิมาจะเริ่มไม่สบอารมณ์มากถึงที่สุดแล้วก็ตาม
ในมือทั้งสองข้างของสตรีผู้มาเยือนหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หอบกล่องขนมเค้กชิ้นใหญ่มาฝากเพื่อนบ้านใหม่
อรณิมาเพิ่งจะย้ายบ้านมาใหม่หมาด ๆ คุณย่าของเธอสอนเสมอว่า การแบ่งปันเป็นสิ่งดี มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การขาดมิตรภาพก็เสมือนต้นหญ้าขาดน้ำ ฉะนั้นวันนี้หญิงสาวจึงตั้งใจอบขนมมาฝากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านทุกคน
คฤหาสน์ทรงสูงสไตล์ตะวันตกนี้ อรณิมาเพิ่งจะเคยเห็นแบบจริงจังเป็นครั้งแรก
ด้วยรูปทรงที่ประหลาดอดทำให้หญิงสาวรู้สึกสะดุดในใจไม่ได้
“นี่น่าจะหลังสุดท้ายแล้ว” อรณิมาเอ่ยด้วยเสียงหวานหากแต่อ่อนจาง
...นี่นะหรือบ้านของเขาที่ปาภัทรเอ่ยถึง
ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าใดที่อรณิมาถือกล่องขนมเค้กสองปอนด์รออยู่อย่างนั้น...นานจนหญิงสาวอดรู้สึกแปลกใจในตัวของเพื่อนบ้านหนุ่มไม่ได้
เวลานี้อรณิมาสวมชุดเดรสสีโอรส ผ้าชีฟองเนื้อดีปลิวเอื่อย ๆ ไปตามแรงวาโย กระโปรงของอรณิมาเป็นชุดเดรสสั้นกระนั้นเมื่อถูกแรงลมพัดทำใหอาภรณ์ท่อนล่างปลิวได้ไม่ยาก
“ทำไมนานอย่างนี้นะ” อรณิมาอดบ่นกระปอดกระแปดไม่ได้
คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ดวงหน้าหวานที่ประทินโฉมมาอย่างดีเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาจากไรผม
ดีหน่อยที่ลมโชยทว่าความคิดของอรณิมาต้องหยุดลง เมื่อหญิงสาวแหงนใบหน้ามองท้องฟ้า
ภาพเบื้องหน้าของอรณิมาเป็นมวลหมู่ก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่ลอยผ่านไป บรรยากาศรอบด้านดูอึมครึมราวกับว่าวันนี้ฟ้าดินไม่เป็นใจเอาซะเลย
ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะหยุดคิด รองเท้าส้นสูงของอรณิมาก็พาร่างอรชรไถลไปตามทางเสียก่อน
“ว้าย” อรณิมาเอ่ยหวีดร้องเสียงดังลั่นหน้าบ้านของชายหนุ่ม ขณะที่หญิงสาวจวนเจียนจะเซล้มลง
“ระวังคุณ!” ธีรรภัคเอ่ยร้องขึ้น แล้วพุ่งตัวเข้าไปชวยหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย
ร่างสูงโปร่งก้าวผิดจังหวะทำให้ร่างของเขาเซถลาล้มลงไปพร้อมกับสตรีตรงหน้า
เวลานี้ธีรรภัคล้มทับบนเรือนกายอรณิมา ชายหนุ่มเบิกตากว้างแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ สายตาเจ้ากรรมของชายหนุ่มหันไปปะทะกับทรวงอกของอรณิมา
“ว้าย…นายโรคจิต” อรณิมาหวีดร้องขึ้น ขณะหญิงสาวพยายามลุกขึ้นให้พ้นจากรัศมีของชายหนุ่ม
ดวงหน้าหวานของอรณิมาอยู่ใกล้บุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าคมรคาย หากแต่อ่อนเยาว์ราวชายหนุ่มแรกรุ่น
“ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก ชายหนุ่มวางตัวไม่ถูกนัก ขณะเดียวกันมือไม้ของเขาก็สาละวนไปหมด
“ฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ” เพียงคำแรกที่หญิงสาวเอ่ยออกมาทำให้ ธีรรภัคอดชะงักในน้ำเสียงไม่ได้
‘เราเคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ที่ไหนนะ’ ธีรรภัคอดคิดในใจไม่ได้
น้ำเสียงของผู้มาเยือนตรงหน้าคุ้นหูเขามาก กระนั้นความรู้สึกปวดหัวอ่อนจางก็เข้าครอบงำชายหนุ่ม
ธีรรภัคยกมือกุมขมับเล็กน้อย สงสัยการเข้านอนดึกเมื่อวานและเรื่องที่ออฟฟิศคงทำให้เขาเวียนศีรษะ
“คุณเป็นอะไรไหมคะ” อรณิมาเอ่ยถามขึ้นขณะลอบสังเกตอากัปกิริยาของชายหนุ่มที่กุมขมับด้วยแววตาสงสัย
“ไม่...ผมไม่เป็นไร” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ชายหนุ่มตรงหน้าของเธอจัดว่ามีใบหน้าอ่อนเยาว์และค่อนข้างรูปงามราวเทพบุตรลงมาจุติก็ไม่ปาน กระนั้นอรณิมากลับเห็นแววตาหยิ่งยโสในท่วงที
“คุณเป็นใคร” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยสีหน้าราบเรียบ นัยน์ตาเรียวรีหลี่ลงเพื่อประเมินสถานการณ์ตรงหน้า
“ฉันชื่ออรณิมาค่ะ พอดีฉันเพิ่งย้ายบ้านมาใหม่ค่ะ...ฉันเลยเอาขนมมาฝากเพื่อนบ้านค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” อรณิมาเอ่ยขึ้น
“โอ...ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มอุทานขึ้น ท้ายประโยคธีรรภัคพยายามปรับน้ำเสียงให้สุภาพกว่าเดิม
“ว้าย...กล่องขนมฉัน” อรณิมาเอ่ยด้วยเสียงหวานแหลม ขณะดวงตากลมโตของหญิงสาวกวาดมองกล่องขนมที่ร่วงอยู่ปลายขาเรียวยาวของชายหนุ่ม
‘อ๋อ…ยัยนี่เอาขนมมาให้’ ธีรรภัคคิดในใจ
“เอ่อ...ขนมของคุณ น่าจะเละแล้วล่ะครับ” ธีรรภัคเอ่ยขณะลอบมองอากัปกิริยาของสตรีตรงหน้าด้วยนัยน์ตาค้นหา
“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ นิซุ่มซ่ามเอง” อรณิมาเอ่ยอย่างตำหนิตัวเอง ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำใสคลอเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรนะครับ ผมชื่อธีรรภัคครับ แต่เรียกผมว่าภัค...ก็ได้ครับ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นแล้วสบสายตาของหญิงสาวที่ยังคงจับจ้องมองกล่องขนมเค้กที่คว่ำอยู่อย่างแสนเสียดาย
ดวงหน้าหวานของหญิงสาวเกล้ามวยผมตรงหน้าเขาอดขึ้นสีแดงเรื่อไม่ได้ อรณิมาสัมผัสได้ว่าเวลานี้ดวงตาของธีรรภัคเปล่งประกายระยิบระยับกว่าเดิม
“ค่ะ งั้นเรียกฉันว่านิ เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” อรณิมากล่าวแล้วระบายรอยยิ้มหวานบนใบหน้าได้รูปสวย
“ถ้าอย่างนั้นนิคงไม่รบกวนคุณภัคแล้วล่ะค่ะ” อรณิมาเอ่ยขณะก้มหยิบกล่องขนมเค้กขึ้นมาด้วยแววตาโศกเศร้า
อากัปกิริยาเบื้องหน้าของธีรรภัคอดทำให้เขารู้สึกผิดไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนหน้านี้สองชั่วโมงก่อนทำให้เขาอดทึ่งในตัวหญิงสาวผู้มาเยือนคนนี้ไม่ได้
‘...ทำไงดีว่ะไอ้ภัค เขาจะร้องไห้ไหม’ ธีรภัคอดขบคิดไม่ได้
“จะเป็นไรไหมครับ...ถ้าหากว่าผมจะเชิญคุณนิมาดื่มกาแฟที่บ้านผม” ชายหนุ่มเอ่ยแก้เก้อขณะยกแขนสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง
อรณิมาอดสะดุดในถ้อยคำของธีรรภัคไม่ได้ ดวงหน้าหวานแต้มรอยยิ้มอ่อนจาง หญิงสาวสบสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มอย่างยินดี
“ถ้าอย่างนั้นนิคงต้องรบกวนคุณภัคแล้วล่ะค่ะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส
“ถ้าอย่างนั้นก็...เชิญครับ” ธีรรภัคเอ่ยแล้วผายมือเชื้อเชิญเธอให้เดินเข้าบ้านของเขา
ประตูรั้วหน้าบ้านลวดลายฉลุหงส์ปิดลงอย่างแผ่วเบา ธีรรภัคยกมือขึ้นลูบคางตนเองอย่างใช้ความคิด
‘นี่มันสวรรค์ชัดๆ’ ธีรรภัคคิดในใจ
ดวงตาของธีรรภัคลอบมองปลายเท้าเรียวขาวสะอาดของอรณิมาที่สาวเท้าเข้าไปในบ้านของเขาแล้วอย่างราชสีห์หิวโซ
+++
เรื่องราวชวนปวดหัวเมื่ออรณิมารับท้าพนันกับปาภัทรเพื่อให้ธีรรภัคหนุ่มหล่อหน้าตาดีมาตกหลุมรัก เรื่องจะอลวนอลเวงขนาดไหนมาอ่านกันเลย! +++ โปรยปราย “คืนนี้คุณจะเป็นของผม คุณต้องชดใช้ให้ผมได้ยินไหมอรณิมา” ท้ายประโยคธีรรภัคเอ่ยเสียงชัดถ้อยชัดคำจนหญิงสาวอดกลัวใจชายหนุ่มไม่ได้ อรณิมาจำต้องเก็บถ้อยคำที่อยากจะพร่ำด่าเขาออกมา เมื่อหญิงสาวเห็นเพียงแววตาที่สะท้อนกับหยาดน้ำตาคู่นั้น...แววตาพราวระยับมัวหมองจนมิเหลือเค้าของเพื่อนร่วมห้องเรียนคนก่อน ...นายภัค ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยคีย์การ์ดใบเดียว เวลานี้อรณิมาถูกปิดตาอยู่ ธีรรภัคเหลียวมองใบหน้าหวานที่ถูกปิดตาอย่างกรุ่นโกรธ ยามนี้ชายหนุ่มพาดร่างของอรณิมาไว้กับบ่าของเขา นับแต่ที่เขารู้เรื่องการพนันของอรณิมา กับปาภัทร ความผิดหวังก็เข้ามาก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ผิดหวังที่เพื่อนทั้งสองรวมหัวกันหลอกเขา คนหนึ่งล้อเล่นกับความรู้สึกเพื่อน แต่อีกคนหนึ่งอยากเสนอให้เขาแทบขาดใจ ดวงใจของชายหนุ่มนั้นแหลกสลาย ธีรรภัคคนเดิมคนเป็นผู้ชายที่โง่งมมากที่ตกหลุมรักสตรีที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างอรณิมา “เลิกมารยาสักที อรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะอุ้มหญิงสาวชุดเดรสยาวหางปลาหรูหราลงกับเตียงอย่างรุนแรง “ภัคเปิดตาให้อรเถอะนะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน หญิงสาวคว้ามือเปะปะไปมาในอากาศ “…” ธีรรภัคไม่ตอบรับในทันที กระนั้นนัยน์ตาของชายหนุ่มกลับเหลือบเห็นชายผ้า “ไหนอรบอกว่าอยากใช้ร่างกายแลกกับความผิดที่อรก่อไว้ไง” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะตวาดหญิงสาวดังสนั่น อรณิมาไหล่สั่นเล็กน้อย หญิงสาวพยายามกระถดหนีเสียงอย่างเขา “ภัคจะปิดตาอรไว้แบบนี้แหละ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างชิงขังในมารยาร้อยเล่มเกวียนของหญิงสาว ‘ความแค้นวันนี้ต้องชำระวันนี้สิ’ ธีรรภัคคิดในใจ มือหนาถอดรองเท้าของตนเองออก ในเวลานี้ชายหนุ่มมีแต่ความแค้นเคืองต่อหญิงสาวถึงที่สุด “ภัคจะทำอะไร...อร” อรณิมาหวีดร้องสุดเสียงเมื่อได้ยินเสียงเสียงแควกดังขึ้นใกล้ตัวของหญิงสาว “จำคำพูดตัวเองแล้ว...จำวันนี้ไว้ให้ดี...ยัยเพิ้งอรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยแล้วตวาดหญิงสาวเสียงดังสนั่นห้องนอนโรงแรมห้าดาว ดีลักซ์หรูหรา อรณิมารู้สึกหวาดกลัวถึงที่สุด เมื่อมือหนาของชายหนุ่มกระฉากชุดเดรส ของเธอออกมากองที่เรียวขาของเธอ
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"