สำหรับเดือนกันยา ความรักที่หลบซ่อนเป็นสิ่งที่น่าชิงชังมากกว่าอื่นใด แต่ไยเธอจึงถวิลหาความรู้สึกนั้น ทำไมมันถึงช่างอบอุ่นอ่อนหวานทั้งที่ทำให้เธอต้องขมขื่นใจ บนใบหน้าเศร้าโศกต้องสวมหน้ากากของความสดใสแว่วหวานเอาไว้ทุกเสี้ยววินาที หัวใจที่ร่ำร้องเรียกหาความรักตะโกนก้องราวกับกำลังขาดใจ สำหรับสงคราม ความรักสำหรับเขาไม่ใช่ของเล่น แต่ความรักจะอยู่เหนือเหตุผลและความจำเป็นก็ไม่ได้ ถ้ารักต้องอยู่เหนือเหตุผล ทุกคนบนโลกจะพบแต่ความหลงใหล เขาแยกแยะได้ แต่สิ่งที่กำลังเจอคือความเร่าร้อนที่ต้องหลบซ่อน รักที่เร่าร้อน รักแรก และรักเดียว มันกลับเป็นการหลบซ่อน และพอกพูนไฟสวาทให้เผาไหม้ทุรนทุราย “เธอก็รู้ว่าไม่มีทางปฏิเสธพี่ได้ หัวใจเธอรู้ดีลูกแก้ว” “ลูกแก้วเกลียดพี่คราม ชิงชังพี่คราม พี่ครามทำแบบนี้ได้ไง พี่ครามเป็นสามีของพี่อัง ทำได้ไง พี่ครามเลวที่สุด” “เราก็เลวด้วยกันทั้งคู่ หรือเธอจะเถียงว่าไม่ได้รักพี่” “ใจร้าย พูดแบบนี้ได้ไง พี่ครามใจร้ายกับพี่อังได้ยังไง” “บางเรื่องเธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีเหตุผล” นิ้วกลางของสงครามชอนไชเข้าสู่ปากถ้ำอันอุดมไปด้วยแหล่งน้ำที่หลั่งริน เดือนกันยากรีดร้องสุดเสียง ทั้งเกลียดเขา เกลียดตัวเอง และซ่านกระสันไปทุกรูขุมขน ร่างอิ่มที่ถูกพันธนาการไว้กับหัวเตียงดิ้นพล่านทุรนทุราย
บทนำ
เท้าบางๆ ที่เพิ่งก้าวเข้าห้องนอนเป็นต้องลอยพ้นพื้น ปากอิ่มถูกปิดด้วยมือหนา แถมทรวงอกอิ่มอวบยังอยู่ใต้ฝ่ามือหยาบกร้านของคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนสีหวาน
“อื้ม อ่อย อ่อย อื้ม”
เสียงของเดือนกันยาดังอึกอักอยู่ในลำคอ ร่างบางดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนอุ่นที่กำลังรัดเธอแล้วยกขึ้น โดยใช้แผงอกกว้างรองรับร่างบางเอาไว้
“สัญญากับพี่ว่าจะไม่ร้อง แล้วพี่จะปล่อยเธอ”
เดือนกันยาไม่รับปาก ยังดิ้นรนขัดขืนสุดฤทธิ์ เธอสู้เขาไม่ได้ ทั้งความบอบบางทางเพศ และเรี่ยวแรงที่น้อยกว่า ไม่มีประตูไหนเปิดกว้างให้เธอสู้เขาได้เลย
“คิดจะต่อต้านพี่รึไงลูกแก้ว คิดผิดแล้วทูนหัว”
“อื้อ อื้ม”
มือใหญ่ที่กดลงบนทรวงอกเริ่มเคล้นคลึง ลำคอเล็กขาวนวลถูกฟอนเฟ้นด้วยปากและจมูก เดือนกันยาส่ายหน้าหนี แต่มือที่กดปิดปากเธอไว้ก็เพิ่มความหนักหน่วงขึ้นจนเจ็บ เดือนกันยาจำต้องหยุดดิ้นรนก่อนพยักหน้า
“อั๊นอั๋นอา อ่อย”
“ถูกต้อง”
ปากของเดือนกันยาเป็นอิสระ แต่ร่างของเธอยังคงอยู่ในวงแขนเขา
“เลิกทำอย่างนี้กับฉันเสียทีจะได้มั้ย ที่คุณได้ไปยังไม่พออีกหรือ คุณต้องการอะไรอีก”
“โอ๊ะๆ เรียกคุณอีกแล้ว จำไม่ได้เหรอ ครั้งก่อนพี่ลงโทษเธอยังไง”
“นี่คุณ อ๊ะ”
เต้าเต่งถูกบีบขยำ บั้นท้ายงอนสวยถูกลูบโลบอย่างหยาบกระด้าง เดือนกันยาไม่สามารถพลิกตัวหลบหนีสัมผัสของเขาได้เลย มือของเขาเยอะราวกับหนวดปลาหมึก สัมผัสของเขาทำให้เธออ่อนเปลี้ย แม้จะทำใจแข็งไม่ยอมอ่อนข้อให้ สุดท้ายเดือนกันยาก็ยังหนีไม่พ้นอ้อมกอดของเขาเสียที
“อ๊ะ อย่าค่ะพี่คราม ปล่อยลูกแก้วเถอะค่ะ อย่าทำแบบนี้กับลูกแก้ว คุณพ่อไม่ปล่อยพี่ครามแน่ถ้าท่านรู้”
“แต่คุณพ่อของลูกแก้วก็ไม่มีทางรู้ เพราะลูกแก้วจะไม่มีวันบอกเรื่องนี้กับท่าน”
สงคราม ผู้ชายข้างบ้านที่ไม่เพียงแต่จะมีชื่อน่ากลัว ยังมีความน่ากลัวอื่นๆ ซ่อนอยู่ในตัวเขาอีกมากมาย เดือนกันยารู้ดี เขาจะไม่ยอมปล่อยมือจากอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเขาไม่อยากปล่อย
“ลูกแก้วจะบอก ลูกแก้วจะไม่ยอมให้พี่ครามทำแบบนี้กับลูกแก้วอีกแล้ว”
“คิดว่าเขาจะเชื่อเหรอ ลูกแก้วจะบอกว่ายังไง บอกว่าพี่ปีนหน้าต่างเข้าหาลูกแก้วบ่อยๆ งั้นเหรอ คนอย่างนายสงคราม ดาร์เมียน อะลองโซ่ เบนเนตติ ต้องทำถึงขนาดนั้นเชียวหรือ”
“พี่คราม ลูกแก้วไม่ยอมให้พี่ครามทำแบบนี้อีกแล้วนะคะ” เดือนกันยาทำเสียงแข็ง
“พี่ก็ไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ”
“พี่ครามไม่เป็นสุภาพบุรุษ ทำอย่างนี้ได้ไง”
“จะให้พี่รับผิดชอบก็ได้นี่”
“ไม่เอา ลูกแก้วไม่ได้รักพี่คราม”
เดือนกันยากัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ เช่นเดียวกับสงครามที่กัดกรามกรอดอย่างโมโห เขาบีบต้นแขนเดือนกันยาหนักมือ หญิงสาวนิ่วหน้าเจ็บปวด
“ดี จะได้ไม่มีเยื่อไยบ้าๆ ต่อกัน ระหว่างเรามันคือเซ็กส์เท่านั้น”
ร่างของเดือนกันยาถูกเหวี่ยงไปบนเตียง ยังไม่ทันจะอ้าปาก ปากนุ่มก็ถูกประกบจูบ เต้าทรวงของเดือนกันยาอยู่ใต้ฝ่ามืออุ่น มันแทบแตกสลายด้วยความหนักหน่วง เจ็บปลายถันที่ถูกบีบจนเป็นหยิก แต่เดือนกันยาร้องไม่ออก เสียงของเธออึกอักอยู่ในลำคอหนา มือของเธอทุบร่างใหญ่ซึ่งไม่มีความรู้สึกเพราะสงครามไม่โวยวาย เอาแต่จูบและย่ำยีเธออย่างแผดร้อน
เดือนกันยาเตะหน้าขาสงคราม แทนที่เขาจะเจ็บเธอต้องเจ็บร้าวระบม สงครามใช้หัวเข่ากดลงกลางต้นขา ร่างคุดคู้อยู่เหนือเดือนกันยา มือข้างหนึ่งรวบข้อมือบางตรึงไว้เหนือศีรษะ เขาถอนริมฝีปากออกแล้วห้ามด้วยสายตาแข็งกร้าวไม่ให้เดือนกันยากรีดร้อง
“ถ้าเธอร้อง รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“ปล่อยลูกแก้ว อย่า อย่าทำแบบนี้ พอแล้ว พอ”
เสียงของเธอสั่น แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยด มีแค่สีหน้าที่ทุรนทุรายเจ็บปวด สงครามดึงเนคไทที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมามัดข้อมือเล็ก
“อย่าทำแบบนี้ พอเถอะ ลูกแก้วจะบอกคุณพ่อให้จัดการพี่ครามแน่”
“กลัวที่ไหน คนอย่างสงครามไม่เคยกลัวอะไรอยู่แล้ว”
“ถ้าไม่กลัว ทำไมไม่มาตอนพ่ออยู่ล่ะ”
“ก็ลักกินขโมยกินมันอร่อยกว่านี่นา”
“โจร”
“เปล่า เขาเรียกว่าพรหมลิขิต” สงครามเถียง
“พรหมลิขิตบ้าบออะไรกัน”
“พรหมลิขิตที่เธอต้องเป็นของพี่ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนไงล่ะลูกแก้ว”
เดือนกันยาส่ายหน้า แล้วมองข้อมือตัวเองถูกพันธนาการ บ้าจริง เธอตั้งใจจะเปลี่ยนเตียงใหม่ จะไม่ให้มีอะไรที่ผูกได้แบบนี้ แต่ก็ลืม กี่ครั้งแล้วที่เธอถูกย่ำยีแบบนี้ สงครามไม่ใช่สุภาพบุรุษแล้วยังเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่ชอบพันธนาการเธอเหมือนเป็นเครื่องบูชายันต์
สงครามแสยะยิ้มที่ควรจะน่าเกลียด แต่มันช่างหล่อเหลานัก ใบหน้าของเขาหล่อเหลายิ่งกว่าพระเอกหนัง ทั้งหล่อและร้ายกาจ แต่เดือนกันยาก็ชังน้ำหน้าเขานัก เธอไม่มีวันรักผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
“อย่าแช่งชักหักกระดูกพี่ทางสายตาเลยทูนหัว คนอย่างพี่ตายยาก”
“หึ” เดือนกันยาสะบัดเสียงห้วนสั้น เธอเพียงแค่สาปแช่งเขาทางสายตาจริงๆ ไม่กล้าพูด ไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่ต่อให้สาปแช่งยังไง สงครามก็คงเสนอหน้าหล่อๆ ให้เธอโมโหต่อไป
“ทำเสียงอย่างนั้นทำไม ครางใส่หูพี่ไม่ดีกว่าเหรอ”
สงครามยิ้มกว้าง เดือนกันยาเม้มปากแน่น เขาบีบแก้มบังคับให้เธออ้าปากแล้วขยี้จูบพุ่งปลายลิ้นที่ชวนมึนเข้าไปในอุ้งปากหวาน จะกี่ครั้งๆ สงครามก็ทำให้เดือนกันยาอ่อนเปลี้ย เธอเกลียดตัวเองมากกว่าเกลียดเขา เพราะตัวเองที่ยอมให้เขาทำอะไรแบบนี้ ยอมทั้งที่มีทางออก แค่บอกคุณพ่อ ท่านก็ต้องจัดการ
แต่...ก็ไม่พ้นต้องแต่งงานกับเขา
เดือนกันยาไม่อยากแต่งงาน เธอไม่ได้รักสงคราม ไม่รัก ไม่รัก
จูบของสงครามยังเหมือนเดิม สัมผัสที่คลึงวนไปบนทรวงอก ซิปด้านหลังถูกรูดลง ไม่นานชุดสวยเซ็กซี่ก็หลุดจากร่างขาว สายตาตะกละจับจ้องความขาวผ่องอย่างหิวโหย ดวงตาคมกริบเป็นอีกสัมผัสที่รุมร้อนเคลื่อนไปบนกายผุดผาด
เดือนกันยาหายใจหอบเหนื่อย เพียงแค่สัมผัสของเขาก็ทำให้เธอเหนื่อยและร่านร้อน ลมหายใจอุ่นที่พุ่งสู่อากาศรอบกาย คละเคล้าลมหายใจวูบวาบทั่วเรือนร่าง ชวนให้หัวหมุนตื่นเต้นและรอคอย
สงครามฟอนเฟ้นเต้าเต่งเปลือยเปล่าด้วยใบหน้า สูดความหอมของกลิ่นสาวผสมกลิ่นน้ำหอมเย้ายวน ปากอ้ารวบยอดทรวงกลืนหาย ร่างบางสะท้านเฮือกแอ่นโค้ง ข้อมือกระตุกรั้งเนคไทให้ตึงกระตุกหัวเตียงให้ดังกิ๊ก
“อ๊ะ”
ปากของเขาสร้างตราบาปให้ยอดทรวงอย่างรุนแรง แผดเผาไฟร้อนนาบไปทั่วร่าง เดือนกันยากระตุกยักย้ายส่ายเต้าเต่งให้คลอเคลียใบหน้าสากๆ ยอดถันเจ็บแปลบจากแรงดูดดึง
“อ๊ะ ซี้ดดดด”
เดือนกันยาครางกระเส่าอย่างทุรนทุราย ตกเป็นทาสตัณหาให้ผู้ชายอย่างสงครามเสพสุข เรียวขาอวบแยกอ้า เมื่อสงครามเลื่อนริมฝีปากผ่านเต้าเต่งที่เปียกชื้น เลียผิวเนื้อหวานหอม ใช้มือขยำเต้ากลมๆ อวบอิ่ม บีบคลึงยอดอกที่หดเกร็ง
“ซี้ดดดด อื้อ”
กลางป่าเขาเขียวขจี ระหว่างการหลบหนีไล่ล่า กองเพลิงแห่งไฟสวาท นั้นเร่าร้อนแผดเผา สองร่างดื่มด่ำรสสวาท สองหัวใจผูกพันยึดมั่น เร่าร้อน...รุนแรง… หากแต่แม้นออกจากป่า เปลวไฟสวาทนั้นก็ยังไม่มอดไหม้
เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”
“เจ้านายอย่าคิดว่า ความคิดความรู้สึกของเจ้านายนั้นถูกหมดทุกอย่างนะคะ” สาวน้อยเริ่มไม่พอใจ ที่เขาหาเรื่องรวนเธอ ชวนนท์ยืนขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง ความสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเล็กลงไปอีก “เธออย่าปฏิเสธฉันเลยดลลดา ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอกลัวฉัน” “ดิฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวคุณ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบ “แน่ใจเหรอ” “ค่ะ” แล้วลำแขนเรียวกลมกลึง ก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าหาตัวชายหนุ่ม จนทรวงอกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแข็งแรงของเขา ดลลดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังที่มี แม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาคู่สวยมองสบดวงตาคมกริบด้วยความหวาดกลัว “นั่นไง เธอกลัวฉันจริงๆ” ชวนนท์เห็นความกลัวในดวงตาของหญิงสาว “เจ้านาย ปล่อยค่ะ” เสียงใสๆ นั้นสั่นระรัว
เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ