ผืนทรายนองเลือดทั่วปฐพี เมื่อรักนี้ถูกแย่งชิง หัวใจร้่าวรานมลายสิ้น เมื่อนวลนางจากลา เรื่องราวความรักความแค้น ของสองบุรุษหนุ่ม ระหว่างชีคหนุ่มจากราสอัลไคมาห์และบุรุษหนุ่มสายเลือดไทยจะออกมาเป็นเช่นไร เมื่อทั้งสองบุกตะลุยผืนทรายตามล่าเหล่าชายโฉด เพื่อตามหายอดดวงใจ ท่ามกลางความรักบนรอยแค้นและการแย่งชิงบนผืนทราย บทสรุปสุดท้ายจะลงเอยในรูปแบบใด เมื่อทั่วทั้งผืนทราย เต็มไปด้วยเลือด เม็ดทรายทุกเม็ดเต็มไปด้วยความแค้น ทั่วผืนปฐพีเต็มไปด้วยน้ำตา !
บทนำ
เปลวแดดอันแรงกล้าของแสงอาทิตย์ในยามกลางวัน ช่างร้อนระอุไปทั่วผืนแผ่นดินสีทอง เม็ดทรายแม้จะละเอียดแต่ทว่าเมื่อรวมตัวหนาแน่น กลับเป็นภัยร้ายให้แก่สิ่งมีชีวิต และหากสิ่งนั้นคือมนุษย์โดยเฉพาะอิสตรี ร่างกาบที่บอบบางจะเป็นอย่างไร หากผิวกายแทบมอดไหม้ เมื่อถูกแสงแดดอันแรงกล้าแผดเผาไปทั่วทั้งร่าง จนร่างนั้นแทบไหม้เกรียม ซ้ำร้ายขาดน้ำ ขาดอาหารและโดดเดี่ยวอ้างว้างอยู่เพียงลำพัง ท่ามกลางทรายที่เวิ้งว้างไกลสุดสายตา
รถโฟร์วิลจำนวนหลายคันแล่นมาด้วยความเร็วสูง จนฝุ่นทรายตลบอบอวลจนฟุ้งกระจายคล้ายกำลังแข่งขันแรลลี่กลางทะเลทราย ทว่ามันไม่ใช่การแข่งขันชิงจ้าวความเร็วแต่รถโฟร์วิลจำนวนหลายคันเหล่านั้น กำลังแล่นเพื่อติดตามหาอะไรบางอย่างด้วยความรีบเร่ง
“พั่บ! พั่บ! พั่บ!”เสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ ดังก้องอยู่เหนือน่านฟ้า กำลังบินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยมีขบวนรถโฟร์วิลแล่นติตาม
ท่ามกลางน่านฟ้ากลางทะเลทรายที่กว้างใหญ่จนสุดลูกหูลูกตา เฮลิคอปเตอร์ซึ่งใช้ออกปฏิบัติการเพื่อใช้ลาดตระเวนกลางทะเลทราย กำลังมองเห็นอะไรบางอย่างตรงหน้าซึ่งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย พร้อมค่อยๆ ร่อนจอดลงด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอดกับพื้นทรายยังมิทันจะจอดสงบนิ่ง ร่างของชายฉกรรจ์ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนจนถึงข้อศอกและกางเกงขายาวสีดำสนิท ราคาแลดูแพงลิบแต่กลับถูกเมินเฉยจากเจ้าของร่างราวกับว่าเขาอยู่ในชุดนี้มาหลายวัน
ร่างสูงกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ทันที พร้อมวิ่งออกหน้าด้วยความรีบเร่งไปยังร่างๆ หนึ่งซึ่งนอนสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันว้างเวิ้งอย่างโดดเดี่ยว
“เกรซ!เกรซ!”เสียงตะโกนดังก้องด้วยความดีใจเมื่อเขาได้เห็นร่างหญิงสาวซึ่งนอนนิ่งอยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มวิ่งโผเข้าหาร่างของหญิงสาว ซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันเวิ้งว้างอยู่เพียงลำพัง เหตุใดผู้หญิงตัวเล็กๆ จึงถูกปล่อยทิ้งอยู่กลางทะเลทรายแบบนี้ได้ จะเป็นไปได้หรือที่เธอจะมานอนเล่นกลางทะเลทรายเช่นนี้หากไม่มีใครพามา
ทันทีที่ร่างสูงถึงตัวร่างบาง สองมือช้อนร่างที่สิ้นสติไว้ในอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความดีใจเมื่อแรกเริ่มที่ได้เห็นร่างบางนั้น แปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อสภาพของหญิงสาวตรงหน้าไม่แตกต่างไปจากสภาพของคนใกล้ตาย
“เกรซ!เกรซ!ลืมตาสิเกรซ!แกจะต้องไม่เป็นอะไร พี่มาช่วยแกแล้ว เกรซ”เสียงร้องเรียกดังก้องแข่งกับเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ พร้อมสองมือเขย่าร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นไปมาเพื่อให้รู้สึกตัว
ใบหน้าที่มีเค้าว่าเคยสวยงาม บัดนี้ถูกเปลวแดดแผดเผาจนผิวที่เคยขาวนวลเนียน เริ่มไหม้เป็นบางที่เพราะถูกตากแดดเป็นเวลานาน ริมฝีปากแตกระแหงจนเห็นเลือดไหลซึมเพราะร่างกายขาดน้ำ ดวงตาปิดสนิทเหมือนไม่รับรู้สิ่งใดเริ่มกรอกไปมา พยายามจะลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกชื่อของเธอ
“พะ...พี่....พี่...ชาย”เสียงแหบแห้งพยายามเปล่งออกมาเมื่อมองเห็นว่าเสียงที่ร้องเรียกชื่อเป็นใคร
“ทำใจดีๆ ไว้เกรซ แกต้องไม่เป็นอะไร พี่มาช่วยแกแล้ว พี่จะพาแกกลับบ้าน”ชายหนุ่มเอ่ยบอกน้องสาวของเขา พร้อมรีบอุ้มร่างน้อยๆ นั้นนำส่งโรงพยาบาล
“อะ...อัล...อัลมิล..ฮา..ฮาจญ์”เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกชื่อหนึ่งให้พี่ชายได้ยิน จนร่างของพี่ชายซึ่งกำลังจะอุ้มเธอจากผืนทรายต้องหยุดชะงักไปทันที
“อัลมิลฮาจญ์ทำไมเกรซ!แกเรียกอัลมิลฮาจญ์ทำไม!” ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องสาวด้วยความสงสัย พร้อมรีบคว้ามือบางอันสั่นเทา ซึ่งกำลังยกขึ้นมอบอะไรบางอย่างให้กับพี่ชายของเธอ
เศษชายผ้าสีงาช้างเนื้อผ้านุ่มติดมือ บ่งบอกได้ว่าผ้าดังกล่าวมีราคาสูงลิบแค่ไหน ลักษณะของผ้าพบเห็นได้ยาก เนื่องจากจะมีใช้เฉพาะคนชั้นสูงเท่านั้น
“แกกำลังจะบอกอะไรพี่เกรซ มันเกี่ยวอะไรกับเศษผ้าผืนนี้”เสียงของพี่ชายร้องถามอย่างร้อนรน
“อะ...อัล...มิล...ฮาจญ์...ร...ระ....”เสียงแผ่วเบา เอ่ยอย่างขาดห้วง
ร่างบางพยายามจะบอกอะไรบางอย่างให้พี่ชายของเธอได้รู้ แต่ร่างกายของเธอมันไม่สามารถที่จะฝืนได้อีกต่อไป ริมฝีปากที่แตกระแหงซึ่งพยายามที่จะขยับนั้น ค่อยๆ หยุดลงอย่างช้าๆ พร้อมศีรษะหันเข้าหาอกกว้างของพี่ชายก่อนจะตกลง สิ้นใจคาอ้อมกอดของพี่ชายเธอ
“เกรซ!เกรซ!ไม่นะเกรซ ไม่นะ ไม่!!!”เสียงร้องของชายหนุ่มดังก้องขึ้นทันใด เมื่อน้องสาวของเขาหมดสิ้นการตอบสนอง ร่างบางถูกกกกอดพร้อมเสียงร่ำไห้ของพี่ชายต่อการจากไปของน้องสาวเพียงคนเดียว
มือหนายกมือของน้องสาวเพียงคนเดียว ซึ่งกำเศษชายผ้าสีงาช้างเอาไว้แน่น เสียงแผ่วเบาเรียกชื่อให้เขาได้ยินก่อนจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ดวงตาแดงก่ำซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตา มองเศษชายผ้าดังกล่าวเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
“อัลมิลฮาจญ์!มึงทำให้น้องกูตาย!ชาตินี้อย่าหวังเลยว่ามึงจะได้อยู่อย่างสงบสุข!”เสียงของชายหนุ่มกล่าวคำอาฆาตจนดังก้องไปทั่วผืนทราย น้ำตาร่ำไห้ออกมาไม่ขาดสาย เมื่อเขาต้องสูญเสียน้องสาวของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ
" ราชินทร์" บุรุษหนุ่มสายเลือดไทย ถูกเหล่าทวยเทพแห่งดินแดนไอยคุปต์ให้ครอบครองตราสัญญลักษณ์กษัตริย์แห่ง อียิปต์โบราณ เขาถูกกลืนเข้าไปในกระแสธารแห่งประวัติศาสตร์อันไกลโพ้น เพื่อทำหน้าที่รวบรวมแผ่นดินอียิปต์ให้เป็นหนึ่งเดียว จากสามัญชน สู่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตกาล "ความรัก" ถูกลิขิตขึ้นในดินแดนแห่งมนต์ขลัง "ผิดหวัง" ด้วยรักเจ้าเพียงข้างเดียว "อำนาจ" แฝงเร้นมาพร้อมกับนวลนาง บทสรุปรักนี้จะลงเอยเป็นเช่นไร เมื่อรักหนึ่งพร้อมยอมพลี แต่อีกหนึ่งกลับหมายปองราชบัลลังก์!!
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"