เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
อวิ๋นชูจิ่วตื่นขึ้นอย่างมึน ๆ เธอรู้สึกหนักหัว และไร้เรี่ยวแรงไปหมด แต่ที่ทำให้เธอประหลาดใจคือเธอกำลังอยู่ในชุดเจ้าสาว!
บอดี้การ์ดหลายคนคอยกรูกันเข้ามา คุมตัวเธอขึ้นไปในรถลีมูซีนคันหนึ่ง
“พวกนายจะทำอะไรน่ะ? ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ!” เธอแทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าเธอ
เธอแค่ต้องการทวงทรัพย์สมบัติของมารดาคืน เธอเลยกลับไปที่บ้านตระกูลอวิ๋น แล้วพ่อของเธอก็ชวนให้เธออยู่ทานข่าวด้วย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น
บอดี้การ์ดคนหนึ่งกดหัวเธอให้เข้าไปนั่งในรถ อย่างไม่ปราณี
“รีบขึ้นรถ นี่เป็นคำสั่งของนายท่าน!” เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้น
นี่มันอะไร? คำสั่งของพ่อ งั้นเหรอ?
สิ่งที่ได้ยินทำให้ชูจิ่วรู้สึกตกใจ เธอพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
สองชั่วโมงก่อนหน้านี้เธอได้รับสายจากอวิ๋นเจิ้นถิงพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ พ่อบอกกับเธอว่าเขาพบของมีค่าบางอย่างของเจียงจื่อหลานแม่ของเธอ ถูกเก็บไว้อยู่ที่ห้องใต้หลังคา แล้วถามเธอว่าเธออยากกลับมาเอาไหม?
เธอย้ายออกมาจากบ้านตระกูลอวิ๋น ตั้งแต่ตอนอายุสิบเจ็ด และไม่คิดจะกลับไปเหยีบที่นั่นอีก วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของแม่ เธอคงจะไม่กลับมาที่นี่แน่นอน
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เจิ้นถิงก็เรียกให้เธออยู่ทานข้าวด้วย เธอรู้สึกตะงิดตะงิดใจ จึงดื่มน้ำผลไม้เข้าไปแค่แก้วเดียว แต่ทันทีที่เธอดื่มน้ำผลไม้เข้าไปไม่นานเธอก็สลบไป และเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เห็นนี่
แม้ว่าชูจิ่วจะยังคงไร้เรี่ยวแรงอยู่ แต่เธอได้ฝึกวิชาการป้องกันตัวมาเป็นเวลาหลายปี เธอจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องถูกจับไปง่าย ๆ แบบนี้แน่!
“ไม่ฉันไม่ไป!” เธอเอาไหล่กันประตูรถไว้ แล้วพยายามต่อต้าน “นี่มันเรื่องอะไรกัน? เรียกพ่อมาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
สิ้นคำของเธอ น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความรู้สึกผิดของเจิ้นถิงก็ดังขึ้น
“ชูจิ่ว ยอมขึ้นรถไปดี ๆ เถอะนะ พ่อไม่มีทางเลือกจริง ๆ ถ้าพ่อมีทางเลือก พ่อคงไม่ทำอย่างนี้...... ฟังพ่อนะ ขึ้นรถเถอะ งานแต่งเถอะนะ”
เธอเงยหน้าขึ้นไปที่ต้นต่อของเสียง แล้วมองไปที่เจิ้นถิง กับหลินเสวยพิงแม่เลี้ยงของเธอ และอวิ๋นชูเสี่ยวน้องสาวคนละแม่ของเธอ เธอหันไปจ้องตาพวกเขา
หัวหน้าครอบครับผู้เคยเย่อหยิ่ง และถือตัว กำลังรู้สึกละอายใจจนไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเธอ
“จะพูดอะไรกับเธอนักหนา? อุตสาห์เลี้ยงเธอมาโตขนาดนี้ ตอนนี้บริษัท อวิ๋นซือ กรุ๊ป กำลังลำบาก เธอก็ควรจะตอบแทนก็ถูกแล้วนี่” เสวยพิงก้าวไปข้างหน้า และมองไปที่ชูจิ่วอย่างรเยียด ๆ “ชูจิ่ว เธออย่าหาว่า แม่เลี้ยงอย่างฉันใจร้ายกับเธอเลยนะ ฉันรับรองเลยว่า เมื่อเธอแต่งงานเข้าบ้านตระกูลฮั่วแล้ว เธอจะสุขสบายมีกินมีใช้ไปตลอดชาติ และฉันมั่นใจว่า วิญญาณของแม่เธอ จะต้องยินดีกับการแต่งงานของเธอในครั้งนี้แน่”
เมื่อเสวยพิงจงใจพูดถึงแม่เธอ ชูจิ่วก็หันไปจ้องเสวยพิงตาเขม็ง
“การแต่งงานของฉัน เมียน้อยอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจ!”
“นี่เธอ!” เสวยพิงโกรธจนหน้าดำหน้าแดง แต่ชั่วพริบตาเธอก็ปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ พร้อมยิ้มออกมา “จริงสิ เมียน้อยอย่างฉัน จะไปยุ่งเรื่องของคุณหนูผู้สูงส่งอย่างคุณได้ยังไง? แต่ตอนนี้บริษัท อวิ๋นซือ กรุ๊ป ของเรากำลังเผชิญกับภาวะวิกฤติ และตระกูลฮั่ว ก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือเรา ถ้าตระกูลอวิ๋นยอมที่จะแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันกับตระกูลฮั่ว”
เสวยพิงค้อมตัวลง พร้อมกับจับหัวของชูจิ่วให้เข้ามาใกล้ ๆ “ในฐานะที่เธอเป็นลูกสาวคนโต และบริษัท อวิ๋นซือ กรุ๊ป กำลังมีปัญหา จึงเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือก็ถูกต้องแล้ว!”
“อ่อ จะให้เรียกว่า เป็นการเสียสละก็ไม่ถูกต้องสักเท่าไรนะ เพราะว่า ตระกูลฮั่วเป็นตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองไห่ มีผู้คนมากมายอยากแต่งงานเข้าตระกูลนี้ แต่ก็ไม่ได้รับเลือก”
เมื่อได้ฟังคำกล่าวที่น่าขันของแม่เลี้ยงเธอ ชูจิ่วก็หัวเราะออกมาอย่างสมเพช “ถ้าตระกูลตระกูลฮั่วดีอย่างที่ว่าจริง แล้วทำไมเธอไม่ให้ลูกสาวของเธอแต่งเองซะเลยล่ะ?”
“นี่พี่ พี่เข้าใจคุณแม่ผิดแล้ว”
น้องสาวต่างมารดาของเธออวิ๋นชูเสี่ยวกล่าวออกมาอย่างมีจริต “ตอนแรกคุณแม่ก็จะให้ฉันแต่งเอง แต่คุณพ่อได้ยินว่าฉันต้องแต่งงานกับคุณฮั่วจิ่งเฉิน ซึ่งทุกคนต่างก็รู้ดีว่าก่อนหน้านี้เขาประสบอุบัติเหตุรุนแรง อีกไม่นานน่าจะตาย ฉันจะไปแต่งงานกับคนที่นอนเป็นผักรอความตายอยู่แบบนั้นได้ยังไงกัน? คุณพ่อทนดูไม่ไหวที่จะเห็นฉันไปแต่งงานกับคนอย่างนั้น คุณพ่อก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา”
ชูแสร้งบีบน้ำตาทำตัวหน้าสงสาร “พี่ อย่าโทษคุณพ่อเลยนะคะ ถ้าพี่อยากจะโทษ ก็โทษฉันเถอะ”
หัวใจของชูจิ่วด้านชาไปหมด เธอทั้งโกรธ และผิดหวัง เธอหันไปมองหน้าพ่อของเธอด้วยสายตาที่ตัดพ้อ
‘ฉันก็เป็นลูกสาวเขาเหมือนกัน แต่เขากับใช้วิธีสกปรกมาทำแบบนี้กับฉัน ?! นี่คือพ่อที่แสนดีของฉันงั้นเหรอ!’
เจิ้นถิงยังคงไม่กล้าหันมาสบตากับชูจิ่ว ทำให้เสวยพิงใช้โอกาสนี้กดหัวชูจิ่วแล้วผลักให้เธอขึ้นรถไป ถึงแม้ชูจิ่ว ต้องการจะขัดขืน แต่เธอก็ไม่สามารถเอาชนะแรงของเหล่าบอดี้การ์าดได้
เมื่อรถกำลังจะออก ชูเสี่ยวเดินเข้ามา มุมขอบตาของเธอยังคงมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ แต่ใบหน้าของเธอกลับเต็มไปด้วยความกระยิ่มยิ้มย่องราวกับผู้ชนะ
“เอ่อนี่ ฉันลืมบอกอะไรกับพี่ไปน่ะ”
ชูเสี่ยวลดเสียงให้เบาลง มีเพียงเธอสองคนเท่านั้นที่ได้ยินมัน
“พ่อแค่ใส่ยานอนหลับลงในแก้วน้ำผลไม้ แต่ฉันใส่ยาปลุกเซ็กส์ลงไปให้พี่ด้วยนะ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของน้องสาวต่างมารดาของเธอนั้นปรากฏชัดขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “วันนี้เป็นวันมงคลของพี่ ในฐานะน้องสาวฉันก็เลยอยากจะมอบของขวัญให้พี่เพื่อแสดงความยินดีน่ะค่ะ”
ชูจิ่วโกรธจัดจนแทบจะอยากเข้าไปกระชากหัวชูเสี่ยวลงมา แต่ก็ทำไม่ได้
“รอรับความสนุกเถอะค่ะ ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะคะ”
ชูเสี่ยวยิ้มออกมา แล้วส่งสัญญานให้คนขับรถออกรถขับออกไป
รถถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว ชูจิ่วที่นั่งอยู่ในรถ ถูกขนาบข้างไปด้วยเหล่าบอดี้การ์ดร่างยักษ์ ดวงตาของเธอเบิกโพลงด้วยไฟแห่งความอาฆาตแค้น!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้