บ่วงรักหงส์ฟ้า อาญามังกร (ซีรีส์มาเฟียยอดรัก ลำดับที่5) เรื่องราวความรักแสนวุ่นวาย ของหงส์และมังกรคู่แฝดชายหญิง สองทายาทมาเฟียและยากุซ่า มาดูกันว่าสองแฝด จะรักได้ร้ายแค่ไหน! *** “เป็นเด็กดี ว่าง่ายๆ นะหงส์น้อยของฉัน” ชายหนุ่มทอดเสียงนุ่มพลิ้ว ขณะก้มลงกระซิบชิดริมหูนิ่ม ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ ตรงติ่งหูสาวคล้ายต้องการหยอกเย้าให้เธอขนลุกซู่ “ฉัน... ไม่เอานะ...” หญิงสาวพยายามรวบรวมสติของตัวเองสุดฤทธิ์ ให้หลุดพ้นจากวังวนของความวาบหวามที่เขาสร้างขึ้น เบนนีโต้คลี่ยิ้มร้าย มองนางหงส์สาวที่กำลังถูกเขาถอนขนด้วยแววตาวาววาม ร่างนุ่มๆ กายหอมๆ ของเธอกำลังถูกเขากลืนกินทีละน้อย และเขาไม่คิดจะปล่อยให้สาวน้อยใต้ร่างหลุดรอดจากกรงเล็บไปได้
ตอนที่ 1.
ประตูของบ้านตระกูลหลี่เปิดออกกว้างพร้อมๆ กับรถสปอร์ตแบบเปิดประทุนสีแดงสดก็พุ่งทยานเข้าไปด้านในกำแพงซึ่งติดตั้งระบบป้องกันภัยชั้นสูงด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย มีกล้องจับภาพความเคลื่อนไหวทั้งภายนอกและภายในทางเข้า ส่งตรงไปยังห้องของแผนกรักษาความปลอดภัย บนกำแพงสูงสร้างป้อมอยู่ทั้งสองมุมของประตูทางเข้าออก บอดี้การ์ดร่างใหญ่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยจับตามองผู้มาเยือนไม่ให้มีอันตรายใดใดกับผู้เป็นนาย การคุ้มกันหนาแน่นเช่นนี้สมกับเป็นที่พำนักของผู้มีอิทธิพลระดับสูงแห่งเกาะฮ่องกง
รถยังแล่นไปตามทางมุ่งตรงไปยังตึกใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า คนขับเป็นหญิงสาวร่างเพรียวระหงสวมชุดเดรสสั้นสีดำรัดรูปร่างสมส่วนของตัวเอง ผมยาวสลวยสีน้ำตาลดัดเป็นลอนอ่อนๆ ถูกสายลมพัดสยาย ใบหน้ารูปไข่งดงามถูกแว่นกันแดดสีดำปกปิดไว้แต่ไม่ทำให้ความสวยถูกเก็บซ่อน จมูกโด่งเล็กเชิดรั้นของเจ้าตัว ทำหน้าที่รองรับแว่นตาอันใหญ่ ริมฝีปากบางแต้มลิปสติกสีแดงเลือดนกขยับแย้มกว้างมองเห็นไรฟันสีขาวราวกับมุกเม็ดงามเรียงเป็นระเบียบ เมื่อเจ้าตัวเห็นตัวอาคารหลังใหญ่ของคฤหาสน์หรู ความเร็วของรถชะลอลงและหยุดนิ่งเมื่อมาถึงตรงลานด้านหน้าประตูคฤหาสน์ เหล่าคนรับใช้พากันมายืนรอรับตั้งแต่ได้รับรายงานจากยามหน้าประตู
ร่างเพรียวบางก้าวลงจากรถคันหรู มือสวยจับแว่นตาคาดไว้บนศีรษะ เผยให้เห็นดวงตายาวเรียวแต่งแต้มด้วยอายไลน์เนอร์สีดำสวยเฉี่ยว ประกอบกับอาภรณ์บนร่างงามที่ช่วยเสริมบุคลิกให้กลายเป็นสาวมาดมั่นจนเหล่าบรรดาสาวรับใช้พากันมองด้วยแววตาชื่นชม เธอคือ เหม่ยเฟิ่งหรือคุณหนูเจสสิก้า หลานสาวคนสวยของหลี่ไท่หยางเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ เป็นหลานสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวของตระกูลที่มีทายาทเป็นผู้ชายทั้งหมด มารดาของหญิงสาวเป็นน้องสาวต่างมารดาของหลี่ไท่หยางนามว่า หลี่อี้เจินหรือเจนนี่ ซึ่งเกิดจากภรรยาคนที่สองของอดีตประมุขตระกูลหลี่นามหลี่เจิ้ง ผู้ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลของฮ่องกงมีธุรกิจท่าเรือขนส่งขนาดใหญ่ และยังเป็นหัวหน้าแก๊งหงส์ไฟ หนึ่งในแก๊งใหญ่ของฮ่องกง
“คุณหนูเหม่ยเฟิ่ง ทำไมขับรถมาเองคะ ไม่รอให้คุณเทียนไปรับที่สนามบินล่ะคะ” นางอาหนิวแม่บ้านใหญ่ของตระกูลหลี่ รีบเข้ามาจับแขนคุณหนูตัวน้อยของนางอย่างรักใคร่
นางมีโอกาสได้ดูแลเจนนี่มารดาของเหม่ยเฟิ่งเมื่อครั้งเยาว์วัย และได้ดูแลคุณหนูเหม่ยเฟิ่งในฐานะพี่เลี้ยงอีกด้วย จึงทั้งรักทั้งผูกพันกับคุณหนูของตนอย่างยิ่ง
“ป้าหนิว สนามบินกับบ้านหลี่ใกล้แค่นี้เอง เจสขับรถมาได้ไม่เห็นเป็นไรเลย”
เหม่ยเฟิ่งยิ้มกว้าง ขณะกดจมูกหอมแก้มเหี่ยวของอดีตพี่เลี้ยงอย่างออดอ้อน พลางโอบไหล่ของหญิงชราพาเดินเข้าไปในบ้าน ปล่อยหน้าที่ขนสัมภาระให้เป็นของคนรับใช้สาวๆ
คฤหาสน์ตระกูลหลี่ใหญ่โตหรูหรากว่าเดิมมาก เมื่อหลี่เทียนทายาทคนเดียวของหลี่ไท่หยางผู้เป็นลุง สั่งให้คนตกแต่งเสียใหม่ให้ทันสมัย เฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ถูกรื้อออกและนำเฟอร์นิเจอร์ที่ดูหรูกว่าราคาแพงกว่ามาตกแต่งทดแทน แต่ยังคงความงดงามของคฤหาสน์ไม่ให้สูญเสียอัตลักษณ์ของตนไป
“คุณยายอยู่หรือเปล่าจ้ะ เจสไม่ได้โทรมาก่อน กะจะเซอร์ไพรซ์คุณยายเสียหน่อย” เหม่ยเฟิ่งเอ่ยถามพี่เลี้ยง เมื่อเข้ามานั่งในห้องนั่งเล่นแล้ว
นางอาหนิวโบกมือให้สาวใช้อีกคน นำน้ำมะเขือเทศสดของโปรดมาเสิร์ฟคุณหนูของตน ก่อนจะเอ่ยว่า
“คุณหลินหลินอยู่ในสวนค่ะ กำลัง...” หญิงชราพูดไม่ทันจบประโยชน์ร่างเล็กปราดเปรียว ก็ลุกขึ้นเดินออกไปยังทางเข้าสวนหลังบ้านทันที
“เห้อ... คุณหนูไม่ฟังป้าหนิวพูดให้จบก่อน”
หญิงชราส่ายหน้าไปมา หมดปัญญาจะวิ่งตามด้วยสังขารที่เสื่อมโทรมไปตามวัย ได้แต่ปล่อยให้คุณหนูของตนไปตามหาคุณยายสุดที่รักตามใจปรารถนาของเจ้าตัว
สวนหลังบ้านตระกูลหลี่ร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานา อีกทั้งต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่อายุหลายสิบปีถูกปลูกเรียงรายปกคลุมพื้นที่โดยรอบ ทำให้บรรยากาศในช่วงบ่ายไม่ร้อนจัดจนเกินไป สายลมพัดเอื่อยมานำพากลิ่นหอมจรุงของดอกไม้ที่ปลูกไว้กรุ่นกำจายตามสายลม ศาลาไม้สีขาวกลางสวนสร้างไว้สำหรับนั่งเอนกายพักผ่อน และเป็นที่จิบน้ำชายามบ่ายของคนอาศัย ร่างเล็กๆ ของหญิงสูงวัยกำลังนั่งพูดคุยกับชายร่างใหญ่วัยเดียวกันอย่างออกรส ทำให้ร่างเล็กๆ ที่วิ่งมา ต้องชะลอฝีเท้าเปลี่ยนมาเดินให้เรียบร้อยขึ้น เกรงจะถูกผู้เป็นยายตำหนิกิริยาไม่เรียบร้อยสมเป็นกุลสตรีของตน เหม่ยเฟิ่งค่อยๆ เดินเข้ามาหาผู้เป็นยายช้าๆ พอมาถึงระยะที่ได้ยินเสียงสนทนาก็หยุดนิ่งฟังอย่างสนใจ เมื่อได้ยินภาษาอิตาเลี่ยนจากคู่สนทนาของคุณยาย หญิงสาวเปลี่ยนใจเดินเลี่ยงไปยังพุ่มไม้บังตาที่อยู่ไม่ไกล
“ลิลลี่ คุณคิดว่ายังไง ถ้าผมจะขอทาบทามหลานสาวของคุณให้ลูกชายของผม”
ริคคาโด้ มาร์คเคซิโอ้ ชายชราวัยเจ็ดสิบห้า เอ่ยถามอดีตหญิงสาวที่ตัวเองเคยหลงรักด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มหู ดวงตาสีมรกตจ้องมองใบหน้างดงามตามวัยของเธอด้วยแววตาอ่อนโยน ไม่ต่างจากเมื่อหลายสิบปีก่อน
หลินหลินซึ่งบัดนี้อายุล่วงเลยวัยสาวมาหลายสิบปี แต่ยังคงรักษาความงามตามวัยของตนไว้ในสายตาของคนมอง เธอสบตาของอดีตเพื่อนชายพร้อมระบายยิ้มบางๆ เมื่อยี่สิบห้าปีก่อน ริคคาโด้เคยเอ่ยถามแบบนี้ตอนที่เห็นหลานสาวของเธอขณะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล เธอไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก ด้วยรู้ว่าริคคาโด้ยังคงหวังจะให้เลือดเนื้อเชื้อไขของเขากับเธอได้ผูกพันกัน ชดเชยความผิดหวังในอดีตของตน แต่เธอไม่ได้เป็นพวกหัวโบราณที่จะจับหลานสาวกับลูกชายของอีกฝ่ายคลุมถุงชนกัน
“ปล่อยให้พรหมลิขิตทำหน้าที่นี้ ไม่ดีกว่าหรือคะริคกี้” เธอแตะหลังมือหนาของอีกฝ่าย ยิ้มให้กำลังใจ
แววตาสีมรกตหม่นแสงลงเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ลิลลี่ผมคงรอไม่ไหว ผมกำลังจะตาย...” เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า
เขาขยับมือกุมมือนุ่มของเธอไว้มั่น ทอดสายตาอ้อนวอนอดีตหญิงผู้กำหัวใจของตนอย่างขอความเห็นใจ ก่อนจะจะรู้ตัวว่าเผลอตัวกุมมือเธอนานเกินไป ริคคาโด้ถอนหายใจแรง ก่อนจะปล่อยมือเธอออกอย่างสุภาพ แม้หลินหลินกับเขาจะย่างเข้าวัยชรา แต่เขากับเธอไม่ได้เป็นคนในครอบครัวการจับมือถือแขนจึงไม่สมควร เขามองหญิงชราตรงหน้าอย่างอาทร แม้วัยจะร่วงโรยไปตามกาลเวลา เธอคือหญิงเดียวที่ครอบครองหัวใจของเขาเสมอมา เมื่อสี่สิบปีก่อนตอนได้รู้ว่าสามีของเธอเสียชีวิตไป เขามีความหวังว่าเธอจะหันมามองเขาเปิดโอกาสให้เขาได้ดูแลเธอ แต่หลินหลินก็ไม่เคยก้าวข้ามความเป็นเพื่อนมาคิดอะไรกับเขาได้มากกว่านั้น เธอรักสามีของเธอและยินดีครองตัวเป็นโสดดูแลลูกสาวตัวน้อย ภายใต้ร่มเงาของลูกเลี้ยงในบ้านตระกูลหลี่แห่งนี้
ในขณะที่อีกห้าปีต่อมา เขาถูกบิดาบังคับให้แต่งงานกับลูกสาวของนักธุรกิจคนหนึ่ง เพื่อมีทายาทสืบทอดตระกูล มาร์คเคซิโอ้ของตน ไม่ให้กุดด้วนลงไปในรุ่นของเขา ริคคาโด้ในวัยสี่สิบจำใจต้องแต่งงานและสร้างทายาทเป็นลูกชายคนหนึ่งสมใจผู้เป็นพ่อ ชีวิตแต่งงานของเขาสิ้นสุดลงในไม่ถึงห้าปี เมื่อภรรยาถูกมาเฟียแก๊งตรงข้ามลอบทำร้ายจนเสียชีวิต ทิ้งลูกน้อยให้เขาดูแล ผ่านมาสามสิบห้าปี เบนนีโต้ มาร์คเคซิโอ้ โตเป็นหนุ่มรับช่วงธุรกิจและเป็นทายาทสืบทอดอำนาจของแก๊งมาเฟียต่อจากเขา เบนนีโต้ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจหญิงสาวคนไหน เหมือนกำลังรอให้หญิงสาวที่ผู้เป็นพ่อหมายตาเติบโตมาเป็นเจ้าสาว ริคคาโด้คงจะปล่อยให้พรหมลิขิตทำหน้าที่ของมัน หากร่างกายของเขากลับไม่อาจรอไหว เมื่อหมอตรวจพบว่าเขาเป็นโรคหัวใจ และอาจมีสิทธิ์หัวใจวายตายได้ทุกเมื่อ อายุของเขามากเกินกว่าจะเสี่ยงรับการผ่าตัดซึ่งไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัยพอหรือเปล่า ริคคาโด้จึงดั้นด้นมาหาหลินหลินถึงฮ่องกง เพื่อทำตามความปรารถนาของตนเป็นครั้งสุดท้าย
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
หลิวซืออินถูกฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว ความแค้นของเขาทำลายนางยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นสองชีวิตน้อยๆ ในท้องนาง เมื่อพบกันอีกครั้ง คนชั่วคนนั้นกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ เป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ต่อให้ท่านเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่ให้อภัย! แนะนำตัวละคร หลิวซืออิน สตรีผู้เกิดมาอาภัพดั่งถูกสวรรค์แกล้ง ห้าขวบก็กำพร้าไร้บิดามารดา อาศัยอยู่ในบ้านตระกูลหลิว ไม่ต่างจากบ่าวไพร่คนหนึ่ง ท่านอาแท้ๆ ไม่ใส่ใจ อาสะใภ้ทุบตีรังแก อีกทั้งยังส่งนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว เพื่อแต่งงานกับเจ้าหนี้แทนบุตรีตัวเอง ชะตาลิขิตให้ถูกคนชั่วฉุดจากเกี้ยวเจ้าสาว ความแค้นของเขาทำลายนางยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นสองชีวิตน้อยๆ ในท้องนาง เมื่อพบกันอีกครั้ง คนชั่วคนนั้นกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ นางจะไม่ยอมให้เขาพราก เจ้าก้อนแป้งฝาแฝดของนางไป ท่านเป็นแม่ทัพแล้วอย่างไร ต่อให้ท่านเป็นฮ่องเต้ข้าก็ไม่ให้อภัย! *** เยี่ยเหวินจ้าว แม่ทัพใหญ่แห่งเป่ยถัง เขาฟื้นขึ้นมามีชีวิตใหม่หลังจากถูกเล่ห์ลวงจากหญิงชั่วผู้เป็นป้าสะใภ้หลอกให้เขากลายเป็นคนร้าย ทำลายชีวิตสตรีผู้น่าสงสาร ชะตาลิขิตให้พบเจอบิดาแท้ๆ ทำความดีความชอบในสงคราม จนได้เป็นแม่ทัพใหญ่ของแคว้น สิ่งเดียวที่ยังติดค้างในใจ นั่นคือ การตามหาสตรีนางนั้น ! ///
สาวสวยเปรียบดังลูกกวางน้อยหรือจะรอดพ้นสายตาเสือร้ายไปได้ เมื่อเขาต้องการเอนริโก้หรือจะยอมปล่อยให้หลุดมือ! เป็นเรื่องเอนริโก้ นักธุรกิจหนุ่มรูปงาม เจ้าของบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ เขาหล่อรวย และเร่าร้อน จนสาวๆ ต่างพากันหลงใหล แต่ สาวน้อยลูกครึ่งไทยอังกฤษอย่าง ไปรญา กลับไม่ยอมเป็นทาสเงินตราและเสน่หาจากเขา เธอสวยหุ่นดี กว่าสาวโคโยตี้ในบาร์นั้น แต่เลือกเป็นแค่พนักงานทำความสะอาดอยู่หลังร้าน สาวสวยเปรียบดังลูกกวางน้อยหรือจะรอดพ้นสายตาเสือร้ายไปได้ เมื่อเขาต้องการเอนริโก้หรือจะยอมปล่อยให้หลุดมือ ปฏิบัติการ ล่ารักจึงบังเกิดขึ้น น้องปลายจะรอดเงื้อมมือเสือร้ายหิวสวาทอย่างเอนริโก้ได้หรือไม่ คำเตื่อน * เรื่องนี้แนวอิโรติก มีบางฉากบางตอนเลิฟซีนร้อนแรงจนเลือดพุ่ง หากไม่ใช่สายหื่นอาจจะน็อกกลางอากาศได้ ใครสายหื่นเชิญอ่านเลยจ้า อิอิ
เพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อ ทำให้ ไลลา ต้องมาชดใช้กรรมแทนพ่อและพี่ชาย ด้วยการถูกบังคับให้กลายมาเป็น ‘เมียเชลย’ ของมาเฟียหนุ่ม ผู้มีรูปลักษณ์แสนดิบเถื่อน ไร้หัวใจ อย่าง ราฟาเอล มาร์เซียอาโน่ รองหัวหน้าแก๊งเลโอปาสคาล แห่งคารัสซีเลีย ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า หากเธออยากเป็นอิสระ ก็ต้องมีลูกให้เขา แล้วจากนั้นเธอจะไปไหนก็ไป ไลลากัดฟันทน ทำตามหน้าที่อย่างไม่มีทางเลือก เธอได้แต่สัญญากับตัวเองว่า จะไม่ยอมให้หัวใจตัวเอง พ่ายแพ้ให้กับเขาเด็ดขาด เธอต้องไม่รักเขา เหมือนที่เขาเคยประกาศไว้ว่า อย่าคิดหวังเป็นเมียเขา เพราะเธอเป็นได้แค่ เมียเชลย ที่เขาไม่มีวันรัก ! /// “คุณเอาตัวฉันมาทำไม” ไลลาถามเสียงแผ่ว เรื่องที่ได้ยินทำให้เธอไม่อยากเชื่อ แต่ท่าทางของคนพูดทำให้เธอจำต้องเชื่อเขา “เธอต้องอยู่เป็นเชลย จนกว่านายอังตวนจะหาทางชดใช้ความเสียหายได้ทั้งหมด หรืออังเดรยอมกลับมารับโทษ ให้พูดตรงๆ คือมาอยู่ขัดดอกยังไงล่ะ” สิ่งที่ได้ยินทำเอาไลลาหัวใจหล่นไปกองกับพื้น ไม่คิดว่าพี่ชายจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ จนทำให้พ่อและเธอต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย “แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง” หญิงสาวกลั้นใจถามออกไป “คุณปู่ของฉัน ท่านต้องการให้ฉันมีทายาท ท่านยื่นข้อเสนอให้พ่อของเธอว่า ภายในหนึ่งปีนี้หากเธอมีลูกให้ฉันได้ ก็จะยกหนี้ทั้งหมดให้” ราฟาเอลบอกข้อเสนอของคนเป็นปู่ให้เธอรับรู้ “ถ้า... ถ้าฉันยอมรับข้อเสนอ หนี้ของพ่อฉันจะได้รับการชดใช้ใช่ไหมคะ” เธอถามเขาเสียงเจือสะอื้น อีกฝ่ายพยักหน้ารับ “ใช่ ขอแค่เธอยอมทำตามเงื่อนไข เธอจะชดใช้หนี้แทนพ่อเธอได้” “แล้วความผิดของพี่อังเดรล่ะค่ะ ฉันจะชดใช้ให้แทนได้ไหม” ไลลาถามอย่างมีความหวัง “เธอนี่ได้คืบจะเอาศอก ถ้าเธอมีลูกให้ฉัน ค่อยมาพูดเรื่องนี้กัน” ราฟาเอลบอกเสียงเข้ม เขากระตุกยิ้มหยัน เมื่อเห็นสายตาผิดหวังของหญิงสาว “ฉัน... ฉันยอมรับข้อเสนอค่ะ” ไลลากลั้นใจพูดออกไป ก้มหน้าหลบสายตาของเขา มือน้อยกำแน่นข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เธอไม่มีทางเลือกอื่น อนาคตความฝันพังพินาศลงไปแล้ว เมื่อต้องเอาร่างกายของตัวเองชดใช้ความผิดแทนพี่ชาย “เข้าใจอะไรง่ายๆ ก็ดีแล้ว” ราฟาเอลเชยคางหญิงสาวขึ้นมา ก่อนจะก้มลงไปแตะริมฝีปากจุมพิตเรียวปากอิ่มอย่างดุดัน ไลลาตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วเบือนหน้าหนีเขา มือยกผลักแผงอกหนาให้ออกห่าง “นี่คุณทำอะไร” “หึ ก็ทดสอบคุณภาพยังไงล่ะ ซื้อผ้ายังต้องดูเนื้อ นี่เลือกแม่พันธุ์ทำลูก มันต้องทดสอบคุณภาพสักหน่อยสิ” ถ้อยคำหยาบหยามนั้น ทำเอาคนฟังน้ำตาคลอ ศักดิ์ศรีถูกเขาเหยียบย่ำลงไปอย่างไร้ทางสู้ หญิงสาวได้แต่ฝืนข่มกลั้นความอดสูนั้นไว้ หนึ่งปีเท่านั้นเธอต้องอดทน เธอต้องทำเพื่อพ่อและพี่ชาย “จำเอาไว้ว่า อย่าคิดหวังจะเป็นเมียฉัน เพราะเธอเป็นได้แค่ เมียเชลย !”
ทัณฑ์ร้ายจากเขาสร้างราคีให้กับเธอยังไม่พอ ยังก่อสายใยเป็นหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่เธอมิอาจทำลายได้ "ฉันทำผิดอะไร นายถึงได้ทำกับฉันแบบนี้" มัสลินเอ่ยถามผู้ชายที่ทำลายความสาว สร้างราคีคาวให้เธอ ด้วยน้ำเสียงขมขื่น เธอไม่เคยรู้จักเขา ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า แต่ทำไมเขาถึงทำร้ายเธออย่างไร้ความปรานี "ผิดสิ ผิดที่เธอเป็นเจ้าสาวของไอ้ภานุยังไงล่ะ ถ้าเธอไม่แต่งงานกับมัน ฉันคงไม่เอาตัวเธอมา" หากเธอไม่ใช่เจ้าสาวของคนที่เขาเกลียดชัง หากเธอไม่แต่งงานกับคนที่ทำให้พี่ชายเขา ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เขาคงไม่ลากตัวเธอมาเป็นเครื่องมือในการล้างแค้นในครั้งนี้!
เขาต้องการมีลูก แต่ไม่ต้องการมีเมีย ทางเลือกที่ดีคือการจ้างผู้หญิงสักคนมาอุ้มบุญ ทว่า... เธอกลับขโมยลูกของเขาไปนี่สิ โทษของเธอคือ ต้องมาเป็นเมียจริงๆ ของเขา /// ริคคาโด้ มาร์เซียอาโน่ ทายาทคนโตของตระกูลมาร์เซียอาโน่ ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของประเทศคารัสซีเลีย เบื้องหลังเขาคือหัวหน้าแก๊งเลโอปาสคาล แก๊งมาเฟียหนึ่งในสี่แก๊งใหญ่ของคารัสซีเลีย ชีวิตท่ามกลางคมกระสุนและควันปืน ทำให้เขาไม่ปรารถนาจะมีคู่ครองให้เป็นจุดอ่อน ทว่า... นายฟรองซัว มาร์เซียอาโน่ ปู่ของเขากลับเคี่ยวเข็ญให้หลานชายมีทายาท ริคคาโด้จึงเลือกจ้างผู้หญิงคนหนึ่งมาอุ้มบุญให้เขา โดยมีเงื่อนไขคือ 1. เขาต้องการลูกชายเท่านั้น 2. ไม่จำเป็นต้องพบหน้ากัน จ่ายเงินเมื่อเด็กคลอดคือจบสัญญา 3. ห้ามให้ใครรู้ว่าเป็นแม่ของลูกเขา เขาได้ลูกชายตัวน้อยสมใจ โดยไม่เคยสนใจว่าแม่ของเด็กคือใคร! อลิชา กิตติรำไพ หญิงสาวลูกครึ่งไทย-คารัสซีเลีย เธอเป็นเจ้าของโฮมสเตย์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ทางตอนใต้ของคารัสซีเลีย อลิชาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับน้องโรซีลูกสาวตัวน้อยวัยห้าขวบ และนายพัชรบิดาของเธอ วันหนึ่งอลิชาได้ช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งไว้ นั่นทำให้ชีวิตแสนสงบ ต้องพบกับความวุ่นวาย เมื่อเขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เขาคือ หัวหน้าแก๊งมาเฟีย เธอจะทำเช่นไร กับมาเฟียหนุ่มแสนร้ายกาจคนนี้ คนที่ครั้งหนึ่งเคยว่าจ้างให้เธอ เป็นแม่อุ้มบุญลูกชายของเขา! * เพิ่มตอนพิเศษ โรซี่น้อยตอนโต ** ฝากโรซี่น้อยไว้ในอ้อมใจของนักอ่านด้วยนะคะ
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"