ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / มหาเศรษฐี / เสน่หายาตรา (เมียประมูลของท่านประธาน)
เสน่หายาตรา (เมียประมูลของท่านประธาน)

เสน่หายาตรา (เมียประมูลของท่านประธาน)

5.0
114 บท
73.2K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เมื่อรักเข้ามาเคาะประตูหัวใจหนุ่มหล่อเจ้าของสายการบินคนดังให้มันรุ่มร้อนจนทนไม่ไหว เขายอมจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อให้ได้ตัวเธอมา สาวใสไร้เดียงสากลับหวาดผวาเมื่อเจอความต้องการแบบชายหญิงเข้า ชายหนุ่มจึงต้องหยุดตัวเองแล้วค่อยๆ เริ่มบทเรียนสอนรัก ที่ทั้งหวานและเร่าร้อนมากขึ้นตามลำดับ เธอกำลังจะตาย... ปัทมณฑ์บอกตัวเองในความพร่างพร่า ความรัญจวนที่เขามอบให้มันมากมายจนทรมานไปหมด เรือนกายสาวในวัยแรกสวยบิดเร้า บางครั้งดิ้นรน สองมือเรียวสอดแทรกเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวแค่ครึ่งนิ้ว เผลอกอบกำดึงทึ้งไปก็หลายหนเพื่อระบายอารมณ์หวาม เธอทรมานเหมือนจะตาย แต่ถ้าเขาหยุดเธอคงเหมือนตายทั้งเป็น อารมณ์ลึกถูกปลุกขึ้นโดยชายหนุ่ม และมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะหยุดมันลงได้ “พี่ไรอัน...ลูกปัด...ทนไม่ไหว” “ต้องได้สิคนเก่ง...พี่บอกแล้ว ถึงเธอจะร้องลั่นจนบ้านแตกพี่ก็ไม่มีทางหยุดอีกต่อไป ปัทมณฑ์...” ไรอันตอบเสียงขาดห้วงไม่แพ้กัน และแทนการหยุดหรือผ่อนปรน มือหนากลับยิ่งเคล้าคลึงร่างบางหนักหน่วงมากขึ้น

บทที่ 1 Chapter 1

ปีพุทธศักราช 2537

ภายในบริเวณลานโล่งกว้างของวัดใหญ่ประจำจังหวัดอึกทึกเลื่อนลั่นจากเสียงเครื่องขยายเสียง ในวันหยุดสงกรานต์ที่ถือเป็นวันปีใหม่ของไทย ได้มีการจัดงานทำบุญอันเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านาน โดยช่วงเช้านั้นจะเป็นการทำบุญเลี้ยงพระ และในช่วงเย็นแบบนี้ที่ขาดไม่ได้คือมหรสพสมโภช ที่มีทั้งวงดนตรี เครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ ชิงช้าสวรรค์ และการละเล่น การแสดงโชว์ต่างๆ มากมาย ทำให้หน้าลานกว้างของวัดแคบไปถนัด เมื่อมีร้านรวงเล็กๆ น้อยๆ ขายของกินของใช้ และของเด็กเล่น รวมถึงพวกเกมต่างๆ ตั้งแผงแน่นขนัด ผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมไม่ขาดสาย ผู้ใหญ่ต่างหอบลูกจูงหลานเข้ามาเที่ยว หนุ่มสาวต่างจูงมือจูงไม้พากันลัดเลาะไปตามซุ้มตามร้านรวง บ้างก็ก่อปราสาททรายกลายเป็นภาพน่ารักน่าเอ็นดู

นายตำรวจหนุ่มยศพันโท พาภรรยา ลูกชายวัยแปดขวบ และลูกสาววัยสองขวบเข้ามาเที่ยวงานในค่ำคืนนี้ด้วย

“คนเยอะมากเลยนะคะพี่” พรพรรณ ภรรยาสาววัยยี่สิบห้าพูดกับสามียิ้มๆ

“อืม ปีนี้บ้านเราจัดงานใหญ่ผู้คนจากจังหวัดใกล้เคียงก็มาเที่ยวกันเยอะจ้ะพรรณ แล้วที่นี่ก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ คนเลยมาเยอะ พี่ว่าเราพาตาพันกับยายหนูพลอยไปตรงโน้นดีกว่านะ ตรงนี้คนเยอะมาก ว่าไงครับพิมพ์พลอย ไปนั่งชิงช้าสวรรค์กันไหมลูก โน้น...สูงๆ โน่นแน่ะ เห็นมั้ยลูก พันล่ะอยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ไหม” อุทิศชี้ชวนลูกสาวตัวน้อยให้ดูชิงช้าวงใหญ่ที่กำลังหมุนเป็นวงกลม แล้วหันไปถามลูกชาย

หนูน้อยพิมพ์พลอยดูท่าว่าจะตื่นเต้นมาก ร้องเสียงดังพลางฉุดมือพ่อและแม่ให้ตรงไปที่เครื่องเล่นที่หมายตาเอาไว้

“พ่อ...เล่น...เล่น”

แต่พันศึกกลับส่ายหน้า...

“ผมอยากยิงปืนครับพ่อ แต่เราพาน้องพลอยไปขึ้นชิงช้าก่อนก็ได้ครับ”

“เอางั้นก็เอา ดูสิน้องสาวเราดึงมือแม่ใหญ่แล้ว” อุทิศลูบผมลูกสาวตัวน้อยพูดยิ้มๆ

“เบาๆ จ้ะยายหนู ดูสิคะคุณ ลูกอยากจะเล่นใหญ่เลย” พรพรรณพูดยิ้มๆ เมื่อเจ้าตัวเล็กดึงรั้งทั้งเธอและเขายกใหญ่ปากก็ร้องลั่นจะเล่นท่าเดียว

นายตำรวจหนุ่มยิ้มกว้าง คว้าเอาลูกสาวตัวน้อยมาอุ้ม ฝ่ายภรรยาจูงมือลูกชายคนเก่ง

“งั้นไปกันเลย ไปครับคุณ ไปลูก...ตาพัน”

สี่คนพ่อแม่ลูกตรงไปยังชิงช้าสวรรค์ซึ่งอยู่อีกด้านของงานซึ่งมีคนต่อคิวซื้อตั๋วกันหนาแน่น ทั้งผู้ใหญ่ ลูกเล็กเด็กแดง และบรรดาหนุ่มสาวที่เกี่ยวก้อยกันเข้ามาเที่ยวในงาน

ขณะที่ยืนรอ อุทิศก็วางลูกสาวตัวน้อยลงให้อยู่กับผู้เป็นภรรยาเพื่อที่ว่าตนเองจะได้ไปเข้าแถวต่อคิวซื้อตั๋ว เสียงประกาศจากซุ้มต่างๆ ดังแข่งกันทั้งตะโกนด้วยปากและตะโกนผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กแบบโทรโข่ง เรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินไปมารวมทั้งพรพรรณด้วย อีกทั้งลูกชายก็ชี้ไปทางที่เขายิงปืนกันให้เธอดู เพียงชั่ววินาทีที่เธอหันไปมอง มือเล็กๆ ของลูกสาวก็หลุดออกไปจากการจับกุม เพราะเด็กน้อยมองเห็นขนมสีสันอ่อนๆ ฟองฟูของสายไหมดึงดูดล่อใจให้เดินไปหา ลืมพ่อและแม่ไปชั่วขณะ

ปัง ปัง ปัง!!!!

เสียงวี้ดว้าย เสียงร้องไห้ระงมดังเซ็งแซ่ขึ้นเมื่อสิ้นเสียงกัมปนาท ความชุลมุนโกลาหลเกิดขึ้น ณ เวลานั้นเอง เมื่อมีอันธพาลไล่ทำร้ายคู่อริวิ่งเข้ามาในบริเวณวัด

“คุณคะ”

พรพรรณคว้าลูกชายมากอด ผวาเข้าคว้าแขนสามี หน้าตาตื่นตกใจสุดขีด ต่างคนต่างหลบกันจ้าละหวั่น เกรงจะได้รับลูกหลงจากเสียงปืนนั้น

“เป็นอะไรรึเปล่าพร ลูกพัน แล้วยายพลอยล่ะ!” นายตำรวจหนุ่มหน้าตื่นบ้างเมื่อมองไม่เห็นร่างน้อยๆ ของบุตรสาว

“ยายพลอย...”

“น้องพลอย...”

พรพรรณกรีดร้องบ้างเมื่อนึกขึ้นมาได้ แต่ก็ช้าเกินไปเสียแล้ว เมื่อคลื่นมหาชนมากมายหลั่งไหลกันมาทางพวกเธอแล้วผลักดันให้ต้องถอยออกห่างจากบริเวณนั้น

อุทิศพยายามชะเง้อหาลูกสาวด้วยความเป็นห่วง หัวใจของพ่อและแม่แทบแตกสลายเมื่อมองไม่เห็นลูก ผู้คนที่เบียดเสียดกันเข้ามาบังร่างน้อยๆ ที่ร้องจ้าเพราะความหวาดกลัวตกใจจนหมดสิ้น พอๆ กับที่หนูน้อยถูกดันจนแยกไปอีกทาง แยกห่างจากพ่อและแม่ออกไป

เมื่อสิ้นเสียงปืน เหล่าผู้รักษากฎหมายและผู้ที่มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยเข้ามาไล่ล่าผู้ก่อความไม่สงบ ทั่วบริเวณวัดก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้งราวกับว่าไม่เคยมีเหตุระทึกเกิดขึ้น อุทิศกับพรพรรณกับลูกชายตัวน้อยรีบเร่งเดินตามหาลูกสาวไปทั่วทั้งงานด้วยความรักและเป็นห่วงสุดหัวใจ

ณ มุมเล็กๆ ด้านหนึ่งเลยออกไปจากบริเวณงาน เด็กน้อยร้องจ้าหาพ่อและแม่ เรียกความสนใจจากชายฉกรรจ์สองคนที่กำลังผ่านมาทางนี้พอดี

“เด็กที่ไหนวะ” มันทั้งสองคนมองหน้ากัน ปรี่เข้าไปหา

“ร้องไห้ทำไมจ๊ะหนูน้อย พ่อแม่หนูไปไหน”

“จะหาพ่อ จะหาแม่” หนูน้อยพิมพ์พลอยร้องลั่น ควบกันการสะอึกสะอื้นร่ำไห้

ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากัน รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏบนมุมปากของมันทั้งสอง

“ท่าจะเด็กหลงว่ะลูกพี่”

“เออ นั่นสิวะสงสัยจะลูกคนมีเงิน ผิวพรรณดีแบบนี้”

“แบบนี้ แม่เลี้ยงท่าจะชอบพี่ว่าไหม”

ชายทั้งสองกระซิบกระซาบคุยกันเบาๆ พวกมันมองซ้ายมองขวาดูว่าไม่มีใครผ่านมาทางนี้ แล้วไอ้คนที่ถูกเรียกว่าลูกพี่จึงขยับเข้าไปหาหนูน้อยอีกครั้ง

“หลงกับพ่อแม่เหรอ เอางี้มากับลุงดีกว่า เดี๋ยวลุงจะพาไปหาแม่นะ”

“หาแม่...หาแม่...”

เด็กน้อยวัยสองขวบจับมือที่ยื่นมาตรงหน้าอย่างว่าง่าย รู้แต่ว่าลุงใจดีคนนี้จะพาไปหาพ่อกับแม่ ด้วยความขาวบริสุทธิ์ไม่ได้รู้เลยว่าโลกใบนี้ยังมีอันตรายเกินกว่าที่เด็กวัยสองขวบเศษจะรับมือได้

“ใช่ๆ เดี๋ยวจะพาไปหาแม่ พี่เห็นแม่หนูอยู่ตรงโน้นแน่ะ” เจ้าคนเป็นลูกน้องบอกพลางยิ้มให้ แถมมันยังใจดีแวะซื้อน้ำและขนมจากร้านที่ขายอยู่ห่างๆ จากงานให้อีกด้วย

สองเสือร้ายหันมองหน้ากันแล้วยิ้ม ไม่คิดว่าแค่แวะมาเที่ยวงานซึ่งเป็นทางผ่านการมาทำงานบางชิ้นจะทำให้พวกมันได้ส้มหล่นติดไม้ติดมือกลับไปด้วย

อนิจจาเด็กน้อยผู้ใสสะอาดหารู้ไม่ว่าเส้นทางชีวิตของตนเองกำลังก้าวเข้าสู่มุมมืดเข้าไปทุกทีๆ

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY