คุณเสี่ยเหมียน คือเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย วันหนึ่งเธอได้รับสายจากสถานีตำรวจซึ่งทำให้ชีวิตของเธอนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการนั่งรถไฟเหาะ ไม่ช้าเธอก็พบว่า"คุณกู้หนาน"แฟนหนุ่มที่คบกันมานานนั้นได้นอกใจเธอ และไปเป็นชู้กับเพื่อนสาวคนสนิทของเธอ ราวกับว่าสิ่งต่างๆ ยังไม่เลวร้ายพอ เธอก็บังเอิญไปลงเอยกับคุณอา ถิงเจว๋บนรถของเขา พวกเขาแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน คุณเสี่ยเหมียนพบว่าตัวเองตกอยู่ในสงครามการแย่งชิงหว่างแฟนเก่าของเธอ "คุณกู้หนาน"และคุณอาของเขา"คุณถิงเจว๋"
ณ เมืองจิงซื่อ เวลา 20.00 น.
หลังจากที่คุณไป๋เสี่ยเหมียนทำงานล่วงเวลาอย่างเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ก็ถึงเวลาที่เธอจะได้พักผ่อน แต่ระหว่างทางที่เธอกลับบ้านนั้น จู่ ๆ ก็มีสายเรียกเข้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง
“สวัสดีครับ นี่ใช่คุณ เสี่ยเหมียน รึเปล่าครับ” เจ้าหน้าที่ถาม “ใช่ค่ะ” เสี่ยเหมียนตอบ “เพื่อนของคุณที่ชื่อว่า กู้หนานและ สวี่โยว่ห่งถูกจับในข้อหาซื้อบริการทางเพศ พวกเขายืนกรานว่า พวกเขาเป็นคู่รักกัน คุณช่วยมาที่สถานีตำรวจ และเป็นพยานให้ได้มั้ยว่า ทั้งสองเป็นคู่รักกันจริง ๆ ผมจะได้ปล่อยตัวพวกเขาไป...”
พอได้ยินข่าวที่น่าตกใจ เสี่ยเหมียนถึงกับตัวแข็งทื่อ เธอพยายามเรียกสติกลับคืนมา แต่ ณ เวลานั้น เธอไม่มีสมาธิจับใจความสิ่งที่ตำรวจนายนั้นพูดต่อเลย เสี่ยเหมียนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า เธอวางสายจากเจ้าหน้าที่ตอนไหน และรีบเรียกแท็กซี่ไปสถานีตำรวจอย่างเหม่อลอย
เมื่อมาถึงที่หมาย
พอเห็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งด้วยกันในโถงแค่แวบเดียวเท่านั้น เธอก็รู้แล้วว่า พวกเขาคือใคร ชายคนนั้นคือ กู้หนาน หรือแฟนหนุ่มตัวดีของเธอ ส่วนคนที่นั่งข้างเขา ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ โยว่หง เพื่อนของเธอเอง ทั้งสองนั่งอิงแอบแนบชิดกัน ราวกับคู่รักที่กำลังฮันนีมูนกัน
เสี่ยเหมียนกำหมัดแน่น เพลิงโทสะฉายสะท้อนในดวงตา เธอเดินไปหาพวกเขา ในแต่ละย่างก้าวนั้น มีแต่ความรู้สึกหนักอึ้ง
โยว่หงเห็นเสี่ยเหมียนก่อน “เสี่ยเหมียน ฉันขอโทษ” โยว่หงพูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เธอแสร้งทำเป็นขอโทษ
กู้หนานหันกลับมาเห็นแฟนสาวกำลังเดินดุ่ม ๆ มาทางพวกเขา เขาผลักโยว่หงออกไปโดยไม่ต้องคิด และรีบลุกขึ้นยืนก่อนที่เสี่ยเหมียนจะอ้าปากพูด “เสี่ยเหมียน เธอมาแล้วเหรอ?” กู้หนานทักทาย พร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างเหนียมอาย
เขาละสายตาจากเสี่ยเหมียนอย่างตื่นกลัว กู้หนานชาไปทั้งตัว เขาไม่สามารถสู้หน้าเสี่ยเหมียนได้เลย
“คุณกู้หนานคะ เล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลยค่ะ” โยว่หงแนะนำ
“เหลวไหลน่า หยุดเลยนะ! อย่ามาล้อเล่นกับเรื่องแบบนี้” กู้หนานจ้องเขม็งไปที่โยว่หง คล้ายจะส่งสัญญาณเตือนเธอไม่ให้หลุดปากพูดอะไรออกไปอีก เขาหันไปหาเสี่ยเหมียนอีกครั้ง “เสี่ยเหมียน ผมสัญญาว่า จะอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังทีหลัง แต่ตอนนี้ ผมอยากให้คุณให้การกับตำรวจว่า พวกเราเป็นผู้บริสุทธิ์” เขาร้องขออย่างกับเป็นเรื่องปกติ
กู้หนานเอื้อมมือออกมาจะจับเธอ แต่เสี่ยเหมียนกลับเมินเฉย เธอเค้นเสียงตอบว่า “คุณคงมีคำอธิบายดี ๆ สำหรับเรื่องนี้ซินะ” เสี่ยเหมียนจ้องไปที่กู้หนานอย่างรังเกียจ
หลังจากให้การกับเจ้าหน้าที่ กู้หนานและโยว่หงก็ได้เป็นอิสระ ทั้งสามคนออกมาจากสถานีตำรวจด้วยกัน
“กู้หนาน คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง คนเฮงซวย” เสี่ยเหมียนตะโกนด้วยความโกรธแค้น หลังจากย่างกรายออกมาจากสถานีตำรวจ
“ฟังผมก่อน เสี่ยเหมียน!” กู้หนานขมวดคิ้วและอ้อนวอน เขาพยายามจับมือเสี่ยเหมียน แต่เธอก็พยายามดึงมือตัวเองออก
“หยุดพูดเถอะ! เห็นอยู่ตำตาว่า คุณมีชู้” เสี่ยเหมียนแผดเสียงใส่กู้หนาน “ตอนที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาว่า คุณไปใช้บริการคุณโส รู้สึกยังไงบ้างเหรอ? ถ้ารู้ว่า เหตุการณ์เป็นแบบนี้ ฉันไม่มาประกันตัวให้หรอก” เสี่ยเหมียนปาดน้ำตาออกจากดวงตาที่แดงก่ำ แววตาของเธอมีแต่ความโกรธและความผิดหวัง
พอคิดว่า ชายหญิงหน้าด้านสองคนนั้น ขอให้ตำรวจโทรหาเธอเรื่องประกันตัว เสี่ยเหมียนก็ยิ่งรู้สึกฉุน พวกเขาได้ในสิ่งที่ต้องการ แม้ว่าจะทำตัวน่ารังเกียจซะขนาดนั้น
คำพูดของเสี่ยเหมียนทำให้กู้หนานถึงกับหน้าม้าน เขาตะคอกกลับว่า “ใช่ ฉันนอนกับโยว่หง แล้วไงเหรอ?”
สิ้นเสียงของเขา เสี่ยเหมียนก็รู้สึกเวียนหัวและใจเหมือนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอพยายามทรงตัวไม่ให้ล้มลงไปซะก่อน กู้หนานเดินเข้ามาช่วยแต่เสี่ยเหมียนสะบัดออกและผลักเขาออกไป ราวกับว่า เขาเป็นสิ่งสกปรก
“ไสหัวไปซะ! อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!”
กู้หนานรู้สึกเหมือนกับว่า หัวใจของเขาถูกเข็มนับพันทิ่มแทงอยู่ “เสี่ยเหมียน” เขาพูดพึมพำ และเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น “ลืมเรื่องผู้หญิงคนอื่นไปได้เลย คุณเป็นคนเดียวที่ผมรัก แค่คนเดียวเท่านั้น”
พอได้ยินสิ่งที่กู้หนานพูด โยว่หงก็รู้สึกหึงหวง แต่เธอแกล้งทำเป็นเข้าใจ และพยายามเกลี้ยกล่อมเสี่ยเหมียนด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “เขาพูดถูก คุณและกู้หนาน เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน ฉันไม่มีทางฉกเขาไปจากคุณได้...”
“หุบปาก!” เสี่ยเหมียนพูดขัดจังหวะขึ้นมาก่อน เธอกัดฟันด้วยความโกรธ “แกไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น นังหน้าด้าน พอกันที เราไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว”
“เสี่ยเหมียน ได้โปรดอย่าทำกับฉันแบบนี้” โยว่หงอ้อนวอนเสียงเศร้า แต่ดวงตาของเธอกลับฉายแววความพอใจและความหยิ่งผยอง
ถ้าไม่ได้เป็นเพราะคุณกู้หนาน เธอคงไม่เป็นเพื่อนกับคุณเสี่ยเหมียนหรอก! ตอนนี้ เธอได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้สำเร็จแล้ว คงไม่ต้องพยายามไปมากกว่านี้
“เสี่ยเหมียน อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลยน่า” กู้หนานพูดอย่างเหลืออด “ผมสัญญาว่า จะรักและแต่งงานกับคุณเท่านั้น คุณยังต้องการอะไรอีกเหรอ?”
“ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่งั้นเหรอ? รักของคุณนี่คือหมายถึงนอนกับผู้หญิงคนอื่น แล้วเอาแต่โกหกฉันใช่มั้ย? ขอโทษนะ ฉันจะไม่ทนกับความรักแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว”
“แค่รักคุณคนเดียว ก็ยังไม่พออีกเหรอ?”
“ไม่พอ รักแล้วก็ต้องซื่อสัตย์ด้วยซิ นี่เห็นอยู่ตำตาว่า คุณไม่ซื่อสัตย์ต่อฉัน!”
กู้หนานระเบิดเสียงหัวเราะ เขาคิดว่า ความคิดของเธอช่างน่าขบขันและไร้เดียงสาราวกับเด็กน้อย เขาพูดกับเธอว่า “เสี่ยเหมียน ผมเป็นลูกคนแรก แถมยังเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล ผมจะไม่มีวันคบผู้หญิงเพียงคนเดียว ไม่ว่าผมจะโสดหรือแต่งงานแล้ว คุณเข้าใจใช่มั้ย?
ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน คุณควรทำใจยอมรับให้ได้ ทำใจได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งดี”
“ตำแหน่งภรรยาจะเป็นของคุณคนเดียวเท่านั้น สำหรับผู้หญิงคนอื่น ก็แค่ผ่านมาและผ่านไป แต่ตำแหน่งของคุณจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
เขามโนไปเองว่า เขาเป็นผู้ชายที่โรแมนติกและมีเสน่ห์ กู้หนานรอให้เสี่ยเหมียนเคลิบเคลิ้มไปกับคำพูดเหล่านั้น และโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขา
“เพียะ!” เสี่ยเหมียนตบหน้ากู้หนานไปฉาดใหญ่
หน้าของเขาถึงกับหันไปอีกทาง ภายใต้แสงไฟริมถนน ปรากฏเป็นรอยแดงรูปฝ่ามือบนผิวหน้าอย่างชัดเจน เขาเซไปด้านหลัง แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ
เธอกล้าดียังไงมาตบหน้าเขา?
โยว่หงตกใจจนตัวแข็งทื่อ เธอรวบรวมสติ และแสร้งทำเป็นตรวจดูใบหน้าของชายหนุ่มด้วยความห่วงใย แต่กู้หนานกลับสะบัดเธอออกทันที
“คุณเสี่ยเหมียน นี่คุณเป็นบ้าอะไร?” กู้หนานแผดเสียงด้วยความโกรธ เขามองเธออย่างไม่เชื่อสายตา แววตาของเขามีแต่ความโกรธจัด
นับตั้งแต่เขาเกิดมา ไม่เคยมีใครกล้าตบเขามาก่อน
พอนึกถึงคำพูดที่แสนโหดร้ายของเขา แถมไม่มีท่าทีสำนึกผิดเลย เสี่ยเหมียนก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ “ฉันเพิ่งจะรู้ว่า คุณทั้งน่าสมเพชและอวดดีได้ขนาดนี้”
แบ่งสามีกับผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ? นี่เขาคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน
ถึงแม้ว่าเสี่ยเหมียนจะมองไปที่เขา เธอกลับรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่า เธอไม่เคยรู้จักเขาเลยจริง ๆ
“กู้หนาน เราเลิกกันเถอะ จบกันแค่นี้”
เสี่ยเหมียนพร้อมที่จะเดินจากเขาไป เธอเหนื่อยและไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะรับมือกับเรื่องคาว ๆ นี้อีกต่อไป เธอเก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจ แต่แล้ว เธอก็รู้ว่า มันไม่มีประโยชน์เลย ที่จะปล่อยให้เขาทำร้ายจิตใจเธอต่อ เขาจะทำให้ชีวิตของเธอยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้
“ผมไม่เลิก” กู้หนานแผดเสียง จู่ ๆ เขาก็กลัวการสูญเสีย ราวกับว่า เขากำลังจะเสียสิ่งที่มีค่าและไม่มีอะไรมาทดแทนได้
จังหวะที่เขากำลังจะวิ่งตามเสี่ยเหมียน โยว่หงก็สวมกอดเขาแน่นจากทางด้านหลัง
“กู้หนาน อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียว” โยว่หงโอบเอวของกู้หนานอย่างช่ำชองและสัมผัสเขาอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้ เสี่ยเหมียนกำลังโกรธหน้ามืดตามัว เธอไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอกค่ะ คุณควรให้เวลาเธอสงบสติอารมณ์บ้าง คุณเป็นผู้ชายที่ดีมาก เธอจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงกัน?”
พอเริ่มเข้าใจสิ่งที่โยว่หงพูด เขาก็สงบลงในที่สุด
ตระกูลเจริญศิริวงศ์เป็นที่นับหน้าถือตา และมีประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองมาหลายศตวรรษ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในทางการเมืองของเมืองนี้ พวกเขาทำได้เกือบทุกอย่างที่ต้องการในเมืองนี้ ด้วยความที่กู้หนานเป็นลูกชายและทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล สถานะทางสังคมของเขา จึงสูงส่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ นอกจากนั้น เขายังรูปร่างหน้าตาดี แล้วคุณเสี่ยเหมียนจะหาชายอื่นที่สมบูรณ์แบบเท่าเขาได้ยังไงกัน?
คงจะดี ถ้าเธอได้พักผ่อนสักสองสามวัน เพื่อสงบสติอารมณ์ และทบทวนความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง อีกด้านหนึ่ง กู้หนานคิดว่า เสี่ยเหมียนต้องรู้ตัวเสียทีว่า ถึงแม้เขาจะรักเธอ แต่ความอดทนของเขาก็มีขีดจำกัด ถ้าคนที่ตบไม่ใช่เสี่ยเหมียน เขาคงได้หักมือคนพวกนั้นไปแล้วแน่ ๆ!
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ