ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / พายุรักอสูรทมิฬ(พายุรักร้ายในสายลมหนาว)
พายุรักอสูรทมิฬ(พายุรักร้ายในสายลมหนาว)

พายุรักอสูรทมิฬ(พายุรักร้ายในสายลมหนาว)

5.0
63 บท
29K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

บลิซเซิร์ด หนุ่มนัยน์ตาสีอำพันเข้ม เขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แต่เธอกลับทำให้เขาลุกเป็นไฟ กับ เอมฤทัย ผู้หญิงที่น่าปรารถนาทุกครั้งที่เข้าใกล้ แต่ขอบอกว่าเขาเกลียดเธอเข้าไส้ และรังเกียจเธอสุดๆ จนต้องหยุดเตือนใจตนเองทุกนาทีที่ได้ใกล้ชิด ‘ว่าเขารังเกียจเธอ!’ “ฮึ! คิดจะเสนอตัวให้ผมหรือ ถ้ายั่วไม่เก่งจริงก็อย่ามาขายให้ผมเลย ผมไม่ซื้อหรอก” “ไม่เป็นไร คืนนี้ฉันบริการคุณฟรีๆ ก็ได้ ผู้ชายหล่อๆ เถื่อนๆ อย่างคุณหาง่ายเสียที่ไหน” จบคำเธอก็จัดการยั่วเขา จนสุดความสามารถ! ทว่าพอเขาเริ่มทนยั่วยุไม่ไหว แล้วหันกลับมาเป็นฝ่ายรุกบ้าง “คุณบลิซเซิร์ด ปล่อยฉันนะ!” “หึๆ ทีแบบนี้บอกให้ปล่อย เมื่อกี้ยังอวดเก่งอยู่เลย” “ฉันเป็นแค่นางโลมชั้นต่ำ เป็นแค่โสเภณีสกปรก คุณยังคิดจะมาเกลือกกลั้วกับฉันอีกเหรอ” “ก็คุณมายั่วผมจนอยากทำไมล่ะ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะ และตอนนี้ผมก็อยากจะลองของต่ำๆ ดูบ้าง ว่ามันจะให้ความรู้สึกต่างกันอย่างไรกับของสูงๆ ผู้หญิงที่ผ่านมือชายมามากมายอย่างคุณ คงไม่ต้องทะนุถนอมมากมายหรอกมั้ง ถ้าชอบแรงๆ ก็บอกกันได้นะ ผมจะจัดให้” สิ้นประโยคหวาดเสียวจนเสียววาบเข้าไปในช่องท้อง ใบหน้าคมคร้ามก็ก้มต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว ด้วยประกายตาวาววับร้ายกาจ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง หัวใจเต้นรัวแรงยิ่งกว่ากลองศึกด้วยความหวาดหวั่น เมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุดันก้มต่ำลงมา จนริมฝีปากหยักลึกแทบจะชิดเรียวปากสีกุหลาบของเธออยู่รอมร่อ

บทที่ 1 เผชิญหน้าซาตาร้าย 50%

สายตาคมกริบยิ่งกว่าใบมีดโกน มองภาพสองใบสลับกันไปมานานกว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่ออกจากที่พัก ดวงตาสีอำพันเข้มราวกับมีเปลวไฟนรกลุกโชนอยู่ในนั้น คล้ายอยากจะแผดเผาผู้หญิงในรูปคนหนึ่งที่น่าจะอยู่จะในวัยสี่สิบกว่าให้มอดไหม้เป็นจุณหากทำได้ แววตาอาฆาตหมายมาดอย่างรุนแรงว่าจะต้องตามหาหล่อนให้เจอ ส่วนรูปภาพของผู้หญิงอีกคนที่หน้าตาอ่อนวัยกว่า เขาตั้งใจไว้แล้วว่าควรจะทำยังไงกับหล่อนดี ที่แน่ๆ ผู้หญิงสองคนในรูปนี้จะต้องได้รับการลงโทษทัณฑ์อย่างสาสม!

รถเก๋งสีดำมันปลาบแล่นเข้ามาจอดที่หน้าผับเล็กๆ แห่งหนึ่งในแถบชานเมืองของตัวจังหวัด ด้านนอกผับไม่มีอะไรดึงดูดสายตาของบลิซเซิร์ดแม้แต่นิด สถานที่แบบนี้น่ะหรือที่เด็กสาวกะโปโลนั่นมาทำงาน

“ตามแผนที่ เด็กผู้หญิงที่นายตามหาทำงานอยู่ที่นี่ครับนาย” ลูกน้องคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ขับรถหันมาบอกเจ้านายของตนเสียงเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความเคารพนับถือเต็มเปี่ยม

ลูกน้องคนสนิทวิ่งอ้อมมาเปิดประตูรถให้ผู้เป็นนายอย่างรีบด่วนเมื่อรถจอดสนิท ร่างสูงที่สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนแบรนด์ดังสีเข้มที่สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวหนังสัตว์สีดำราคาแพงเดินลงมาจากรถคันหรู แล้วสั่งงานลูกน้องตัวโตพอๆ กับเขาสองสามนาทีก่อนที่จะเดินเข้าไปในผับโกโรโกโสด้านหน้าด้วยท่าทางดุดัน จนนักท่องราตรีหลายคนที่เดินผ่านไปมาไม่กล้าสบตามอง

ร่างสูงสง่าที่ดูดีโดดเด่นตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าที่ก้าวเข้ามา เต็มไปด้วยพลังเสน่หาแห่งบุรุษเพศที่ดึงดูดสายตาสาวๆ ในที่แห่งนั้นให้หันมามองด้วยความหลงใหล ใบหน้าคมสันที่หล่อเข้มเกินพิกัดที่หาใครทัดเทียมได้ยากดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ แต่มันกลับแฝงไปด้วยเสน่ห์อย่างเหลือร้าย จนผู้ชายด้วยกันเองยังอดที่มองเขาด้วยความชื่นชมแกมอิจฉาไม่ได้

มองปราดเดียวก็รู้ว่าแขกผู้มาใหม่คงไม่ใช่ลูกค้าธรรมดาอย่างแน่นอน ไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มที่มีหน้าตาไปทางโซนยุโรปจะร่ำรวยล้นฟ้าขนาดไหน แต่มันก็ทำให้เจ้าของผับคนสวยที่เห็นเขาเดินเข้ามาแต่ไกลถึงกับต้องรีบเดินออกไปต้อนรับบริการด้วยตนเอง และเอื้อนเอ่ยกับลูกค้าหนุ่มด้วยภาษาสากลแสนจะสุภาพ พร้อมทั้งส่งสายตาหวานเยิ้มคล้ายจะทอดสะพานให้

“สวัสดีค่ะมิสเตอร์ เชิญทางนี้ค่ะ” ร่างสูงระหงในชุดเดรสสีแดงสดที่ค่อนข้างเปิดเผยกล่าวสวัสดีพร้อมทั้งผายมือเชื้อเชิญเขาให้ไปนั่งในมุมมืดสลัวพอดีมุมหนึ่ง

“มาคนเดียวเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม ชายหนุ่มเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้น

“จะรับอะไรดีคะ”

“เอา Vodka แล้วกัน” เขาตอบกลับเป็นภาษาไทยเสียงเรียบ สร้างความแปลกใจให้กับเกศรินทร์เจ้าของอินดี้ผับมาก และสำเนียงของเขาก็ชัดเจนเสียด้วยสิ ท่าทางจะเป็นหนุ่มลูกครึ่งแน่นอน ม่ายสาวคิด ก่อนที่จะตอบรับเขาเป็นภาษาไทยที่อ่อนหวานเป็นพิเศษ

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวเกรซจะให้เด็กมาเสิร์ฟให้” ร่างระหงส่งยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้ชายหนุ่มอีกครั้งก่อนเดินไปสั่งงานลูกน้องไม่กี่นาที ก็ไปบริการลูกค้าวีไอพีโต๊ะอื่นต่อ แต่หันมามองหนุ่มลูกครึ่งเป็นระยะๆ

หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป เกศรินทร์ก็ไม่เห็นวี่แววว่าใครจะมานั่งเป็นเพื่อนแขกหนุ่มที่เธอหมายตาเอาไว้ ผู้หญิงที่แพ้ความหล่อของผู้ชายก็เดินเข้ามาหาลูกค้าคนพิเศษของเธออีกครั้งด้วยท่าทางราวกับนางพญาอ่อยเหยื่อ

สายตาปริบๆ ที่เธอมองเขากับรอยยิ้มยั่วยวนเล็กน้อยอย่างมีเสน่ห์ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังให้ท่าเขาขนาดไหน

แต่เพื่อเป้าหมายสูงสุดที่เขาต้องการจะต้องสำเร็จ บลิซเซิร์ดจึงต้องเปิดการเจรจาด้วยท่าทีที่เป็นมิตรพร้อมกับรอยยิ้มแสนเสน่ห์ของเขาที่คลี่ยิ้มออกเพียงเล็กน้อย แค่นี้ม่ายสาวพราวเสน่ห์อย่างเกศรินทร์ก็แทบละลายลงตรงหน้าเขาแล้ว หากว่าชายหนุ่มเอ่ยขอสิ่งใดหล่อนคงจะรีบหามาประเคนให้ทุกอย่างโดยไม่รอช้า

“คุณคงเป็นเจ้าของผับนี้สินะ”

“ใช่ค่ะ เอ่อ...แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันเป็นเจ้าของที่แห่งนี้” หล่อนถามพลางชม้อยสายตาวิบไหวมองตาเขาด้วยนัยน์ตาหยาดเยิ้มหว่านเสน่ห์เต็มที่ ในมือก็คลึงแก้วทรงสูงที่มีของเหลวสีอำพันไปมาราวกับมันเป็นผิวกายของผู้ชายตรงหน้าก็ไม่ปาน ก็หล่อคมบาดตาบาดใจน่าขย้ำมากขนาดนี้จะไม่ให้เธอรู้สึกรู้สาได้อย่างไร

“เพราะบุคลิกของคุณดูมีสง่าราศี ผมจึงเดาเอาน่ะครับ” ขณะที่ถามสายตาคมกล้าวาววับก็มองไปทางด้านบนเวทีตลอดเวลา เพื่อรอดูว่าเมื่อไหร่เหยื่อสาวของเขาจะโผล่มาสักที นี่ก็หลายนาทีแล้ว หรือว่าเอมฤทัยไม่ได้มาทำงานคืนนี้ แต่ถ้าถามผู้หญิงตรงหน้าเขานี้ หล่อนคงจะให้คำตอบที่เขาพอใจได้

เกศรินทร์แสร้งทำเป็นอายม้วนก่อนที่จะคุยกับเขาต่อว่า “คุณนี่ตาแหลมจังเลยนะคะ เดาเก่งจัง” ทั้งสองต่างยิ้มให้กันอย่างมีความหมาย แต่เป็นคนละความหมายกันแน่นอน

“ผมทราบมาว่าที่นี่มีนักร้องเสียงดีมากที่ชื่อว่าเอมฤทัย ไม่ทราบว่าเธอมาทำงานคืนนี้หรือเปล่าครับ”

เกศรินทร์มีแววไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินเขาถามถึงผู้หญิงคนอื่น แต่หล่อนก็ยิ้มกลบเกลื่อนทันควันจนแทบสังเกตไม่ทันเห็น ว่าหล่อนรู้สึกไม่พอใจ เพราะอาชีพบริการจึงทำให้หญิงสาวสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีเป็นพิเศษ และคงไม่ใช่มีเพียงแค่บุรุษตรงหน้านี้เท่านั้นที่ถามถึงนักร้องสาวที่ชื่อเอมฤทัย ผู้ชายแทบจะทุกคนที่เข้ามาที่ผับแห่งนี้เลยก็ว่าได้ที่ต้องการมานั่งฟังและมองสาวน้อยหน้าหวานเสียงใสร้องเพลงอันไพเราะให้ฟัง

“มาสิคะ แต่ของดีมักตามมาทีหลัง คุณต้องรอหน่อยนะคะ อีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเธอออกมาแน่นอนค่ะ”

“งั้นหรือ คุณช่วยลัดคิวให้เธอหน่อยได้ไหม ผมใจร้อน”

เจ้าของผับคนสวยยิ้มร้าย มองหนุ่มลูกครึ่งที่ท่าทางกระเป๋าหนักอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะตอบว่า

“ถ้าเกรซทำตามที่คุณต้องการได้ เกรซจะได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนคะ” เพราะเธอเป็นสาวนักธุรกิจ จะทำอะไรให้ใครก็ต้องได้กำไรและผลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอ

แค่มองตาก็รู้ว่าหล่อนต้องการอะไร บลิซเซิร์ดจึงไม่ต้องคิดนาน ก่อนที่จะล้วงเอาธนบัตรปึกหนึ่งที่มีมูลค่ามากพอ มาวางไว้ตรงหน้าม่ายสาว สายตาคู่สวยที่กรีดอายไลเนอร์จนคมกริบเบิกกว้างออกทันทีที่เห็นในสิ่งที่เขาเสนอให้มา และเธอคงโง่มากหากไม่รีบตะครุบเอาไว้

“แค่นี้พอมั้ย” เขาถามสั้นๆ และรู้คำตอบโดยทันทีที่เห็นสายตาพึงพอใจของหญิงสาวส่งมา

“แหมๆ ทำไมจะไม่พอล่ะคะ เอาเป็นว่าอีกไม่เกินสิบห้านาทีนะคะ เกรซจะไปบอกให้เอมมี่เธอเตรียมตัวร้องเพลง” เกศรินทร์รีบลุกออกไปจากโต๊ะทันทีเพราะกลัวว่ามหาเศรษฐีหนุ่มตาคมจะเปลี่ยนใจ

สิบกว่านาทีที่ผ่านไปช้าราวกับสิบกว่าชั่วโมงที่เขาต้องนั่งแกร่วรอหลังจากนักร้องสาวคนหนึ่งเพิ่งร้องเพลงจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือเกรียวกราว เมื่อเจ้าหล่อนเดินออกไปจากเวที แสงสว่างของไฟหลากสีก็หรี่ลง ปรากฏแสงไฟวงกลมเจิดจ้าสาดส่องไปตรงกลางเวทีที่มีร่างระหงชวนมองของหญิงสาวคนหนึ่งยืนหันหลังให้

สายตาทุกคู่จับจ้องไปบนเวทีเป็นจุดเดียวที่เรือนร่างสมส่วนงดงามในชุดราตรีเกาะอกสีโอลด์โรส ที่ประดับด้วยเกล็ดเพชรเป็นประกายระยิบระยับ ชุดสวยสั้นแค่ปิดช่วงสะโพกงามงอนเท่านั้นเพื่อโชว์เรียวขาสวยขาวผ่อง หนุ่มๆ เกือบทุกคนตะลึงมองเรือนร่างแสนเซ็กซี่ของนักร้องสาวจนต้องลอบกลืนน้ำลายไม่เว้นแม้แต่บลิซเซิร์ดเอง

เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เสียงร้องอันไพเราะของนักร้องสาวก็ตามมา บลิซเซิร์ดยอมรับว่าน้ำเสียงของหล่อนช่างหวานไพเราะจับใจเขาจริงๆ และทันทีที่ร่างระหงที่เต็มไปด้วยส่วนโค้งส่วนเว้าไร้ที่ติค่อยๆ หันกลับมา ผู้ชายทุกคนก็ต้องน้ำลายสอไปตามๆ กัน

บลิซเซิร์ดเองก็ตะลึงมองใบหน้าสวยซึ้งตาไม่กะพริบ ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าเด็กผู้หญิงที่เขาตามหาจะกลายมาเป็นเทพธิดาแสนสวยในค่ำคืนนี้ หล่อนสวยกว่าในรูปหลายเท่านัก แต่ถึงหล่อนจะน่ากินไปหมดทั้งตัว เขาก็คงจะกระเดือกผู้หญิงชั้นต่ำอย่างหล่อนไม่ลงหรอก แต่จะให้ลูกน้องของเขาจัดการแทน!

ไม่กี่นาทีต่อมา เมื่อการแสดงจบลง นักร้องสาวสวยก็เดินลงมาจากเวทีตรงไปหาแขกหนุ่มรูปหล่อที่มาม่าซังบอกว่าเธอต้องไปบริการเขาเป็นพิเศษหน่อย

เอมฤทัยเห็นแล้วล่ะ ว่าหนุ่มลูกครึ่งคนนี้มองดูการแสดงของเธอด้วยความสนใจ เพราะแทบจะทุกครั้งที่เธอหันมาสบตาคมๆ ของเขา หญิงสาวก็พบว่าเขามองมาทางเธออยู่ก่อนแล้วอย่างไม่วางตา แต่ทว่าสายตาของเขามันช่างเย็นชานัก และดูเถื่อนๆ จนน่ากลัว แต่เมื่อเป็นคำสั่งของนายจ้างเธอจะปฏิเสธได้อย่างไร

“สวัสดีค่ะ ฉันเอมมี่ค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อย มองสบตาคนตรงหน้าด้วยอาการสำรวมมากที่สุด แม้ว่าภายในใจเริ่มจะประหม่ากับสายตาคมกล้าที่มองมาคล้ายจะชื่นชมหรือดูหมิ่นเธอก็ยังไม่แน่ใจนัก เพราะแสงไฟสลัวในยามค่ำคืนมันอาจจะหลอกตาเธอก็เป็นได้

“นั่งลงสิ” บลิซเซิร์ดสั่งสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เอมฤทัยนั่งลงตามที่เขาบอก แต่ดวงตาคู่สวยก็มองสบตาชายหนุ่มนิรนามที่เธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนอย่างไม่ไว้ใจนัก ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการแค่นั่งดริ๊งก์ หรือแค่ต้องการให้เธอเป็นเพื่อนคุยกันแน่ เพราะท่าทางชองชายหนุ่มแตกต่างจากแขกผู้ชายคนอื่นๆ ที่ผ่านมา เขาไม่ส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้ ไม่ยิ้ม หรือพูดง่ายๆ เขาแทบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลยมากกว่า

“ท่าทางของคุณคงไม่ได้แค่ต้องการจะให้ฉันมานั่งดื่มด้วยเฉยๆ แน่ ใช่มั้ยคะ”

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY