ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ทาสพิศวาสจอมมาร
ทาสพิศวาสจอมมาร

ทาสพิศวาสจอมมาร

5.0
34 บท
651 ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เขาคิดเสมอว่านรกส่ง ‘หล่อน’ มาให้เขา แต่เขาจะพาหล่อนขึ้นสวรรค์ในฐานะ ‘ทาสสวาท’ เขาไม่สนหรอกว่าหล่อนจะดิ้นมากแค่ไหน เพราะตอนนี้เขาก็เหมือนเจ้าชีวิตของหล่อน เขามีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวหล่อน จะฉุดหล่อนขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นเงื่อนไขที่เอวิตาเต็มใจยอมรับมันเอง หล่อนก็ต้องยอมเขาได้... ทุกอย่าง เอวิตาสั่นสะท้านเมื่อตกอยู่ใต้ร่างแกร่งเกือบเปลือยของเขา โซลดอนจะรู้หรือเปล่าว่าเธอหวาดกลัวเขามากแค่ไหน

บทที่ 1 บทนำ 100% NC25+

“นั่นมันเสื้อตัวโปรดของฉันนี่” เจ้าของร่างสูงเกือบสองฟุตในวัยสิบเก้าปี กำลังย่างสามขุมเข้าหาเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าเขาถึงแปดปีอย่างคุกคาม เสียงห้าวที่ตวาดก้อง พร้อมกับสีหน้าท่าทางเอาเรื่องของโซลดอน ส่งผลให้ร่างเล็กที่สูงเพียงร้อยหกสิบห้าเซ็นติเมตรที่กำลังรีดผ้าอยู่ ต้องรีบผละออกแล้วถอยร่นหนีด้วยความตกใจกลัว

กลิ่นไหม้ลอยเข้าแตะจมูกของทั้งสองคน แล้วเด็กสาวรีบก้าวไปที่โต๊ะรีดผ้าหมายจะจับเตารีดออก แต่เด็กหนุ่มก็คว้าเสื้อของเขาเอาไว้ก่อน เตารีดหล่นตุ้บเสียงดังสนั่น ยิ่งทำให้เอวิตาอกสั่นขวัญแขวนเข้าไปใหญ่ กลัวเหลือเกินว่าเจ้าของเสื้อราคาแพงๆ ตัวนั้นจะโกรธเอา และเขาก็โกรธเธอจริงๆ

ดวงตาสีเทาเข้มคมกล้าคู่นั้นที่ตวัดมามองหน้าสาวน้อย ดั่งมีเปลวเพลิงนรกคุโชนอยู่ในนั้น ก่อนที่เรียวปากบางเฉียบสีสดจะขยับเพียงเล็กน้อย แต่คำที่เอ่ยออกมานั้น ไม่ต่างจากมัจจุราชที่หมายจะเอาชีวิตเธอ

“เธอทำเสื้อของฉันไหม้! เธอต้องชดใช้!”

เอวิตาเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มก้มลงหยิบเตารีดแล้วก้าวตรงรี่เข้ามาหาเธอ ในมือถือเตารีดที่ขีดความร้อนยังไม่ได้หมุนมาอยู่ในตำแหน่งปิด กำลังจะโฉบมานาบที่มือข้างขวาของเธออยู่รอมร่อ

“กรี๊ด! อย่าค่ะ! พี่โซลดอนอย่า! โอ๊ย! ร้อนๆ ๆ กรี๊ดดดดด! ...”

“โซลดอน! หยุด!!! แกทำอะไรน้อง!” เด็กหนุ่มถูกผู้เป็นบิดาลากไปทำโทษอีกห้อง ขณะที่มารดาของสาวน้อยรีบวิ่งมาหาลูกสาวที่กำลังกุมมือตัวเองสั่นๆ

“เอวี่ลูกแม่!!”

“ฮือๆ แม่ขามือหนู มือของหนูแสบร้อนเหลือเกิน” สาวน้อยเอามือข้างหนึ่งจับประคองมือข้างที่โดนเตารีดนาบขึ้นมาดูแบบสั่นๆ คนเป็นแม่น้ำตาไหลพรากๆ เมื่อเห็นมือของลูกสาวพุพอง

ความเจ็บปวดและแสบร้อนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว ยังฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเธอเสมอมา เอวิตายกมือข้างขวาขึ้นมาดู มันยังคงเห็นรอยแผลเป็นจางๆ บนหลังมือ ทว่าความรู้สึกเจ็บในคราวนั้นยังคงแจ่มชัดในความรู้สึกของหญิงสาวอย่างไม่มีวันลบเลือน

เมื่อตวัดสายตามองไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่สะท้อนภาพอยู่ในกระจก เธอก็เหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นเส้นเล็กๆ เหนือคิ้วด้านซ้าย แล้วความทรงจำเมื่อแปดปีก่อนก็หวนกลับมาอีก

วันนั้นนอกจากเธอกับแม่บ้านแล้วไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน เธอเพิ่งกลับมาจากโรงเรียน และเดินเข้าไปในห้อง กำลังเปลี่ยนชุด จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดผางออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“พี่โซลดอน!” สาวน้อยตกใจจนหน้าซีด รีบยกมือสองข้างขึ้นมาปกปิดหน้าอกของตนเองที่มีเพียงบราเซียไซส์มินิผืนเดียวที่ปลดตะขอแล้วอย่างสั่นๆ ขณะที่ร่างสูงเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้อย่างไม่เป็นมิตร

สายตาคมวาวจ้องมองที่หน้าอกของเธอราวกับจะเปลื้องผ้า มันเป็นสายตาที่หยาบโลน และโลมเลียจนใบหน้าของสาวน้อยเห่อร้อนขึ้นมาทั้งอายทั้งกลัว

“เอวี่ เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดเธอกับแม่ของเธอมากแค่ไหน โดยเฉพาะแม่ของเธอที่หว่านเสน่ห์มอมเมาแด๊ดของฉันแทบทุกคืน ฉันได้ยินนะเวลาที่พวกเขาร่วมรักกัน เธออาจจะไม่ได้ยินเพราะเธอนอนกับพี่เลี้ยงข้างล่าง แต่ฉันได้ยินเต็มสองหู เพราะฉันนอนติดกับห้องของแด๊ด”

เอวิตายังไม่รู้ว่าที่โซลดอนพล่ามมาทั้งหมด เขาต้องการจะสื่ออะไรนอกจากจะบอกว่าเขาเกลียดเธอกับแม่ของเธอมาก

“และตอนนี้พ่อกำลังแม่ของเธอไปช้อปปิ้ง เพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้กับเธอ”

เด็กสาวเพิ่งนึกได้ว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบเก้าปีเต็มของเธอ

“และฉัน ในฐานะพี่ชายที่แสนดี” คำว่าแสนดีของเขามาพร้อมกับแววตาเหยียดหยันที่แฝงความชั่วร้ายไว้ภายในจนส่องประกายวาววับออกมาอย่างน่ากลัว โดยที่เด็กสาวเองก็ยังรู้สึกครั่นคร้ามไม่กล้าสบตาคมกล้านั่น แต่ก็ยังฟังชายหนุ่มพูดต่อด้วยใจที่หวาดหวั่น

“ฉันก็มีของขวัญจะให้เธอเช่นกัน” บอกเสียงเย็นยะเยือกแล้วเดินเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนเด็กสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วพยายามจะเบี่ยงตัวหลีกหนี แต่ก็ถูกมือใหญ่จับล็อกข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้กับผนังห้องแน่น ก่อนจะโน้มใบหน้าคมสันลงมาเป่าลมหายใจรดพวงแก้มที่แดงเรื่อนั้นอย่างนึกสนุก

“พี่โซลดอนจะทำอะไรเอวี่คะ”

“ก็ทำอย่างที่แด๊ดทำกับแม่ของเธอยังไงล่ะ” จบคำที่ชวนผวานั้น ปากบางเฉียบสีสด ก็โฉบลงมาบดขยี้เรียวปากนุ่มอย่างป่าเถื่อน เอาแต่ใจ

“อื้อ...” คนโดนรังแกพยายามสะบัดหน้าหนีแต่ก็ถูกคนที่มีกำลังเหนือกว่าล็อกท้ายทอยเธอเอาไว้ และใช้ลำตัวของเขาล็อกตัวเธออีกทีจนร่างเล็กไร้ทางหลีกหนี

จูบนั้นไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่นิด เธอเจ็บจนรู้สึกได้ถึงความเค็มปะแล่มๆ ก่อนจะถูกคนตัวโตฉุดดึงมาผลักลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่ปรานี แล้วตามขึ้นคร่อมทับอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เด็กสาวจะทันได้ตั้งตัว

“พี่โซลดอน อย่าทำอะไรเอวี่นะ อย่า! ได้โปรด”

“อย่าอ้อนวอนเสียให้ยากเลย ฉันตั้งใจจะมอบของขวัญให้กับเธอ ก็จงรับมันไว้ซะ”

“ไม่เอา! กรี๊ด! ปล่อยเอวี่นะ! ปละ...อุ๊บ!” ปากเล็กที่บวมเจ่อด้วยฝีมือคนใจร้ายก็ถูกครอบครองอีกครั้ง ครั้งนี้เร่าร้อนรุนแรงกว่าเดิมจนสาวน้อยน้ำตาเล็ด

เวลาแห่งความหวาดกลัวเดินไปอย่างช้าๆ ขณะที่ร่างเล็กกำลังดิ้นรนตะเกียกตะกายหาทางหลีกหนี จนถึงเฮือกสุดท้ายที่คนตัวโตกำลังผละตัวออกเพื่อจะถอดเสื้อผ้า ด้วยความกลัวสุดขีดทำให้เอวิตาออกแรงเฮือกสุดท้ายถีบร่างใหญ่สุดแรง

ตุ้บ!

“โอ๊ย!” โซลดอนกลิ้งตกลงไปไม่เป็นท่า พอลุกขึ้นได้ก็ตรงรี่เข้าหาตัวแสบที่กล้าถีบเขาจนตกจากเตียงด้วยความโกรธสุดขีด ขณะที่สาวน้อยลุกขึ้นยืนได้พอดี เตรียมจะวิ่งหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่ดึงข้อมือไว้จับข้อมือเล็กไว้แน่นแล้วผลักหญิงสาวจนชิดติดข้างฝา ออกแรงเอาคืนเธออีกด้วยการก้มลงจูบปากเล็กอีกครั้งอย่างรุนแรง

“อื้อ ปละ...” เอวิตาดิ้นขลุกขลักด้วยความกลัวลนลานจนตัวสั่นไปหมด นาทีนี้เธอกลัวความบ้าคลั่งของโซลดอนมากเหลือเกิน ชายหนุ่มเหมือนโดนซาตานเข้าสิง ออกแรงกอดปล้ำเธอราวกับเธอไปทำให้เขาโกรธสักสิบชาติ

เมื่อสอดลิ้นเข้าไปสำเร็จ มือไม้ของชายหนุ่มก็พยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าของหญิงสาว บางทีก็กอบกำทรวงอกอิ่มอย่างจวบจ้วงรุนแรงจนเจ้าตัวต้องหวีดร้องออกมา แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมาก็เป็นเพียงเสียงร้องอู้อี้เพราะปากของเธอถูกเขาครอบครองแนบสนิทจนแทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจ

“อ๊ะ...” สาวน้อยพยายามดิ้นรนสุดชีวิต และเมื่อได้โอกาสต่อสู้เธอก็สู้ยิบตา

“โอ๊ย! ยัยบ้าเอ๊ย!”

ตุ้บ!

โซลดอนถูกกัดลิ้นจนเลือดซิบ เขารีบผลักหล่อนออกอย่างแรงเพื่อให้หล่อนเลิกกัดลิ้นเขา ส่งผลให้ร่างเล็กล้มลงศีรษะกระแทกขอบตู้อย่างแรง แต่ไม่มีเสียงร้องสักแอะเดียว ทุกอย่างดูเงียบงัน เห็นเพียงหญิงสาวยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับขมับเหนือคิ้วของตนเองอย่างสั่นๆ มีเลือดติดนิ้วมือออกมา แล้วสายตาตัดพ้อก็ช้อนมองคนใจร้ายด้วยความคาดไม่ถึง ว่าเขาจะโหดร้ายกับเธอถึงเพียงนี้

มีคำถามมากมายอยู่ในดวงตาหวานเศร้าของสาวน้อยที่อายุเพียงสิบเก้าปี ที่แอบหลงรักจอมมารร้ายมาตั้งแต่อายุได้เพียงสิบสี่ เธอไม่เคยเข้าใจสักครั้งว่าทำไมทั้งที่เขารังเกียจเธอถึงเพียงนี้ เขาร้ายกาจกับเธอถึงขนาดนี้ เธอยังไม่สามารถบอกใจตนเองให้เกลียดเขาได้เลย

ชั่ววูบหนึ่งที่ดวงตาคมกล้าของจอมมารร้ายอย่างโซลดอนไหววูบอ่อนแสงลง แต่ก็เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ดวงตาคู่นั้นก็กลับมาเย็นชาดังเดิม แล้วร่างสูงก็เดินจากไป

เสียงปิดประตูดังปัง ทำให้ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง แล้วน้ำตาก็ไหลเป็นทาง นานหลายนาทีกว่าแม่บ้านจะกล้าขึ้นมาดู เพราะคนใช้ในบ้านล้วนกลัวเกรงโซลดอนแทบทั้งสิ้น

แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้โกรธเขา เพราะมารดาบอกกับเธอเสมอว่า ครอบครัวของวิสเลอร์มีบุญคุณกับครอบครับของเธอมาก มากจนชั่วชีวิตนี้คงหาทางตอบแทนไม่หมด

‘แล้วทำไมพี่โซลดอนถึงเกลียดเอวี่นักล่ะ เพราะอะไร?’ คำถามเดิมๆ ที่สาวน้อยเฝ้าถามชายหนุ่มในใจ โดยที่ไม่มีใครอธิบายเหตุผลให้เธอฟังได้ มาจนถึงทุกวันนี้

“เอวี่” เสียงเรียกอ่อนโยนจากมารดาเรียกให้สาวน้อยหลุดออกจากภวังค์ แล้วหันมามองผู้หญิงคนหนึ่งที่แม้วัยจะล่วงเลยเข้าสู่เลขห้าสิบก็ยังดูสวยโสภา ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่รักเธอ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอมาโดยตลอด

“มีอะไรคะแม่”

“เอวี่ เดี๋ยวเย็นนี้แม่กับคุณคลินต์จะไปดินเนอร์ครบรอบงานวันแต่งงานของเรา เอวี่อยู่คนเดียวได้ไหมลูก”

“ได้ค่ะแม่” ตั้งแต่โซลดอนมีแฟนสาว สามปีที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้สนใจเธออีกเลย เขาทำเหมือนไม่มีเธออยู่ในบ้านด้วยซ้ำ

อรอินกอดลูกสาวหลวมๆ ตอนนี้เธอสบายใจขึ้นเมื่อลูกชายของสามีเลิกสนใจในตัวลูกสาวของเธอแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกห่วงอยู่ดี เพราะโซลดอนไม่เคยมองพวกเธอสองแม่ลูกด้วยสายตาเป็นมิตรเลยสักครั้งที่เจอหน้ากัน

“แม่รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวคุณคลินต์ก็คงมารับแม่ไปแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องรอ เขาจะได้พอใจแม่” ความสุขของแม่ก็คือความสุขของเธอเช่นกัน เพราะเธอรู้ว่าแม่รักคลินต์ วิสเลอร์ มากแค่ไหน และพ่อเลี้ยงของเธอคนนี้ก็ดูเขาจะรักแม่ของเธอมากเช่นกัน

“ขอบใจนะเอวี่ หนูเป็นเด็กดีเข้าใจอะไรง่ายๆ เสมอ แม่ไปอาบน้ำก่อนนะ”

“แม่คะ”

“หืม อะไรจ๊ะ”

“เอวี่รักแม่นะคะ”

“จ้ะ แม่รู้แล้ว แม่ก็รักเอวี่มากที่สุดในโลกเลย”

สองแม่ลูกกอดกันกลม ก่อนที่สาวน้อยเอวิตาจะเป็นฝ่ายผละตัวออกก่อนแล้วยิ้มให้มารดาด้วยความรักความเข้าใจ ก่อนจะเดินไปปิดประตูห้องนอน เมื่อลับร่างมารดาแล้ว ก็เดินมานั่งหน้าคอมฯ ที่เปิดทิ้งเอาไว้ จากนั้นสาวสวยหน้าหวานออกเศร้าๆ ก็มาอยู่ในโลกส่วนตัวของตนเองอีกครั้ง แล้วนั่งมองรูปหน้าจอนิ่ง มันคือรูปวาดของผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในจิตนาการอันสวยหรูของเธอเสมอ มาตลอดระยะเวลาหลายปี

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง โดยที่ร่างเล็กตรงหน้าคอมฯ ไม่ได้ลุกไปไหน เพราะมัวแต่ดูหนังที่เธอชอบและฟังเพลงที่เธอโปรดปราน จนกระทั่งเห็นแสงไฟตารถสาดมากระทบทางหน้าต่าง จึงได้ละสายตาจากหน้าจอคอมฯ ไปยังหน้าต่างที่ยังไม่ได้ปิดผ้าม่าน

ความอยากรู้ว่าคืนนี้เขาจะเมามาอีกหรือเปล่า ฉุดให้เอวิตาเดินไปยังหน้าต่าง ก้มลงมองไปทางรถยนต์เบนท์ลีคอนติเนตัลฟลายอิ้งสเปอร์สีบรอนซ์เงินโดยไม่กะพริบตา

เมื่อประตูรถด้านคนขับเปิดออก โซลดอนก็ก้าวลงรถไปเปิดประตูให้คนที่เขาพามาด้วยอีกฝั่ง ไม่บอกก็รู้ว่าต้องเป็นผู้หญิงแน่ และถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นผู้หญิงที่ชื่อ วาเนสซ่า คนเดิมอีกเช่นเคย

...แต่...หนนี้เธอเดาผิด ผู้หญิงที่เขาพามาไม่ใช่วาเนสซ่า แต่เป็นนางแบบคนหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวซุบซิบกับเขาอยู่ในตอนนี้...

ไม่คิดเลยว่าข่าวนี้จะเป็นจริง ที่บอกว่าโซลดอนแอบไปมีกิ๊กใหม่ เป็นนางแบบสาวสวยลูกครึ่งที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ เธอคือแคนดี้สาวสวยผิวสีน้ำผึ้งทรงโต ลูกสาวของเพื่อนสนิทของคลินต์ วิสเลอร์เสียด้วย

แล้วโซลดอนเอาวาเนสซ่าไปไว้ที่ไหน เขาบอกเลิกนักธุรกิจสาวเจ้าของร้านจิวเวลรี่คนนั้นไปแล้วเหรอ

‘แล้วเธออยากจะรู้ไปเรื่องของพวกเขาไปทำไมกัน’

เอวิตาเอ็ดตนเองในใจแล้วก็รอให้โซลดอนพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นห้องไป แล้วพอทุกอย่างเงียบลงจึงได้เดินออกจากห้องมาหาของกินในห้องครัว เพราะเพิ่งรู้สึกหิวก็ตอนสี่ทุ่มนี่เอง

ขณะเปิดตู้เย็นก็เหลือบไปเห็นเงาวูบวาบด้านหน้าประตู พอหันไปดูก็ต้องสะดุ้งตกใจยกมือปิดเสียงกรี๊ดของตนเองเกือบไม่ทัน เมื่อเห็นโซลดอนยืนนิ่งมองเธออยู่

“เห็นฉันเป็นผีหรือไง ถึงได้ตกใจขนาดนั้น” ถามเสียงเรียบแต่ทว่าแววตาช่างน่ากลัว ไม่น่าไว้ใจสำหรับเอวิตาเลย

คนขวัญอ่อนไม่ตอบ รีบคว้าเอานมกล่องหนึ่งในตู้เย็นได้ ก็รีบเดินจะออกจากประตูห้องครัวไปเลย โซลดอนมองตามหลังร่างเล็กไปยิ้มๆ แต่เอวิตาคงนอนไม่หลับแน่หากจะหันมามองเห็นรอยยิ้มร้ายของอีกฝ่าย

โซลดอนเดินมาเปิดตู้เย็นหยิบเครื่องดื่มขวดหนึ่งติดมือขึ้นไปด้วย ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องของตัวเอง ดวงตาคมกริบที่เขย่าหัวใจสาวๆ เกือบทั้งเมืองก็ปรายตาไปมองห้องข้างๆ ที่อยู่ติดกัน มุมปากบางเฉียบสีสดกระตุกยิ้มนิดๆ ตามแบบฉบับคนเจ้าเล่ห์

‘คืนนี้เขาจะแกล้งยัยเอวี่ ไม่ให้ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว หึๆ’

“โซลดอน มาดูหนังเรื่องนี้สิคะ นางเอกเซ็กซี่มากเลย”

โซลดอนยกเบียร์ขึ้นจิบก่อนจะเดินมานั่งลงบนขอบที่นอนด้านหัวเตียงมองไปยังภาพเคลื่อนไหวบนจอโทรทัศน์ แคนดี้กำลังดูหนังวาบหวิวแล้วนอนให้ท่าเขาอย่างเปิดเผย

“ปิดเถอะ แล้วมองผมดีกว่า” จบคำมือใหญ่ก็เอื้อมไปหยิบรีโมทมากดปิดทันที แล้วขึ้นไปทาบทับร่างนุ่มที่แทบไม่ได้สวมใส่อะไรเลยด้วยอารมณ์ปรารถนา

“คืนนี้ดูคุณใจร้อนจังนะคะ” เห็นชายหนุ่มกำลังจะก้มลงจูบ นางแบบสาวก็ชิงพูดเสียก่อน

“เวลาของผมมีค่าทุกนาที แล้วคุณก็เซ็กซี่กว่านางเอกคนนั้นตั้งเยอะ”

พูดเอาใจไปแบบนั้น เพราะดีรู้ว่าพวกผู้หญิงมักชอบผู้ชายปากหวาน แคนดี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น หล่อนยิ้มกว้างรับคำชม ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาชวนฝันก้มต่ำลงมาแล้วเป็นฝ่ายรุกชายหนุ่มเสียเอง

แคว่ก!

คว้าง!

เสื้อของนางแมวสาวยั่วสวาทถูกดึงออกทางศีรษะแรงๆ ด้วยความใจร้อนของเสือหนุ่มจนได้ยินเสียงฉีกขาด เผยให้เห็นทรวงอกอิ่มผุดผาดดีดเด้งออกมาท้าทายสายตาของเขา ให้เข้าไปบีบเคล้นอย่างเมามัน

“อ๊า”

ต่อมาชายกระโปรงสั้นก็ถูกเลิกขึ้นไปกองไว้ที่เอวกิ่ว ชายหนุ่มใช้นิ้วชี้เกี่ยวตรงตะขอนิดเดียว มันก็หลุดติดมือออกมาแล้ว และถูกเหวี่ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี

โซลดอนรีบถอดกางเกงทั้งสองชิ้นของเขาออก อวดเจ้ามังกรร้ายที่ชูหัวผงาดพร้อมฟาดฟันหญิงสาวทุกวินาที เขาไม่รอช้า ไม่มีการเล้าโลมใดๆ

ร่างใหญ่คลานเข่าเข้าแล้วจับอาวุธร้ายอวบใหญ่ของเขาเบียดแทรกลงตรงกลางสามเหลี่ยมอวบอูมทันที แล้วผลักดันท่อนเอ็นแข็งเข้าไปในความร้อนระอุของหญิงสาวที่กำลังเบ่งบานรับเขาเข้าไปภายใน เขาระบายอารมณ์อย่างร้อนแรง

“โอ๊ย โอยๆ ...”

แคนดี้ก็หวีดร้องลั่น เจ็บแต่ก็ทน ทนเพื่อความสุขสุดยอดรุนแรงที่เธอมั่นใจว่าจะไปถึงทันชายหนุ่ม

นาทีต่อมา เสียงโอดโอยก็กลายเป็นเสียงร้องครวญครางดังลั่นห้อง และเสียงดังมากขึ้นตามจังหวะการถาโถมของร่างแกร่ง โซลดอนมีแต่ความร้อนแรงเสมอ เขาไม่เคยอ่อนโยนกับผู้หญิงคนไหนเลย

เสียงร้องจากปากสีแดงสดจึงดังขึ้นเป็นระยะๆ แบบไม่ขาดช่วง และเสียงร้องแห่งความหฤหรรษ์นี้ก็ดังลอดเข้ามาถึงห้องข้างๆ ที่เจ้าของห้องยังนอนไม่หลับ

“โอ้วๆ โอ๊ะๆ ๆ ๆ ... อ๊าซ์ ซี๊ดดดดด...”

ตึกๆ ๆ ๆ ...

เอวิตาเอาหมอนมาอุดหูทั้งสองข้าง นึกโมโหเจ้าของห้องข้างๆ นี้จริงๆ ที่ไม่รู้จักปิดหน้าต่างเวลาที่เขาเอาผู้หญิงมานอนด้วย และคืนนี้เสียงของผู้หญิงคนใหม่ที่เขาพามาดังกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยินเสียอีก ดังยาวนานมากกกกกก... และดังมากจนเธอนอนไม่หลับ

...เมื่อไหร่กิจกามของเขาจะเสร็จสิ้นลงเสียที เธอนอนไม่หลับจนร้อนรุ่มไปหมดแล้ว...

เอวิตาไม่เข้าใจร่างกายของเธอเลย ทั้งที่ไม่ชอบเสียงนั่น แต่ทำไมบางอย่างในร่างกายของเธอถึงได้มีปฏิกิริยา โดยเฉพาะคืนนี้ที่เธอได้ยินเสียงของแคนดี้ร้องตั้งแต่วินาทีแรก จนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงก็ยังร้องครางลั่นไม่เกรงใจใคร

“โอยเสียวมาก เสียวสุดๆ เลยค่ะ อ๊าซ์ ซี๊ด อูวว์ อ่าซ์ แรงอีกค่ะโซลดอน เร็วอีก โอ๊ะวๆ ๆ ๆ ... อร้างงง อี๊ๆ ๆ ซี๊ดดด... โอย”

“อ่าส์ อูววว์...”

“แรงๆ เลยที่รักขา จะถึงแล้ว โอยๆ ๆ ๆ ...”

ตึกๆ ๆ ๆ ๆ !

“อ๊าซ์ๆ ๆ ๆ ... จะถึงแล้ว เร็วค่ะ โอย โอ๊ย โอ้วๆ ๆ ๆ ๆ ... กรี๊ดดดดดด...อ๊าซซซซ...”

ตึกๆ ๆ !

“อ๊ากกกส์”

“........................................”

ทั้งที่อยากให้เสียงนั้นเงียบลง แต่เธอกลับเผลอนอนฟังจนเสียงหวีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่านั้นในยกที่สองที่สามจนถึงเที่ยงคืน นอนฟังจนตาใสหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง แล้วก็ต้องรู้สึกค้างคาแปลกๆ จนนอนไม่หลับไปอีกสองสามชั่วโมงจึงได้ผล็อยหลับไป

เอวิตาตื่นขึ้นมาอีกทีตอนแปดโมงเช้าด้วยอาการงัวเงีย หวังว่าโซลดอนคงจะออกไปส่งนางแบบสาวคนนั้นแล้ว เพราะปกติเวลาที่ชายหนุ่มพาแฟนสาวของเขามานอนค้างที่นี่ เขาจะตื่นเช้ามากเพื่อรีบไปส่งฝ่ายหญิงกลับบ้าน แล้วจึงกลับมาอาบน้ำกินข้าวที่คฤหาสน์ของตนเอง

เจ้าของร่างเล็กลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟัน แล้วมาสวมชุดกระโปรงยาวแค่เข่าสำหรับใส่อยู่บ้าน หมุนตัวที่หน้ากระจกหนึ่งรอบก่อนเดินออกมาจากห้องนอน

สาวน้อยเดินลงบันไดมาจนถึงชั้นล่าง ตั้งใจจะออกไปเดินเล่นรอบบ้านสักหน่อย

“นั่นใครเหรอคะโซล”

โซลดอนหันมองมาทางเอวิตาแล้วก็เหยียดยิ้ม ก่อนจะหันมากอดคู่นอนคนใหม่มาหอมฟอดใหญ่ต่อหน้าต่อตาคนที่ยืนอึ้งอยู่กับที่

“ลูกของคนใช้ในบ้านน่ะ”

“ลูกคนใช้? ... แล้วทำไมถึงลงมาจากชั้นบนล่ะคะ แล้วดูการแต่งตัวก็เหมือนไม่ได้ขึ้นไปทำงาน น่าจะเพิ่งออกมาจากห้องนอนของตนเองด้วยซ้ำ”

นางแบบสาวตั้งข้อสังเกต เซ้นส์ของผู้หญิงแรงเสมอในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แคนดี้จึงอดไม่ได้ที่จะมองสาวน้อยที่เพิ่งเดินลงมาจากบันไดด้วยสายตาพินิจพิจารณา อย่างจับผิด

“คุณอย่าไปสนใจเลย แกเป็นใบ้”

เอวิตาอึ้งเป็นคำรบสองเมื่อได้ยินโซลดอนบอกกับแฟนสาวของเขาว่าเธอเป็นลูกคนใช้หนึ่งละ และสองเธอเป็นใบ้ เขาช่างเอ็นดูเธอจริงๆ แต่ก็ดีแล้วในเมื่อเธอไม่มีอะไรจะต้องพูดกับสองคนนั้นอยู่แล้ว

“เป็นใบ้? ... จริงหรือเปล่าคะโซล”

“สามปีที่ผ่านมาจนถึงวันนี้แกไม่คุยกับผมเลย คุณคิดว่าแกเป็นใบ้หรือเปล่าล่ะ”

แคนดี้ชักงงกับคำอธิบายของแฟนหนุ่มจนคิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปม ตกลงว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เป็นใบ้จริงๆ หรอกใช่ไหม ก็แค่ไม่อยากพูดเลยไม่พูดแค่นั้นกระมัง หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้น

ขณะที่แคนดี้กำลังสงสัยในตัวเอวิตาอยู่นั้น โซลดอนก็จงใจรวบร่างนางแบบสาวเข้ามากอดแล้วจูบหล่อนต่อหน้าน้องสาวนอกไส้อีกครั้ง จนเอวิตาต้องรีบเดินหนีจากภาพนั้นไปแทบไม่ทัน

พอเห็นว่าเอวิตาเดินลับหายไปแล้ว โซลดอนก็กระตุกยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วผละอ้อมกอดจากนางแบบสาวทันที การที่ได้แกล้งให้เอวิตาให้หล่อนหน้าแดงได้ มันทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทุกครั้ง

เดือนหน้าบิดาของเขาบอกว่า จะส่งเอวิตาไปช่วยงานเขาที่บริษัท แต่เขาไม่รู้ว่าเด็กใบ้นั่นจะตกลงไหม แต่ถ้าเอวิตายอมไปทำงานละก็ เขาก็มีแผนจะทำให้เด็กนั่น ขอลาออกจากงานตั้งแต่อาทิตย์แรกที่เข้าทำงานเลยทีเดียว

‘ใครอยากจะทนทำงานอยู่กับเด็กใบ้ที่แสนจะจืดชืด วันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง น่าเบื่อจะตาย’

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY