img คนอุ่นเตียง  /  บทที่ 9 คุ้มครองเจ้ากลับสู่เมืองหลวง | 15.25%
ดาวน์โหลดแอป
ประวัติการอ่าน

บทที่ 9 คุ้มครองเจ้ากลับสู่เมืองหลวง

จำนวนคำ:3468    |    อัปเดตเมื่อ:28/12/2021

รถเทียมม้าวิ่งไปช้าๆเหมือนไม่มีแรง ทั้งที่ใช้ถึงสองตัวและคนบังคับก็คือเสิ่นเล่ย คนนั่งด้านในกลับกลายเป็นชายหนุ่มสองคนคือจิ้นหยางกับชุนหวง ย้อนถึงเมื่อสองชั่วยามก่อน ครั้งแรกที่หลี่เจี๋ยได้ยินว่าเขาจะกลับฉางอันด้วยก็เริ่มสงสัย ว่าคนพวกนั้นจงใจหรือเปล่า เหตุใดพอนายน้อยของเขามาเหอเป่ย คนทั้งสามก็มาที่นี่แถมเมื่อจะกลับฉางอันคนทั้งสามก็มีเหตุให้กลับเช่นกัน เป็นเหตุให้ทุ่มเถียงกันไม่น้อย หลี่เจี๋ยระแวงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วซ้ำร้ายอี้จางยังชอบก่อปัญาหามักตอแยให้เขาโมโหอยู่ร่ำไป ความไม่ชอบหน้าจึงมีมาก

"มิรบกวนท่านทั้งสามพวกเราสามารถเรียกรถม้าได้ขอรับ"หลี่เจี๋ยเอ่ยปาก

"แทนที่เจ้าจะลำบากเรียกรถม้า ใยไม่ร่วมเดินทางไปกับพวกข้าเล่า รถม้าก็มีพร้อมแถมยังมีคนคอยช่วยเหลือระหว่างพวกเจ้าเดินทาง หรือเจ้ากลัวข้าจะคิดมิดีมิร้ายต่อพวกเจ้า"จิ้นหยางดักคอ

"ขอบคุณในความหวังดี ข้าคิดว่าท่านคงต้องแวะระหว่างหัวเมืองเพื่อค้าขาย แต่พวกเราจำต้องรีบเดินทางด่วนขอรับ"

"เฮ่ย!! เรื่องของสหายใยข้าต้องถือว่ารบกวน อันที่จริงธุระในเหอเป่ยนี่ก็จบสิ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ที่ข้ายังรั้งรอก็เพื่อนายน้อยชุนหวงของพวกเจ้านี่แหละ อย่าได้เกรงใจ อย่าได้เกรงใจ"หลี่เจี๋ยพอได้ยินแบบนี้ถึงกับกัดฟันแน่นรู้ทันทีว่าจิ้นหยางผู้นี้จงใจแน่แท้ เพียงแต่นายน้อยของเขาซื่อเกินจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนผู้นี้

"นั่นสิหลี่เจี๋ยท่านยอมเป็นใบ้สิบเจ็ดปี มาความแตกก็ที่เหอเป่ย แถมจิ้นหยางยังช่วยปิดบังความลับนี้ไว้ให้นับว่าเป็นสหายแล้ว อีกอย่าง กว่าเราจะเรียกรถม้ามันต้องเสียเวลา ในเมื่อรีบก็ไปกับเขาเถิดไปกันหลายคนย่อมครื้นเครง"ชุนหวงพยักหน้าคล้อยตามคนตัวสูงใหญ่ มิใยเสิ่นเล่ยกับอี้จางที่ลอบสบตากัน หนึ่งในนั้นรีบไปหารถเทียมมาโดยด่วน เหตุเพราะท่านจิ้นหยางเอ่ยปากว่ามีอยู่แล้วดังนั้นรถม้าจึงต้องมี เจ้าอาชาม้าโลหิตประจำองค์สีดำมะเมื่อม คงต้องให้ไม่คนใดผู้หนึ่งต้องขี่แทนเจ้าของเป็นแน่

"เอาล่ะในเมื่อนายน้อยพวกเจ้าเห็นดีงาม อย่างนั้นกินข้าวเช้าแล้วเตรียมออกเดินทางกันเถอะ"เป็นอี้จางที่ลอบถอนใจอีกครา ยังดีที่ท่านอ๋องยังรั้งรอให้เวลาในการหารถเทียมม้า ฝ่ายหลี่เจี๋ยและไน่ยไน่ยถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก หนทางที่จะตีตนออกห่างจากจิ้นหยางดูเหมือนจะไร้ผลเสียแล้ว พอหันกลับไปมองชุนหวงที่กำลังใช้ตะเกียบคีบหมูสามชั้นสีน้ำตาลอ่อนเข้าปากแล้ว หลี่เจี๋ยก็ได้แต่เก็บความแค้นเคืองไว้ในใจแทน

กลับมาถึงตอนนี้เขาไน่ยไน่ยและอี้จางต่างก็นั่งบนหลังม้าตัวเขื่อง ที่คนฝั่งนั้นเขาจัดหามาให้ความสะดวกสบาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขากับไน่ยไน่ยไม่ต้องจัดหาอะไรเลยด้วยซ้ำ รถม้าคันใหญ่ดูมั่นคงปลอดภัยแถมเจ้าม้าที่กำลังควบขี่ดูมีราคาแพงไม่น้อย เสียงถอนหายใจอีกเฮือกเรียกสีหน้าขบขันของอี้จางที่อดยิ้มไม่ได้ ต่างกับไน่ยไน่ยเหมือนถูกบังคับให้กินยาขม

"บอกให้คนของเจ้าขับรถเทียมม้าให้ไวกว่านี้ได้หรือไม่"หลี่เจี๋ยเปิดปาก

"น่าจะไม่ได้หลี่เจี๋ยนี่เจ้าจะรีบไปไหนกันแน่"อี้จางตอบหน้าเรียบเฉย

"เรื่องของข้า"ว่าจบหลี่เจี๋ยก็กระแทกสีข้างของม้าให้นำไปก่อนสองชุ่น อี้จางซ่อนความขบขันเอาไว้ไม่มิดถึงกับหัวเราะร่า ไน่ยไน่ยจึงขอร้องแทน

"อี้จางท่านช่วยเร่งให้พวกเราหน่อยเถอะ ทางบ้านเราเกิดเรื่องต้องรีบสะสางน่ะเจ้าค่ะ"

"รีบร้อนอันใดกัน มีเรื่องไหนที่คุณชายของข้าไม่สามารถสะสางให้ได้บ้าง หากพวกเจ้าต้องการความช่วยเหลือ นายน้อยของเจ้ากับคุณชายของข้าถือว่าเป็นสหายกันแล้ว ย่อมช่วยเหลือกันได้"ไน่ยไน่ยฟังคำตอบแล้วได้แต่ทอดถอนใจกับความทำหูตาไม่รู้ความ

"เจ้าเมื่อยหรือไม่"จิ้นหยางถามคนที่นั่งโยกตัวไปมาตามจังหวะที่รถม้าเคลื่อน

"ไม่ๆข้าสบายดี"

"แล้วใยสีหน้าดูเหมือนมิใคร่สบาย"ชุนหวงเหลือบตามองคนที่นั่งด้านข้าง หากเขานั่งคนเดียวคงได้เอนกายสบายไปแล้วเหมือนขามาเหอเป่ย แต่พอมีอีกคนยิ่งร่างกายสูงใหญ่กำยำขนาดนั้นมานั่งด้วยคล้ายหายใจไม่ออก คนที่ว่าบัดนี้ใส่ชุดดำขลิบทองหรูหรากวานที่สวมใส่ก็งดงามวิจิตร พัดที่ถือไว้ในมือถูกเปลี่ยนกลายเป็นกระบี่ทำจากแร่เนื้อดีที่งดงามน่าเกรงขามไม่น้อย พอก้มลงมองตัวเองถึงแม้ว่าจะเป็นเสื้อผ้าสีขาวแต่หากเนื้อผ้าถูกถักทอลวดลายในตัวงดงาม ที่สำคัญคนอื่นไม่เห็นมีผ้าคลุมไฉนเขาถึงมีผ้าคลุมไหล่ผืนนิ่มอยู่คนเดียว

"เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าใบหน้างดงามของเจ้าง้ำงอแล้ว"จิ้นหยางสังเกตุคนที่มองตัวเขาสลับกับตัวเองไปมาหลายครั้งหลายครา แล้วอดยิ้มน้อยๆที่มุมปากไม่ได้

"ข้าไม่เห็นท่านต้องมีผ้าคลุม"

"อ้อเป็นเรื่องนี้ ก็เจ้าดูบอบบางเหลือเกิน การเดินทางจากเหอเป่ยไปฉานอันใช้เวลาไม่น้อยผ้าคลุมนี่มันช่วยให้เจ้าอบอุ่นขึ้น มิชอบหรือ"จิ้นหยางมองผ้าคลุมไหล่สีขาวนุ่มนวลขลิบด้วยขนกระต่ายสีขาวโดยรอบเป็นเขาที่จัดเตรียมไว้ให้

"เห้อพวกท่านก็เหมือนกับไน่ยไน่ยและหลี่เจี๋ยข้าเป็นผู้ชายนะหรือพวกท่านลืมกันไปแล้ว"

"ใครจะลืมเล่าเพียงแต่เจ้าพึ่งหายไข้ทุกคนเลยไม่อยากให้เจ้าต้องมาโดนลม ทำใจให้สบายเถอะถ้าเจ้าเมื่อยจะเอนซบไหล่ข้าก็ได้นะ"

"ไม่เป็นไรมิได้ข้าสบายดีแต่ม้าของเจ้าไม่มีแรงหรือไร"จบอีกปัญหาอีกปัญหาก็ตามมาติดๆ จิ้นหยางอดหัวเราะในใจไม่ได้ เด็กน้อยเจ้าปัญหาเสียจริง

"มันเป็นอย่างไร"

"ก็ดูสิเดินช้าเหมือนม้าไม่ได้กินหญ้ากินน้ำ"

"หึหึ อาจจะเป็นเพราะทุกทีมันค่อยๆเดินแบบนี้ ระหว่างข้าเดินทางมิเคยเร่งรีบสินค้าพวกผ้าบางอย่างราคาแพงจำต้องรักษาให้ดี"

"อ้อ...เป็นเช่นนี้แล้วข้าจะถึงฉางอันตอนไหนกัน พวกมันค่อยๆคลานแน่ๆ"ชุนหวงเปิดม่านหน้าต่างชะโงกออกไปดูด้านข้างแล้วต้องถอนใจอีกเฮือก จิ้นหยางทำหน้ามิรู้มิเห็น

"ถ้าหากไม่คิดว่าเป็นการสอดรู้เรื่องของเจ้า พอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าบ้านเจ้าเกิดเรื่องอันใดขึ้น"จิ้นหยางหาทางเปลี่ยนความสนใจคนที่นั่งหน้าม่อยแทน

"อ้อสองผู้เฒ่าส่งจดหมายมาว่าให้รีบกลับ เพราะมีท่านเสนาบดีท่านหนึ่งมารบเร้าตามรังควาญไม่หยุด ถึงขั้นจะสั่งปิดหอจันทร์ส่อง"

"มีเรื่องเช่นนี้"

"ใช่"

"แล้วสองผู้เฒ่าทำเรื่องผิดร้ายแรงอันใดเล่า"

"ไม่มี"ชุนหวงส่ายหน้าเล็กน้อย

"นั่นเกินไปแล้วกล้าใช้อำนาจบาดใหญ่ได้อย่างไรกัน ขุนนางรังแกราษฎรแล้วเยี่ยงนี้"จิ้นหยางหน้าขึงขึ้นเมื่อรู้เรื่อง

"มิได้ทำผิดแต่เป็นที่ตัวข้า"

"ตัวเจ้าหรือเจ้าทำอันใดผิด ข้ามีคนที่รู้จักพอจะมีอำนาจบารมีอยู่บ้าง บอกมาเถิดเผื่อจะช่วยเจ้าได้"จิ้นหยางแสร้งตบมือใหญ่โตของตัวเองลงบนมือขาววนาลที่วางประสานกันบนตักเบาๆ

"คงจะยากขอบใจท่านมากที่อาสาจะช่วยเหลือ เรื่องนี้คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงหลี่เจี๋ยซักเท่าไหร่วางใจเถอะ"ชุนหวงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กับเขา

"เป็นเช่นนั้นแต่หากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยก็อย่าได้เกรงใจ"

"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว"

"บอกได้หรือยังว่าเนื้อหาใจความเป็นเช่นไร"

"ทางจวนอ๋ององค์ชายห้าน่ะสิต้องการให้ข้าเข้าไปขับกล่อมดนตรีที่ในจวน"

"ก็แค่เล่นดนตรีใยเจ้าถึงทำหน้าทุกข์ทนขนาดนั้นด้วยเล่า"จิ้นหยางยิ้มกว้าง

"ถ้าแค่นั้นข้าจะเดือดร้อนไปใยแต่เรื่องมันหนักหนากว่าเพราะจะให้ข้าเข้าไปอยู่ที่นั่นเลยน่ะสิ"

"โอ๋!!เป็นเช่นนี้"

"ใช่เป็นเช่นนี้ ทางบ้านข้าย่อมมิยินยอมเป็นแน่"ชุนหวงเอ่ยปาก

"บ้านเจ้าต้านทานคำสั่งได้หรือ"

"ข้าเองก็ไม่รู้เป็นหลี่เจี๋ยมีทางออก"ชุนหวงย้ำอย่างมั่นใจ ครานี้กลับเป็นจิ้นหยางเองที่ไม่ไว้วางใจ เขาเปิดผ้าม่านขึ้น

"อี้จางแวะน้ำตกข้างหน้าให้ข้าได้พักซักหน่อยเถอะ"

"ขอรับ..."อี้จางกระตุกสีข้างม้าให้เทียบกับเสิ่นเล่ยที่บังคับรถม้าอยู่

"ได้ยินหรือไม่"

"อืม"เสิ่นเล่ยรับคำ ค่อยๆลดความไวที่ไม่ไวของม้าเทียมลง หลี่เจี๋ยเมื่อได้ยินยิ่งขัดใจเขาเร่งร้อนจะกลับฉางอันเพราะต้องให้ทางสำนักช่วยเหลือปัดเป่าเรื่องที่ขุนนางออกคำสั่งเรื่องนี้ แต่ทางนี้กลับดูเหมือนถ่วงเวลาให้ยิ่งช้าลงไปอีก

"ถ้าอย่างนั้นพวกท่านพักกันเถอะ ข้ากับไน่ยไน่ยขอหยิบยืมม้าเจ้าสองตัวเพื่อจะเร่งเดินทาง นายน้อยลงมาเถอะขอรับขึ้นขี่ม้าตัวเดียวกับข้า"จิ้นหยางรีบป่ายมือมากันชุนหวงเอาไว้

"รีบร้อนไปก็ไร้ประโยชน์น่าหลี่เจี๋ย เจ้าจะให้นายน้อยของเจ้าขี่ม้าจริงๆรึ"

"เมื่อมีเหตุจำเป็นย่อมต้องจำเป็น"

"เหลวไหล!! นายน้อยของเจ้าใช่ว่าจะหายดีจากการถูกพิษ ให้ตรากตรำได้อย่างไรกัน ถ้าเจ้ารีบก็เดินทางล่วงหน้าไปก่อนเหลือไน่ยไน่ยเอาไว้ดูแลชุนหวงเถิด"จิ้นหยางออกความเห็นหลี่เจี๋ยกับไน่ยไน่ยมองหน้ากันแล้วพยักหน้า

"เช่นนั้นข้าขอรบกวนให้ท่านดูแลนายน้อยของเราแล้ว"หลี่เจี๋ยยอมเห็นด้วย

"นายน้อยระวังตัวด้วยนะขอรับ"จิ้นหยางยกยิ้มเล็กน้อยสะบัดสายตาให้อี้จาง หลี่เจี๋ยควบม้าออกไปทันที ในใจนึกกังวลเรื่องชุนหวงที่ทิ้งไว้กับคนแปลกหน้าอีก ยังพอคลายได้บ้างว่ามีไน่ยไน่ยอยู่ดูแล เวลาผ่านไปไม่นานอี้จางก็ควบม้ารุดหน้าออกไปบ้าง

"หืมคนของเจ้าไปไหนน่ะจิ้นหยาง"

"อ่อ ข้าสั่งให้ไปรับสินค้าล่วงหน้าน่ะเจ้าวางใจเถอะ"จิ้นหยางนั่งลงบนพื้นที่ปูด้วยผ้ารอง เอนหลังอิงหินที่ชุนหวงนั่งอยู่ด้านบนหัวไหล่แนบติดท่อนขา เพราะเขานั่งต่ำกว่าโขดหินนั่น เป็นเสิ่นเล่ยที่เตรียมกล่องข้าวกลางวันมาวางไว้ให้

"หิวแล้วหรือไม่"จิ้นหยางเงยหน้าขึ้นมองคนที่นั่งสูงกว่า เสิ่นเล่ยเหลือบตามองเล็กน้อยแล้วเดินไปหยิบกาน้ำชาที่แขวนไว้กับกองไฟเพื่อให้ยังร้อนอยู่เสมอ นำมาส่งให้

"แม่นางท่านหิวแล้วหรือไม่"

"ข้าไม่เป็นไรท่านรีบบอกคุณชายของท่านให้รีบออกเดินทางเถิด"ไน่ยไน่ยตอบเสิ่นเล่ยด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ทำไมการเดินทางกลับคราวนี้ดูเหมือนออกมาชมป่าเขาไปเสียได้ ยิ่งการกระทำของคนที่ดูมีอำนาจกว่าใครเพื่อนยิ่งแล้ว ท่าทีผ่อนคลายยิ่งนัก

"เป็นหลี่เจี๋ยเดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้วแม่นางมิต้องกังวล"เสิ่นเล่ยยังหน้านิ่ง เอาไม้เขี่ยกองไฟใฟ้ลุกโชนไก่ย่างที่ถูกอังไฟอีกรอบส่งกลิ่นหอมหวล

"อืมม"ไน่ยไน่ยตอบคำแล้วก็เดินไปหาชุนหวง

"นายน้อยท่านหิวหรือไม่"

"นิดหน่อย"แค่คำตอบ ก็ทำให้จิ้นหยางที่นั่งชันเข่าข้างหนึ่งมองทิวทัศน์รอบๆ เบนสายตากลับมาขัยบตัวนั่งตรงทันที

"ลงมานั่งตรงนี้เถอะชุนหวงไก่ย่างน่าจะสุกแล้ว"สิ้นคำเสิ่นเล่ยก็นำมาส่งให้ ทั้งสี่เพลินกับอาหารเมื้อกลางวันต่างกับอีกฝั่ง

.....................................................................

"นี่เจ้าตามข้ามาหรือ"หลี่เจี๋ยห้อตะบึงควบม้าเพื่อเร่งเดินทาง ไม่ทันไรก็ปรากฏเสียงฝีเท้าม้าตามมาด้านหลัง เขาเหลียวกลับไปมองแล้วต้องนิ่วหน้า ม้าของเขาแข็งแกร่งมิใช่น้อยยังมิอาจสู้ฝีเท้ามาที่วิ่งตามมาด้านหลัง

"เป็นเจ้า!!"หลี่เจี๋ยเพ่งมองกระทั่งม้าเข้ามาใกล้จึงได้รู้ว่าเป็นผู้ใด

"ย่อมเป็นข้า"อี้จางชักสายบังคับม้าจนต้องยืนสองขาแล้วหยุดนิ่ง

"มีกิจอันใด"หลี่เจี๋ยถามหน้านิ่ง

"ไม่มี"

"นี่เจ้า!!"คำตอบราบเรียบยิ่งทำให้หลี่เจี๋ยถึงกับเดือด

"เจ้าตามข้ามาทำไม"

"ใครตามกันข้าก็ย่อมมีธุระของข้า"

"งั้นเชิญเจ้าก่อน"

"ข้าไม่รีบ"

"อี้จาง!!ท่านจะเอายังไงกันแน่ หรือต้องประลองกันให้รู้ดำรู้แดง"

"อ่า..."สิ้นคำหลี่เจี๋ยก็ชักกระบี่ขึ้นจู่โจมก่อน ทั้งที่ยังอยู่บนหลังม้าผ่านไปสิบกระบวนท่าก็ยังไม่รู้แพ้ชนะ อี้จางแอบปาเข็มเข้าใส่หลี่เจี๋ยตอนเผลอมองแสงสีเงินที่ปรากฏขึ้นข้างตัวม้า เป็นกลลวงที่อี้จางหลอกล่อ หลี่เจี๋ยนั่งตัวแข็งอยู่บนหลังม้า ปล่อยกระบี่ล่วงลงพื้นเข็มที่ปาเข้าใส่ทำให้เกิดอาการชาไปทั่วเรือนร่าง

"เจ้ามันเจ้าเล่ห์นัก"หลี่เจี๋ยที่ไม่อาจขยับร่างกายแต่ปากยังก่นด่าได้

"ช่วยไม่ได้เป็นเจ้าเองที่ดื้อรั้น"อี้จางยกไหล่ จับหลี่เจี๋ยลงนอนคว่ำพาดตัวบนหลังม้า เขาจับสายจูงค่อยๆพาเดินไปยังหมู่บ้านข้างหน้าแทนโดยไม่พูดจาสิ่งใดเพิ่มขึ้น

"ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!! พวกเจ้ามีแผนอะไรกันแน่"

"ปล่อยให้โง่ เราสองคนฝีมือทัดเทียม ยากรู้แพ้ชนะข้าจะจับขังเอาไว้ซักสามสี่วัน แล้วมาประลองกันใหม่"

"อย่ามาเจ้าเล่ห์ข้ามีงานต้องไปทำ เจ้าอย่ามัวแต่เห็นเป็นของสนุก"

"ขอโทษด้วย ข้าปล่อยเจ้าไม่ได้จริงๆ"อี้จางที่นั่งบนหลังม้าอีกตัว ยกมือขึ้นตบสะโพกคนที่นอนคว่ำห้อยหัวลงอีกข้างแรงๆ

"ไอ้โจรชั่วปล่อยข้านะ อย่าให้ข้าหลุดออกไปได้ รับรองเจ้าไม่ตายดีแน่ เจ้ากับนายของเจ้าต้องการอะไรจากพวกเราบอกข้ามาเดี๋ยวนี้"

"จุ๊ๆอย่าส่งเสียงสิ นกกับกระต่ายแตกตื่นหมดแล้ว เพราะเสียงของเจ้า อีกอย่างหนึ่งเจ้าคงไม่อยากรู้แน่ๆว่านายของข้าประสงค์สิ่งใด"อี้จางผิวปากอารมณ์ดีปล่อยให้ม้าสองตัวค่อยๆเดินไปตามทาง

img
สารบัญ
บทที่ 1 การปรากฏตัวของชุนหวง บทที่ 2 แย่แล้วข้าถูกพิษเหมันต์ บทที่ 3 บรรเลงเพลงฉิน บทที่ 4 คุณชายท่านนี้ไม่น่าไว้ใจ บทที่ 5 กล้าวางยาเปิ่นหวางเชียวรึ! บทที่ 6 คบหาเพื่อนใหม่ บทที่ 7 เปิ่นหวางจะนำเจ้าเข้าจวนอ๋อง บทที่ 8 เจ้าคือสมบัติของเปิ่นหวาง บทที่ 9 คุ้มครองเจ้ากลับสู่เมืองหลวง บทที่ 10 เรื่องราวของเรือนหลังช่างน่าปวดหัว บทที่ 11 อะไรนะข้าต้องเข้าจวนอ๋องจริงๆหรือนี่
บทที่ 12 ที่แท้เจ้าก็คืออ๋องโฉดคนนั้น
บทที่ 13 มาเจรจากันก่อนเถอะนะ
บทที่ 14 ข้าไม่กลัวท่านหรอกนะ
บทที่ 15 ท่านกล้ารังแกข้าหรือ
บทที่ 16 กล้าทำร้ายเปิ่นหวางหรือ
บทที่ 17 ข้าเป็นถึงเปิ่นหวางเฟยเชียวนะ
บทที่ 18 ถูกบังคับให้คำนับฟ้าดิน
บทที่ 19 ช่วงเวลาแห่งห้วงวสันต์
บทที่ 20 ผลซิ่วสุกยื่นพ้นกำแพง
บทที่ 21 วางแผนหลบหนี
บทที่ 22 กล้าหนีจากอ้อมกอดของเปิ่นหวางรึ
บทที่ 23 พิษที่ร้ายกาจ
บทที่ 24 กล้าลองดีกับเปิ่นหวาง
บทที่ 25 เจ้างูน้อยซนมากไปแล้วนะ
บทที่ 26 ก่อกบฎรึ!
บทที่ 27 ความจริงปรากฎ
บทที่ 28 ขยันสร้างเรื่องเสียจริง
บทที่ 29 หลอกลวง
บทที่ 30 สั่งให้ผีปรากฎตัว!
บทที่ 31 ลูกพลับนิ่มในมือ
บทที่ 32 ฎีกาถึงฝ่าบาท
บทที่ 33 เฟยเหลียงxเสิ่นเล่ย
บทที่ 34 ไม่ใช่ตัณหาแต่เพราะรัก
บทที่ 35 องค์หญิงจากอันหยาง
บทที่ 36 จำต้องแต่งตั้งฮองเฮา
บทที่ 37 แผนการณ์
บทที่ 38 อดทนอีกนิดนะชุนหวง
บทที่ 39 ความเชื่อใจ
บทที่ 40 ปรับความเข้าใจ
บทที่ 41 สมรัก
บทที่ 42 รับซูเฟยจากอันหยาง
บทที่ 43 เจรจา
บทที่ 44 ข้าไม่ใช่คนรักหยกถนอมบุบผา
บทที่ 45 สั่งสมความแค้น
บทที่ 46 ปรับความเข้าใจ
บทที่ 47 ดำเนินการตามแผน
บทที่ 48 ปลดฮองเฮา
บทที่ 49 ความทรงจำกลับคืน
บทที่ 50 หายโกรธข้านะชุนหวง
บทที่ 51 ซุกซนนักต้องได้รับกรรม
บทที่ 52 ดวงใจรักมีเพียงหนึ่งเดียว
บทที่ 53 แผนซ้อนแผนซ้อนแผน
บทที่ 54 ลงโทษ
บทที่ 55 ลงเอยด้วยดี
บทที่ 56 ตอนพิเศษ อี้จางxหลี่เจี๋ย (ตอน1)
บทที่ 57 ตอนพิเศษจบ อี้จางxหลี่เจี๋ย (ตอน2)
บทที่ 58 ตอนพิเศษ จิ้นหยางxชุนหวง (ตอน1)
บทที่ 59 ตอนพิเศษจบ เฟยเหลียงxเสิ่นเล่ย The End
img
  /  1
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY