ผู้หญิงในภาพช่างมีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ที่เขายังไม่เคยพานพบ ใบหน้าเรียวสวยประดับไปด้วยคิ้วโก่งดั่งคันศร ที่พาดอยู่บนดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตอย่างสาวเอเชีย ประกายตาหวานซึ้งดูมีชีวิตชีวาจนฟรานซิสเผลอคิดว่าเธอกำลังสบตาเขาอยู่เช่นกัน กลีบปากบางแดงเรื่อดั่งกลีบกุหลาบแรกแย้มคลี่ยิ้มออกเล็กน้อย ทำให้ดวงหน้าของเธอดูเปล่งปลั่งเรืองรองน่ามองยิ่งนัก
รูปร่างบอบบางอรชรในชุดเดรสเกาะอกสีขาว กำลังนั่งอยู่ในท่าหันข้างมองมาทางเขาเล็กน้อย เส้นผมสีน้ำตาลเงาวับดุจแพรไหม ที่ยาวเลยเอวบางที่คอดกิ่ว พลิ้วไปตามสายลมพัดลู่ไปด้านหลัง ผิวขาวผุดผ่องของไหล่เนียนที่เผยให้เห็น ทำให้ชายหนุ่มคิดจินตนาการไปถึงไหนต่อไหน จนไม่รู้สึกตัวเลยว่าเจ้าของภาพวาดรูปนี้ ได้มายืนอยู่ข้างหลังของเขานานแล้ว
“สวยมั้ยครับพี่” เสียงห้าวถามเบาๆ ขณะที่สายตาคมยังคงจ้องมองผลงานของตนเองที่เขาใช้หัวใจวาดออกมา ด้วยประกายตาพราวระยับ
“สวย” ร่างสูงใหญ่ขยับริมฝีปากเล็กน้อยแทบไม่ได้ยินเสียง
“ใช่ครับ เธอสวยมาก และเธอก็เป็นผู้หญิงที่ผมรักด้วย” แฟรงค์รำพรรณออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“อะไรนะ! นายพูดใหม่ซิ เมื่อกี้ฉันได้ยินนายบอกว่าหล่อนเป็นคนรักของนายอย่างงั้นเหรอ”
ฟรานซิสหลุดออกจากโลกแห่งความฝันและจินตนาการเมื่อครู่ทันที หันมามองหน้าน้องชายด้วยสีหน้าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง น้องชายของเขาไปมีคนรักตั้งแต่เมื่อไหร่กัน คิ้วเข้มดกดำดั่งปีกกาย่นเข้าหากันทันที เมื่อสบตากับดวงตาคมพราวระยับของร่างสูงสันทัดที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งมีความสูงไล่เลี่ยกับเขา
“พี่ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ เธอเป็นคนรักของผม จริงๆ” แฟรงค์ ตอบพี่ชายต่างบิดาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นใจ
“แล้วนายคบกับผู้หญิงในภาพนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ฟรานซิสไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน ว่าทำไมเขาจะต้องสนใจด้วยว่า น้องชายของเขาจะคบกับผู้หญิงคนไหน เมื่อไหร่ ยังไง
“เมื่อวาน” เสียงห้าวทุ้มตอบสั้นๆ
“อะไรนะ! เมื่อวาน!” เสียงห้าวเข้มทรงพลังอุทานเป็นคำรบสอง ด้วยความพิศวงงงงวยอย่างนึกไม่ถึง อะไรกัน...คนเราจะตกหลุมรักกันง่ายๆ เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ แค่วันเดียวเนี่ยนะ โอ้พระเจ้า! เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ แต่ว่ามันก็เป็นไปแล้ว เขาชักอยากจะเห็นตัวจริงของผู้หญิงคนนี้เสียแล้วสิ อยากรู้ว่าเธอเป็นใคร? มีอะไรดีนักหนา ถึงสามารถครอบครองหัวใจที่แสนจะเย็นชาของน้องชายของเขาได้ สายตาคมกล้าหรี่มองภาพสาวสวยตรงหน้าอีกครั้ง
ดูท่า...คงไม่มีแค่เพียงฟรานซิสเท่านั้นที่มองภาพวาดของหญิงสาวสวยสะดุดตาด้วยความสนใจ แต่ด้านหลังของเสาบ้านต้นใหญ่ที่ทำจากไม้สักทั้งต้น ซึ่งแกะสลักเสลาลวดลายเป็นรูปมังกรเลื้อยรัดรอบเสา ได้มีสายตาอีกคู่กำลังแอบมองภาพนั้นอยู่ไม่ห่างมากนัก สามารถได้ยินในสิ่งที่ทั้งสองหนุ่มกำลังคุยกันได้อย่างชัดเจน
หน้าตาของสาวน้อยในภาพวาด ช่างดูคุ้นตาเขายิ่งนัก ดวงตากลมโตหวานซึ้งที่เป็นเอกลักษณ์ ริมฝีปากบางเจ่อเล็กน้อยคล้ายริมฝีปากของใครบางคน และที่สำคัญ เมื่อรวมทุกอย่างบนใบหน้าเรียวสวยเข้าด้วยกัน มันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับใครบางคนที่เขาเคยรู้จักเป็นอย่างดี รู้จัก! และไม่มีวันลืม! แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจนัก ว่าเธอจะใช่อย่างที่เขาคิดอยู่หรือเปล่า ร่างสูงภูมิฐานจึงได้ยืนนิ่งแอบฟังสองหนุ่มพูดคุยกันต่อไปเงียบๆ
“แล้วนาย รู้จักกับเธอที่ไหน”
“ที่หอไอเฟล เธอไปยืนดูหอไอเฟลอยู่นานมาก เธอขอให้ผมช่วยถ่ายรูปให้เธอ” คนที่กำลังมีความรักเบ่งบานอยู่ในหัวใจพูดไปยิ้มไป เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยหวานที่แย้มยิ้มให้เขา เธอพูดกับเขาด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษแปร่งๆ แต่ช่างไพเราะน่าฟังยิ่งนัก เสียงใสเล็กๆ กับรอยยิ้มหวานพิมพ์ใจ ทำให้เขาหลงใหล และตกหลุมรักเธอนาทีนั้นเอง
“นายก็เลยขอให้เธอตอบแทนน้ำใจ ด้วยการให้เขามาเป็นนางแบบวาดรูปให้กับนายงั้นสิ”
“อืม...ก็ทำนองนั้น”
“แล้วเธอก็ยอมให้นายวาดรูปของเธอง่ายๆ เนี่ยนะ”
“แล้วมีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องปฏิเสธผมด้วยล่ะครับ”
“เออ...นั่นสิ ทำไมเธอจะต้องปฏิเสธผู้ชายหล่อๆ รวยๆ อย่างนายด้วยล่ะ ผู้หญิงคนไหนปฏิเสธนายก็คงจะโง่เต็มที” เพราะฟรานซิสคิดว่า ผู้หญิงที่น้องชายของเขากำลังตกหลุมรัก จะต้องรู้แน่ๆ ว่าแฟรงค์เป็นทายาทของมหาเศรษฐีพันล้าน เธอถึงได้ยอมตามใจผู้ชายแปลกหน้าง่ายๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งพบกันครั้งแรก
“พี่กำลังคิดอะไรอยู่น่ะ” สายตาขุ่นขวางที่เหมือนไม่พอใจตวัดมองคนที่ตัวสูงกว่าเขาไม่ถึงคืบด้วยความเคลือบแคลงสงสัย
“เปล่านี่ ไม่ได้คิดอะไรเล้ย” คนที่กำลังถูกจับผิดรีบปฏิเสธเสียงสูง ก่อนที่จะพูดต่อให้มันดูดีขึ้นมานิดหนึ่ง
“ฉันก็แค่คิดว่า เขาอาจจะรีบเร่ง มีธุระ อะไรประมาณนี้” ฟรานซิสขยายความเพื่อให้คิ้วเข้มที่กำลังขมวดมุ่นมองเขาอย่างไม่ชอบใจคลายลง เพราะเหมือนแฟรงค์จะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในนาทีแรก
“เธอบอกว่า เสียเวลาให้ผมวาดรูปเธอแค่ครึ่งชั่วโมง ไม่ได้ทำให้เธอเดือดร้อนมากมายนัก และเธอก็เต็มใจจะให้ผมวาดรูปของเธอด้วย”
“มิน่า”
“มิน่าอะไร” เจ้าของภาพวาดหันมาทำตาขุ่นใส่พี่ชายอีกเป็นครั้งที่สอง
“อ๋อ...ก็...มิน่า...ภาพถึงได้ออกมาสวยแบบนี้ไงล่ะ” คนเจ้าเล่ห์ลื่นไหลเอาตัวรอดไปได้เรื่อยๆ แต่สายตาก็ยังจดจ้องภาพวาดตรงหน้าไม่วางตา
“ตัวจริงสวยกว่านี้อีก” แฟรงค์มองคนในรูปวาดด้วยนัยน์ตาหวานฉ่ำ ฟรานซิสลอบสังเกตดูสีหน้าท่าทางของคนข้างๆ ก็พอจะเดาออกว่าน้องชายของเขาคงจะหลงรักผู้หญิงในภาพนี้มากน่าดู เขาถึงพูดอะไรขัดหูไม่ได้เลย เป็นต้องถามกลับด้วยสายตาไม่พอใจทุกที
“เธอชื่ออะไร”
“อัญญาลิน...อัญญาลิน อัครธาดา” คำตอบของแฟรงค์ น่าจะเป็นถ้อยคำรำพรรณที่พูดขึ้นมาลอยๆ มากกว่า แต่มันก็ลอยไปกระทบใบหูของคนที่ยืนแอบฟังอยู่ข้างหลังเสาต้นใหญ่เข้าเต็มเปา
‘ใช่จริงๆ ด้วย ผู้หญิงในภาพนั้น จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับคนนามสกุลนั้นอย่างแน่นอน’ อัญญาลิน อัครธาดางั้นหรือ...อัครธาดา นามสกุลนี้เขาไม่มีวันลืม!’ ต่อให้เวลาจะผ่านพ้นมานานยี่สิบกว่าปีแล้วก็ตาม และเขาจะต้องสืบรู้ให้ได้ว่าสาวน้อยในภาพวาดคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงได้ใช้นามสกุลเดียวกันกับคนๆ นั้น ‘คนที่เขาแค้นมากที่สุด!’
“หึๆ” เสียงหัวเราะน่าขนลุก ลอยขึ้นกลางอากาศแทบจะไม่ได้ยินเสียง แต่ทว่าสายตาวาวโรจน์คู่นั้นกลับลุกโชนมากยิ่งขึ้นเมื่อมองไปยังเงาภาพของศัตรู นิ่งดูอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ร่างสูงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจจะเดินออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างเงียบกริบเหมือนกับตอนที่เขาเดินเข้ามา