คนอื่นเขาข้ามมิติมาเป็นนางร้ายแล้วได้กับพระเอก ทว่าหวางเสี่ยวเหยาเข้าร่างนางร้ายแล้ววิ่งตามตัวประกอบชายแสนจืดจาง เพื่อตามเขามาปลูกผักซะงั้น…
ตอนที่ 1 เข้าร่างดีๆ โลกไม่จำ
กุบกับ กุบกับ กุบกับ
เสียงฝีเท้าม้าที่ดังใกล้เข้ามาท่ามกลางเสียงเม็ดฝนตกกระทบพื้นทำให้สตรีที่นอนสะลึมสะลืออยู่กลางทางผู้หนึ่งปรือตาขึ้นมอง
ภาพตรงหน้าที่ปรากฏขึ้นแม้นจะยังเลือนลาง แต่เมื่อเพ่งมองก็มั่นใจได้ว่าสิ่งที่กำลังมุ่งตรงเข้ามาคือรถม้าคันหนึ่ง พาหนะนั้นกำลังแล่นมาตามทางอย่างเร็วรี่ และหากนางยังอยู่ตรงนี้จะต้องเกิดเหตุสลดขึ้นแน่นอน หญิงสาวจึงพยายามขยับกายหมายจะออกไปให้พ้นทาง แต่แล้วก็กลับพบว่าตนเองไร้เรี่ยวแรงสิ้นดี แค่เพียงจะหยัดกายลุกขึ้นนั่งยังไม่อาจทำได้ สุดท้ายจึงได้แต่นอนมองเหตุการณ์ด้วยความหวาดเสียวใจ พลันนั้นเสียงตะโกนของสารถีก็ดังขึ้น
“ไอ้หยา!”
ทันทีที่ผู้ควบคุมรถม้ามองมาเห็นร่างสั่นเทิ้มของสตรีที่นอนขดตัวอยู่กลางถนน รถม้าก็ถูกบังคับให้ช้าลงอย่างเฉียบพลัน ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถต่างร้องอุทานขึ้นด้วยความตกใจที่อยู่ๆ รถม้าของตนก็ส่ายสะบัดคล้ายเสียการควบคุม
“ว๊าย!!”
เสียงร้องอุทานนั้นพาให้สตรีกลางถนนปิดเปลือกตาลงทันควัน แต่เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งกลับไม่พบความเจ็บปวด มีเพียงอาการหนาวสั่นเท่านั้นที่ยังจู่โจมนางตลอดเวลา สตรีผู้เดียวดายกลางถนนจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้นางเห็นสารถีผู้นั้นทิ้งบังเหียนแล้ววิ่งตรงเข้ามาหานาง ร่างท้วมย่อตัวลงแล้วพยายามจะช้อนตัวนางขึ้นจากพื้นในขณะที่เอ่ยถาม
“แม่นาง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า เหตุใดจึงไม่หลบไปให้พ้นทาง!”
“หนาว… ข้าหนาวเหลือเกิน… ช่วยข้าด้วย”
ใบหน้าเปื้อนโคลนที่แหงนมองสารถีหนุ่มช่างดูน่าสงสาร นัยน์ตาของนางหม่นแสงฉายแววทุกทรมาน น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็สั่นสะท้านสิ้นดี
สารถีหนุ่มรู้สึกหวั่นไหวกับสีหน้าเช่นนี้ แต่เหตุใดเล่าเขาจึงรู้สึกคุ้นตากับดวงหน้าสะคราญนี้นัก เมื่อคิดใคร่ครวญถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาจึงพบว่าสตรีนางนี้คือ เหอรั่วเหวิน คุณหนูจากสำนักเย่วเหมิน ผู้โด่งดัง พลันนั้นคำถามมากมายก็ผุดขึ้นในใจชายหนุ่ม ‘เหตุใดนางจึงถูกทอดทิ้งอย่างเดียวดายกลางป่าเช่นนี้ หนำซ้ำสตรีผู้มีวรยุทธ์กลับนอนขดตัวอย่างหมดเรี่ยวแรง หรือว่านางจะถูกทำร้าย!’
แต่เมื่อเลื่อนสายตาลงมองสำรวจเรือนร่างอรชรที่สั่นเทิ้มภายใต้อาภรณ์สีแดงฉานก็กลับไม่พบบาดแผล ผิวขาวราวไข่มุกบัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยคลาบโคลน กายนางเย็นเยียบดูแล้วรู้สึกเวทนายิ่งนัก นึกอยากจะช่วยให้ความอบอุ่นแก่นางเสียเหลือเกิน แต่แล้วเสียงของสตรีที่ดังขึ้นจากด้านหลังก็ทำให้ความคิดนั้นต้องลบเลือนไป
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ เหตุใดจึงไม่ไปต่อ!”
สตรีผู้มีวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักแง้มหน้าต่างรถม้าเยี่ยมหน้าออกมามอง สารถีหนุ่มจึงเหลียวกลับไปตอบนางด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“แย่แล้ว แม่นางเหอรั่วเหวินกำลังต้องการความช่วยเหลือขอรับ คุณหนูจะให้บ่าวทำอย่างไรดีขอรับ”
“ปล่อยนางเอาไว้ตรงนั้นแหละ!”
ผู้ตอบคือสตรีสูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับสตรีที่เอ่ยถาม นางไม่ได้เยี่ยมหน้าออกมามองแม้เพียงนิดแต่กลับตะโกนตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว คนฟังทั้งสองคนที่ตากฝนอยู่ด้านนอกฟังแล้วสะท้านใจยิ่งนัก
หยาดฝนที่เยียบเย็นยังไม่ส่งให้เหน็บหนาวได้เท่ากับคำพูดแล้งน้ำใจ
“ขอรับ”
สารถีหนุ่มเอ่ยตอบอย่างจำใจ ในเมื่อเจ้านายของเขาไม่อนุญาตผู้เป็นบ่าวรับใช้ก็ไม่อาจขัดขืนคำสั่งได้ ชายหนุ่มจึงค่อยๆ อุ้มร่างไร้เรี่ยวแรงและเปียกปอนขึ้นจากพื้น เขาพานางไปหลบไว้ที่ข้างทางแล้วรีบรุดกลับไปที่รถม้า เมื่อปีนขึ้นมานั่งประจำตำแหน่งได้แล้วรถม้าคันงามก็เล่นผ่านหน้าสตรีผู้เปียกโชกไป
ทว่าก่อนจะจากไปสตรีผู้มีใบหน้าจิ้มลิ้มก็ชะโงกหน้าออกมาจากหน้าต่าง นางตะโกนบอกผู้ที่นอนขดตัวอยู่ข้างทางด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเหยียดหยัน
“เหอรั่วเหวิน สตรีเพศยาอย่างเจ้าควรจะรีบตายๆ ไปได้แล้ว สมน้ำหน้านัก!”
แววตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แล้วสตรีผู้นั้นก็สะบัดหน้าหนีไปก่อนที่บานหน้าต่างจะถูกปิด ไม่มีโอกาสให้ผู้ที่ถูกต่อว่าตอบโต้แม้เพียงนิด รถม้าคันใหญ่ได้เคลื่อนตัวจากไปเสียแล้ว
หญิงสาวนอนมองถนนดินเฉอะแฉะที่ว่างเปล่าด้วยความรู้สึกงงงัน พอเริ่มประติดประต่อเหตุการณ์ได้นางก็ร้องตะโกน
“เหอรั่วเหวินที่ไหนกันเล่า ข้าคือหวางเสี่ยวเหยาต่างหาก!”
ทั้งสามที่มาพร้อมรถม้ามิได้จดจำผิดพลาดแต่อย่างใด ทว่ากลับเป็นนางต่างหากที่มีความเป็นมาที่ยากยิ่งจะอธิบาย เรื่องนี้คงต้องเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
เหอรั่วเหวินคือตัวละครนางร้ายในนิยายที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักเขียนสาวผู้มีนามว่า หวางเสี่ยวเหยา นิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวดนิยายอีโรติกและเต็มไปด้วยฉากเลิฟซีนอันร้อนแรง หวางเสี่ยวเหยาได้บรรยายเอาไว้ว่านางร้ายผู้นี้มีหน้าตางดงามอีกทั้งยังมีวรยุทธ์เก่งกาจ นางเป็นถึงเจ้าสำนักน้อยแห่งหมู่ตึกเย่วเหมินซึ่งเป็นสำนักฝึกยุทธ์อันเลื่องชื่อ ทว่าเหอรั่วเหวินกลับมีจุดจบแบบที่ไม่น่าเป็นไปได้
ตัวละครเหอรั่วเหวินแม้จะร้ายกาจและมีความสามารถรอบด้าน แต่นางกลับเป็นโรคประหลาดที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ โรคนี้จะกำเริบขึ้นทุกครั้งเมื่อกายนางต้องสายฝน หรือหากฝนตกเมื่อใดนางจะหนาวสะท้านและพาลหมดเรี่ยวหมดแรง นางประคองชีวิตตนเองมาได้ด้วยการเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและพึ่งยาจากสำนักปรุงยาของเทพโอสถ แต่แล้วในวันหนึ่งความลับก็รั่วไหลออกไปถึงหูศัตรูของนางเข้า
หวางเสี่ยวเหยาได้เขียนจุดจบของเหอรั่วเหวินรอเอาไว้ในขณะที่เนื้อเรื่องยังดำเนินไปได้เพียงครึ่งเท่านั้น เหอรั่วเหวินจะถูกใครบางคนสลับยาพิษแทนยาบำรุงและแก้อาการหนาวสั่นที่นางต้องกินเป็นประจำ เมื่อพลาดพลั้งดื่มยาพิษเข้าไปนางร้ายตัวนี้จึงถูกกำจัดไปจากเส้นทางรักของพระเอกและนางเอกในเรื่อง
เหตุที่ต้องเป็นเช่นนั้นเพราะนิยายของหวางเสี่ยวเหยาเต็มไปด้วยฉากเลิฟซีน นางไม่มีพื้นที่ให้กับการดำเนินเรื่องในด้านอื่นๆ มากนัก ตัวละครที่คิดขึ้นจึงเต็มไปด้วยความไม่สมเหตุสมผล บางตัวละครก็ใช้ตรรกะประหลาด พล็อตเรื่องบิดเบี้ยวเสียจนคนอ่านถอนหายใจแรง
ทว่านิยายของหวางเสี่ยงเหยากลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แม้บางคนจะอ่านไปด่าไปก็ตามที นักเขียนสาวจึงรีบเร่งปั่นต้นฉบับเพื่อจะวางขายจนกระทั่งลืมเลือนเรื่องการพักผ่อนของตนเอง เมื่อสภาพร่างกายทรุดโทรมหนักเข้าจึงไร้ภูมิคุ้มกัน เมื่อออกไปนอกห้องพักเพื่อไปซื้ออาหารจึงติดโรคระบาดร้ายแรงโควิดไนน์ทีนอย่างไม่รู้ตัว หวางเสี่ยวเหยาจึงต้องจากโลกมนุษย์ไปตลอดกาล
หากแต่หลังจากนั้นนางมิได้ไปเยือนสวรรค์อย่างที่คิด และนางก็ไม่ได้เหยียบย่างไปยังปรโลกอีกด้วย
ดวงจิตของนางกลับมาอยู่ในร่างของนางร้ายนามเหอรั่วเหวิน ตัวละครตัวหนึ่งที่นางไม่เคยใส่ใจ
พอคิดขึ้นได้นักเขียนในร่างนางร้ายก็ตะโกนก้อง
“ไม่… เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ไม่นะ ไม่จริง!… ฮือ ฮือ ฮือ”
เสียงร้องไห้คร่ำครวญดังแข่งกับเสียงเม็ดฝนที่หล่นลงมากระหน่ำพื้น ใครบางคนที่เบื้องบนคงเทน้ำลงมากลั่นแกล้งนักเขียนสายหื่นกระมัง
ฮือ ฮือ ฮือ…
“ข้ามมิติทั้งทีแทนที่จะเป็นนางเอก นี่ก็นิยายของตัวเองแท้ๆ ไยสวรรค์ไม่เมตตา ไยส่งข้ามาเข้าร่างนางร้าย ฮือ ฮือ”
เมื่อหันซ้ายก็ไม่พบเจอผู้ใด หันขวาก็เห็นเพียงถนนดินและป่าเปลี่ยวกว้างใหญ่ นักเขียนสาวจึงเริ่มพูดคุยโต้ตอบกับตัวเองจนดูคล้ายคนบ้า!
“แต่ที่จริงแล้วนางร้ายก็อาจไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่คิดนะ ก็แค่ไม่ได้กับพระเอกเท่านั้น อย่างน้อยๆ นางก็ยังหน้าตาดีล่ะ!”
“ไม่หรอก ถึงจะสวยพริ้งแต่นางก็ต้องตายในเร็วๆ นี้นะ อยากตายอีกเป็นครั้งที่สองงั้นหรือ…”
“ไม่!… ไม่สิ ข้ายังไม่อยากตาย จะบอกความจริงให้นะ ฉากเลิฟซีนที่เขียนขึ้นมาน่ะ มโนทั้งนั้น ข้ายังไม่เคยร่วมรักกับชายใดทั้งสิ้น ใช้ชีวิตยังไม่คุ้มเลยจะตายได้อย่างไรกัน!”
“ถ้างั้นก็ใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าเสียสิ ลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตา ครั้งหนึ่งเจ้าเคยกำหนดมันขึ้นมาด้วยมือของเจ้าเองมิใช่รึ!”
“นั่นสิ ทำไมข้าเพิ่งคิดได้ จริงด้วย!”
แล้วหวางเสี่ยวเหยาก็พยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง หลังจากที่ออกมาจากภวังค์แล้วกลับมาสู่ความเป็นจริง ทว่าอาการหนาวสั่นและไร้เรี่ยวแรงก็ยังคงตามติดตลอดเวลา
“หนาว หนาวเหลือเกิน…”
ร่างอรชรสั่นเทิ้มไม่สามารถลุกขึ้นจากพื้นได้ พลันนั้นนางจึงหวนคิดทบทวนความจำ ‘เหตุใดเหอรั่วเหวินจึงมานอนอยู่กลางถนนเช่นนี้…’
คำตอบก็คือตัวละครตัวนี้กำลังออกเดินทางไปดักรอเพื่อขัดขวางฉากเลิฟซีนของพระเอกและนางเอก แต่แล้วกลางทางก็เกิดมีฝนฟ้าคะนองราวกับมีพายุ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าฟ้ากว้างยังสดใสและเป็นสีคราม ฝนตกอย่างหนักทั้งๆ ที่ไม่น่าเป็นไปได้ และนี่คือตัวอย่างของเหตุการณ์บิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่อง
ที่จริงแล้วสิ่งต่างๆ ก็บิดเบี้ยวจากความเป็นจริงเหมือนกับตัวละครนางร้ายผู้นี้ นักเขียนสาวในร่างนางร้ายคลี่ยิ้มขึ้นทันควันเมื่อรู้สึกตัว
ใช่แล้ว นางมาเข้าร่างของตัวละครที่ดีเลิศยิ่งกว่านางเอกในเรื่องเสียอีก!
“ขอบคุณสวรรค์ที่ส่งข้ามาเข้าร่างตัวละครแมรี่ซู! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
พอคิดขึ้นได้ก็กลับคำ ไม่ทราบเคยทำความดีไว้อย่างไรจึงได้โอกาสมีชีวิตใหม่อีกครั้ง เวลานี้รู้เพียงแต่ดีใจมากๆ รู้สึกราวกับบรรยากาศหมองมัวรอบตัวเปลี่ยนเป็นสดใสในทันที แม้นว่าฝนจะยังคงตกอย่างหนัก หวางเสี่ยวเหยาตะโกนขึ้นบอกท้องฟ้า ยิ้มให้กับนกกาที่บินผ่านมาแม้ว่าจะมีสายฟ้าฟาดลงมาอย่างรุนแรง
เปรี้ยง!
“ข้าอยู่ในร่างโฉมสะคราญผู้เทพทรู ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เปรี้ยง!
แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าก็เลือนหายเมื่อสกุณาตัวนั้นถูกสายฟ้าฟาดร่วงหล่นลงมาตายต่อหน้า ขนดำมะเมี่ยมของมันมีควันลอยคลุ้ง ร่างกายไหม้เกรียมกรุ่นกลิ่นเหม็นไหม้ ความสมจริงกลับมาเยี่ยมเยือนจนนักเขียนสาวเริ่มตื่นกลัวในสถานการณ์
นางไม่รู้เลยว่าจุดจบของตัวละครนางร้ายนี้จะมาถึงเมื่อใด นางเว้นว่างเอาไว้เพราะมุ่งมั่นตั้งใจเขียนแต่ฉากเลิฟซีน
“แย่แล้ว!…”
เมื่อคิดเช่นนั้นหวางเสี่ยวเหยาก็ลนลานหายาแก้อาการทันที นางร้ายนี้จะต้องพกยาติดกาย ทว่าลูบคลำไปตามอาภรณ์สักเท่าใดก็ไม่พบขวดยา
‘เป็นไปไม่ได้! นางจะต้องมียาสิ!’
พลันนั้นนัยน์ตาสีดำขลับก็กวาดมองไปยังถนนดินเฉอะแฉะ และแล้วนางก็ได้พบกับขวดยา เจ้าขวดกระเบื้องเคลือบเล็กๆ นั้นตกอยู่ที่กลางทาง และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวละครนี้นอนแอ้งแม้งอยู่ก่อนที่นางจะมาเข้าร่าง
คาดว่าเหอรั่วเหวินที่กำลังควบม้ามากำลังจะหยิบยาขึ้นมาดื่มเมื่อได้กลิ่นไอฝน ทว่าตัวละครนี้มักจะโชคร้ายเสมอๆ จึงทำให้พลาดพลั้งทำขวดยาหล่นจากมือ และเมื่อนางลงจากหลังอาชาเพื่อมาหยิบขวดยาฝนก็เทกระหน่ำลงมาเสียแล้ว เหอรั่วเหวินจึงไม่อาจไปขัดขวางฉากการร่วมรักท่ามกลางสายฝนของพระเอกและนางเอกที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปได้
“บ้าจริง! นี่ข้าต้องกระเสือกกระสนคลานไปกับพื้นเพื่อเอื้อมหยิบขวดยาหรือนี่ รันทดยิ่งนัก!”
นักเขียนสาวสายหื่นบ่นกระปอดกระแปดกับฝนฟ้า ช่างเป็นจังหวะการเข้าร่างที่สั่นสะเทือนวงการเสียจริง
“ปัง ปุ ริ…เย่ มาก แม่…”
เสียงบ่นยังสั่นเครือสิ้นดี พูดจบนางก็ค่อยๆ เอื้อมมือออกไป ในใจคิดว่าจะคลานไปกับพื้น ระยะห่างระหว่างตัวนางกับขวดยาไม่น่าเกินสองจั้ง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปสองเค่อนางก็ยังคงนอนแหมบอยู่ที่เดิม สองจั้งกลายเป็นสองลี้ขึ้นมาทันควันเมื่อการขยับกายของนางเปรียบดั่งสล็อตตัวหนึ่ง
“เฮ้อ!…”
เขาให้เธอเลือกระหว่าง ‘แฟนตัวจริงหรือเมียสมอ้าง’ บอกว่าชอบใจคำไหนก็ให้เลือกใช้เอาเอง ทั้งที่เธอมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กเท่านั้น อย่างนี้ก็ได้ด้วย!
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!