องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ภายในตำหนักฉงหวาบัดนี้นอกจากจะมีไทเฮาที่ประทับอยู่ภายในแล้ว
ยังมีจินเทียนฮ่องเต้และเต๋อฮองเฮาประทับอยู่อีกด้านของเตียงเตาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"เสด็จแม่หยางเอ้อหลางกลับจากชายแดนมาครานี้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ ลูกเห็นว่าควรตอบแทนเขาให้สมเกียรติ"
ไทเฮาแย้มพระพักตร์เยือกเย็นแล้วตรัสว่า
"ฝ่าบาทนับวันอิทธิพลของตระกูลหยางยิ่งมากขึ้น ประชาชนล้วนรักใคร่อีกทั้งตระกูลหยางเสียสละเพื่อแคว้นของเราเพียงใดแม้แต่เด็กแดงยังรู้ อย่าหาว่าแม่ยุ่งเรื่องราชกิจแต่เพราะเป็นห่วงเจ้าจริงๆ จึงอยากให้เจ้าคิดให้ถี่ถ้วน"
"ที่เสด็จแม่กล่าวมาไม่ผิด ตระกูลหยางทำความชอบใหญ่หลวงแต่อำนาจมากเกินไป ขุนนางต่างอยู่ใต้อำนาจแม้ไม่ได้ยุ่งการภายในแต่ทุกคนล้วนเกรงใจ หากปล่อยต่อไปลูกเกรงว่าอาจจะเป็นภัย"
"ในเมื่อเจ้ารู้อยู่แก่ใจควรจะหาวิธีลดทอนอำนาจเสีย"
"ฝ่าบาทเพคะหม่อมฉันคิดว่ามีวิธีที่ตระกูลหยางไม่อาจขัดได้อีกทั้งยังเป็นผลดีต่อพวกเรา"
ฮองเฮาตรัสนิ้วมือเรียวเต่งตึงราวกับสตรีแรกแย้มยกป้านน้ำชาขึ้นรินลงในจอกด้วยท่วงท่าสง่างามแล้วนำถวายแด่ฝ่าบาท
"วิธีการใดเล่าเจ้ารีบพูด"
"อภิเษกอย่างไรเล่าเพคะ" ฮองเฮาตรัสเบาๆ ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
ฝ่าบาทคล้ายจะชะงักไปก่อนจะแย้มสรวลออกมา
"หลักแหลมมาก หากให้เขาแต่งกับองค์หญิงสักคนครานี้เขาจำต้องสละอำนาจทางการทหารเป็นเพียงราชบุตรเขยของเรา หากเขาไม่ยินยอมก็เท่ากับไม่อยากดองญาติกับราชวงศ์เช่นนี้ก็ถือว่ามีใจคิดไม่ซื่อ วิธีการนี้เรียกว่าไม่กวนน้ำให้ขุ่นแต่ประการใด"
เมื่อได้ยินดังนั้นไทเฮาที่มีสีพระพักตร์เรียบเฉยจึงตรัสขึ้น
"ฝ่าบาทต้องไตร่ตรองให้มากหน่อย กำลังทหารในมือของหยางเอ้อหลางมีถึงห้าแสนนายแต่ละคนล้วนเก่งกาจเป็นนักรบที่แข็งแกร่งยิ่ง หากเขานำกำลังบุกเข้าวังหลวงแม้แต่พระองค์ก็คงเอาชีวิตไว้ไม่ได้ อีกทั้งคนในตระกูลของเขาบุรุษทุกคนได้หลั่งเลือดปกป้องแผ่นดินมาแล้ว ทหารล้วนจงรักภักดีการจะลดทอนอำนาจของเขานั้นไม่ง่ายอีกทั้งต้องทำอย่างไรถึงจะให้ทหารเหล่านั้นเชื่อฟังนี่สิเป็นเรื่องสำคัญ การบีบบังคับให้หยางเอ้อหลางแต่งงานมิใช่จะสร้างคำครหาหรอกหรือ"
ฮ่องเต้มีสีพระพักตร์บ่งบอกว่ากลัดกลุ้มยิ่ง พระองค์ไม่อาจบีบให้ หยางเอ้อหลางแต่งงานได้ในตอนนี้ แต่นอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่เห็นหนทางอื่นที่จะลดทอนอำนาจของตระกูลหยางได้อีก อำนาจในมือขุนนางผู้หนึ่งซึ่งมากเกินไปย่อมไม่ดีต่อความมั่นคงของบัลลังก์
"เสด็จแม่ตรัสถูกต้องในความคิดเห็นของเสด็จแม่เช่นนั้นเราควรทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ"
"วิธีก็มีอยู่บ้าง" ไทเฮาผู้เป็นเจ้าของอำนาจในวังที่แท้จริงตรัสพลางยกยิ้มเยือกเย็น
"เสด็จแม่โปรดชี้แนะ"
"เรื่องนี้มอบให้ตำหนักเทพจัดการ หากเป็นโองการสวรรค์แม้แต่ หยางเอ้อหลางก็ไม่อาจขัด"
ตำหนักหยางชิง
องค์หญิงใหญ่หลินฉีกำลังเลือกอาภรณ์อย่างตั้งใจพร้อมบรรดาองค์หญิงหลายคนที่รุมล้อมบรรยากาศครึกครื้นยิ่ง
"พี่ใหญ่ท่านดูสิผ้าไหมจากแคว้นเป่ยนับเป็นของชั้นเลิศวาสนาพวกข้าช่างดีนักแม้ไม่ได้ใส่วันนี้ได้เห็นกับตาถือว่ามีบุญใหญ่"
"น้องห้าเจ้ากล่าวเช่นนี้พี่เห็นด้วยหากไม่ใช่เพราะเป็นพี่หญิงใหญ่หรอกหรือพวกเราถึงมีวาสนาได้ใส่กัน"
องค์หญิงใหญ่ปิดปากหัวเราะเบาๆ เพราะเป็นพระธิดาองค์โตซึ่งถือกำเนิดจากฮองเฮา ใบหน้างดงามกิริยาเรียบร้อย เก่งกลอนคล่องกวี เรื่องเพลงพิณนั้นเป็นเลิศ สติปัญญาฉลาดหลักแหลมจึงเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทและไทเฮานัก ดังนั้นของดีทั่วแว่นแคว้นไม่ว่าจะหายากเพียงใดเพียงองค์หญิงหลินฉีเอ่ยปากทุกสิ่งล้วนมาปรากฎตรงหน้าดุจเนรมิต
ในจำนวนสตรีที่กำลังเพลิดเพลินกับผ้าไหมงดงาม กลับมีโฉมสะคราญผู้หนึ่งที่กำลังสนใจเพียงขนมด้านหน้าตนเอง หยิบเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างมีความสุขไม่สนใจแม้กระทั่งชายตาแลผ้าไหมงดงามเหล่านั้น
ความจริงนางชอบสิ่งของสวยงามทุกสิ่ง แต่ต้องข่มใจด้วยไม่อยากให้ตนนั้นเกิดความอยากได้มากเกินไป
"น้องสิบสามเจ้าไม่เลือกไปสักผืนหน่อยหรือ มาพี่หญิงใหญ่จะเลือกให้ เจ้าเอง"
"อย่าสนใจน้องสิบสามเลยพี่หญิง ดูนางสินิสัยแปลกประหลาดนัก ไม่สนใจร่ำเรียนจนไทเฮาทรงไม่พอพระทัยเราพี่น้องก็หวังเพียงทุกคนอยู่สบายอย่างสงบ แต่นางวันๆ เอาแต่หาเรื่องคนนั้นทีคนนี้ทีพี่หญิงใหญ่ใกล้ชิดนางมากเห็นทีว่านางจะนำเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจมาให้ในสักวัน" องค์หญิงแปดเอ่ยขึ้น
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินยกยิ้มเย็นแล้วโต้กลับเบาๆ
"พี่แปดท่านยังโกรธข้าอยู่หรือเพียงคุณชายตงหัวที่ท่านมีใจส่งกำไลหยก มาให้ข้าเพื่อตอบแทนที่ข้าช่วยน้องสาวของเขาจากพวกอันธพาลเท่านั้น เหตุใดท่านจึงคิดมากเช่นนี้เพราะคิดมากจึงได้รับโทษอย่างไรเล่า"
องค์หญิงแปดขัดเคืองใจยิ่ง เรื่องที่ผ่านมาระหว่างนางและองค์หญิงสิบสามที่ทำให้นางไม่อยากแม้จะมองใบหน้าน้องสาวคนนี้ ครานั้นองค์หญิงสิบสามแอบลอบออกนอกวังจวบจนได้มีโอกาสไปช่วยน้องสาวของบุรุษที่นางมีใจเดิมทีนางกับคุณชายตงหัวต่างมีใจให้กันจนฝ่ายนั้นจะส่งคนมาทาบทามขอพระราชทานสมรสแล้ว
หลังจากคุณชายตงหัวบุตรของเสนาบดีผู้นั้นพบองค์หญิงสิบสามเข้ากลับทำตัวห่างเหินกับนางอีกทั้งท่าทางยังผิดแปลกไปมากประหนึ่งคนแปลกหน้า จวบจนนางรู้ข่าวว่าตงหัวส่งกำไลหยกไปให้องค์หญิงสิบสามที่ตำหนัก องค์หญิงแปดจึงไปอาละวาดกับองค์หญิงสิบสามเพราะคิดว่าองค์หญิงสิบสามไม่มีมารดา ผู้หนุนหลังจะทำเช่นไรกับน้องสาวคนนี้ย่อมได้
คาดไม่ถึงว่าอ๋องฉางอันพี่ชายใหญ่ของพวกนางจะออกหน้าจนทำให้องค์หญิงแปดถูกลงโทษคัดลอกหนังสือท่วงท่างดงามจิตใจผ่องใสเล่มหนานั่นถึง ห้าร้อยบท อีกทั้งต้องถูกกักขังในตำหนักทั้งเดือน บุรุษก็หนีหน้าโทษก็ต้องรับหากไม่ใช่เป็นเพราะสิบสามผู้นี้แล้วจะเป็นเพราะผู้ใด
"น้องแปดความจริงก็เป็นเรื่องที่ดีที่คุณชายตงหัวผู้นั้นเผยธาตุแท้ออกมา หากเจ้าแต่งให้เขาไปคนโลเลเช่นนั้นจะไม่รับอนุจนเจ้าปวดหัวหรือ" องค์หญิงห้าเอ่ยขึ้น
"พี่ห้าท่านก็เข้าข้างนาง หากนางไม่ไปล่อลวงเขาบุรุษเช่นคุณชายตงหัว ที่ใสซื่อเช่นนั้นจะแปรเปลี่ยนหรือ"
"ข้าสิบสามไม่เคยล่อลวงบุรุษใดหากจะโทษต้องโทษที่เขาโลเลหรือไม่ ก็เพราะความงามของข้าที่มากจนเกินไป" องค์หญิงสิบสามตอบอย่างยียวน
"เจ้าล่อลวงเขา"
องค์หญิงแปดแค่นเสียงออกมาใบหน้าของนางเขียวคล้ำเรื่องที่ผ่านมาความจริงนางไม่อาจลืมได้ ใจของนางยังเจ็บปวดทุกคราที่คิดถึง
"ข้าบอกพี่แปดแล้วว่าไม่เคยล่อลวงเขา พบหน้ากันเพียงครั้งเดียวและ กำไลหยกข้าก็ให้คนส่งคืนแล้วจะเรียกว่าล่อลวงได้อย่างไร เขามีใจให้ข้าหรือไม่ข้ายังไม่รู้เลยท่านอย่ามาใส่ร้ายข้า ไม่แน่เขาอาจพบคุณหนูผู้อื่นเข้าก็เป็นได้ เหตุใดท่านจึงคิดว่าเป็นเพราะข้าเล่า ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว"
องค์หญิงสิบสามเอ่ยยืดยาวพลางใช้ไม้แหลมเล็กจิ้มขนมหวานกินอย่างอร่อย นางคิดว่าเรื่องนี้ช่างไร้สาระนักคุณชายตงหัวผู้นั้นมีใบหน้าเป็นอย่างไรนางยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
"สิบสาม"
องค์หญิงแปดชี้หน้านางปากสั่นระริก องค์หญิงอื่นเข้าขวางนางไว้ด้วยคิดว่าองค์หญิงแปดอาจจะกระโดดข่วนหน้าองค์หญิงสิบสามเป็นแน่ พวกเขาดึงองค์หญิงแปดไปอีกทาง
"พอได้แล้วพวกเจ้า เรื่องนี้หากมีใครนำความไปกราบทูลไทเฮาว่าเหล่าองค์หญิงต้องมาทะเลาะกันเพราะบุรุษผู้หนึ่งจะไม่ถูกลงโทษหรือ ขายหน้านักสิบสามเจ้าก็พอได้แล้ว" องค์หญิงใหญ่เอ่ยปรามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
"ข้าไม่ได้หาเรื่องเสียหน่อยเป็นพี่แปดที่เริ่ม" องค์หญิงสิบสามกล่าวจบก็ยัดหมั่นโถวเข้าปากอย่างไม่สนใจ
องค์หญิงแปดสะบัดใบหน้าหนี ไม่มองไปทางองค์หญิงสิบสามอีกบรรดาน้องๆ หลายคนส่ายหน้าเมื่อองค์หญิงใหญ่เริ่มไม่พอใจแล้วพวกนางก็อึดอัดยิ่ง
องค์หญิงใหญ่ถอนหายใจองค์หญิงสิบสามความจริงเชื่อฟังนางเพียงคนเดียว บรรดาพี่น้องคนอื่นสิบสามมักจะมีเรื่องขัดแย้งอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่ได้บาดหมางจนถึงไม่พูดกัน มีเรื่องขององค์หญิงแปดที่ทำท่าว่าครานี้พวกนางคงเขม่นหน้ากันไปนาน
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -