ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ต้องมนต์บุปผา
ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

5.0
81 บท
650.4K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

บทที่ 1 สตรีร่านสวาท

ดอกเหมยแย้มกลีบเบ่งบานงดงามจนเต็มต้น สีชมพูอมขาวชูช่อสว่างสไวตัดกับความมืดมิดในยามราตรี กลีบดอกที่ทนทานนั้นแม้จะถูกพัดปลิวด้วยลมหิมะก็ไม่ร่วงหล่น ส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปตามแรงลมที่พัดปลิวมาเป็นระยะ

หลิวซือซือนั่งเท้าคางมองกิ่งเหมยที่ยื่นมาเกือบจนถึงหน้าต่างของโรงเตี๊ยมที่พักพลางสูดกลิ่นหอมนั้นเข้าไปตนเต็มปอด นานเพียงใดแล้วหนอที่เธอมายังดินแดนแห่งนี้และต้องใช้ชีวิตเฉกเช่นคนที่นี่โดยไม่มีรู้ว่าจะได้มีโอกาสที่จะกลับไปหาคนที่เธอรักยังโลกใบเดิมที่เธอจากมา

"คุณหนู น้ำชาเจ้าค่ะ"

หลิวซือซือมองถ้วยน้ำชาที่โชยกลิ่นหอมกรุ่นที่ชุ่ยหลินบ่าวคนสนิทของนางรินให้อย่างเอาอกเอาใจ หลิวซือซือรับชาจากมือสาวใช้ กลิ่นหอมของชาลอยอบอวลปนเปไปกับกลิ่นดอกเหมยที่หอมหวานหลิวซือซืออมยิ้มเล็กน้อย ใบหน้างดงามผุดผ่องเพียงด้านเดียวนั้นช่างชวนให้เพ้อฝันในขณะที่อีกข้างก็ชวนให้รู้สึกสะอิดสะเอียนขนลุกขนพองเป็นอย่างยิ่ง

หลิวซือซือเหม่อลอยทอดถอนหายใจ แม่ของเธอก็ชื่นชอบชาดอกเหมยเช่นกันช่วงเวลาที่มีความสุขได้อยู่กันพร้อมหน้าแต่ก่อนหลิวซือซือไม่คาดคิดว่าจะมีคุณค่าเพียงนี้ แต่เมื่อไม่มีโอกาสเป็นเช่นนั้นอีกหญิงสาวก็รู้สึกเสียใจอีกทั้งเสียดายที่เมื่อตอนนั้นทำสิ่งที่ควรทำน้อยเกินไป

เธอควรดีกับพ่อและแม่ให้มากกว่านี้รักพวกท่านกอดพวกท่านให้มากกว่านี้จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเช่นนี้อีก

"คิดถึงท่านแม่อีกแล้วหรือเจ้าคะ"

ชุ่ยหลินสาวรับใช้ผู้รู้ใจเอ่ยขึ้น คุณหนูของเธอภายนอกดูเหมือนจะหายเป็นปกติแล้วแต่ในใจนั้นยังคงเจ็บปวดและเศร้าสร้อยเพียงใดมีเพียงชุ่ยหลินเท่านั้นที่รู้ดี

"ข้าจะทำยังไงได้ล่ะชุ่ยหลินที่ผ่านมาข้าก็พยายามที่จะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขอย่างเต็มที่แล้ว แต่แม่และพ่อของข้าในโลกนั้นเล่าพวกท่านจะอยู่โดยไม่มีข้าได้อย่างไร"

ชุ่ยหลินมองนายหญิงคนงามของตนด้วยความสงสารเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่คุณหนูยอมเปิดใจบอกนางนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเหลือเกินแท้จริงแล้วในตอนนี้นายหญิงของนางคือบุตรสาวของท่านมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายที่มีความเชี่ยวชาญด้านอักษรและการปกครองอีกทั้งยังเป็นพระอาจารย์ของฝ่าบาท ถึงหลิวซือซือจะเป็นเพียงบุตรสาวของฮูหยินรองของจวนเสนาบดีแต่ฮูหยินใหญ่นั้นก็รักและเอ็นดูนางเป็นอย่างยิ่ง

น่าสงสารที่ตั้งแต่เกิดมามารดาก็เสียชีวิตลงทันทีทั้งได้ฝากฝังบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนเองไว้กับท่านเสนาบดีไม่ต้องการให้นางเข้าวัง หากเป็นเรื่องคู่ครองแล้วขอให้ท่านมหาเสนาบดีให้หลิวซือซือเป็นผู้ตัดสินด้วยตนเอง มหาเสนาบดีหลิวฮันรักภรรยารองผู้นี้มากอีกทั้งสงสารบุตรสาวที่อาภัพมารดาตั้งแต่เกิด

เขาจึงเฝ้าเก็บนางเอาไว้ในจวนด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงามหยดย้อยของหลิวซือซือเขากลัวว่าอาจจะต้องตาโอรสสวรรค์หรือท่านอ๋องคนใดได้ เขาไม่ต้องการให้หลิวซือซือยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองให้ลำบาก เพียงให้นางใช้ชีวิตเฉกเช่นหญิงสาวทั่วไปจึงได้เก็บบุตรีไว้ในเรือนอย่างเงียบเชียบ

เมื่อบุตรสาวโตขึ้นแม้จะซ่อนนางเพียงใดวันหนึ่งเขาก็พบว่าบุรุษที่เคยมาที่จวนของเขาเกิดพบหลิวซือซือโดยบังเอิญ หลิวซือซือที่ไร้เดียงสาของเขาได้มีใจให้คนผู้นั้นแต่ท่านเสนาบดีหลิวรู้ดีว่าเบื้องหลังบุรุษผู้นั้นโสมมเพียงใดเขาจึงหาทางที่จะขัดขวาง

ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างเขาเมื่อวันหนึ่งหลิวซือซือเกิดพลัดตกน้ำในขณะที่พายเรือเล่นในสระบัวอันกว้างใหญ่ภายในจวน นางว่ายน้ำไม่เป็นกว่าคนจะช่วยขึ้นมาได้ก็ทำให้หลิวซือซือเกือบเอาชีวิตไม่รอด

ที่น่าประหลาดคือเมื่อหญิงสาวฟื้นกลับจำสิ่งใดไม่ได้ ท่านเสนาบดีจึงได้หลบซ่อนนางจากคนภายนอกอีกครั้ง ให้คนปล่อยข่าวว่าหลังตกน้ำหลิวซือซือเกิดความจำเสื่อมอีกทั้งยังสติไม่ดีอีกทั้งนางยังทำไฟไหม้ห้องตนเองและเกิดเสียโฉมเพราะถูกไฟคลอกมาตั้งแต่นั้น ในขณะที่หลิวซือซือผู้เซื่องซึมไม่ว่าท่านพ่อของนางจะให้ทำตัวเช่นไรนางก็หาได้โวยวายอีกทั้งยังเกิดภาวะเศร้าหมองร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

เรื่องเหลวไหลพวกนี้หลิวซือซือย่อมรู้ดีว่าเป็นเพียงอุบายของบิดาและรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ได้บ้าแต่ประการใด นั่นเป็นเพราะเธอไม่ใช่คนที่นี่ ในร่างนี้เป็นเพียงวิญญาณของหลิวซือซือผู้หนึ่งที่ย้อนเวลามาด้วยอุบัติเหตุจนมาอาศัยอยู่ในร่างนี้ก็เท่านั้น

ย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้วภาพความทรงจำสุดท้ายที่ยังอยู่ในสมองของหลิวซือซือคือภาพที่รถของเธอลอยละลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วกระแทกลงมาอย่างหนักจนเธอชาไปทุกส่วนของร่างกาย เธอมองเห็นพ่อสลบไสลอยู่ข้างๆ พร้อมกับเลือดที่อาบทั่วร่าง เธอมองไปรอบรถเห็นคนขับรถถูกอัดก๊อบปี้ด้วยถุงลมนิรภัยไม่รู้เป็นหรือตายแล้วภาพต่างๆ ก็เลือนรางไปในที่สุด

เมื่อรู้สึกตัวเธอก็กลายมาเป็นคุณหนูแห่งจวนมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของราชวงศ์โจวแห่งแคว้นเหลียงไปแล้ว ไม่รู้ว่าสวรรค์กลั่นแกล้งหรืออย่างไรทำให้เธอย้อนเวลามาเป็นร้อยปีแล้วมาอยู่ในร่างของหลิวซือซือผู้หญิงที่มีชื่อและหน้าตาเหมือนกันกับเธอราวกับคนเดียวกัน

ในตอนแรกเธอไม่กล้าพูดคุยกับใครแม้แต่คนเดียว ความหวาดกลัวเข้าครอบงำจิตใจ ทุกอย่างที่กระทำเหมือนหุ่นยนต์ไม่มีชีวิตชีวาจนคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หลายครั้ง ท่านมหาเสนาบดีมีหน้าตาคล้ายคลึงกับบิดาของเธอช่วยดึงสติเธอมาได้ เธอตัดสินใจลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งในดินแดนที่เธอไม่คุ้นเคยเลยแม้แต่นิดเดียว

เธอต้องแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม เรียนรู้ที่จะอยู่ที่นี่เหมือนเด็กผู้หนึ่งในใจยังหวังอยู่ตลอดเวลาว่าจะสามารถกลับไปหาแม่และพ่อของเธอได้ แม้ไม่รู้ว่าจะต้องกลับไปด้วยวิธีใดก็ตาม

หลิวซือซือหยิบกระจกที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเพ่งพิศหน้าของตนเองภายใต้แสงเทียน แสงตะเกียงรำไรไม่สว่างมากนักแต่เธอก็ยังมองเห็นใบหน้าของตนเองได้อย่างชัดเจน

นิ้วเรียวขาวผ่องลูบไล้ใบหน้าด้านซ้ายที่งดงามไร้ไฝฝ้าราคีอันใด ส่วนด้านขวามีรอยแผลเป็นเล็กๆ เต็มใบหน้าคล้ายรอยแผลไฟไหม้กระจายทั่วพวงแก้ม

รอยแผลนี้ได้มาจากอุบายของบิดาเสนาบดี เขาสั่งช่างทำหน้ากากฝีมือดีจากต่างแคว้นทำหน้ากากแผลเป็นนี้มาให้เธอโดยเฉพาะ

ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่าหลิวซือซือมีใบหน้าที่งดงามผุดผ่องราวกับเทพเซียน

ใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มจิ้มลิ้มสีแดงสดเย้ายวนโดยธรรมชาติ ดวงตากลมโตสะท้อนออกมาถึงความหยาดเยิ้มชวนหลงใหลขนตายาวงอนราวกับปีกผีเสื้อ

หลิวซือซือรู้สึกมีความสุขที่บิดาทำเช่นนี้ การใช้ชีวิตเป็นภรรยาในโลกโบราณแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยไหนจะต้องทนช้ำใจเพราะสามีสามารถมีภรรยากี่คนก็ได้ตามต้องการอีกทั้งสังคมศักดินาก็กดขี่ข่มเหงสตรียิ่งนัก เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่หลิวซือซือไม่อาจทนได้

"คุณหนูเจ้าคะ ดื่มเสียหน่อยนะอย่าเศร้าไปเลยเจ้าค่ะ"

หลิวซือซือยิ้มให้ชุ่ยหลิน บ่าวผู้นี้จงรักภักดีกับเธอเป็นอย่างยิ่งแม้เธอจะโวยวายหรือจะเล่าเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้ชุ่ยหลินฟัง

สาวรับใช้คนนี้ก็ตั้งใจไฟโดยไม่เคยกล่าวหาว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วเลยสักครั้ง

ชุ่ยหลินเป็นเด็กสาวซื่อๆ คนหนึ่งเติบโตในจวนอีกทั้งยังมีอายุน้อยกว่าหลิวซือซือเพียงปีเดียว

หลิวซือซือคนเก่าสอนให้ชุ่ยหลินอ่านเขียนรักนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง

ส่วนชุ่ยหลินนั้นเป็นเด็กกำพร้าเติบโตขึ้นมาก็มีเพียงแต่คุณหนูเท่านั้น

นางจึงยอมรับหลิวซือซือในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่ข้างในร่างคุณหนูชุ่ยหลินก็พร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ กางปีกปกป้องนางจนหลิวซือซือรู้สึกอบอุ่นใจและกล้าที่จะบอกเล่าความในใจที่ตนเองแสนจะอึดอัดให้ชุ่ยหลินฟัง

หลิวซือซือยกชามาดื่มจนหมดจอก ชุ่ยหลินยิ้มและรินชาให้หลิวซือซืออีกจอกรสชาติของชาดีเป็นอย่างยิ่งแต่หลิวซือซือยิ่งกินยิ่งรู้สึกกระหายน้ำและเกิดอาการคอแห้งขึ้นมา

"ชุ่ยหลินมีน้ำเปล่าหรือเปล่า"

"มีเจ้าค่ะแต่น้ำเย็นมากแล้วคุณหนูสุขภาพไม่ดีดื่มน้ำอุ่นหน่อยดีหรือไม่บ่าวจะไปนำมาให้"

"ดีสิ"

ชุ่ยหลินจึงรีบออกไปเพื่อนำน้ำมาให้คุณหนูของตนเอง หลิวซือซือรินน้ำชาให้ตนเองอีกหลายจอกรู้สึกว่ายิ่งกินยิ่งกระหายน้ำมากขึ้น

นางคิดว่าชาชนิดนี้อาจมีสิ่งใดผิดปกติไม่นานก็รู้สึกรุ่มร้อนเป็นอย่างยิ่งลมเย็นพัดโชยเข้ามาทางหน้าต่าง หลิวซือซือหยิบผ้าคลุมหน้าและเสื้อคลุมของตนเองคิดจะออกไปเดินเล่นเสียหน่อย

หญิงสาวเดินออกไปนอกห้องพักหลิวซือซือมองอย่างแปลกใจที่ไม่เห็นองครักษ์หน้าห้องของตนเอง คิดว่าพวกเขาอาจไปกินข้าวหรือทำธุระอย่างอื่นถึงจะรู้สึกอยู่บ้างว่าผิดปกติก็ไม่ทันคิดว่าตนเองจะเป็นอันตรายอันใด

หลิวซือซือเดินตามทางเดินของโรงเตี๊ยมมาเรื่อยๆ เป็นเพราะความปลอดภัยของเธอองครักษ์หลงจึงได้เหมาทั้งชั้นสามที่เป็นชั้นสูงสุดของโรงเตี๊ยมให้เธอและองครักษ์

โรงเตี๊ยมแห่งนี้นับว่ากว้างขวางไม่น้อยหลิวซือซือเดินไปรอบ ๆ ลมพัดเย็นโชยกลิ่นดอกเหมยมาหากในยามปกติหลิวซือซือต้องรู้สึกหนาวสั่นแล้ว แต่ในตอนนี้หญิงสาวกลับรู้สึกว่าตนเองร้อนยิ่งกว่าเดิม

"หรือชาจะมีสิ่งใดผิดปกติ"

หลิวซือซือเดินมาเรื่อย ๆ ทางเดินสว่างไปด้วยโคมที่ห้อยเป็นแพต่อกัน หญิงสาวรู้สึกมึนศีรษะคล้ายคนที่กำลังเมาสุรา

ร่างกายของเธอมีสีแดงขึ้นเรื่อย ๆ เธอรู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายของตนเองสูงขึ้นเธอกำลังตัวร้อน

หลิวซือซือจึงคิดกลับเข้าห้องเดินวนกลับมาทางเดิมในตอนนี้เห็นองครักษ์อยู่หน้าห้องแล้ว

หญิงสาวจึงเร่งฝีเท้าเดินไปยังห้องของตนเองเมื่อหยุดอยู่หน้าห้องกลับถูกทหารสองนายขวางทางเอาไว้

หลิวซือซือสะลึมสะลือมองหน้าพวกเขาไม่ชัดคล้ายตนเองกำลังตกอยู่ในความฝัน เธอคิดว่าตนเองได้ก้าวเข้ามาในห้องแล้วทั้ง ๆ ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู

หลิวซือซือถอดเสื้อคลุมออกโดยไม่รู้ตัวในขณะที่เธอกำลังจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองเพราะรู้สึกร้อนราวกับมีบางอย่างลวกผิวพลันถูกมือเรียวของคนผู้หนึ่งลากเข้าไปในห้อง

เธอมองหน้าคนผู้นั้นไม่ชัดนักคิดในใจว่าอาจเป็นชุ่ยหลินนั่นคือความรู้สึกสุดท้ายที่ตนเองรับรู้ว่าตนเองคือใคร

เมื่อไร้ซึ่งสติหลิวซือซือก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกตั้งแต่หน้าประตู เธอถอดออกทีละชิ้นอีกทั้งแข้งขาก็รู้สึกอ่อนจนแทบจะล้มสุดท้ายหลิวซือซือก็ได้แต่คลานเข่าค่อย ๆ ขยับร่างกายที่ร้อนรุ่มของตนเองไปที่เตียงก่อนที่เธอจะสิ้นสติอยู่ตรงนี้

ในที่สุดหญิงสาวก็แบกร่างที่หนักอึ้งรุ่มร้อนของตนเองขึ้นนอนบนเตียงสำเร็จ ร่างกายเหมือนขาดอะไรบางอย่างหิวโหยในสิ่งที่ไม่รู้ว่าคืออะไรปากและลำคอแห้งผาก

หลิวซือซือบิดร่างไปมามือปะป่ายตามเนื้อตัวตนเองไปมาอย่างทุรนทุรายเพื่อคลายอาการร้อนรุ่มที่เริ่มจู่โจมเธอหนักขึ้น

สมองของหลิวซือซือมึนงง รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอีกทั้งยังกระหายน้ำเป็นอย่างยิ่ง ลำคอแห้งผากจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนเอง

ร่างเปล่าเปลือยนอนอยู่บนเตียง ส่งเสียงครางออกมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดที่สำคัญทุกครั้งที่มือของเธอสัมผัสเนื้อตัวของตนเองกลับรู้สึกดีขึ้น อีกทั้งผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

หญิงสาวกำลังบีบเคล้นเต้านมอวบใหญ่ของตนเองเล่นอีกทั้งยังเสียดสีส่วนของความเป็นหญิงเข้ากับหมอนข้าง นั่นทำให้เธอรู้สึกสบายจนต้องครางออกมา

ภายในห้องนี้หลิวซือซือหารู้ไม่ว่าไม่ได้มีเพียงนางที่อยู่ลำพังอีกต่อไปแล้ว กลับมีบุรุษรูปร่างสูงองอาจใบหน้าหล่อเหลาในอาภรณ์สีดำผู้หนึ่ง กำลังนั่งจิบสุรามองเธอราวกับเป็นอาหารมื้อค่ำที่แสนโอชะ

สตรีผู้นั้นที่เปลื้องอาภรณ์ต่อหน้าเขาอีกทั้งยังเล่นกับตนเองส่งเสียงครางยั่วยวนให้เขาเข้าหาอย่างไร้ยางอายผู้นั้นแทบทำให้เขาสำลักสุราออกมา

เขาลูบมังกรยักษ์แข็งแรงใหญ่โตของตนเอง มันตั้งชันจนแทบจะปริแตกสตรีร่างอรชรเอวคอดกิ่วผู้นั้นช่างแสนยั่วยวน

โจวเจ๋อฮั่นยอมรับว่าตกตะลึงไม่น้อยที่เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของนาง

แต่เหตุไม่รู้นางจึงได้ดึงดูดใจเขาได้เพียงนี้

นางที่กำลังอ้าขาบดกลีบอวบอูมของตนเองกับหมอนข้างกำลังหลอกล่อให้เขาบดเบียดมังกรอันแข็งแกร่งกระแทกร่างของนางเช่นนั้นหรือ

สตรีร่านสวาทแห่งหอโคมเขียมผู้นี้ช่างน่าอร่อยเป็นอย่างยิ่ง

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY