งพากันหอบเอาสมุนไพรจำนวนมากมาตากแดด บ้างก็กำลังง่วนอยู่กับการหั่นสมุนไพร บางคนกำลังใช้ครกบดยา บ้างก็กำลังต้มน้ำ ที่ลานก
มาสวมใส่อาภรณ์เนื้อดีขึ้นมันเงาสีชมพูอมแดง บนใบหน้านวลนั้นประแป้งแต่งแต้มชาดลงบนริมผีปาก ส่วนบนศีรษะก็มวยผมและถักเปียเป็นทรงงดงาม
นไพรมาตากแดดถึงกับทิ้งสิ่งที่ถือมา ส่วนคนที่กำลังเดินไปเดินมาก็
ระโยคหนึ่งติดตามมาด้ว
วตาชนิดใด นางเห็นเพียงสีหน้าตะลึงงันของพวกเขาเท่านั้น จึงได้เข้าใจ
นางจะทิ้งสายตาให้ชายใดก็ได้ นางจะจิกตาใส่ใครก็ได้ จะชม้อยชม้ายชายตาอย่างไรก็ไ
ำนัก ไม่ทราบว่าข้าจะพบเขาทั้งสองได้ที่ใด” หญิงสาวเอ่ยแนะนำ
รับรองแขก ส่วนม้าทั้งสามตัวถูกพ่อบ้านเฒ่าพาไปผูกไว้ยังต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ กับโรงเก็บสมุนไพร หวางเสี่ยวเหยาเดินนำหน้าคนของตนด้วยท่วงท่าสง่างาม เพราะเคยเขียนน
แต่สิ่งหนึ่งที่นางยังไม่รู
ไม่รู้ว่าเมื่อได้มาเข้าร่างนี้นางก็ทำให้
งเดินลมปราณอยู่ด้านใน ไม่แน่ใจนักว่าวันนี้จะออกมาให้พบหรือไม่ หากว่าแม่นางรอไม่
น้าน้อยๆ รับคำเท่านั้น อย่างไรนางจะไม่มีวั
นใกล้จะตกดินแล้วทว่าหวางเสี่ยวเหยายังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม หญิงสา
ับก่อนจะดีกว่า ท่านเจ้าสำนักเข้าเรือนพักผ่อนไปแล้วเจ้า
ขอเข้าพบท่านเจ้าสำนักถึงได้ยากเย็นเช่นนี้
แล้วก็ต้องผิดหวัง หลายรายก็มาระบายอารมณ์ลงกับนาง ดังนั้นนางจึงมีคำตอบให้อีกฝ่ายราวกับท่
บไปข้าจะต้องตายแน่นอน ขอร้องล่ะ ช่วยไปบอกท่านทั้งสองให้ข้า
่โรงเตี้ยม ไม่มีทั้งอาหารและที่พักให้
นอน หากท่านเจ้าสำนักอยากขับไล่ข้าก็ให้พวกเขามาพูดกับข้าด้วยตัวเอง” สิ้นคำหญิงสาวก็ล
ยนใจ แต่จนแล้วจนรอดนางกลับมาถึงที่นี่ได้ และเมื่อมาแล้วนางก็ยังอดทนนั่งรอ กระทั่งตอนนี้นางออก
‘ไม่ผิดจากที่ท่านพ่อได้กล่าวไว้แม้แต่นิด ท่านเทพโอสถนั้นเข้าถึงตัวได้ยาก’ ทว่านางจะไม่ยอมกลับไปใช้
วทั่วไปที่คิดจะเข้าหาคุณชายหานอยู่มาก สตรีพวกนั้นให้นั่งรอแค่ครึ่งวันก็ถอดใจกลับบ้านหมดแล้ว ท
ไปด้วย ส่วนหวังซูจิ้งนั้นโชคดีตรงที่ตัดสินใจเดินไปดูแลม้าตั้ง
ากที่สาวใช้เดินกลับไปรา
ญิงสาวทั้งสองจึงเงยหน้าขึ้นมามอง แสงสุดท้ายของวันที่สาดส่องมาทางช่องประตูตกลงกระทบลงบนวงหน้าคมคายพอดิบพอดี ร่างสูงสง่าท
้าและบิดางั้นหรือ” เมื่อเสียงทุ้
” นัยน์ตาหงส์เบิกกว้างพิศมองวงหน้าคมเข้ม บุรุษผู้นี้หน้าตาหล่อเหลา
รวญชายหนุ่มก็เอ่ยเสียงเ
เจิดจ้าขึ้นอีกเท่าตัว นางพยายามจดจ้องนัยน์ตาสีถ่านคู่นั้นด้วยหวังว่าเป็นอย่างย
ยงแข็งและยังวางท่าทีเฉยเมย “ตอน
ที่สะพาน ท่านจำข้าหวางเสี่ยวเหยาไม่ได้เชียวหรือเจ้าคะ ต
กชาวบ้าน พักหลังๆ สำนักเสินเย่าจึงปฏิเสธที่จะขายยาดีๆ ให้ บิดาและเขาไม่นิยมส่งเสริมคนพาลเหล่านี้ นับว่าเป็นโชคดีที่คนของนางเปิดเผยฐานะที่แท
ือนรับรอง เขาเดินเบี่ยงหลบโฉมสะคราญเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยคำ “
มไปทันที “คุณชายหานได้โปรดเห็นใจข้าน้อยด้วยเถิด ข้าน้อยทนทุกข์ทรมานมานานมากๆ แล้ว ฝนตกเมื่อใดข้าจะหนาวสั่นหมดเรี่ย
องสบตา “โรคที่แม่นางว่ามานี้นับว่าประหลาดยิ่งนัก แต่ข้
กน้อยเพียงไร หรือโรคประหลาดจะรักษาหายขาดหรือไม่ข้าน้อยจะไม่โทษใครทั
ยให้ได้ แต่พอพิจารณาการแต่งกายงดงามที่ไม่เหมาะสมกับป่าเขาและนึกย้อนไปถึงชื่อเสียงในด้านลบของสำนักเย่วเหมินอคติก็ก่อตัวขึ้นในใจ ‘เ
รียนรู้วิชาปรุงยามิใช่เรื่องสนุก การจะเป็นศิษย์สำนักเสินเย่าจะไม่ได้แต่งกายงดงาม ไม่ได้รับประทานอาหารเ
ขา ทว่าการตกแต่งอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มิได้เลิศหรูอลังการดุจดั่งคฤหาสน์ของเศรษฐีในเมือง ตอนนี้นางจึงรู้ว่าตนเองดูเหม
รับตัวได้ หากว่าคุณชายหานรับข้าน้อยเป็นศิษย์ ข้าน้
ตะวันตกดิน หากทำไม่ได้ก็ถือว่าข้าส่งแม่นางตรงนี้แล้วกัน” พูดจบหานเจ
จ้านายของตน “คุณชายหานเย็นชาและเคร่งขรึมเช่นนี้คุณหนูจ
้าจะพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าหวางเ
าลาริมหน้าผาเพียงลำพัง บัดนี้ท้องนภาฉาบไล้ไปด้วยแสงสีส้มแกมดำ ส่วนพระอาทิตย์ดวงใหญ่หลบเร้นไปอยู่หลังยอดเขาเสียแล้ว ความมื
นมาหยิบกระดาษปึกหนึ่งที่หญิงสาวยื่นให้ไปตรวจดู เพียงแค่เขาเปิดดูคร่าวๆ เรียวคิ้วพาดเฉียงก็ขมวดเข้าหากันยุ่งเสียแล้ว ลายมือที่ปรากฏลงบนกระดาษแต่ละแผ่
ารซุกซ่อนไว้เช่นเดียวกับการซุกลายมือชุ่ยๆ เอาไว้ตรงกลางประกบหน้าหลังด้วยลายมือที
ลงว่าข้าน้อยเป็นศิษย์สำนักเสินเ
าได้ แต่ว่าข้าจะให้โอกาสในการเรียนรู้ควบคู่ไปกับศิษย์ในสำนัก หากว่
ุณชายหานว่าท่านอาจารย์นะเจ้าคะ ส่วนท่านเรียกข้าว่าเสี่ยวเหยาได้เลยเจ้าค่ะ
รียมห้องให้กับแม่นางและบ่าวผู้นั้นแล้ว ส่วนผู้ติดตามขอเชิญไปพักที่โรงเตี
หานเจี้ยนหยีกล่าวจบเขาก็ขอตัวไปพักผ่อนที่เรือน หวางเสี่ยวเหยามองตามร่างสูง
ม่รู้เสียแล้วว่า