แต่งงานกับมู่หนานจือมาเป็นเวลาสามปี ซูป้านเซี่ยคอยดูแลและเอาใจเขามาโดยตลอด แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับจากเขาคือความเย็นชาและความรังเกียจ เมื่อคนรักของมู่หนานจือกลับมา เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอยิ่งห่างเหินจากเธอ ในที่สุด เธอไม่สามารถทนต่ออีกต่อไปและเป็นฝ่ายเสนอให้หย่ากัน มู่หนานจือมองตามหลังซูป้านเซี่ยที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้าน ก็พนันกับเพื่อนว่า "ดูเอาเถอะ สักวันหนึ่งเธอจะต้องเสียใจและกลับมาอ้อนวอนแน่ ๆ " ซูป้านเซี่ยได้ยินก็ยิ้มอย่างเย็นชา"มู่หนานจือ ฝันไปเถอะ" ผ่านไปหลายวัน มู่หนานจือบังเอิญพบว่าอดีตภรรยาของตนฉลองการหย่าร้างในบาร์ และจากนี้ไปอีกไม่นาน เธอก็มีแฟนหนุ่มใหม่แล้วด้วย เวลานี้เอง มู่หนานจือถึงเริ่มกระวนกระวายใจขึ้นมา เพราะเขาพบว่าผู้หญิงที่เคยรักเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั้น ตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว แล้วเขาควรจะทำอย่างไร
ด้านนอกของหน้าต่าง กำลังมีแสงฟ้าแลบ และเสียงฟ้าร้อง ฝนได้ตกมาแล้วทั้งวัน
ณ เมืองหนาน บ้านตระกูลมู่ ซูป้านเซี่ยนอนม้วนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ถึงกระนั่นเธอก็ยังสั่นเทาไปทั้งตัว
เธอกลัวค่ำคืนที่มีฝนตกฟ้าร้องอย่างนี้มาตั้งแต่เด็ก ราวกับมีมือขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนดึงเธอลงสู่หลุมดำที่มืดมิด
ซูป้านเซี่ยกัดริมฝีปากล่างของเธอไว้แน่น แม้ว่าร่างกายของเธอจะเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แต่เธอก็ไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ ออกมา
“แกร๊ก”...
ประตูห้องนอนถูกผลักเปิดออก เสียงรองเท้าหนังที่ย่ำกับพื้นไม้ดังก้องอยู่ในโซนประสาทของซูป้านเซี่ย
หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับเสียงกลอง เธอพยายามกลั้นลมหายใจเอาไว้ ในหัวมีภาพที่น่าสยองมากมายผุดขึ้นมาเต็มหัว
บ้านหลังใหญ่หลังนี้มีเธออยู่เพียงคนเดียว เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน คนใช้และผู้ดูแลบ้านจะพักอยู่ที่เรือนอีกหลัง ทางด้านหลัง
มือใหญ่คู่หนึ่งดึงผ้าห่มออก ซูป้านเซี่ยที่อยู่ใต้ผ้าห่มนั้นตัวสั่นเทา
“อย่า……”
หลังจากเสียงกรีดร้อง ผ้าห่มก็ถูกดึงออกไปอย่างไร้ความปราณี ปรากฏให้เห็นใบหน้าหล่อ ๆ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าเธอ
“คุณเองเหรอ?” ซูป้านเซี่ยมองผู้ชายที่อยู่เหนือเธอ เธอตกใจจนหายใจหายคอไม่ออก สักพักเธอก็ได้สติขึ้นมา
“แล้วเธอคิดว่าเป็นใครล่ะ?” มู่หนานจือดึงแขนตัวเองออกจากมือของเธอ ก่อนจะเดินไปที่เตียง แล้วปลดกระดุมเสื้อออก นิ้วเรียว ๆ ของเขาค่อย ๆ ปลดกระดุมออกทีละเม็ด ๆ เผยให้เห็นลูกกระเดือก และกล้ามเป็นมัด ๆ ของเขา
ซูป้านเซี่ยถึงกับหน้าแดงระเรื่อ เธอรู้สึกประหม่าจึงเบือนหน้าหนี
“ทำไม ยังอายอยู่เหรอ?” มู่หนานจือมองหญิงสาวที่สวมแค่ชุดนอนผ้าไหมสายเดี่ยวบาง ๆ เพราะความกลัวเมื่อครู่ สายของชุดข้างหนึ่งเลยหลุดออกจากบ่าของเธอ ชายกระโปรงถูกม้วนขึ้นไปถึงต้นขา เผยให้เห็นผิวขาวเนียนท่ามกลางแสงไฟสลัว ๆ
มู่หนานจือกลืนน้ำลายลงคอ ช่วงล่างของเขาคับแน่นขึ้นมาทันที
ทั้งคู่แต่งงานกันมาสามปีแล้ว เรื่องบนเตียงนั้นไม่เคยขาด พอซูป้านเซี่ยเห็นท่าทางของมู่หนานจือ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“รีบไปอาบน้ำเถอะ” ซูป้านเซี่ยลุกออกจากเตียง แล้วหยิบชุดนอนของมู่หนานจือออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วผลักเขาเข้าไปในห้องน้ำ
พอได้ยินเสียงน้ำดังออกมาจากห้องน้ำ และคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ ตาของซูป้านเซี่ยก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
สามปีแล้วที่ซูป้านเซี่ยรับบทเป็นคุณนายมู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เธอนั้นเป็นแค่ที่ระบายความใคร่ของมู่หนานจือในยามค่ำคืนเท่านั้น
ทุกครั้งเขาจะเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่กระหายเลือด เขาจะทรมานเธอจนเธอหมดแรง
ขณะที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ประตูห้องน้ำก็เปิดออก หนานจือพันผ้าเช็ดตัวไว้รอบเอว ปลายผมของเขามีน้ำหยดลงมาจนถึงเอว......
“อ๊ะ” ไม่ทันที่ซูป้านเซี่ยจะตั้งตัว ผ้าเช็ดตัวก็ร่วงลงบนพรม ไม่มีการเร้าอารมณ์ใด ๆ เขาก็จัดการดันดุนเข้าไปทันที ซูป้านเซี่ยร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ลมหายใจร้อน ๆ ของมู่หนานจือรดที่ติ่งหูของเธอ คอเรียว ๆ เต็มไปด้วยรอยรัก ผิวขาวเนียนของเธอแดงเป็นจ้ำ ๆ
ดุนของมู่หนานจือทั้งร้อนทั้งแข็ง เขากระแทกมันเข้าไปที่เธออย่างรุนแรง เขามีความช่ำชองเรื่องบนเตียงมาก สามปีที่ผ่านมา เขารู้จุดอ่อนของเธอเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่มีอะไรกัน เขาก็มักจะกระแทกตรงจุดเสมอ
ไม่ถึงสามนาที ซูป้านเซี่ยก็ยอมแพ้ เธอเริ่มให้ความร่วมมืออย่างไม่เต็มใจ เธอส่ายเอวพริ้วไปตามจังหวะ และยกสะโพกสูงขึ้นเพื่อให้เขาแทงเข้ามาลึก ๆ
เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วทั้งห้อง
“ที่รัก ผมชอบเสียงครางของคุณ ครางดัง ๆ หน่อยสิ” เสียงทุ้ม ๆ ของมู่หนานจือ ฟังแล้วมีเสน่ห์จนเธอตกอยู่ในภวังค์
ริมฝีปากที่ปิดแน่นเริ่มส่งเสียงครางออกมาอย่างเย้ายวน ทำให้คนที่ได้ยินอารมณ์คุกรุนจนห้ามใจไว้ไม่ไหว
จากบนเตียง เปลี่ยนไปที่พื้น ต่อไปยังระเบียง และไปจบที่ในห้องน้ำ มู่หนานจือนั้นเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย เขาทำให้ซูป้านเซี่ยถึงจุดสุดยอดหลายครั้งหลายครา เขามองดูเธอค่อย ๆ หมดแรง และผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเขา
หลังจากมู่หนานจือหลับไปแล้ว ซูป้านเซี่ยก็ลืมตาขึ้น เธอเอามือใหญ่ ๆ ที่อยู่บนเอวของเธอออก แล้วเดินไปนั่งที่ริมหน้าต่างพลางเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืน
สามปีแล้ว แต่มู่หนานจือจะเรียกเธอว่าที่รักก็เฉพาะเวลาที่มีอะไรกันเท่านั้น
เธอค่อย ๆ หันกลับ และมองไปที่มู่หนานจือที่กำลังหลับอยู่ เวลาที่สายตาคู่นั้นมองมาที่เธอ มันไม่เคยอ่อนโยนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"