ชุนหวงรีบเอามือดันอกหนาเอาไว้มองคนตัวสูงด้วยความตกใจจิ้นหยางกลายเป็นคนน่ากลัวไปเสียแล้วสายตาคมดุจเมฆฝนทะมึนเคียดขึงสองคนจ้องหน้ากันนั่งไม่มีผู้ใดยอมกัน
"ทำไมเจ้าถึงดื้อดึงนักชุนหวงข้าจะต้องทำอย่างไรเจ้าถึงจะข้าใจเจตนาของข้า"
"เข้าใจความคิดของเจ้างั้นหรือ การที่เอาข้ามากังขังเอาไว้เหมือนนกน้อยคอยให้ข้าวให้น้ำแล้วบังคับให้ขับขานเพลงให้เจ้าฟังแบบนี้น่ะรึน่าขันเจ้าเห็นข้าเป็นอะไรกันแน่"ชุนหวงเม้มปาก
"ชีวิตเช่นนั้นมิสุขสบายหรอกรึ เสื้อผ้ามีให้ใส่ อาหารมีให้กิน เรือนกันฝนมิให้เปียกปอนเจ้ายังต้องการสิ่งใดอีกเล่า"
"ข้าไม่เคยคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ข้าต้องการจิ้นหยาง ท่านอ๋องท่านต้องการสิ่งใดจากข้ากันแน่หรือว่าท่านเป็นคนของมู่ชิงใช่รึไม่ เพียงแค่ต้องการความเป็นใหญ่ในยุทธภพเจ้าถึงยอมทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้เชียวหรือ"
"หึ!คนอย่างองค์ชายห้าจิ้นหยางอ๋องไม่เคยแก่งแย่งชิงดีกับผู้ใด ด้วยยศถาของข้ามิจำเป็นต้องเป็นใหญ่ในยุทธภพเจ้าคิดไม่ออกจริงหรือชุนหวง"
"ถ้าอย่างนั้นบอกข้ามาว่าต้องการสิ่งใด ถ้าหากไม่เหนือบ่ากว่าแรงข้าจะเสาะหามาให้"ชุนหวงดึงตัวออกจากอ้อมกอดแข็งนั่นแต่ไม่เป็นผล
"ข้าไม่ต้องการสิ่งใดสิ่งที่ข้าปรารถนาข้าอยากให้เจ้าอยู่ตรงนี้ไม่ว่าข้าจะมีภารกิจยุ่งเหยิงปานใดข้าก็ยังได้พบเจอเจ้าปากของเจ้าบอกว่าข้าเป็นสหายแล้วใยสหายถึงต่อต้านกันล่ะล้วนที่ทำไปมิใช่ให้เจ้าอยู่สุขสบายหรอกหรือ"ชุนหวงได้ฟังน้ำเสียงอ่อนลงก็นึกแปลกใจ 'หรือคนผู้นี้ไร้คนสหายผู้รู้ใจจึงอยากได้ใครสักที่เอาไว้คอยปรึกษาหารือ'
"เจ้า...ต้องการสหายอย่างนั้นรึ"