ถ้าดื้ออาจะดุ!!!
ถ้าดื้ออาจะดุ!!!
สายลมที่พัดผ่าน มาปะทะเส้นผมเงาสวยที่ประพรมใบหน้าของหญิงสาว ที่นั่งรถประจำทางจากมหาวิทลัยที่พึ่งเปิดภาคเรียนได้1สัปดาห์...เอาจริงๆ เเล้วหญิงสาวเองมีรถเป็นของตัวเองเพราะผู้เป็นพ่อนั้นซื้อไว้ให้ ขับไปไหนมาไหนได้สะดวก เเต่เธอไม่ค่อยชอบ เพราะเธอชอบนั่งรถประจำทางเเบบนี้ ผู้คนมามายที่เดินซื้อของกินตามทาง เธอจะเห็นทุกคนชัดๆ ยามรถจอดนิ่ง บ้างคนก็ยิ้มหัวเราะ เกาะกลุ่มกันคุย บางคนก็นั่งนิ่งมองเหมอ อย่างกับเบื่อชีวิตการทำงานอย่างงั้น...หญิงสาวเองก็ไม่อาจจิตนาการได้...
เพราะตั้งเเต่โตมาชีวิตเธอนั้นมีเเต่ความสุขไม่ได้มีเรื่องร้อนใจให้คิดมาก ถึงของครอบครัวจะพูดได้ว่ามีฐานนะ เเต่เธอก็ชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายเเบบนี้...เเละไม่ได้เเค่เป็นเธอคนเดียว ทั้งครอบครัวก็เป็นแบบนี้อีกด้วย..... "เรียบง่ายเเต่มีความสุข เพียงเท่านี้ก็พอเเล้ว"
ไม่นานนักรถประจำที่นั่งประมาน10นาทีเห็นจะได้ ก็ จอดหยุดที่ ซอยปากทางเข้าบ้านของหญิงสาว...ร่างเล็กเดินลงจากรถเเล้วมองซ้ายขวา เวลานี้เป็นเวลา15:30เเล้ว คนในซอยนั้นยังดูไม่ค่อย ละลานตา เพราะนี่ยังไม่ใช่เวลาเลิกงาน... ร่างเล็กที่เดินเข้าซอยเเบบนี้เป็นกิจวัฒน์ประจำวันไปเเล้ว ไม่ใช่ว่า จะเดินดิ่งตรงเข้าบ้านไปพักเลยนะ...เเต่เธอจะเเวะเข้าร้านกาเเฟ หน้าหมู่บ้าน ที่เป็นของพ่อเธอก่อน... พูดได้ว่านี่คือร้านบุกเบิกเลยก็ว่าได้ ใช้เวลาเดินไม่ถึง5นาทีก็ถึง
กริ๊งง~
เสียงกริ๊งภายในร้านดังยามเปิดเข้าไป..ผู้คนในร้านยังมีประปลาย พนักงานในร้าน ที่เห็นว่าลูกของเจ้าของร้านมาจากที่นั่งคุยอยู่ก็ลุกลี้ลุกลน ลุกขึ้นมาสวัสดีทันที
"สวัสดีค่ะ...
"นั่งเล่นกันเถอะค่ะไม่เป็นไรไม่ค่อยมีลูกค้าด้วย..ตามสบายเถอะค่ะหึ...
หญิงสาวร่างเล็กตอบด้วยใบหน้าที่ยิ้ม อิ่มใจไป ทำให้พนักงานนั้นโล่งอก พนักงานทุกคนในร้านต่างรู้ใจ ของขวัญเป็นอย่างดี เพราะเเต่ละคนนั้นก็อยู่มานานพอควร ก็จะมีเเต่น้องใหม่ ชื่อ "แก้ม" ที่พึ่งเข้ามา ทำงานเต็ม1เดือน ก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรมาก เเต่ก็พอถูๆ ไถๆ ไปบ้าง
"เอ่ออ..พะ..พี่ขวัญคะ? โปรโมชั่นนี้ ที่ลดราคาครัวซองเราจะเอาลงวันไหนคะ
เด็กใหม่ที่กล่าวถึงเมื่อคู่พูดถามขึ้นอย่างเกรงใจ จนร่างเล็กที่นั่งฟังนั้น หัวเราะในลำคอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู... เธอนั้นก็ไม่ได้ดุอะไร ทำไมต้องทำท่าทางเกร็งๆ ด้วย เธอเองก็ไม่เข้าใจ
"ยังไม่ต้องเอาลงก็ได้ ...เเต่ลดให้อีกสัก...2-3วันค่อยเอาโปรลงเเล้วกันดูๆ เอานะ
หญิงสาวที่นั่งเปิดนั่งสือไปมาบอกกับน้องใหม่ให้เป็นกิจจะลักษณะ ก่อนที่ เเก้มนั้น จะพยักหน้าเป็นคำตอบว่ารู้เรื่อง
"ค่ะ..พี่
"หึ...ทำมาตั้งเดือนกว่า ทำไมยังเกร็งอยู่ล่ะ..พี่ว่า พี่ก็ยังไม่ทันได้ดุอะไรนะ ฮ่าๆ
ของขวัญอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เพราะเขาเอ็นดูน้องใหม่ ที่ก้มหน้าก้มตายิ้ม ก่อนที่จะมีพนักงานอีกคน เดินมาโอบไหล่น้องใหม่ เชิงเล่น
"ไม่ต้องกลัว น้องขวัญหรอก..เนี้ยที่เค้าบอกน่ะถือว่าเบานะ...รุ่นคุณเจมาตรวจสิหนักกว่านี้
"อะ..อ๋อ..ค่ะ เอ่ออหึ...ๆ
ถึงจะบอกไปแบบนั้น เด็กที่มีมารยาทอ่อนน้อม ก็ยังก้มหัวรับฟังอยู่ดี ก่อนที่ของขวัญนั้นจะพูดต่อ
" พี่เเค่อยากเราจริงจังกับงานมากๆ ทุกคนนั่นเเหละ เล่นก็คือเล่น ทำก็คือทำให้สุดหน่อย ทำเหมือนกับว่าร้านนี้เป็นของตัวเองเลยได้ยิ่งดี พวกเราจะได้ใส่ใจให้พี่มากๆ พี่ขอเเค่นี้เเหละ ร้านนี้อยู่ได้ พวกเราทั้งหมดก็อยู่ได้ จริงมั้ย?
"จะ..จริงค่ะ...จะจำเเล้วนำไปปรับใช้นะคะ
"ดีมากก~
น้องใหม่พยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินกลับไปที่เค้าท์เตอร์ดังเดิม.....ช่วงบ่ายๆ จะมีคนปะปลายเล็กน้อยเเต่ช่วงเย็นลูกค้าจะเยอะ เป็นเพราะว่า คนเลิกงานกันมา บวกกับร้านเปิดเเถวหมู่บ้าน..เเละร้านไม่ได้มีเเค่กาเเฟอย่างเดี๋ยว มีขนมมากๆ หลากหลาย ที่ทุกเพศทุกวัยสามารถทานได้ เรียกได้ว่า เป็นจุดเด่นทั้งนั้นพอเลิกจะเย็นพนักนักงานก็เริ่มประจำตำเเหน่งของตัวเอง ของขวัญ ที่นั่งอ่านหนังสือไปมา ก็ปิดหนังสือลง เเล้วลุกเดินมายังเข้าเตอร์ ก่อนจะหันหลังเป็นเกะเอาผ้ากันเปื้อนออกมาสวมใส่
"อู้ย~ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณขวัญกลับไปเถอะค่ะ
พนักงานวัยกลางคนพูดบอก ก่อนจะก้มลง ไปหยิบเเก้วขึ้นมาวางเรียงเตรียมความพร้อม
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...เดี๋ยวขวัญอยู่ช่วยสักเเปปก็จะไปแล้ว...เดี๋ยวคนมาเยอะอยากช่วยอีกเเรงค่ะ
"หื้มม...คุณของขวัญนี่ดีจังเลยนะคะ เจ้านายเเบบนี้หาได้ที่ไหน
"หึ...เจ้านายอะไรกันคะ? ป๊านู้นเป็นคนจ่ายเงินเดือน
"ก็เหมือนกันนั่นเเหละค่ะคุณขวัญ..ฮ่าๆ .
เรียกเสียงหัวเราะกันไปกรุบๆ ก่อนจะเริ่มงาน... สิ้นเสียงพูด ลูกค้า คนที่1 ที่2เเละ3 ก็ถยอยพากันเดินเข้ามาเพราะนี้ก็เป็นเวลา5โมงเเล้วด้วย
กริ๊งงง~~~
"รับอะไรดีคะ
("งั้นเอาเป็นอเมริกาโน่ หวานน้อย1เเก้วค่ะ เเล้วก็ขอเป็นเค้กหน้านิ่มที่นึงนะคะ)
"ได้ค่ะรอสักครู่นะคะคุณลูกค้า
ร่างเล็กตอบลูกค้าไป ส่วนมือก็ทำหน้า ที่ตักเม็ดกาเเฟใส่เครื่องทำการบด จากนั้นก็ตักเวลา ให้อุณภมิมันร้าน รอไปสักครู่จะได้ น้ำกาเเฟหอมกรุ่นไหลออกมาจากเครื่องทำกาเเฟ ประมาน50ออนซ์..ก่อนที่ร่างเล็กจะบรรจงชงอย่างตั้งใจ ...
"แก้มเอาไปเสริฟ์ โต๊ะมุมเลยนะท้ายสุด
"ค่ะพี่
น้องใหม่ยกถาดพร้อมกับจานขนม...ลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ สั่งกาเเฟมั่ง จำพวกเครื่องดื่มชามั้ง ส่วนโซนฝั่งขนมนั้นก็ขายไม่หยุดเลย
"หึ...วันนี้ขายดีจังเลยเนอะพี่
พนักงานวัยกลางคนหันไปคุยกันทุกคำพูดร่างเล็กก็ได้ยินเพียงเเต่ไม่พูดอะไรตอบ เพียงเเต่ส่งรอยยิ้มเล็กๆ ออกมา
"ก็ขายดีทุกวันนั่นเเหละ...เเล้วยิ่งขนมฝีมือคุณนิทานนะ ยกนิ้วเลยล่ะ
"จริงพี่ฉันยังติดใจไม่หายเลยนะ เค้กชาเขียวมะพร้าวอ่อน แม่คุณขวัญอร่อยมาก
"หึ...ขอบคุณเเทนมี๊ด้วยนะคะ เดี๋ยววันไหนมี๊ว่างจะบอกให้เขาทำมาเเจกอีกนะคะ
"โอ็ยตายๆๆ เเล้วขอบคุณนะคะ
พนักงานสาววัยกลางคนยิ้มร่าก่อนจะเขยิบมาเกาะเเขนของ ร่างเล็กไว้ด้วยความดีใจ ของขวัญ หรือทุกคนภายในครอบครัว คือไม่ถือตัวหรือเเบ่งชั้นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะแบบนี้มันก็มีความสุขดี...จนเวลาล่วงเลยมานานพอสมควรทของขวัญเลยหันไปมองนาฬิกาที่ติดอยู่หลังร้านก็นี่ก็ได้เวลากลับบ้านเเล้ว เธอจึงค่อยๆ ใช้มือปลดเชือกผ้ากันเปื้อนออกก่อนจะบอกพนักงานที่ยืนอยู่
"คนเบาเเล้วขวัญกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้อาจจะไม่ได้เข้ามา ขวัญต้องวาดรูปส่งอาจาร์ยด้วยน่ะค่ะ
"อ๋ออดะ..ได้ค่ะๆ เดินกลับดีๆ นะคะ..ช่วงนี้หน้าหนาวมืดเร็วเสียด้วย
"หึ..ค่ะ...ฝากดูร้านด้วยนะคะทุกคน
ครับ/ค่ะ
หลังจากนั้นหญิงสาวก็เดินหันหลังไปหยิบสัมภาระของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเดินออกไป
กริ๊งงง~
ส่วนพนักงานในร้านก็ยังคงทำหน้าที่ปกติเพราะยังไม่ถึงเวลาปิดร้านร่างเล็กใช้เวลาเดินจากร้านหน้าหมู่บ้านมายังบ้านของตัวเอง เป็นเวลาประมาน3-4นาทีได้
บ้านที่ตกแต่งไปมาจนหลังใหญ่โต...ก็พอดีสำหรับ5คน..อบอุ่น หรือพื้นที่อาจจะมากไปเสียด้วย...ร่างเล็กเดินเข้ามาภายในบ้านก็ได้กลิ่นหอมเนยจากเตาอบขนมของผู้เป็นเเม่ ร่างเล็กค่อยๆ ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นก่อนจะเดินเข้าไป ภายในครัว...บ้านหลังใหญ่โตก็จริง เเต่พ่อของเธอก็ไม่เคยคิดที่จะจ้างคนรับใช้หรือแม่บ้าน จะมีก็เเต่ป้าวันที่อยูามาเเต่ดั่งเเต่เดิมคนเดียว
"อ่ะอ้าวว~มาเเล้วหรอหนูขวัญ
"หึ...ค่ะป้าวันสวัสดีนะคะ
"มาๆ ป้าช่วยถือกระเป๋านะ
ป้าวันยื่นมือมาหวังว่าจะได้ช่วยถือเเต่กับเป็นว่าร่างเล็กชักกระเป๋ากับมาถือเอง...
"อู้วๆๆ ไม่ๆ ค่ะป้า เดี๋ยวถือเองนะ มันมีทั้งสีทั้งอะไรมันหนักน่ะ...ป้าวันไปในครัวกับขวัญดีกว่าเนอะ
ร่างเล็กยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นโอบหัวไหล่ของป้าวันเเละพากันเดินเข้าครัวไปตามกลิ่นหอมๆ ของขนม
---ห้องครัว--
-อ่าววกลับมาเเล้วหรอลูก
"มามี๊~ฮึกกก.....
ร่างเล็กเห็นคนเป็นเเม่ กำลังทำขนมอยู่ ก็รีบวิ่งกรู่เข้าไปโถมกอด
หมับบ!!!
"อ้อนอะไรมี๊อีกหื้มม....
"เหนื่อยจังเลยมี๊...ต้องการกำลางงจายยย~~
ร่างเล็กลากเสียงยาวก่อนที่ป้าวันกับมามี๊จะส่งเสียงหัวเราะออกมา เมื่ออยู่นอกบ้านทำตัวเป็นผู้ใหญ่วางตัวได้ พอกลับเข้าบ้านก็เป็นเด็กน้อยดีๆ นี่เอง
"กำลังใจยังไง ฮ่าๆ
"ก็...ขอชิมขนมหน่อยยย
ร่างเล็กกระพริบตาปริบๆ เชิงอ้อน ก่อนที่คนเป็นเเม่จะหยิบชิ้นขนมที่อยู่ในพิมพ์ออกมาหนึ่งชิ้นเเละยัดเข้าไปในปากของลูกสาวตัวดี
"อ้ามมม~~!!!
"เป็นไงมั้ง
"อื้มม~อาหร่อยย~ที่ซู้ดดดด เค้กกล้วยหอมอบชีลมี๊คือเดอะเบส!
"ฮ่าๆๆๆ หนูขวัญก็ทำเป็นเล่นไปนะคะ
ป้าวันที่ยืนอยู่มุมประตูก็อดจะหัวเราะให้กับท่าทีของหญิงไม่ไหว จึงเอ่ยปากพูด
"พึ่งเปิดเรียนเหนื่อยมากรึเปล่าลูก
"ก็ยังไม่เท่าไหร่ค่ะ...เเต่อาทิตย์หน้ามีรับน้องด้วยไม่รู้หนูจะเจออะไรบ้าง
"หึ...เเบบนี้เเหละลูก
"เเล้วป๊าจะหลับมาตอนไหนหรอคะ? วันนี้ไม่เห็นเลย
ร่างเล็กมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะไม่พบพ่อของตนเพราะปกติเเล้ว พ่อจะมาคลุกอยู่เเต่ในครัวกับเเม่ตลอดเเต่วันนี้กับไม่เห็นเลย
"ป๊าไปสาขา8เห็นว่ามีปัญญาเรื่องกาเเฟไม่ถูกสูตรมั้งมี๊ก็ไม่รู้น่ะ....เเต่เดี๋ยวค่ำๆ ก็กลับ ป๊าโทรมาก่อนหน้าหนูมาถึง
"อ้อ~แบบนั้นหรอคะ
"จ้ะ
"เเล้ว น้องรักทั้งสองของหนูกลับมารึยังคะ?
"มาเเล้ว...เเต่มาคนเดียวนะ อลินยังไม่กลับเลย มีเเต่ไบรอันกลับมาคนเดียว
"อ๋ออ เเล้วน้องอยู่ไหนล่ะคะ
"น่าจะขึ้นไปข้างบนน่ะคะ
ป้าวันตองเเทนเพราะว่าเห็นไบรอันเดินขึ้นห้องไป
"โลกส่วนตัวสูงจริงๆ เลยนะเด็กคนนี้
คนเป็นเเม่พูดในขณะกำลังเเต่งหน้าขนมอยู่
"หึ...เหมือนใครล่ะคะมี๊อีกคนนึงก็เเก่นเหลือเกิน อีกคนก็อ่อนน้อมขี้อาย...นี่สลับขั้วกันรึเปล่าเนี้ยฮ่าๆ
ร่างเล็กพูดไปก็หัวเราะไปทำให้คนเป็นเเม่นึก มันก็จริงอย่างที่ ของขวัญว่า ลูกชายอย่าไบรอันกลับขี้อาย ไม่ค่อยพูดถ้าไม่จริงจัง เเต่ลูกสาวอย่างน้องอลินกลับจอมเเก่นเหลือเกิน..นึกเเล้วก็ขำ
"งั้นหนูขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ
"จ้ะลูกงั้นเดี๋ยวป๊ากลับมา เดี๋ยวมี๊ขึ้นไปเรียกนะ
"ค่ะมี๊!!
ฟรอดด!!!
"เจ้าลูกคนนี้!!!
คนเป็นเเม่ไม่ทันได้เอ็ดลูกที่พุ่งเข้ามาหอม ...ไม่รู้นึกพิศวาสอะไรมาเเสดงความรักตอนที่เเม่ทำงานอยู่ ไม่รู้มีกลิ่นเหงื่อกลิ่นอะไรติดลูกไปมั้งรึเปล่านะ
"ถึงจะโตเเต่นิสัยขี้อ้อนนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะคะ
ป้าวันที่ค่อยๆ เขยิบเข้ามาช่วยแม่ของ หนูขวัญ พูดขึ้นพร้อมกับมีใบหน้าที่พูดยิ้มๆ ตนเองคิด ไม่เคยเสียใจเลยที่มาอยู่กับครอบนี้ทั้งคุณเจ คุณนิทาน เเล้วก็หลานๆ อีกสามคนที่เลี้ยงมาตั้งเเต่เล็กๆ ตนผูกพันธ์เหมือนกับเป็นคนในครอบครัวนี้ไปแล้ว
"หึ...ใช่มั้ยล่ะคะป้า. 20เเล้วนะทำตัวเหมือนตอน5ขวบเลย
~~~~ตื้ดดด
ว่าเเล้วก็มีเสียงโทรศัทพ์เข้ามา นิทานเลยหันไปดูว่าปลายสายนั้นคือใคร
"เอ้ะใครนะ....ป๊าหรอ...
เบี่ยงคอไปดูโทรศัทพ์ที่วางไว้อยู่ด้านหลังไม่ถนัด หญิงสาวจึงวานให้ป้าวันหยิบให้
"ป้าวันคะ..ช่วยหยิบให้นิหน่อยได้มั้ยคะ
"อ่ะๆ ได้ค่ะมือป้าไม่ได้เปื้อนอะไร
ป้าวันเดินอ้อมหลังไปหยิบโทรศัทพ์เครื่องหรูที่วางไว้อยู่ข้างหลังขึ้นมาดูชื่อปลายสายว่าเป็นใคร
"คุณกราฟนิคะ
"หื้มมมเจ้ากราฟหรอ
หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะปกติเเล้ว น้องชายตัวเเสบจะไม่ โทรมา ถ้าไม่มีเรื่องอะไร
--ตื้ด---บทสนทนาในสาย---
"ฮัลโหลว่าไง?มีเรื่องอะไร
("เเหมไม่คิดจะถามสาระทุกข์สุขดิบน้องบ้างเลยหรือไง)
"เเกจะให้ฉันถามอะไรล่ะหื้ม
("ก็อย่างเช่นใช้ชีวิตเป็นยังไง สบายดีมั้ย อะไรประมานนี้)
"เเละใช้ชีวิตเป็นสุขดีมั้ยล่ะ
("ให้ทาย.....)
"นี่!!ฉันไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับเเกนะฉันมีงานต้องทำ
("ทำโมโหไปได้...พี่ก็)
"เเล้วยังไง เป็นอะไรไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า
ร่างเล็กถามอย่างห่วงๆน้องชายของตน
("ก็ช่วงนี้รู้สึกเบื่อๆนิดหน่อย ผมเเค่ อยากลองทำอะไรที่มันก้าวออกไปได้ไกลกว่านี้)
"ไม่ต้องขยายความให้มันกว้าง รวบรัดมาเลย
("ผมเบื่ออ่ะ.... เบื่อที่นี่)
"ทะเลาะกับพ่อแม่เเล้ว จะมาพึ่งฉันว่างั้นเหอะ?
("เปล่า... เเค่เบื่อ ไม่ได้เเปลว่าผมทะเลาะกับพ่อแม่สักหน่อยอยากลองหาอะไรใหม่ๆทำดูน่ะ อยู่แบบนี้มันอุดอู้)
พอได้ยินสิ่งที่น้องชายพูดอย่างจริงจังเธอเองก็รู้สึกสบายใจไปหนึ่งเปราะ ที่ไม่ได้มีปัญหากับพ่อแม่...
"เเกอายุ30เเล้วนะ...ฉันเข้าใจ
("ใช่มั้ยล่ะ...อย่างที่พี่ก็รู้ผมก็มีธุรกิจอยู่ที่นี่ อย่างที่ผมเล่าให้พี่ฟังนั่นเเหละมันก็งั้นๆ เดิมๆ )
"อื้มม...เเล้วเเกจะเอายังไงล่ะ
("พี่เจยังอยากจะได้ ผู้ช่วยอยู่ไหมผมว่างนะ)
"หะ...ห๊าาา และไหนตอนนั้นเเกว่าไม่อยากงงมาไง
("ก็ตอนนี้ผมอยากบินไปช่วยงานพี่เเล้วเนี้ย)
"....เเกก็!ใจเร็วจริง
("ร้านของพวกพี่จะได้พัฒนามากยิ่งขึ้นไปอีกไง ดีมั้ย~)
"ยังไงฉันก็ต้องรอถามพี่เจเขาก่อน...
("ไม่เป็รไรผมมั่นใจในพี่เขยผมอยู่เเล้ว เดี๋ยวเก็บเสื้อผ้าเตรียมบินเลยเเล้วกัน)
"เหอะ....เวอร์!! ถ้ามาเเกก็ต้องจัดหาเตรียมที่พักก่อนนะจ้ะ
("ใครบอก ผมทำงานกับพวกพี่ผมก็ต้องไปอาศัยอยู่กังพวกพี่ดิ เรื่องอะไรผมจะไม่เช่าอยู่ที่อื่นผมไม่รู้จักใครนะ?)
"เเกจะบอกว่า เเกจะมาอยู่ที่นี่กับ....ฉันงั้นหรอ?
("อ่าา..ทำไมหรือไม่ได้หรือพี่จะไม่ให้น้องชายคนเดียวของพี่ที่เกิดจากท้องเเม่เดียวกันนี้ไปอาศัยอยู่ด้วยห้ะ... )
"เเละทำไมเเกต้องเล่นใหญ่ด้วยห้ะ?
("ไม่รู้ล่ะ...ดักไว้ก่อน)
"ยังไงฉันจะบอกแล้วกัน...ว่าเเต่ไม่มีอะไรนอกเหนือจากเบื่อใช่ไหม
("หึ..ไม่มีอ่ะ เบื่อที่นี่เฉยๆ อยากไปเปิดหูเปิดตาบ้าง เพื่อจะมีอะไรดีๆ)
"ยังไงเดี๋ยวจะบอกเเล้วกันนะเเต่ถ้า....
("โอเครเดี๋ยวผมเก็บเสื้อผ้ารอ เเละไปจองตั๋วรอ เเค่นี้นะพี่!!)
"ดะ..เดี๋ยวสิ!!!หึ่ยย!!!
---ตื้ด~~~~
ไม่ทันที่จะได้พูดต่อสายก็ถูกตัดไปเสียเเล้วเขาเองก็เบื่อความใจเร็วของน้องชายเธอเองเหมือนกัน จะว่าไป กราฟเองก็จบบริหารธุรกิจมา ส่วนนึง ที่เริ่มทำธุรกิจเเฟนไชส์ก็มาจากกราฟเป็นคนเเนะบอก ตอนนั้นเจก็ชวนลงมาทำร่วมกันเเต่ เจ้าตัวเขาเองกับปฎิเสธิเเล้วตอนนี้นึกครึ้มยังไงอยากจะมาทำด้วย
"ไอ้น้องคนนี้!!ใจเร็วจริงๆ
ยังงไงเรื่องนี้ เธอก็คงต้องบอกสามีก่อนทั้งๆที่ในใจก็รู้อยู่เเล้ว ว่าเจนั้นจะต้องให้กราฟลงมาอยู่ด้วยเเน่ๆ โดยไม่มีข้อเเย้งใดๆ
22:50
ณ เวลาดึกขนาดนี้ ทุกคนก็ลงมาทานอาหาร นิทานมองไปที่นาฬิกาเป็นเวลาใกล้จะ5ทุ่มสามีของตนก็ยังไม่กลับมาถึงเสียทีเลยให้ป้าวันไปตามลูกๆลงมาทานข้าว
"มี๊ป๊ายังไม่กลับมาอีกหรอคะ?
เด็กสาววัย15ปีหรือ "อลิน"ลูกสาวคนเล็กของบ้านเอ่ยถามเมื่อลงมาจากบนห้องเเล้วมองไปยังนอกบ้านก็ยังไม่เห็นรถของผู้เป็นพ่อเข้ามาจอด
"ยังเลยลูกมากินข้าวเถอะดึกมากเเล้ว...ตอนที่เเต่งหน้าขนมอยู่ป๊าโทรหามี๊เเล้วนะ..เเต่ทำไมยังไม่กลับก็ไม่รู้
"เดี๋ยวก็คงถึงเเหละมั้ง....
ของขวัญพูดขึ้นก่อนจะนั่งลงประจำที่ ก่อนจะเหลือบมองไปที่น้องชายของตนที่ก้มมองหน้าจอโทรศัทพ์ไม่ละวาง...
"ไบรอัน ทานข้าวต้องไม่ก้มหน้าเล่นเเต่โทรศัทพ์นะ
คนพี่พูดบอกไม่เชิงดุ ก่อนที่ไบรอันจะพยักหน้าเเล้ววางโทรศัทพ์ลงไว้ข้างกายก่อนที่น้องสาวตัวดีนั้นจะเอนกายไปชนหัวไหล่ของเเฝดพี่ชายเบา
"หึ่ยย..อย่ามาชน
"ทำไมพี่อันเขิลอะไร..ก้มพิมพ์แบบนี้คุยกับสาวอยู่อ่ะดิ
"พูดมั่วๆไปได้
"เเละหูเเดงทำไมล่ะ เเหมมม~น้องรู้หรอกน่ะ!
คนน้องพูดล้อพูดหยอกโดยไม่รู้ว่ามีสายตาเฉียบของผู้เป็นแม่ที่นั่งมุมหัวโต๊ะอาหารมองอยู่แฝดพี่ก็ได้เเต่ยิ้มอรุ่มหน่อยๆไม่พูดอะไร เเต่ถ้ามีอาการเขิลหรือโกหก ไบรอันจะถูกจับพิรุจได้เพราะใบหูนั้นจะเเดงมากกว่าปกติ
"อลิน...ไม่เอาแบบนี้อีกนะคะ
"...คิ้กก😂
"เราต้องรักษาสิทธิ์ส่วนตัวของพี่เขาด้วยนะลูก
"แต่หนูรู้...
"รู้อะไร..เราก็ไม่ควรพูดแบบนี้นะลูก หนูลองคิดนะ ถ้ามีคนมายุ่งแบบนี้หรือมาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของลิน ลูกจะชอบหรอ..หื้มม
นิทานค่อยๆบอกลูกตามหลักการตามควรเป็นจริง จนลูกสาวคนเล็กนั้นเงียบไปคิดตาม... พอเห็นว่าสถานนะการณ์เริ่มอึ้มครึ้ม ไบรอันจึงหันมาบอกผู้เป็นแม่
"ไม่เป็นไรครับ...มี๊อย่าดุน้องเลย
พร้อมกับยกมือขึ้นมาจับที่ไหล่ของคนน้องเเล้วพูด
"น้องรักของพี่ พี่ให้อภัยเเล้วนะ..ทีหลังห้ามทำแบบนี้อีกเข้าใจไหมครับน้องสาวพี่..ไม่งั้นจะโดนมี๊ดุแบบนี้อีกนะ...หื้มมมม
ไบรอันพูดออกโดยใช้น้ำเสียงยั่วยวนผู้เป็นน้องซึ่งอลินนั้นก็รู้เพราะตัวเองหันไปมองหน้าพี่ชายที่สะเเยะยิ้มใส่เธอ อลินเองจึงเบะปากกลับไปทันที..ทำให้ของขวัญที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอดขำไม่ได้สองแฝดสยองนี่เเสบจริงๆ
"ค่ะคุณพี่ชาย....น้อง!จะ!ไม่!ยุ่ง!
อลินเค้นเสียงตอบหนังเเน่ก่อนจะเหลือกตาไปหนึ่งที ทำให้นิทานนั่งคิ้วขมวด
"อลิน ทำตาน่าเกลียดจัง...ใครสอนให้ทำแบบนี้
"ฮึกกก...มี๊ก็ว่าเเต่ลินง้าา~
น้องสาวคนเล็กทำหน้ายู้ยี่ ก่อนที่ทึกคนจะระดมเสียงหัวเราะออกมา
"พอได้เเล้วทานข้าวเถอะกับข้าวเย็นหมดเเล้ว
ของขวัญจึงห้ามปรามก่อนที่ทุกคนจะโฟกัสที่อาหารบนโต๊ะ
"ไม่กินเเล้วอลินงอน
"ป้าวันเก็บจานของอลินเลยครับ
แฝดคนพี่อยากไบรอันก็ยั่วคนน้องทันควันทั้งๆที่ตนก็รู้นะว่าน้องสาวนั้นไม่อดข้าวหรอกก็ยังจะเเกล้ง
"จ้ะป้าเก็บนะถ้าไม่กิน
"มะ...ไม่ๆๆ ลินล้อเล่นค่ะ แหมมม~มือไวจังเลยนะคะป้า เเฮะๆ
น้องสาวคนเล็กยิ้มก่อนที่จะยื่นมือไปจับช้อนเเล้วค่อยๆตักข้าวเข้าปาก พอเห็นแบบนั้นเเล้ว นิทานก็ยิ้มหัวเราะออกมา บรรยากาศบนโต๊ะอาหารบ้านเขาน่ะมีสีสันทุกวันเลยเชียว....หลังจากที่นั่งทาอาหารกันไปสักพักก็มีเสียงรถเข้ามาจอดภายในบ้าน เสียงรถนั้นเป็นเสียงที่คุ้นเคยจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พ่อของพวกเขาทั้ง3คน
ครืดดด~เอี๊ยดด~
"หื้มมเสียงรถป๊า...สงสัยกลับมาเเล้วมั้งคะมี๊
"นั่นสิ เดี๋ยวมี๊ออกไปดูก่อนนะ
นิทานรีบลุกออกจากโต๊ะไปดูสามีที่พึ่งกลับมา ...เธอเห็นสามีอ้อมไปเปิดหลังรถเเล้วหยิบของออกมาพะรุงพะรังเลยออกไปช่วยถือ
"ซื้ออะไรมาเยอะเเยะคะเนี้ยย
"ซื้อมาให้มี๊กับลูกนั่นเเหละ
พูดเเล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอบภรรยาไป นิทานจึงก้มดูของเเต่ละชิ้น ล้วนเเล้ว เเต่เป็นของ ของคนในครอบครัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสกินเเคร์ครีมบำรุงของตัวนิทานเอง ไหนจะพวกกระดาษอุปกรณ์พู่กันของลูกสาวคนโต ยาบำรุงสายตาของลูกชายเเฝด หรือจะเป็นกระเป๋าขนชมพูฟรุ้งที่ลูกสาวคนเล็กบอกอยากได้
"มันเยอะไปไหมป๊า
"เยอะอะไรกันล่ะ..เเค่นี้เอง
"หึ...มีของทุกคนเเล้วไหนของป๊าล่ะ
นิทานพูด อีกมือนึงก็เอื้อมมาช่วยสามีถือ
"เอ่ออ...นั่นสิป๊าลือซื้อของป๊าเลย เเต่ไม่เป็นไรหรอก...
เจตอบพร้อมกับรอยยิ้ม ที่ไม่ได้คิดอะไร เจ้าตัวก็เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน นึกถึงคนอื่นอยู่เสมอ เเต่ตัวเอง กับปล่อยผ่านสะเเบบนั้น
"อีกเเล้วนะป๊า....
"หื้มม..อะไร?
"ป๊าทำให้หนูตกหลุมรักป๊ารอบที่ล้านเเปดเเล้วนะ
เธอพูดหยอกสามีพร้อมกับยกมือขึ้นมาหยิบแขนเบาๆแก้เขิล
"โอ๊ยย!!ป๊าเจ็บ
"หึ....
"มานงมาหนูอะไรล่ะ อย่ามาย้อนความทรงจำนะ ป๊าเเก่เเล้ว
"แก่อะไรกันล่ะ ....หว้าาา เสียดายก้ะว่าคืนนี้จะให้รางวัลสักหน่อยงั้นป๊าพักเถอะ
"หะ..ห๊ะ!?อะไรนะ รางวัลคืออะไร.
เจถึงกับตาเบิกโพลง เมื่อภรรยาพูดเปิดมาเเบบนี้ตนจะโง่ปฏิเสธได้ยังไงกัน
"ก็...รางวัลที่เป็นสามีดีเด่นไงคะ....
"...อะ..!!เอา เอารางวัล
"หมดค่ะ...ป๊าบอกเองป๊าเเก่คงไม่มีเเรงเเล้วล่ะ
"ห้ะ!!ใครบอกล่ะ เตะปื้บยังอยู่เลยนะ!!!ดังป๊าบบ!!!ป๊าบบ ป๊าบบเลยล่ะ
เพี๊ยะะ!!!!!
ฝ่ามือเล็กฟาดไปที่เเขนของสามีอย่างเเรงทำให้อีกคนรีบยกมือขึ้นมาถูอย่างไวด้วยความเจ็บเเละรู้สึกแสบ
"แหม เขิลเเล้วทำรุนเเรงใส่ป๊าทำไมเนี้ย
"ปื้บบ้าไรดังป๊าบ!! หึ่ยยเข้าบ้านดีกว่า
มามี๊ของลูกทั้งสามเดินชิ่งมาก่อน ก่อนที่สามีจะเดินตามตูดมาต้อยๆ มายังที่โต๊ะอาหารที่มีลูกๆนั่งทานอาหารอยู่
"มี๊..ไปนานจัง
ลูกสาวคนเล็กถามก่อนจะตักขนมหวานเข้าปาก1คำ เป็นขนมที่ป้าวันทำ
"ป๊าชวนมี๊คุยนิดหน่อยน่ะ อิ่มกันเเล้วหรอ
"ค่ะอิ่มเเล้วว..เเต่เอ้ะ...ที่ไปนานไม่ใช่ว่าไปยืนจีบกันอยู่หรอหรอคะ?
ลูกสาวคนโตพูดต่อ ทำให้ ทั้งพ่อและเเม่นั้นยืนถือของทำตัวไม่ถูกกันใหญ่
"จีบอะไรกันล่ะพูดไปเรื่อยนะไอ้เเสบ
เจยื่นมือมาลูบหัวลูบสาวคนโตเบาๆ พร้อมกับหยิบของในถุงนั้นออกมาทีละชิ้น
"อ่ะของลูก....กระเป๋าอันนี้ก็ของลูก
คนเป็นพ่อยื่นของให้ลูกสาวทั้งสองคนพร้อมกัน ส่วนอีกอันนึงยังถือไว้อยู่ ซึ่งของให้ถุงนั้นเป็นกระปุกยาวิตามินซีบำรุงประมาน3กระปุก จะเป็นจำพวกบำรุงสายตามากกว่า เพราะเจสังเกตเจ้าลูกชายเเฝดชอบอ่านหนังสือดึก อยู่บ่อยๆเลยเป็นห่วง
"ไม่คิดจะพูดกับป๊าเลยหรือไงไบรอัน
น้ำเสียงที่คนเป็นพ่อพูดถามอย่างน้อยใจนั้นทำให้ไบรอันนั้นส่งยิ้มออกมาเล็กน้อย
"หึ....ครับพ่อ
เเค่เสียงของลูกชายที่ตอบออกมาก็ทำให้เจนั้นยิ้มได้ เขาเองก็ไม่ได้อะไรนักทำไมเจจะไม่รู้ว่าลูกเป็นคนขี้อาย เเล้วยิ่งโตขึ้นเจยิ่งเข้าใจ
"เห้ออชื่นใจจังเลยลูกชายป๊า~
เจอเดินอ้อมหลังของลูกชายเเล้วสวมกอดเล็กน้อยพอได้ชื่นใจ ไบรอันเองก็ยิ้มเเช่งขึ้นมาะร้อมกับเบี่ยงตัวหนี
"ป๊า~!
"ทำไมกันป๊ากอดไม่ได้ไง ทีตอนเด็กๆยังกอดได้เลย
"นั่นตอนเด็กนิครับ..ตอนนี่อันโตเเล้ว
"เหอะ...โห้ลูกเลยว่าลูกใครตอบได้เด็ดขาดมาก
เจยิ้มมุมปากก่อนจะค่อยๆปล่อยอ้อมกอดออก
"นี่ยาบำรุง..ป๊าซื้อมาให้ เห็นอ่านหนังสือดึก
"หนังสือการ์ตูนอ่ะดิ ฮ่าๆ
น้องสาวคนเล็กพูดเเทรกขึ้น..ทำให้ำบรอันส่งสายตาคาดโทษน้องสาวตัวเเสบเอาไว้
"อลินเอาอีกเเล้วนะ เดะก็โดนมี๊ดุหรอก
ของขวัญที่เห็นน้องสาวพูดแบบนั้นจึงห้ามปรามไว้ดีกว่า
"เเล้วนี่ทานข้าวอิ่มกันเเล้วหรอ
"ค่ะพวกเราทานกันหมดเเล้ว เหลือเเต่ป๊านั่นเเหละ
นิทานตอบกับสามีไปก่อนที่เจจะยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู
"เอ้ออ ดึกแล้วหนิ เด็กๆ พากันขึ้นไปนอนเถอะลูก
ป๊าเจไล่ลูกๆขึ้นไปนอน เพราะพรุ่งนี้มีเรียนกัน นี้ก็เห็นว่าดึกมากเเล้ว ก็นึกว่าตัวเองอยู่เหมือนกันที่เเวะซื้อของจนกลับถึงบ้านมืดขนาดนี้
"งั้นหนูขึ้นไปนอนก่อนนะคะ
ของขวัญ บอกพ่อกับเเม่ ก่อนจะปลีกตัวลุกออกไปโดยที่ไม่ลืมหยิบอุปกรณ์ วาดภาพที่พ่อนั้นซื้อมาให้ไปอีกด้วย ส่วนเจ้าสองเเสบเเฝดสยองนั้นก็พากันเดินขึ้นห้องเเล้วก็เเยกย้ายกันไป จะ เหลือก็เเต่ ป้าวันเเละก็สองคนสามีภรรยาที่อยู่ด้านล่าง
"ป้าวันครับ...นี่ของป้า
เจเลื่อนยื่นอีกถุงนึงให้กับป้าวัน
"อะไรหรอคะคุณเจ
ป้าวันเอื้อมมือไปหยิบแล้วก็ถามอย่างงงๆ เพราะไม่คิดเลยว่าคุณเจนั้นจะซื้อมาให้
"เสื้อน่ะครับ..ไม่รู้จะถูกใจป้ารึเปล่านะ ฮ่าๆ ผมไม่ลืมป้าหรอกครับ
"โอ้ววตายเเล้วคุณเจ
หญิงเเก่ตกใจก่อนจะยื่นถุงกระดาษนั้นกลับคืนไปด้วยควรเกรงใจ เเต่เเล้วก็ถูกมือหนาผลักส่งไปอีก นิทานก็ช่วยอีกเเรง ไปยืนประกบหลังของป้าวันไว้เเล้วจับมือรวบ เพราะไม่ให้ป้าวันดึงถุงกลับมาอีก
"ป้าวันอย่าดื้อสิคะรับไว้เถอะ
"นั่นสิครับ...ไม่ถูกใจหรอ
"ไม่ใช่ไม่ถูกใจค่ะ..เเต่ป้าเกรงใจพวกคุณมากๆ เเค่นี้ป้าก็ไม่เหมือนคนใช้คนนึงเเล้วนะ
ป้าวันพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจมากๆ เพราะตั้งเเต่เธอมาอยู่ที่นี่ ก็อย่างที่เล่าไปข้างต้นทเธอเองเเทบจะไม่มช่เเม่บ้านที่นี่ เเทบจะเป็นญาติคนนึงเเล้วเสียด้วยซ้ำ
"เเล้วใครจ้างป้ามาเป็นคนใช้กันล่ะครับ...ผมบอกเเล้วใช่มั้ยห้ามพูดแบบนี้
"เอ่ออ...ปะ..ป้ารู้เเล้วค่ะ
"รับไว้เถอะครับไม่รับผมเสียใจเเย่นะ
เมื่อเจพูดเเบบนั้นเเล้ว ป้าวันจึงยื่นมือไปหยิบถุงกระดาษนั้นขึ้นมาไว้ที่เเนบอก เเล้วยิ้มออกมาอย่างขอบคุณ
"ขอบคุณนะคะคุณเจ คุณนิทาน
"หึ...ไม่เป็นไรครับ
"ป้าวันไปพักเถอะค่ะ เดี่ยวนิทานจัดการเอง
"ตะ..เเต่ว่าา....
"ไม่เป็นค่ะป้าเลยเวลาป้าพักมาเยอะเเล้ว .....กลับไปพักเถอะค่ะ
"ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะป้าไปนะ
"ค่ะ/ครับ
หลังจากนั้นป้าวันก็เดินออกไป ชั้นล่างของบ้านจะมีเเค่เจเเละนิทานเท่านั้นที่นั่งคุยกันไปตามประสา สามีภรรยาก่อนที่นิทานจะเริ่มเข้าเรื่องน้องชายที่เมื่อตอนเย็นนี้โทรมา
"ป๊า
"หื้มมมว่าไง...
ร่างหนาหื้มเสียงเล็กน้อยก่อนจะตอบภรรยาเเละเงยหน้าขึ้นมอง
"คืออว่า
"มีอะไรรึเปล่า
"ช่วงเย็นเจ้ากราฟโทรมาค่ะ
"อื้มม มีอะไรหรอ
"กราฟถามว่า ป๊ายังต้องการตัวมันอยู่ไหม มันบอกว่าเบื่อที่นู้น อยากจะลงมาอยู่กับเราสักพัก อยากลองเปิดหูเปิดตาดูไม่อยากอุดอู้อยู่ที่นู้น...พอมาคิดๆดูเจ้ากราฟมันก็มีความรู้ในเรื่องบริหาร มันก็อาจจะช่วยถุ้นเเรงเราไปได้เยอะเลยนะป๊า
"แล้วมี๊ว่ายังไงล่ะ
เจถามออกไปในขณะที่ยื่นมือออกไปตักกับข้าวใส่ลงจาน
"ก็...มี๊บอกกราฟว่าจะลองถามป๊าดูก่อน
"มาสิ...ไม่มีปัญหาดีสะอีก
"ห้ะ??....
"ดี...บอกน้องให้ลงมาเลย ป๊าไม่ขัดอยู่เเล้ว อยากเปิดหูเปิดตาก็มา มาช่วยกันบริหาร ป๊าโอเคร
"เเต่..จะไม่อึดอัดหรอคะ?
"อึดอัดอะไร ...ป๊าโอเครนะอีกอย่างกราฟไม่ได้มาเกาะเราสักหน่อยกราฟมาทำงานช่วยเรานะ
"....ค่ะ..หึ
พอได้ยินเเบบนี้นิทานก็ยิ้มออกมา..ที่ตนถามสามีว่าไม่อึดอัด ก็เพื่อยืนยันความเเน่ชัดเเหละว่าให้น้องลงมาได้จริงๆ.... จากนั้นนิทานเองก็ไม่รอช้า รีบควักโทรศัทพ์เครื่องหรูออกมาจากกระเป๋ากางเกงเเละต่อสายตรงไปยังน้องชาย
----ตื้ดดด~~
"อ่าา....ฮัลโหล..กราฟ
("ว่าไงครับพี่สาวคนสวย~)
"ฉันคุณกับป๊าเจให้เเล้วนะ....เขาบอกได้ เเกก็เตรียมตัวได้เลย
("เห็นไหม..ผมบอกเเล้ว พี่เขยผมเนี้ยไม่ทำให้ผิดหวังอยู่เเล้ว)
"หึ...จริงๆเลย... เเล้วก็ทำตัวดีล่ะ บอกพ่อกับเเม่เเล้วใช่มั้ยห้ะ
("เรียบร้อยพี่ไม่ต้องห่วง)
"ก็ดี ...รีบเตรียมตัวเก็บของเลยนะรู้มั้ย
****ผู้โดยสารโปรดทราบขณะนี้เครื่องบินกำลังมุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิเเล้ว โปรดให้ผู้โดยสารทุกท่านคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยด้วยค่ะ....ขอบคุณค่ะ******
".......
(.......)
ทั้งพี่ทั้งน้องต่างพากันเงียบ นิทานที่ได้ยินเสียงเหมือนคอลเซนเตอร์เงียบไปจึงถามน้องชายด้วยความตะขิตตะขวางใจ
"แก...อยู่ไหน
("เเหะ...ก็บนเครื่องบินไงพี่)
"ห้ะ!!!!นิ...นี่!!แกบินมาเเล้วหรอ
("ใช่.... ถึงพี่เขยไม่ให้ลงไป ผมก็ไปอยู่ดีนั่นเเหละ)
"กะ...แก!!!ไอ้!!ไอ้!!
("แค่นี้ก่อนนะ สัญญาณจะหลุดเเล้ว)
"ดะ..เดี๋ยวสิ
("ตื้ดดดๆๆๆๆ~)
"เห้ยยเดี๋ยว!!!
นิทานตกใจเพราะจู่ๆสัญญาณของน้องชายก็ขาดไป..ที่เเรกคิดว่าเเกล้ง เเต่ตอนนี้น่าจะไม่ใช่เเล้วล่ะ....
"มีอะไรหรอมี๊
"ก็ไอ้เจ้ากราฟน่ะสิคะ...มันขึ้นเครื่องมาเเล้วยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าป๊าจะอณุญาตไหม มันก็หอบเสื้อผ้าขึ้นเครื่องมาเเล้ว จริงๆเล้ย!!!
"ฮ่าาๆๆ ....
เจระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะหันไปมองหน้าภรรยาที่กระฟัดกระเฟียตอยู่
"ขำอะไรของป๊า!
"หึ....เปล๊าา~ผมว่าผมได้กลิ่น
"กลิ่นอะไรของป๊า!
"กลิ่นความ วุ่นวาย วายวอดไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ
"หื้ออ~!!!!
Epหน้าเค้าได้เจอกันเเน้ว เม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์คนนี้ได้มีเเรงเเต่งต่อไปด้วยนะคะ💗💗💗💗💪✌
เธอเปรียบเหมือนหนามยอกใจ...ถิ่มแทงลึกมากเท่าไหร่ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น...ต่อให้หนีไปให้ไกลเเค่ไหน เธอก็คงวนเวียนอยู่ในความคิดเเละหัวใจของฉันอยู่เสมอ....ศัตรูที่รัก
ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เจ้าบ่าวหลุดจองเป็นเรื่องของคุณกระทิงกับหมี่ที่ต้องตกกระไดพลอยโจนเป็นคู่บ่าวสาวกัน เหตุผลก็เพราะเงินตัวเดียว มาตามอ่านกันค่ะ ว่าการแต่งงานปลอมๆ จะนำรักแท้มาสู่ทั้งสองหรือไม่ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ มัญชุพรเลือกชุดไทยศิวาลัยสีงาช้าง ต่อมาคือชุดเจ้าสาว เว็ดดิ้งแพลนเนอร์แนะนำชุดแบบเรียบหรู ทิ้งชายหางปลานิด ๆ ไม่ฟูฟ่องมาก หญิงสาวใส่แล้วอึดอัดที่อกนิดหน่อย คิดว่าน่าจะพอดีกับอกน้องสาว “ลองเดินดูนะคะ” เธอถูกจูงมาจนถึงห้องโถง พงศพัศในชุดสูทยืนอยู่ตรงนั้น แม้เสื้อผ้าเรียบโก้ แต่ไม่อาจกลบความดุดันของเขาลงได้ มัญชุพรเห็นแล้วคิดว่าเขาเป็นเจ้าบ่าวที่ ‘แนว’ ใช้ได้ “มีชุดที่โชว์อกน้อยกว่านี้ไหม เห็นนมเจ้าสาวตั้งขนาดนี้ เดี๋ยวฉันใจแตก ไม่ได้เข้าหอกันพอดี” พงศพัศมีความสามารถพิเศษเรื่องปากเสียหรืออย่างไร เขาว่าจนทำหน้ามัญชุพรซับสีเลือด “เดี๋ยวแก้ตรงอกให้นะคะ” “เอาแบบคลุมยาวถึงคอหอยไปเลย” เขาเพิ่งรู้สึกสนุกก็ตอนนี้ เมื่อเห็นเธอตอบโต้อะไรไม่ได้ หนุ่มชาวไร่ค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย “ฉันเอาแบบนี้แหละค่ะ” ชักเข้าใจความรู้สึกอยากหนีของพรสรวงแล้ว นายตัวโตคนนี้ไม่เหมาะกับการเป็นเจ้าบ่าวใครเลย นอกจากหน้าดุแล้วยังไร้มารยาท “เปลี่ยนซะ ฉันไม่ชอบ” พงศพัศเห็นเธอเงียบหงิม ไม่คิดว่าจะแผลงฤทธิ์ได้ “เอาตัวนี้เลยค่ะ” “น้องสาวเธอเป็นคนใส่ในงานแต่งนะ ไม่ใช่เธอ เจ้าบ่าวอย่างฉันต้องออกความเห็นได้สิ” มัญชุพรสบตาคมดุ “มุกให้สิทธิ์ขาดฉันเลือกแทนแล้ว ชุดไหนที่ฉันชอบ น้องก็ต้องชอบด้วย ถ้าคุณไม่ชอบก็อย่ามองสิคะ” +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด