อาญาเสน่หา

คีตภัทรเพิ่งวางสายโทรศัพท์จากพี่สาวที่โทรมากำชับหล่อนอีกครั้งขณะนั่งในรถแท็กซี่และยังดังในหูว่า

“เพ็พ...อย่าลืมที่พี่บอกนะ ทำยังไงก็ได้ให้แม็กซ์ช่วยเหลือเรา...โอเค...ถึงเป็นปัญหาของพี่คนเดียวก็เหอะ แต่ตอนนี้ไม่มีใครช่วยพี่ได้อีกแล้ว ก็มีแต่เพ็พคนเดียวที่จะช่วยพี่ได้ ช่วยพูดกับเขาทีว่าตอนนี้พี่เจอปัญหาใหญ่ พี่ไม่น่าไปค้ำประกันให้เพื่อนกู้เงินตั้งสิบล้าน ตอนนี้เพื่อนพี่ก็หนีไป สถาบันการเงินก็มาไล่บี้กับคนค้ำ พี่ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้แทนเพื่อน”

เสียงถอนหายใจของหญิงสาววัยยี่สิบเอ็ดดังในความเงียบ คีตภัทรจำต้องบากหน้าไปหา แม็กซิมัส เวิร์ธทิงตัน ตามคำขอร้องของ คัทลียา พี่สาว ซึ่งครั้งหนึ่งทั้งสองเคยคบหากันในฐานะแฟนออกหน้าออกตา แม็กซิมัสเป็นหนุ่มหล่อลูกชายมหาเศรษฐีชาวอเมริกันที่มาเปิดร้านจิวเวอรี่ในเมืองไทย เขาเป็นเจ้าของเหมืองเพชรหลายแห่งในต่างประเทศ และหล่อนเองก็เคยพูดคุยกับเขาเพียงไม่กี่คำ ที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเพราะเกรงใจพี่สาวซึ่งตอนนั้นคบหากับแม็กซิมัสและดูเหมือนคู่รักที่กำลังจะตกลงปลงใจแต่งงานกัน กระทั่งเกิดเรื่องขึ้นจนได้

คัทลียาคบซ้อน ซึ่งคีตภัทรรู้นิสัยพี่สาวดีว่าเป็นยังไง พี่สาวของหล่อนมีนิสัยเจ้าชู้ แม้หล่อนมองว่าแม็กซิมัสเป็นผู้ชายเพอร์เฟ็คที่สุดแล้ว เพราะขนาดหล่อนเองยังเคยแอบปลื้มเจ้าของร้านเพชรที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรอยู่ห่าง ๆ หล่อนรู้ว่าคัทลียามีอาการหึงหวงทั้งที่ตัวเองก็คบกับคนอื่น แต่เพราะต้องยอมพี่สาวทุกอย่างจึงต้องหลีกห่างและทำเหมือนว่าหล่อนไม่สนใจ

หลังคัทลียาขอเลิกรากับเขาแล้วคีตภัทรก็รู้ว่าพี่สาวของหล่อนคบกับผู้ชายคนใหม่อย่างเปิดเผย หล่อนรู้เพียงว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลูกชายมหาเศรษฐีเหมือนกัน แต่ความสมาร์ทและดูดีสู้แม็กซิมัสไม่ได้เลยแม้แต่น้อย หญิงสาวไม่รู้ว่าแฟนเก่าของคัทลียาจะรู้สึกอย่างไร เขาคงโกรธแค้นพี่สาวของหล่อนไม่ใช่เล่นแต่หล่อนกลับรับรู้จากคัทลียาว่าเขาแค่หลีกทางให้และหายไปอย่างเงียบๆ

กระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้หล่อนได้รับข่าวจากพี่สาวที่ไปอยู่กับแฟนใหม่อีกครั้ง ว่าคัทลียาประสบปัญหาการเงินอย่างหนัก และปัญหานั้นก็มาจากแฟนคนใหม่ที่ยอมเลิกร้างแฟนเก่าไปคบด้วย ไม่น่าเชื่อว่าแฟนใหม่ของพี่สาวจะขาดทุนจากการลงทุนทำธุรกิจ แล้วมันก็กลายเป็นปัญหาลูกโซ่ เหมือนโดมิโน่ที่ล้มต่อเนื่อง พอแฟนมีปัญหาคัทลียาก็พลอยประสบปัญหาไปด้วยและต้องบากหน้ามาขอร้องให้น้องสาวช่วย ซึ่งคีตภัทรต้องแบ่งรับแบ่งสู้ในคราวแรก ก็หล่อนเต็มใจมาทำหน้าที่ที่พี่สาวร้องขอครั้งนี้ซะที่ไหน

คัทลียาร้องขอให้หล่อนมาเจรจาขอยืมเงินจากแฟนเก่าจำนวนหนึ่ง รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าถ้าสำเร็จแล้วที่เหลือก็จะเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด หญิงสาวจึงคิดว่าแค่มาคุยกับแฟนเก่าของพี่สาวเท่านั้น ถ้าสำเร็จเขาช่วยเหลือหล่อนก็หมดหน้าที่ แต่ถ้ายืดเยื้อก็คงต้องให้พี่สาวมาเจรจาด้วยตัวเอง มันไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนอยู่แล้ว แต่ติดอยู่นิดเดียวตรงที่...หล่อนจะทำหน้ายังไงดีเวลาเจอเขา

“ถึงแล้วครับ...คุณผู้หญิง”

เสียงคนขับแท็กซี่ปลุกภวังค์ของคีตภัทร หล่อนรีบหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้แล้วเปิดประตูก้าวลงไปเพื่อจะพบกับบ้านหลังใหญ่ในรั้วไม้เลื้อยลานตาภายในย่านบ้านสุดหรูของคนมีเงินในลอสแองเจลิส ร่างบอบบางเดินเข้าไปและชะเง้อมองข้ามรั้วเห็นหลังคาบ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ สักครู่ก็มีชายคนหนึ่งรูปร่างใหญ่โตเดินมาเปิดประตูรั้วและถามว่า

“ไม่ทราบว่ามาหาใครหรือครับ?”

“เอ้อ...ฉันมาหาแม็กซ์...คุณแม็กซิมัส เวิร์ธทิงตันค่ะ”

“ได้นัดไว้หรือเปล่าครับ”

“ฉันโทรมาบอกเขาไว้แล้วค่ะ...จะให้ฉันต่อสายหาเขาอีกครั้งเพื่อยืนยันหรือเปล่าคะ?”

“ไม่เป็นไรครับ...เชิญครับคุณผู้หญิง”

ชายชาวเอเชียร่างใหญ่ซึ่งดูจากลักษณะท่าทางน่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นพูดกับหล่อนด้วยความสุภาพ หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยจากที่ตื่นเต้นตอนแรกเพราะไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง อย่างน้อยคนของแม็กซิมัสก็ยังมีมารยาทในการพูดคุยกับแขกดีอย่างน่าใจหาย หล่อนเดินตามเขาเข้าไปด้านใน ชายคนนั้นเปิดประตูให้ก่อนหันกลับมา