ฮั่วซวินเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน
เขาเองก็รู้สึกแปลกใจ พอเห็นทั้งสองคนกินข้าวพูดคุยกันอย่างยิ้มแย้ม เขาก็ตกใจเหมือนกัน
ถ้าเขาไม่บังเอิญเดินผ่านร้านอาหารร้านนั้น เขาคงไม่ทันสังเกตเห็น
“จะให้เรียกหมอเซินมาถามไหมครับ?” ฮั่วซวินพูดเสนอออกมา
เจียงเย่าจิ่งตอบอื้อกลับไปอย่างนิ่งเฉย
ฮั่วซวินไปโทรศัพท์
ยี่สิบกว่านาทีผ่านไป เซินจือเฉียนก็มาถึงบริษัท
พอเข้าประตูมาก็เปิดปากพูดขึ้นทันที “ฉันมีธุระอยากจะมาหานายพอดี...”
“นายรู้จักกับซงยุ่นยุ่นเหรอ?”
เซินจือเฉียนยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกขัดจังหวะขึ้นมาก่อน เขาพยักหน้าอย่างอึ้ง ๆ “รู้จักสิ เป็นรุ่นน้องของฉัน คนที่ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้กับนายเมื่อครั้งที่แล้วก็คือเธอนี่แหละ”
เจียงเย่าจิ่งพิงโซฟาหนังแท้สีน้ำตาล แววตาดำมืด ขนตาหนายาวสั่นกระพือ วันนั้นคือเธออย่างนั้นเหรอ?
เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“ใช่” เซินจือเฉียนเดินมานั่งลง “เย่าจิ่ง นายดีกับเธอหน่อยได้ไหม?”